ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 362-1 กำรกลับมำของเยี่ยหลี แคว้นเป่ยหรง แสดงฝีมือ
พระชายาติ้งอ๋องเยี่ยหลีอาศัยฐานะสตรีสู้รบมีชัย เหนือเหรินฉีหนิงผู้เป็นเป่ยจิ้งอ๋องได้ภายในหนึ่งเดือน อีก ทั้งยังปราบปรามพื้นที่เขตตงเป่ยให้อยู่ในความสงบได้ ภายในระยะเวลาเพียงสองเดือนกว่า ตามแนวชายแดนที่ ติดกับชนเผ่าเร่ร่อนเป่ยจิ้งก็กลับคืนมาเป็นดินแดน ของต้าฉู่อีกครั้ง แต่ดินแดนและราษฎรที่ได้กลับคืนมา กลับไม่ใช่ราษฎรชาวต้าฉู่อีกต่อไป นับแต่นี้เป็นต้นไป ทั้งหมดจะตกเป็นของต าหนักติ้งอ๋อง
แม้ว่าแคว้นที่ยิ่งใหญ่อย่างต้าฉู่ ซีหลิง เป่ยหรงผู้กุม อ านาจเหล่านี้จะมองเห็นถึงความไม่มั่นคงในรากฐานของ เป่ยจิ้งและปัญหาหนักหน่วงภายในที่เหรินฉีหนิงได้สร้าง ไว้ แต่ถึงอย่างไรพระชายาติ้งอ๋องก็ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสาม เดือนจัดการกับผู้คนนับล้านได้จนสงบเรียบร้อย ซึ่งกลับ
书呆子
ท าให้ผู้คนมากมายอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ และ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เยี่ยหลี พระชายาติ้งอ๋องเยี่ยก็ได้ สร้างคุณงามความดีที่ไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของนักรบที่มี ชื่อเสียงคนใดในประวัติศาสตร์มาก่อน เหล่าราษฎรที่อยู่ ภายใต้ความดูแลของต าหนักติ้งอ๋องและด่านจื่อจิงที่เพิ่ง จะปราบปรามให้สงบได้นั้น ท าให้ผู้คนเคารพนับถือพระ ชายาติ้งอ๋องราวกับเทพเจ้ามากขึ้น
ภายในต าหนักเจิ้นหนานอ๋องแห่งแคว้นซีหลิง เหลยเจิ้นถิงก าลังก้มหน้าพิจารณาแผนที่ที่กางอยู่บนโต๊ะ นับตั้งแต่ภูเขาซางหมางและม่อจิ่งหลีร่วมมือกัน ม่อจิ่ง หลีก็เริ่มเผยท่าทียั่วยุแคว้นซีหลิงมาให้เห็น ภูเขาซาง หมางมีความสามารถอยู่หลายส่วน หลังจากปะทะกันไป หลายครา ท าให้เหลยเจิ้นถิงเสียเปรียบอยู่เล็กน้อย นี่จึง ท าให้เหลยเจิ้นถิงมุ่งมั่นที่จะท าลายภูเขาซางหมางมากย่ง ขึ้น
书呆子
ต าแหน่งถัดลงมามีคุณชายชิงเฉินที่สวมเครื่องแต่ง กายสีขาวนั่งนิ่งอยู่ แม้ว่าภูเขาซางหมางจะหลบซ่อนอยู่ ท่ามกลางหุบเขาลึกและมีค่ายกลตามธรรมชาติปกป้อง คุ้มกันอยู่ แต่บนใบหน้าของคุณชายชิงเฉินกลับไม่ได้มี ความกังวลใดๆ แม้สักนิด เขาเพียงลิ้มรสชา รอดู ปฏิกิริยาของเหลยเจิ้นถิงอย่างใจเย็นเท่านั้น
“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ…” เหลยเถิงเฟิงถือจดหมาย ฉบับหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ เหลยเจิ้นถิงเห็นแล้วก็อด ไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หากว่าด้วยเรื่องอายุ เหลยเถิงเฟิง อายุน้อยกว่าสวีชิงเฉิน ม่อซิวเหยาและคนอื่นๆ เพียงไม่กี่ ปี แม้ไม่กล่าวถึงการวางแผนกลอุบาย เพียงกล่าวถึงนิสัย เพียงด้านเดียวก็เทียบเรื่องความสงบนิ่งกับทั้งสองไม่ได้ เลยสักนิด จึงไม่แปลกใจที่เหลยเจิ้นถิงไม่อาจวางใจในตัว บุตรชายเพียงคนเดียวของตนได้เสียที
书呆子
ความจริงแล้ว แม้ความสามารถในการวางแผนของ เหลยเถิงเฟิงอาจเทียบชั้นกับม่อซิวเหยาและสวีชิงเฉินที่ เป็นอัจฉริยะมากความสามารถไม่ได้ แต่เขาไม่ด้อยไป กว่าม่อจิ่งหลีและเหรินฉีหนิงอย่างแน่นอน เพียงแต่เขา อยู่ภายใต้เงาของบิดามาเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมี ประสบการณ์น้อย เมื่อเทียบกับผู้อื่นแล้ว บุคลิกภาพจึง ด้อยกว่าอยู่บ้าง
“คุณชายชิงเฉินยังอยู่ที่นี่ โวยวายเสียงดังเช่นนี้ ใช้ได้ที่ไหน เกิดเรื่องอันใดขึ้น” เหลยเจิ้นถิงเอ่ยเสียงเข้ม
เหลยเถิงเฟิงที่เพิ่งจะก้าวเข้าประตูมาเห็นสวีชิงเฉิน ที่นั่งอยู่อีกด้าน จึงแอบนึกเสียใจกับความเลินเล่อเมื่อครู่ ของตน แต่เมื่อถูกบิดาต าหนิต่อหน้าสวีชิงเฉิน สีหน้าจึง ไม่สู้ดีเท่าใดนัก สวีชิงเฉินวางถ้วยชาในมือ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “การที่รุ่ยจวิ้นอ๋องมาเยือน จะต้องมีเรื่องส าคัญอันใด แน่นอน ข้าน้อยขอตัวก่อน”
书呆子
เหลยเจิ้นถิงเหลือบมองจดหมายที่เหลยเถิงเฟิงก า เอาไว้ในมือแวบหนึ่ง ก็พอเดาออกว่าเป็นเรื่องใด จึงส่าย ศีรษะ เอ่ยว่า “คุณชายชิงเฉินก็ไม่ใช่คนนอก พูดออกมา ตามตรงได้เลย”
เหลยเถิงเฟิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก็ยื่นจดหมายให้เหลย เจิ้นถิง พลางเอ่ยว่า “พระชายาติ้งอ๋องจัดการกับกองทัพ นับล้านของเหรินฉีหนิงได้แล้ว ส่วนเหรินฉีนหนิงฆ่าตัว ตาย”
“อะไรนะ” เหลยเจิ้นถิงที่ผ่านอุปสรรคมามากมาย อดไม่ได้ที่จะตะลึงค้าง เรื่องนี้มิอาจกล่าวโทษบุตรชายที่ เมื่อครู่เสียกิริยาได้ เดิมแคว้นเป่ยหรงร่วมเป็นพันธมิตร กับเป่ยจิ้ง แม้ว่าเหลยเจิ้นถิงจะไม่ได้ให้การสนับสนุนแต่ก็ หวังว่าเรื่องนี้จะประสบความส าเร็จ อีกทั้งตอนนี้แม้ว่า เขาจะร่วมมือกับต าหนักติ้งอ๋องเพื่อรับมือภูเขาซางหมาง แต่ก็ต้องป้องกันต าหนักติ้งอ๋องแอบลอบโจมตีตนลับหลัง
书呆子
ด้วยเช่นกัน เมื่อมีเป่ยจิ้งเป็นตัวสกัดกั้นอยู่ตรงกลางจึง พอวางใจได้มาก แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเยี่ยหลีสตรีนางนี้จะ สามารถท าลายแคว้นเป่ยจิ้งได้ภายในชั่วเวลาเพียงสอง เดือน ทั้งที่ม่อซิวเหยาก็ยังไม่ได้แสดงฝีมือ สรุปแล้ว ต าหนักติ้งอ๋องแข็งแกร่งเกินไปหรือว่าเป่ยจิ้งอ่อนแอ เกินไปกันแน่นะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหลยเจิ้นถิงมองไปทางสวีชิงเฉิน ด้วยสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่สวีชิงเฉินกลับมีท่าทาง ราวกับไม่ทราบอันใดทั้งสิ้น สีหน้ายังคงดูไม่ใส่ใจดังเดิม เหลยเจิ้นถิงสงบจิตสงบใจให้นิ่งแล้วจึงเอ่ยกับสวีชิงเฉิน ยิ้มๆ “พระชายาติ้งอ๋องช่างเป็นวีรสตรีที่เกิดในรอบพันปี จริงๆ ข้าขอแสดงความยินดีกับคุณชายชิงเฉินและ ต าหนักติ้งอ๋องด้วย”
สวีชิงเฉินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ แม้ว่าการปราบปรามเป่ ยจิ้งให้สงบได้จะถือเป็นโชคดีที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบ
书呆子
ได้ แต่การที่ญาติผู้น้องของตนประสบความส าเร็จในเรื่อง ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้อย่างราบรื่น สวีชิงเฉินก็ดีใจเป็นอย่าง มากเช่นกัน จึงพยักหน้ายิ้มบางๆ พลางเอ่ยว่า “ขอบคุณ ท่านอ๋อง หลีเอ๋อร์ยังเยาว์นัก ครานี้กระท าไปโดยไม่ทัน พิจารณาให้ถี่ถ้วน การได้ผลลัพธ์เช่นนี้ จึงนับว่าเป็นโชค ของนาง” เหลยเถิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างได้ยินอย่างนั้น มุม ปากก็กระตุกอย่างอดไม่ได้ พระชายาติ้งอ๋องมีชื่อเสียงใน ใต้หล้าเพียงแค่สิบปี ปกปักษ์หย่งหลิน ปราบปรามซีเป่ย กวาดล้างซีหลิง และในวันนี้ยังท าให้เป่ยจิ้งสงบได้ กระทั่งท่านพ่อของเขาก็ยังเสียเปรียบในเงื้อมมือนาง นาง ท าได้เช่นนี้ทั้งที่อายุยังเยาว์ ไว้ถึงตอนที่นางไม่เยาว์วัย แล้วยังจะให้ผู้คนมีชีวิตต่อไปได้อีกหรือ?
สวีชิงเฉินคล้ายกับรู้สึกเช่นกันว่า บุคคลภายนอกที่ ได้ยินวาจาถ่อมตัวเช่นนี้ยิ่งเหมือนกับเป็นการโอ้อวด จึง อมยิ้มเปลี่ยนหัวข้อสนทนาอย่างเป็นธรรมชาติ “เรื่อง
书呆子
ของเป่ยจิ้งนั้นยังห่างไกลอีกมาก พวกเรายังไม่ต้องไป สนใจ มาคุยเรื่องภูเขาซางหมางว่าจะท าเช่นไรกันดีกว่า ถ้าหากว่าพวกเราทั้งสองตระกูลร่วมมือกันแล้วยังไม่ สามารถจัดการภูเขาซางหมางได้ ตัวข้าคงไม่มีหน้าจะ กลับไปเมืองหลีแล้วจริงๆ”
เหลยเจิ้นถิงและเหลยเถิงเฟิงพลันมีสีหน้าชะงักไป เช่นกัน เป่ยจิ้งนั้นถูกก าหนดบทสรุปเอาไว้เรียบร้อยแล้ว คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพียงแต่ชายแดนทาง เหนือกลับจ าเป็นต้องมีการจัดระเบียบพื้นที่อย่างละเอียด รอบคอบใหม่อีกครั้งแล้ว สถานการณ์เบื้องหน้า ถ้าหาก ว่าจ านวนทหารกล้าหลายหมื่นนายของต าหนักเจิ้นหนาน อ๋อง บวกกับคุณชายชิงเฉินผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศในใต้ หล้าแล้วยังไม่สามารถโค่นล้มภูเขาซางหมางแห่งนี้ได้ เช่นนั้นเหรินฉีหนิงคงไม่ได้เป็นเรื่องยอดเรื่องน่าขันแห่ง ใต้หล้า แต่คงเป็นพวกเขาแทน ยิ่งไปกว่านั้น ม่อจิ่งหลี
书呆子
อาศัยที่ว่ามีภูเขาซางหมางให้การสนับสนุนท าการยั่วยุที่ แม่น้ าอวิ๋นหลันครั้งแล้วครั้งเล่า เหลยเจิ้นถิงคงมิอาจกล้ า กลืนโทสะนี้ไว้ได้เด็ดขาด หากตอนนี้ภูเขาซางหมางไม่ล่ม สลาย ต าหนักติ้งอ๋องคงเสียหน้าเพียงเล็กน้อย แต่ภูเขา ซางหมางส าหรับแคว้นซีหลิงแล้วกลับเป็นศัตรูตัวฉกาจที่ จะก่อให้เกิดอันตรายได้!
เหลยเจิ้นถิงผงกศีรษะ เอ่ยว่า “คุณชายชิงเฉิน กล่าวได้มีเหตุผลนัก เช่นนั้นคุณชายชิงเฉินมีความคิดเช่น ไรกับค่ายกลตามธรรมชาติกลางภูเขาซางหมางหรือ”
สวีชิงเฉินขมวดคิ้วขณะเอ่ย “แม้ว่าจะได้ดูแผนที่ไป แล้ว แต่สุดท้ายแผนที่นั้นก็ยังไม่สมบูรณ์ ในใจข้าน้อยมี ความคิดอยู่บ้าง แต่จ าต้องไปเยือนภูเขาซางหมางด้วย ตนเองก่อนถึงจะสามารถพิสูจน์ได้”
เหลยเจิ้นถิงเอ่ย “ระยะนี้ริมแม่น้ าอวิ๋นหลันเกิด เรื่องขึ้นเล็กน้อย ข้าไม่สามารถไปเยือนที่นั่นเป็นเพื่อน
书呆子
คุณชายได้ แต่บุตรชายข้าจะน าทหารกล้าจ านวนห้าหมื่น นายไปเยือนภูเขาซางหมางเป็นเพื่อนคุณชายชิงเฉิน คุณชายคิดเห็นเช่นไร” สวีชิงเฉินผงกศีรษะ ประสานมือ ยิ้มให้เหลยเถิงเฟิง และเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ต้องล าบากรุ่ย จวิ้นอ๋องแล้ว”
เหลยเถิงเฟิงรีบท าความเคารพกลับ พลางเอ่ยว่า “เป็นหน้าที่ข้าอยู่แล้ว คุณชายชิงเฉินไม่จ าเป็นต้องใส่ ใจ”
เมื่อส่งสวีชิงเฉินจากไปแล้ว สองพ่อลูกเหลยเจิ้นถิ งที่อยู่ในห้องหนังสือกลับหมดค าจะเอ่ยไปชั่วขณะ เหลย เถิงเฟิงถามอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านพ่อ เรื่องของเป่ยจิ้ง จะปล่อยไปทั้งแบบนี้ โดยไม่สนใจแล้วหรือ” เหลยเจิ้นถิง ฝืนยิ้ม “จะเข้าไปจัดการอย่างไรเล่า เป่ยจิ้งไม่มีความ เกี่ยวข้องอันใดกับพวกเราแคว้นซีหลิงเลยแม้แต่น้อย อีก ประการหนึ่ง เป่ยจิ้งก็เป็นฝ่ายยื่นมือออกไปหาเรื่อง
书呆子
ต าหนักติ้งอ๋องเอง ซึ่งเท่ากับเป็นการท าให้แคว้นล่มสลาย จนตัวตาย และเป็นการรนหาที่ตายเอง จึงไม่อาจผลัก ความรับผิดชอบให้ใครได้ เพียงแต่…กระทั่งข้าก็คิดไม่ถึง ว่า เยี่ยหลีผู้นี้ถึงขั้นท าเรื่องนี้ส าเร็จ…” เหลยเถิงเฟิงอด ไม่ได้ที่จะเลื่อมใสเช่นกัน “สตรีบนโลกใบนี้ไม่อาจ เทียบเคียงพระชายาติ้งอ๋องได้เลยจริงๆ คนของภูเขาซาง หมางหลายคนเมื่อเทียบกับพระชายาติ้งอ๋องแล้วก็เกรง ว่าจะห่างชั้นอยู่มาก”
เหลยเจิ้นถิงอ่านจดหมายที่เหลยเถิงเฟิงยื่นมาให้ “พระชายาติ้งอ๋องได้แต่งตั้งให้เหรินฉีหนิงเป็นชางซิ่งอ๋อง อย่างนั้นหรือ วางตัวได้ดีมาก…” คราแรกที่เหรินฉีหนิง อยู่ที่แคว้นซีหลิงได้วางแผนให้คนลอบสังหารเยี่ยหลี จึง ส่งผลให้ตระกูลขุนนางผู้มีอ านาจในแคว้นซีหลิงถูกม่อซิว เหยาฆ่าจนโลหิตไหลเป็นแม่น้ า บุคคลเช่นนี้ เยี่ยหลีไม่ได้ จัดการให้เขาถูกห้าม้าแยกร่างและทิ้งร่างเอาไว้ในป่ารก
书呆子
ร้างก็นับว่าไม่เลวแล้ว แต่นี่ถึงกับแต่งตั้งให้เป็นท่านอ๋อง ทั้งยังจัดพิธีฝังพระศพอย่างยิ่งใหญ่ตามสถานะอ๋องอีก ด้วย