ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 353-2 เคล็ดลับควำมล้มเหลวประจ ำตระกูล
“คุณชายชิงเฉิน ท่าน…ไม่ยินดีแม้แต่จะมองข้าสัก นิดเลยหรือ” ตงฟางโยวมองชายตรงหน้าอย่างน้อยใจ ถึงแม้ว่าตั้งแต่เล็กจนโตนางไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกับใครเท่าไร นัก แต่เพียงแค่มองจากท่าทีของคนรอบข้างและสายตาที่ หลงใหลของคนมากมายหลังจากลงเขามา นางก็รู้ว่า ตนเองนั้นงดงามมากพอ ทว่าเหตุใดคุณชายชิงเฉินกลับ ไม่ยินดีที่จะชายตามองตนเลยเล่า
สวีชิงเฉินขมวดคิ้วไม่พูดอะไร ตงฟางโยวพึมพ า เสียงเบา “คุณชาย…คุณชายชิงเฉิน ท่านมองข้าสักนิดได้ หรือไม่”
คิ้วคู่งามของสวีชิงเฉินขมวดแน่นยิ่งขึ้น น้ าเสียงที่ ทุ้มต่ าและอ่อนนุ่มของตงฟางโยว กลับท าให้เขารู้สึกไม่ สบายอย่างยิ่ง ราวกับว่าในหัวมีอะไรบางอย่างจะแตก ออกมา สายตาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางตงฟางโยว
书呆子
ทว่าสวีชิงเฉินไม่เหมือนคนอื่น หลังจากนัยน์ตาเผย ความสับสนแวบหนึ่งก็แปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบอีกครั้ง เพียงมองหญิงสาวชุดขาวตรงหน้านิ่งๆ ใบหน้าที่เดิมที ไม่ได้งดงาม ประหนึ่งชดช้อยขึ้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ใน ทันตา ราวกับว่า ณ เวลานั้น สีของทุกอย่างซีดลง เหลือ เพียงสตรีตรงหน้าที่เป็นทัศนีย์ภาพที่สวยวิจิตรตระการ ตาและสดใส
“คุณชาย คุณชายชิงเฉิน…ข้าไม่งามหรือ ท่านมอง ข้าสัดนิดดีหรือไม่” ตงฟางโยวมองลึกลงไปที่สวีชิงเฉิน และพูดพึมพ าเบาๆ
สวีชิงเฉินมองไปที่ตงฟางโยวโดยไม่พูดอะไรอยู่ นาน
ตงฟางโยวดีใจมากเมื่อเห็นเขาจ้องมองตนไม่ วางตา ก่อนจะค่อยๆ ก้าวขึ้นไปด้านหน้า รอยยิ้มบน
书呆子
ใบหน้ายิ่งงดงามมากขึ้น “คุณชายชิงเฉิน…ข้างาม หรือไม่”
“เจ้า…งามมาก…”
ตงฟางโยวดีใจยิ่งและก้าวเข้าไปหาเขาอีกครั้ง นาง เดินเข้าไปใกล้สวีชิงเฉินจนห่างแค่เพียงก้าวเดียว สีจางๆ ที่ปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้ว ยิ่งท าให้นางสดใสน่ารักขึ้น กว่าเดิม “คุณชาย…”
“แม่นางตงฟาง เจ้าจะพูดอะไรกันแน่” เสียงเย็น ชานิ่งเรียบของสวีชิงเฉินดังขึ้น
“พรวด…” เมื่อได้ยินเสียงของสวีชิงเฉิน ตงฟาง โยวก็เบิกตาโพลง ก่อนจะมีเลือดพุ่งออกจากปาก สวีชิง เฉินหลบไปด้านข้างก้าวหนึ่ง หลบเลือดที่พุ่งออกมาของ นางได้พอดิบพอดี วินาทีนั้น ใบหน้าที่ท าให้คนสับสนและ หลงใหลพลันหายสาบสูญไปจนหมดสิ้น กลับกลายเป็น หน้าตาที่รับไม่ได้และอ่อนแรง มนตร์ลับที่มอมเมาหัวใจ
书呆子
ของคน แท้จริงเป็นดาบสองคม หากสามารถควบคุมคน ไว้ได้ ก็สามารถท าให้คนหลงใหลและยอมท าตามความ ต้องการได้ แต่เมื่อจิตใจของอีกฝ่ายมั่นคง จะไม่ได้รับ ผลกระทบ เช่นนั้นผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะเป็นผู้ที่ร่ายมนตร์ เสียเอง ในเวลาที่ส าคัญที่สุดตงฟางโยวถูกเสียงสวีชิงเฉิน เอ่ยขัดจังหวะขึ้นกะทันหัน จึงได้รับบาดเจ็บเสียเอง สี หน้ามืดมัวไปชั่วขณะ ลมหายใจรวยริน เห็นได้ชัดเจนว่า ภายในได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
“คุณชายชิงเฉิน…” ตงฟางโยวมองไปยังชายชุด ขาวด้านหน้าด้วยความตกตะลึง ไม่กล้าเชื่อว่าตัวเองจะ ล้มเหลว งานเลี้ยงในคืนนั้น นางร่ายมนตร์เพียงเล็กน้อย ก็สามารถท าให้จิตใจของเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต้องร้อน รุ่ม คาดไม่ถึงว่านางจะพ่ายแพ้ให้กับชายผู้ที่ไม่ ประสีประสาวรยุทธ์คนหนึ่ง โดยเฉพาะนางน าวิชาลึกลับ ขั้นสูงที่นางสามารถร่ายได้ออกมาใช้ทั้งหมดแล้ว มาถึง
书呆子
ระดับนี้ บุรุษธรรมดาต่อให้ต้องสังหารบุพการี ก็จะ สวามิภักดิ์อยู่ภายใต้วิชาของนางทั้งสิ้น บุรุษผู้นี้ เกลียด นางมากจริงๆ หรือ
“ลัทธินอกรีด แน่นางโปรดระวัง” สวีชิงเฉินกวาด สายตามองหญิงชุดขาวตรงหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ พร้อมเอ่ยเสียงเย็น งานเลี้ยงของท่านชิงอวิ๋นในคืนนั้น สวีชิงเฉินได้รับรู้เรื่องการดึงดูดบุรุษเพศที่แปลกและ พิเศษของตงฟางโยวมาแล้ว แต่ว่าหลังจากได้พบกัน หลายครั้ง กลับไม่มีความรู้สึกเช่นนั้น และต่อให้ไม่รู้ว่า ภูเขาซางหมางมีวิชาอันเป็นเอกลักษณ์เช่นนี้ สวีชิงเฉินก็ น่าจะสัมผัสได้ถึงความผิดปกติแล้ว จะตกหลุมพรางนาง ได้อย่างไร
ในเวลานี้ หากสวีชิงเฉินไม่ได้โชคร้าย คนโชคร้ายก็ คือตงฟางโยวแล้ว
书呆子
มนตร์เสน่ห์ควบคุมใจคนเช่นนี้ฝึกยากเสียยิ่งกว่า การต่อสู้ ตงฟางโยวถือว่ามีพรสวรรค์มากแล้วที่สามารถ บรรลุผลสัมฤทธิ์เช่นนี้ได้ แม้กระทั่งท่านอาจารย์ตงฟางฮุ่ ยของนางเองก็สู้นางในด้านนี้ไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องแลกมากับการร่ายมนตร์ที่ล้มเหลวนั้นก็มากตาม ไปด้วย เมื่อครู่เป็นเพราะเลือดพุ่งออกจากปากไปแล้ว ท าให้ใบหน้าที่เคยหมองคล้ าค่อยๆ กลับมาแดงระเรื่อขึ้น อีกครั้ง เดิมทีดวงตาดั่งสายน้ าที่คับแค้นใจก็ค่อยๆ ถูกปก คลุมไปด้วยหมอกหนา “คุณชายชิงเฉิน…”
สวีชิงเฉินขมวดคิ้ว มองขึ้นไปที่ไหนสักแห่งบน ก าแพงลาน ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “ยังไม่ออกมาอีก หรือ”
พูดยังไม่ทันขาดค า ชายชุดด าสองคนก็กระโดดลง มาจากก าแพง หันมาทางสวีชิงเฉินและยกมือขึ้นค านับ ด้วยความเคารพ “คารวะคุณชายชิงเฉิน” สวีชิงเฉินอมย
书呆子
ยิ้มมองพวกเขา เอ่ย “อาหลีสั่งให้พวกเจ้ารักษาความ ปลอดภัยของข้าเช่นนี้หรือ” จวนสวีที่ยิ่งใหญ่ ถูกคนเข้า มาในที่ที่ไร้ผู้คนยังไม่พอ แต่นี่ก็ผ่านมานานเช่นนี้แล้ว องครักษ์ที่ต้องมาอารักขาคุณชายชิงเฉินกลับยังไม่มา ปรากฏตัวอีก เช่นนั้นก็ออกจาะประหลาดไปสักหน่อย
องครักษ์ทั้งสองคนมองตากัน เอ่ยอย่างละอายใจ เล็กน้อย “ท่านอ๋องบอกว่า ตราบใดที่ไม่เป็นภัยอันตราย ต่อคุณชาย ทางที่ดีไม่ควรจะไปท าลายชะตาดอกท้อ [1]ของคุณชาย…” ดังนั้นไม่ใช่เพราะพวกเขาละเลย หน้าที่ ทว่าเป็นเพราะท่านอ๋องอยากล้อคุณชายชิงเฉิน เล่นต่างหาก แน่นอนว่าหากเมื่อครู่คุณชายชิงเฉินหลงกล ต้องมนตร์ของตงฟางโยวจริงๆ พวกเขาก็จะยื่นมือเข้าไป ช่วยแน่นอน
สวีชิงเฉินรับรู้ว่าพฤติกรรมอันน่าเอือมระอาของม่อ ชิวเหยาเป็นอย่างไรนานแล้ว จึงไม่อาจโทษพวกเขาได้
书呆子
เมื่อเห็นตงฟางโยวล้มลงและร้องครวญครางด้วยเสียง แผ่วเบาไม่หยุดจึงเอ่ยถาม “เจ้าเป็นอะไรไปหรือ” หนึ่ง ในองครักษ์ก้าวมาข้างหน้าก่อนจะส ารวจดู และกระแอม เบาๆ อย่างเขินอาย “นี่ น่าจะประมานว่า…เมื่อครู่นี้แม่ นางตงฟางโยวใช้มนต์เสน่ห์กระตุ้นความปรารถนาบุรุษ คือ…คุณชายชิงเฉินท าลายมนต์เสน่ห์ของนาง นางจึง บาดเจ็บภายใน แผลภายในนี้ย้อนกลับมาท าร้ายตัวนาง เอง นางก็…นางก็…” คุณชายชิงเฉินไม่รู้เรื่องวรยุทธ์ จึง ขมวดคิ้วมองตงฟางโยว “บาดเจ็บสาหัสหรือ”
องครักษ์พูดเสียงแผ่วเบา “หากหาบุรุษให้มาท า เรื่องอย่างว่า…ก็จะไม่สาหัส”
ดวงหน้ารูปงามของคุณชายชิงเฉินพลันอึ้งไป หลุบ ตาใคร่ครวญก่อนจะเอ่ย “น านางส่งกลับไปให้ตงฟางฮู หยิน” ในเมื่อไม่ใช่ความรับผิดชอบของพวกเขา เช่นนั้นก็ ไม่ต้องสนใจ ส่วนสุดท้ายแล้วตงฟางฮุ่ยจะรักษาตงฟางโย
书呆子
วอย่างไร ก็ไม่ใช่เรื่องของพวกเขาแล้ว พวกเขาไม่รู้วิชา เสน่ห์นี่นา…
เมื่อได้ยินค าสั่งการของสวีชิงเฉิน องครักษ์คนหนึ่ง ก้าวออกมาหิ้วตัวตงฟางโยวและกระโดดออกจากก าแพง ไป ระหว่างนั้นก็ถูกตงฟางโยวที่สติเลอะเลือนลวนลามไป ไม่น้อย
ในลานเรือนอันเงียบสงบ สวีชิงเฉินประคองฉินนั่ง อยู่ใต้ต้นไม้พลางครุ่นคิด ไม่ไกลมากนัก องครักษ์ชุดด า ยืนมองดูท้องฟ้าอย่างเงียบๆ อยู่ตรงมุมก าแพง ผ่านไป ครู่หนึ่ง ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากนอกลาน องครักษ์ชุดด ากระโดดขึ้นไปบนก าแพงและเหลือบมอง จากนั้นก็กลับมารายงานว่า “คุณชาย นายใหญ่ ฮูหยิน และตงฟางฮูหยินมาแล้วขอรับ”
สวีชิงเฉินเหลือบมอง พลางเอ่ย “ขวางพวกเขาไว้ ก่อน หลังธูปหนึ่งดอกค่อยปล่อยให้เข้ามา”
书呆子
ถึงแม้ว่าจะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคุณชายชิงเฉิน นัก แต่องครักษ์ก็ยังเชื่อฟังค าสั่ง ภายใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่องรอยความหนาวเย็นจางๆ วาบผ่านดวงตาของ คุณชายชิงเฉินที่ก าลังลูบกล่องฉิน
องครักษ์เชื่อฟังมาก เวลาธูปหนึ่งดอกไม่มากไม่ น้อยกว่านี้ สวีชิงเฉินก าลังลุกยืนและจะออกไปด้านนอก ตงฟางฮุ่ยก็พาสวีหงอวี่และสวีฮูหยินใหญ่บุกเข้ามา สวีชิง เฉินเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านพ่อ ท่านแม่ ตงฟางฮูหยิน พวก ท่านมาได้อย่างไร” เนื่องจากวันนี้ไม่ได้ออกไปไหน สวีชิง เฉินจึงใส่ชุดสบายๆ แต่ความสบายนี้ในสายตาของคนที่ เพิ่งเข้ามาเมื่อครู่ กลับมีความผิดปกติอยู่บ้าง ตงฟางฮุ่ยสี หน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย จ้องมองสวีชิงเฉินและพูดว่า “เจ้าท าอะไรโยวเอ๋อร์”
[1] ชะตาดอกท้อ หมายถึง มีคนมีเกี้ยวพาราสี