ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 362-4 กำรกลับมำของเยี่ยหลี แคว้นเป่ยหรง แสดงฝีมือ
เหล่าแม่ทัพนายกองพากันแสดงความยินดีกับเยี่ย หลีอย่างพร้อมเพรียง เดิมพวกเขาก็ให้ความเคารพนับถือ พระชายาติ้งอ๋องท่านนี้มากอยู่แล้ว มาวันนี้ยังมีผลงาน การรบอย่างการสยบเป่ยจิ้งให้สงบได้อีก กองทัพตระกูล ม่อทั้งน้อยและใหญ่จึงไม่มีใครกล้าสงสัยในความสามารถ ของพระชายาติ้งอ๋องอีก
เมื่อเยี่ยหลีกลับมา อารมณ์ของม่อซิวเหยาจึงดีมาก หลังจากออกค าสั่งให้ทุกคนถอยออกไปแล้ว จึงเหลือ เพียงหลี่ว์่จิ้นเสียนและคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเอาไว้ประชุม ทุกคนอดไม่ได้ที่จะถามถึงเรื่องราวช่วงที่เยี่ยหลีอยู่ที่เป่ ยจิ้ง เยี่ยหลีก็ไม่อยากท าให้เสียบรรยากาศ จึงหยิบ เรื่องราวส าคัญบางส่วนมาเล่า สีหน้าทุกคนดูทอดถอนใจ ในความโชคร้ายของเหรินฉีหนิงและความโชคดีของ
书呆子
ต าหนักติ้งอ๋อง ซึ่งสวรรค์ก็อยู่ข้างต าหนักติ้งอ๋องอย่างที่ คิดเอาไว้เลยจริงๆ แต่อีกด้านหนึ่งกลับลอบนึกชื่นชมวิธี ในการจัดการเรื่องราวและสายตาที่เฉียบแหลมในการ มองกลอุบายของพระชายาเงียบๆ บางทีพวกเขาอาจน า ทัพไปจัดการเป่ยจิ้งให้สงบได้เช่นกัน แต่หากคิดจะ เอาชนะเป่ยจิ้งได้อย่างง่ายดาย โดยที่แทบจะไม่เสียเลือด เนื้อเลยเช่นนี้ เกรงว่าในที่แห่งนี้คงจะมีไม่ถึงสองคนที่ สามารถท าได้
เมื่อฟังเยี่ยหลีกล่าวจบแล้ว ม่อซิวเหยาก็ตรึกตรอง อยู่พักหนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ทางด้านเมืองชางชิ่งมีเหลิ่ง ไหวกับเหลิ่งเฮ่าอวี่ก็เพียงพอแล้ว อีกเดี๋ยวให้เหอซู่กลับ มาก็แล้วกัน”
เยี่ยหลีเลิกคิ้ว เอ่ยยิ้มๆ “ดูท่าทางด้านนี้จะตึงมือ อยู่บ้างกระมัง? ภายในกองทัพมีแม่ทัพนายกองมากมาย แต่ยังต้องย้ายเหอซู่กลับมาอีก” หลี่ว์่จิ้นเสียนและคน
书呆子
อื่นๆ ล้วนทราบว่าเหอซู่เป็นคนของเยี่ยหลี จึงเอ่ยยิ้มๆ ว่า “พระชายากล่าวถูกแล้ว หลายปีมานี้เฮ่อเหลียนเจิน ถูกเป่ยหรงอ๋องเมินเฉย แต่กลับไม่มีท่าทีหมดก าลังใจ แถมยังฝึกฝนบุคคลมากความสามารถออกมาได้หลายคน ยามนี้แคว้นเป่ยหรงมีทหารกล้านับล้าน ในมือก็มีแม่ทัพ นายกองมากมายเช่นกัน ได้ยินมาเนิ่นนานแล้วว่า ความสามารถในการน าทหารของแม่ทัพเหอนั้นสามารถ เรียกได้ว่าเก่งกาจเป็นอันดับหนึ่งในบรรดาแม่ทัพนายก องที่มีอายุน้อย หากเขาสามารถมาช่วยที่นี่ได้ย่อมเป็น การดี”
หนานโหวลูบเครา พยักหน้ายิ้ม พลางเอ่ย “แน่นอน ผู้ใต้บังคับบัญชาของพระชายาที่มี ความสามารถล้วนมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทุกวันนี้ในบรรดา แม่ทัพนายกองที่อายุยังน้อย แม่ทัพเหอซู่นั้นมี ความสามารถมากกว่าคนอื่นๆ อยู่บ้าง ส่วนบุตรของ
书呆子
ข้าน้อยนั้นกลับไร้ความสามารถเป็นอย่างมาก” กล่าวจบ หนานโหวก็ถลึงตาใส่ฟู่เจาอย่างไม่สบอารมณ์ต่อความไม่ เอาถ่านของเขา ฟู่เจาลูบจมูกด้วยท่าทางไร้เดียงสา ไม่ใช่ ว่าเขาไม่พยายาม แต่หนทางสายนี้เป็นเส้นทางของเหล่า ปีศาจทั้งนั้นเลยนี่นา
เยี่ยหลีเอ่ยยิ้มๆ “หนานโหวกล่าวเกินไปแล้ว ซื่อจื่ อเก่งทั้งบุ๋นและบู๊ เหอซู่จะไปเทียบชั้นได้อย่างไรกัน” นางก้มหน้าครุ่นคิด พลางเอ่ยว่า “ก็ดี แม่ทัพเหลิ่งไหวมี คุณธรรมและบารมีสูงส่ง เหลิ่งเฮ่าอวี่มีนิสัยยืดหยุ่น เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ ให้พวกเขารักษาการณ์ ที่เมืองชางชิ่ง คาดว่าพื้นที่นอกด่านจื่อจิงจะสามารถฟื้น คืนสู่สภาพเจริญรุ่งเรืองเหมือนดั่งกาลก่อนได้อย่าง รวดเร็ว แต่ในกองทัพเป่ยหรงมีนักรบที่มีชื่อเสียงแบบ ไหนกันแน่ ถึงได้ท าให้ท่านแม่ทัพหลี่ว์หวาดกลัวเช่นนี้?”
书呆子
หลี่ว์่จิ้นเสียนตอบ “กองทัพเป่ยหรงมีแม่ทัพหนุ่ม นามว่าเฮ่อเหลียนเผิง น่าจะเป็นลูกหลานของเฮ่อเหลียน เจิน แต่หากกล่าวถึงการใช้ทหารขึ้นมาล่ะก็ เกรงว่าเฮ่อ เหลียนเจินก็ยังเป็นรองเขาอยู่ขั้นหนึ่ง ยามนี้ใน กองทัพเป่ยหรงมีเยียหลี่ว์เหยี่ย เฮ่อเหลียนเจิน และเฮ่อเหลียนเผิงนั่งบัญชาการอยู่ อีกทั้งยังมีทหารฝีมือ ดีอีกนับล้าน จึงยุ่งยากอยู่บ้างจริงๆ” แม้จะกล่าวว่า ยุ่งยากอยู่บ้าง แต่บนใบหน้าของหลี่ว์่จิ้นเสียนกลับไร้ซึ่ง ความรู้สึกยุ่งยาก มีเพียงแววฮึดจากแรงปรารถนาที่อยาก ท าสงครามเท่านั้น
“ถึงแม้เยียหลี่ว์หงจะกลับแคว้นเป่ยหรงไปแล้ว แต่ ยามนี้ผู้ที่มีอ านาจตัดสินใจในกองทัพก็คือเยียหลี่ว์เหยี่ย ไม่รู้ว่าหลังจากเยียหลี่ว์หงเดินทางกลับไปยังแคว้นเป่ย หรงแล้วจะราบรื่นหรือไม่ หากทุกอย่างราบรื่นดี เยียหลี่ว์
书呆子
เหยี่ยก็คงจะสบายใจได้ไม่นานแล้ว” เยี่ยหลีครุ่นคิด พลางเอ่ย
ม่อซิวเหยาเลิกคิ้วเหยียดหยาม “หากว่ากระทั่ง เรื่องเล็กน้อยก็ยังจัดการได้ไม่ดี เยียหลี่ว์หงสู้ตายไป เสียเลยไม่ดีกว่าหรือ ถึงอย่างไรอาหลีก็กลับมาแล้ว ข้า อยากจะประมือตัวต่อตัวกับเฮ่อเหลียนเจินสักคราอยู่ พอดี อยากรู้ว่าเขายังคงเป็นตาเฒ่าที่กล้าหาญเกรียงไกร เหมือนในปีนั้นหรือไม่!” เมื่อกล่าวถึงเฮ่อเหลียนเจิน นัยน์ตาม่อซิวเหยาก็ปรากฏไอสังหารขึ้นมาหลายส่วน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ใช่เฮ่อเหลียนเจินผู้นี้มี ความสามารถมากกว่าผู้อื่น เพียงแต่ความพ่ายแพ้ที่ ต าหนักติ้งอ๋องไม่เคยได้ลิ้มลองมากว่าร้อยปี กลับบังเอิญ พ่ายแพ้ในมือของเฮ่อเหลียนเจิน แม้นจะกล่าวว่าไม่ได้ พ่ายแพ้ด้วยสงคราม แต่พ่ายแพ้ก็คือพ่ายแพ้ จ าต้อง กล่าวว่าการต่อสู้เมื่อกว่าสิบปีก่อนหน้านี้ เป็นการต่อสู้ที่
书呆子
น่าอึดอัดที่สุดของต าหนักติ้งอ๋องในรอบหลายร้อยปี และ ยังเป็นการต่อสู้ที่เกิดการสูญเสียหนักหนาที่สุดด้วย เช่นกัน แล้วจะให้ม่อซิวเหยาจ าเฮ่อเหลียนเจินไม่ได้ได้ อย่างไร?
ไม่ใช่เพียงแค่ม่อซิวเหยาที่จ าเฮ่อเหลียนเจินได้ เฮ่อ เหลียนเจินก็ยังไม่ลืมม่อซิวเหยาเช่นเดียวกัน ในปีนั้นเฮ่อ เหลียนเจินเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเป่ยหรง อีก นิดเดียวเขาก็จะเอาชนะต าหนักติ้งอ๋องได้ และจะได้ กลายเป็นเทพแห่งสงครามคนแรกแห่งแคว้นป่ยหรงอยู่ แล้ว แต่กลับถูกม่อซิวเหยาที่อายุไม่ถึงสิบแปดปีผู้นี้ ไล่ กวาดล้างสังหารไปทั่ว วางเพลิงอัคคีจนพวกเขาต้องพ่าย แพ้ ละทิ้งอาวุธล่าถอยกลับไปอย่างหมดสภาพ การต่อสู้ ในครั้งนั้น เป่ยหรงทุ่มเทก าลังทหารลงไปไม่น้อยกว่าใน ยามนี้ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่เห็นอยู่เพียงร าไรแล้ว แต่ สุดท้ายกลับเกือบจะพ่ายแพ้ยับเยิน แม้ว่าม่อซิวเหยาจะ
书呆子
แลกชัยชนะมาด้วยความสูญเสียอันหนักหน่วง แต่แคว้น เป่ยหรงก็สูญเสียอย่างหนักหนาสาหัสเช่นกัน
ในค่ายทหารแคว้นเป่ยหรง เยียหลี่ว์เหยี่ยนั่งอยู่ใน ต าแหน่งผู้น า ต าแหน่งถัดมาทางด้านซ้ายขวามีแม่ทัพ ชราหนวดเคราสีดอกเลาอายุห้าสิบกว่าและชายหนุ่มอายุ สิบเจ็ดสิบแปดปีที่ร่างกายแข็งแรง กล้าหาญทรงพลังคน หนึ่งนั่งอยู่ เพียงแต่เขาไม่เหมือนกับชาวเป่ยหรงที่ ก้าวร้าวโหดเหี้ยม นัยน์ตาเขาเจือไปด้วยความเยือกเย็น และเฉียบแหลมอย่างที่ชาวเป่ยหรงน้อยคนนักจะมี สอง คนนี้ก็คือแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหลวง เฮ่อเหลียนเจิน และบุตรบุญธรรมของเขา เฮ่อเหลียนเผิง พวกเขามาที่นี่ ก็เพื่อช่วยเสริมก าลังให้กับเยียหลี่ว์เหยี่ย
เดิมทีตอนที่ม่อซิวเหยาและเฮ่อเหลียนเจินยังมาไม่ ถึง กองทัพทั้งสองฝ่ายสามวันท าสงครามย่อยครั้งหนึ่ง ห้าวันท าสงครามใหญ่ครั้งหนึ่ง แต่หลังจากรอจนผู้น าทัพ
书呆子
ที่แท้จริงมาถึง ทุกคนกลับสงบเยือกเย็นและแสดงฝีมือ ด้วยความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น ครึ่งเดือนมานี้ ทั้งสอง ฝ่ายต่างไม่มีใครเป็นฝ่ายยั่วยุจะท าสงครามสักครั้ง
“กระหม่อมเคยกล่าวไว้นานแล้วว่าเหรินฉีหนิงนั้น ไร้ความสามารถ เราควรจะไปดึงเหลยเจิ้นถิงมาพันธมิตร แต่แรก” เฮ่อเหลียนเจินเอ่ยเสียงเข้ม
เยียหลี่ว์เหยี่ยสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยเสียงเย็น “ข้าคิด ไม่ถึงจริงๆ ว่า เหรินฉีหนิงจะไร้ความสามารถเช่นนี้ ถึงกับถูกสตรีนางหนึ่งบีบบังคับให้ต้องฆ่าตัวตาย ทหาร ทั้งกองทัพพ่ายแพ้ย่อยยับภายในระยะเวลาไม่ถึงสาม เดือน! สาเหตุที่เลือกเขาในคราแรก ประการแรกเป็น เพราะชัยภูมิ ประการที่สองเหลยเจิ้นถิงมีจิตใจ ทะเยอทะยานมากเกินไป เป็นบุคคลเจ้าเล่ห์ ยากที่จะ ควบคุมต่างกับเหรินฉีหนิง”
书呆子
เฮ่อเหลียนเจินเอ่ยว่า “เช่นนั้นแล้ว ตอนนี้ควรจะ แก้ไขอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ? องค์ชายเจ็ดให้ค ามั่นสัญญา โดยการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรทางการทหารกับฝ่า บาทว่า หากตีกองทัพตระกูลม่อไม่แตก เขาจะไม่กลับ แคว้นเป่ยหรงชั่วคราว ตอนนี้พระชายาติ้งอ๋องท่านนั้น สยบเป่ยจิ้งให้สงบลงส าเร็จแล้ว หลังจากนี้ไม่นาน ต า หนักติ้งอ๋องจะต้องน าก าลังทหารมาสนับสนุนที่นี่เป็นแน่ หากคิดอยากจะร่วมมือกับเหลยเจิ้นถิงในตอนนี้ก็เกรงว่า คงจะสายไปบ้างแล้ว” ทุกวันนี้เหลยเจิ้นถิงก็ใช่ว่าจะไม่มี อะไรต้องเป็นห่วงหรือกังวล ทางด้านเจียงหนาน ม่อจิ่ง หลีก็จับจ้องตาเป็นมัน ภายในแคว้นซีหลิง ฮ่องเต้แห่ง แคว้นซีหลิงก็คอยจับจ้องเหลยเจิ้นถิงอยู่ เฝ้ารอว่าเมื่อใด เขาจะมีช่องโหว่ให้ยึดครองอ านาจกลับไปในคราเดียว ถ้า หากว่าในตอนนี้เหลยเจิ้นถิงทุ่มเทก าลังทั้งหมดต่อสู้กับ ต าหนักติ้งอ๋องจนถึงที่สุด สองฝ่ายร่วมมือกัน บางทีผล
书呆子
แพ้ชนะอาจยากจะคาดเดา แต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ สุดท้ายคนที่โชคร้ายก็คือตัวเหลยเจิ้นถิงเอง
เยียหลี่ว์เหยี่ยถอนหายใจ พลางเอ่ยว่า “โชคดีที่ ตอนนี้ก าลังทหารของพวกเรามีมากกว่าม่อซิวเหยา จึงไม่ แน่ว่าจะไม่มีทางเอาชนะได้”
เฮ่อเหลียนเผิงที่นั่งเงียบอยู่ด้านข้างมาตลอดเงย หน้าขึ้นมาเอ่ยว่า “ที่องค์ชายกล่าวมานั้นก็ไม่แน่พ่ะย่ะ ค่ะ” เยียหลี่ว์เหยี่ยเลิกคิ้ว “อย่างไร?” เฮ่อเหลียนเผิง ตอบ “แม้ว่าตอนนี้ก าลังทหารของพวกเราจะเหนือกว่า กองทัพตระกูลม่อ แต่ว่า…เดิมจงหยวนก็เป็นถิ่นของ ตระกูลม่อ ขอเพียงแค่พวกเขาต้องการเพิ่มจ านวนทหาร เกรงว่าจะสามารถรวบรวมทหารนับล้านได้ในชั่วพริบตา แม้ว่าทหารใหม่เหล่านั้นจะไม่ได้มีฝีมือการรบยอดเยี่ยม เหมือนกับทหารตระกูลม่อ แต่อย่างไรก็มีประโยชน์อยู่ บ้าง อีกอย่าง จากการที่กระหม่อมได้พบเจอมา ม่อซิว
书呆子
เหยาไม่เหมือนกับคนที่ไม่มองการณ์ไกล เขาไม่มีทางไม่รู้ ว่าก าลังพลของกองทัพตระกูลม่อนั้นห่างชั้นจากแคว้น อื่นๆ แต่เหตุใดกลับไม่มีการเกณฑ์ทหารเพิ่มเลยแม้แต่ น้อย”
เยียหลี่ว์เหยี่ยอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จ้องเฮ่อเหลียน เผิงอย่างจริงจัง พลางเอ่ยถามว่า “ความหมายที่เจ้า กล่าวมาก็คือ ม่อซิวเหยาแอบซ่อนก าลังทหารที่มีอยู่จริง เอาไว้อย่างนั้นหรือ?” เฮ่อเหลียนเผิงผงกศีรษะ “ถูกต้อง พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่ากองทัพตระกูลม่อคงไม่ได้มี ก าลังทหารตามที่พวกเรารู้มาเพียงเท่านั้น เกรงว่าม่อซิว เหยาจะแอบซ่อนพลทหารจ านวนมากเอาไว้ในสถานที่ที่ พวกเราไม่รู้ เพียงแค่รอโอกาศโจมตีกองทัพฝ่ายเราให้สิ้น ซากในคราเดียวเท่านั้น องค์ชายจึงไม่อาจชะล่าใจได้ อย่างเด็ดขาด”