ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 354-1 งำนวิวำห์จ ำใจ
ตงฟางฮุ่ยรีบร้อนไปหาม่อจิ่งหลีที่โรงพักม้า แต่ กลับไม่เห็นม่อจิ่งหลีกับตงฟางโยว สีหน้านางจึงย่ าแย่ ยิ่งขึ้นอย่างอดไม่อยู่ นางออกจากโรงพักม้าไปทางจวนตง ฟาง ครั้งนี้ไม่ได้คว้าน้ าเหลว เพียงแต่ภาพที่เห็นทันทีเมื่อ เข้าประตูไป กลับท าให้ตงฟางฮุ่ยแทบกระอักเลือด
ภายในห้องของตงฟางโยว ทันทีที่เข้าไปก็เห็น เสื้อผ้ายุ่งเหยิงกองกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น สีหน้าของ ตงฟางฮุ่ยเคร่งเครียด ผู้ติดตามเดินตามหลังเข้ามา ดัง คาด ชายหญิงคู่หนึ่งนอนคลอเคลียกันอยู่บนเตียง ใบหน้าหญิงสาวแดงก่ าพลางหลับตาพริ้ม แสดงให้เห็นว่า ก าลังหลับลึก และยังมีกลิ่นชะมดกระจายคลุ้งไปทั่วห้อง ซึ่งเป็นการย้ าเตือนตงฟางฮุ่ยอีกครั้งว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้น ณ ที่แห่งนี้
“ม่อจิ่งหลี!” ตงฟางฮุ่ยกัดฟัน
书呆子
ทันทีที่ตงฟางฮุ่ยเข้ามา ม่อจิ่งหลีก็ลืมตา เห็นสี หน้าของตงฟางฮุ่ยแล้วก็ไม่เกรงกลัวใดๆ ลุกขึ้นนั่งและ เอ่ยอย่างใจเย็น “ตงฟางฮูหยิน ท่านออกไปก่อนได้ หรือไม่” ตงฟางฮุ่ยหน้าซีดเผือด สะบัดเสื้ออย่างรังเกียจ ก่อนจะเอ่ย “หลีอ๋องอธิบายเหตุผลที่ฟังขึ้นมาเดี๋ยวนี้!” ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้น ตงฟางโยวก็ค่อยๆ ตื่น ขึ้นมา เห็นสีหน้าอาจารย์ก็อดผงะไปไม่ได้ นางเพิ่งจะเห็น ว่าตนนั้นนอนอยู่ในอ้อมอกของม่อจิ่งหลี จึงกรีดร้อง ออกมา ตงฟางฮุ่ยเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “หุบปาก! เจ้ายังจะ มีหน้ามาร้องอีกหรือ! เก็บของให้เรียบร้อยแล้วรีบออกมา เดี๋ยวนี้!” เมื่อเอ่ยจบจึงเดินออกไป
ตงฟางโยวตกตะลึงกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน อย่างกะทันหันนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง นางที่อยู่ในสภาวะ สับสนและงงงวย จ าไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่นาง
书呆子
ร่ายมนต์เสน่ห์ใส่สวีชิงเฉินไม่ส าเร็จ แต่เพียงดูจาก สถานการณ์ตรงหน้าก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับนางบ้าง
“ม่อจิ่งหลี เจ้ากล้ามากนะ ข้าจะฆ่าเจ้า!” ตงฟาง โยวแผดเสียงออกมา และไม่สนว่าทั้งสองยังอยู่บนเตียง ยกมือพุ่งไปตบหัวม่อจิ่งหลี ศิลปะการต่อสู้ของม่อจิ่งหลี อาจจะด้อยกว่าตงฟางโยว แต่ว่าอาการบาดเจ็บภายใน ของตงฟางโยวยังไม่หายดี และเพิ่งจะเจอเรื่องราวอย่าง ว่าไปเมื่อครู่ ตอนนี้เป็นเวลาที่ก าลังไร้เรี่ยวแรงพอดี ม่อ จิ่งหลีจึงยกมือจับข้อมือนางพร้อมดึงนางเข้าสู่อ้อมกอด ตระกองกอดนางไว้อย่างแนบแน่น
“ม่อจิ่งหลี! ข้าจะฆ่าเจ้า! ข้าจะฆ่าเจ้าให้ได้!” ตง ฟางโยวโกรธจนดวงตาแดงก่ า นางไม่เข้าใจจริงๆ แผนการที่ตนเองวางไว้อย่างดิบดี เหตุใดถึงกลายมาเป็น เช่นนี้ได้ ไม่เพียงแต่มอมเมาสวีชิงเฉินไม่ส าเร็จ ยังถูกม่อ จิ่งหลีฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบอีก นางรู้ว่า นับตั้งแต่
书呆子
วันนี้ไป นางได้เสียโอกาสที่ท าให้สวีชิงเฉินยอมรับในตัว นางไปแล้ว ตระกูลสวีสืบทอดความรู้และวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามมาเป็นร้อยปี คุณชายสวีชิงเฉินผู้เป็น คุณชายอันดับหนึ่งแห่งใต้หล้า จะแต่งงานกับสตรีตกอับ เช่นนี้ได้อย่างไร เพียงแค่คิดถึงตรงนี้ ตงฟางโยวก็ อยากจะฉีกเนื้อม่อจิ่งหลี และหั่นเป็นชิ้นๆ แล้ว
ม่อจิ่งหลีกุมมือทั้งสองข้างของตงฟางโยวพร้อมเอ่ย อย่างไม่พอใจว่า “โวยวายพอหรือยัง” เดิมทีเขาตั้งใจว่า จะปฏิบัติกับตงฟางโยวดีๆ ในเมื่อสถานะและ ความสามารถของตงฟางโยวก็ไม่เลว ยิ่งไปกว่าการได้ตง ฟางโยวก็เหมือนได้รับการสนับสนุนจากภูเขาซางหมาง ขอแค่ตงฟางโยวเชื่อฟังเท่านั้น เขาก็จะท าดีต่อนาง แต่ คาดไม่ถึงว่าเมื่อหญิงผู้นี้ตื่นแล้วจะตะโกนโวยวายใส่เขา ด่าเขาไม่หยุด หรือผู้หญิงคนนี้จะลืมไปว่านางได้
书呆子
กลายเป็นผู้หญิงของเขาแล้ว ต่อให้ตะโกนไปอย่างไรก็ไม่ มีประโยชน์อะไรอีก
“มาโวยวายเอาตอนนี้น่ะหรือ ก่อนหน้านี้เจ้าเอา ร่างกายเข้าหาข้าเองด้วยซ้ า” ม่อจิ่งหลีหัวเราะอย่างเย็น ชาพร้อมเอ่ยวาจาเยาะหยัน
ภาพในหัวที่แตกสลายและขาดๆ หายๆ ท าให้สี หน้าของตงฟางโยวย่ าแย่อย่างหนัก เมื่อได้ยินค ากล่าว ของม่อจิ่งหลี ยิ่งท าให้โกรธจนตัวสั่นไปทั้งร่าง ที่ม่อจิ่งหลี เอ่ยก็ถูกต้อง ในตอนแรกนางเป็นคนเริ่มเอาตัวเข้าหาม่อ จิ่งหลีเอง แม้จะไม่ใช่เจตจ านงที่แท้จริงของนางก็ตาม แต่ ก็ไม่อาจแปรเปลี่ยนความจริงข้อนี้ไปได้
เมื่อเห็นนางไม่โวยวายแล้ว ม่อจิ่งหลีจึงปล่อยตัว นาง ลุกขึ้นลงจากเตียง หยิบเสื้อผ้าที่วางไว้ข้างๆ มาสวม ใส่อย่างพอเป็นพิธี เอนตัวไปมองตงฟางโยวพลางเอ่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ขอแค่เจ้าเชื่อฟังข้าดีๆ ข้าก็จะท าดี
书呆子
ต่อเจ้า คุณชายชิงเฉินที่เจ้าร าพึงหาอยู่เช้าค่ า…เขารู้ว่า เจ้าบาดเจ็บภายในเนื่องจากมนตร์เข้าตัวประหนึ่งยาแฝด ก็ไม่ลังเลที่จะทิ้งเจ้าเลยสักนิด เจ้ายังจะคิดถึงเขาอีก หรือ”
“เพี๊ยะ!” ตงฟางโยวตบหน้าม่อจิ่งหลีอย่างแรงไป หนึ่งที “สารเลว!”
สายตาของม่อจิ่งหลีพลันเย็นชา แต่ก็กดคลื่นยักษ์ แห่งโทสะเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว เขาลุกขึ้นมองนางพลาง เอ่ย “ในเมื่อตื่นแล้ว ก็รีบๆ ลุกขึ้นเถิด อาจารย์ของเจ้า รออยู่ด้านนอก”
“ข้าจะไม่แต่งงานกับเจ้า!” ตงฟางโยวถลึงตามอง เขาด้วยความเคียดแค้น พลางกัดฟันเอ่ย
ม่อจิ่งหลีไม่สนใจ “ตอนนี้ นอกจากข้าแล้ว ใครจะ ยังต้องการเจ้าอีก”
书呆子
ด้านนอกห้องโถงใหญ่ของจวนตงฟาง ตงฟางฮุ่ยไล่ บ่าวที่คอยปรนนิบัติทุกคนออกไปก่อนนานแล้ว นางนั่ง ขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่คนเดียว ดวงหน้าหญิงวัยกลางคน ทว่ายังคงความงดงามเต็มไปด้วยความเคียดแค้น การลง มือของตระกูลสวีครั้งนี้ช่างโหดร้ายเกินไป นอกจากนี้ยัง ตัดความหวังสุดท้ายของตงฟางฮุ่ยที่มีต่อต าหนักติ้งอ๋อง และตระกูลสวีไปจนหมดสิ้น ถึงแม้ว่าสวีชิงเฉินจะบอกว่า เป็นอุบัติเหตุอย่างหนึ่ง แต่ตงฟางโยวกลับไม่เชื่อว่าเรื่อง จะง่ายเพียงนี้จริงๆ การร่ายมนต์ของตงฟางโยวล้มเหลว ได้รับบาดเจ็บภายใน สวีชิงเฉินจึงให้คนไปส่งนางกลับ และบังเอิญเจอกับม่อจิ่งหลี จากนั้นม่อจิ่งหลีกลายเป็น คนที่รักษาตงฟางโยวได้อย่างถูกจังหวะ ทุกอย่างดูราวกับ เป็นเรื่องปกติ แต่ว่าสัญชาตญาณและความเฉียบแหลม จากการปกครองภูขาซางหมางมากว่าสิบปีบอกนางว่า นี่ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน
书呆子
อันที่จริงหลังจากที่ตงฟางโยวปฎิเสธเหรินฉีหนิง ตัวเลือกของภูเขาซางหมางก็ไม่ได้มีอยู่มากนัก หากทุก คนไม่กลับไปภูเขาซางหมางและหลบหนีจากโลก ภายนอก ก็จะเลือกได้แค่ม่อจิ่งหลี แต่ว่าการเลือกด้วย ตัวเอง แตกต่างจากการถูกบังคับให้เลือกเช่นในตอนนี้ โดยสิ้นเชิง ความรู้สึกของการถูกผู้อื่นวางแผนลอบท า ร้ายและบีบบังคับเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ท าให้ตงฟางฮุ่ยนึก โกรธลูกศิษย์ที่ไม่รู้จักห้ามตนเอง ทั้งยังเกลียดม่อจิ่งหลีที่ บุกรุกเข้ามาในยามที่นางอ่อนแอ จนกระทั่งเกลียดความ ไร้ปราณีของสวีชิงเฉินและแผนการที่เขากระท าต่อตง ฟางโยว เมื่อคิดให้ลึกมากกว่านี้ นี่คือความรังเกียจและ การดูถูกของต าหนักติ้งอ๋องที่มีต่อภูเขาซางหมาง
“ฮูหยิน พระชายาติ้งอ๋องและสวีฮูหยินน้อยรองมา ขอพบขอรับ” บ่าวด้านนอกประตูเดินมารายงานอย่าง เร่งรีบ ตงฟางโยวขมวดคิ้ว เยี่ยหลีเลือกมาขอพบในเวลา
书呆子
นี้ เป็นเรื่องบังเอิญเกินไปแล้ว ตงฟางโยวคิดไปคิดมา ก่อนจะเอ่ยถาม “พระชายาติ้งอ๋องบอกว่ามีธุระเรื่องอัน ใดหรือ” บ่าวตอบ “พระชายาติ้งอ๋องบอกว่าได้ยินข่าวว่า แม่นางตงฟางป่วย จึงตั้งใจมาเยี่ยมพร้อมกับสวีฮูหยิน น้อยรองขอรับ”
ในยามนี้ตงฟางฮุ่ยไม่อยากพบเยี่ยหลี แต่ว่าผู้ที่มา พร้อมเยี่ยหลีกลับเป็นสวีฮูหยินน้อยรอง นี่ท าให้ตงฟางฮุ่ ยอดไม่ได้ที่จะไม่สงสัยว่าเยี่ยหลีรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่อง นี้แล้ว นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจอย่างยอม แพ้ แล้วเอ่ย “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ช่างเถิด…เชิญพระ ชายาติ้งอ๋องเข้ามาเถิด”
ไม่นานนัก เยี่ยหลีและฉินเจิงก็พากันจูงมือเดินเข้า มา พอเห็นสีหน้าของตงฟางฮุ่ยที่ดูไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เยี่ยหลีก็ท าเป็นมองไม่เห็น อมยิ้มพลางเอ่ย “เยี่ยหลีเสีย มารยาทเข้ามาเยี่ยม ตงฟางฮูหยินโปรดอภัย” สายตาตง
书呆子
ฟางฮุ่ยหยุดมองที่ฉินเจิงครู่หนึ่ง แล้วจึงเอ่ย “พระชายา กล่าวเกินไปแล้ว การที่พระชายากับฮูหยินน้อยมาเยี่ยม ทุกคน ถือเป็นเกียรติของจวนแห่งข้ายิ่งนัก”
ที่จริงแล้วฉินเจิงไม่รู้อะไรมากนัก เพียงแค่ได้ยินส วีฮูหยินใหญ่เอ่ยบางอย่างเกี่ยวกับการกระท าทั้งหมดของ ตงฟางโยว และช่วงเวลานี้ฉินเจิงก็ได้ยินข่าวเรื่องการ ตอแยสวีชิงเฉินของตงฟางโยว ถึงกระนั้นก็ไม่เชื่อว่าตง ฟางโยวจะใจกล้าบุกเข้าไปในจวนสวีวางแผนท ามิดีมิร้าย กับสวีชิงเฉิน แม้ว่าฉินเจิงจะได้รู้จักกับสตรีผู้มีบุคลิก แตกต่างกับสตรีทั่วไปอย่างเยี่ยหลี มู่หรงถิง และเคยได้ ยินเรื่องแปลกประหลาดมามากมาย หากแต่พฤติกรรม ของตงฟางโยวก็ท าให้นางตกใจไม่น้อยเลย อย่าว่าแต่สวี ชิงเฉินเป็นพี่ชายของสามีนางเลย ล าพังนามของสวีชิง เฉิน สตรีชั้นสูงหลายนางในต้าฉู่ต่างเลื่อมใสศรัทธาเขา กันทั้งนั้น สวีชิงเฉินมีฉายาอีกชื่อหนึ่งก็คือคุณชายเทพ
书呆子
เซียน แค่คิดก็รู้แล้วว่านารีที่คู่ควรกับเขาย่อมไม่ใช่บุคคล ธรรมดา สตรีเช่นตงฟางโยวหรือ อย่าว่าแต่สวีชิงเฉินกับ ตระกูลสวีจะไม่ยินยอมเลย เกรงว่าสตรีทั้งเมืองหลีก็ต่าง ไม่เลื่อมใสศรัทธา