ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 365-5 ทหำรที่เหลือรอดกับทหำรที่เก่งกำจ ตง ฟำงฮุ่ยสิ้นชีพ
“ท่านอาจารย์…” ตงฟางโยวพึมพ าเสียงเบา ทั่วทั้ง
ร่างโงนเงนคล้ายจะร่วงลงพื้น
สตรีข้างกายรีบเข้าไปพยุงนางไว้ เอ่ยอย่างเป็นห่วง
ว่า “คุณหนู ฮูหยินเสียแล้วเจ้าค่ะ เหล่าผู้อาวุโสก็…ก็ล้วน
ถูกเหลยเถิงเฟิงสังหารหมดแล้ว ยามนี้ภูเขาซางหมางคง
ต้องพึ่งคุณหนูแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูต้องท าใจให้เข้มแข็งไว้
นะเจ้าคะ”
ตงฟางโยวโบกมือแล้วเอ่ยอย่างไร้เรี่ยวแรงว่า “ข้า
ทราบแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด ข้าอยากอยู่คนเดียว
เงียบๆ อีกเดี๋ยว เรียกพวกเขา…เรียกพวกเขามาพบข้า
พรุ่งนี้ด้วย” สตรีนางนั้นมองตงฟางโยวด้วยความเป็น
ห่วง สุดท้ายจึงถอนหายใจแล้วออกไปอย่างเศร้าสร้อย ฮู
หยินกับเหล่าผู้อาวุโสถูกสังหารกะทันหันเช่นนี้ หน้าที่书呆子
ส าคัญของภูเขาซางหมางก็จ าต้องตกอยู่ที่คุณหนู แต่พอ
นึกไปถึงนิสัยใจคอของคุณหนูแล้วก็…
พอส่งสตรีที่มาส่งสารออกไปแล้ว ตงฟางโยวก็ปิด
ประตูห้องอย่างเนิบช้า ความเงียบงันภายในห้องกลับคืน
มาอีกครั้ง ตงฟางโยวฟุบลงกับเตียงร้องไห้ออกมาเบาๆ
นางเป็นเด็กที่ตงฟางฮุ่ยเก็บมาเลี้ยง ท่านอาจารย์ผู้นี้เป็น
คนเลี้ยงดูนางมาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ สอนนางเขียน
อ่านหนังสือ สอนนางร่ าเรียนวรยุทธ สอนให้นางวางแผน
และกลอุบาย ทว่ายามนี้… “อาจารย์ ท่านอย่าได้โทษโยว
เอ๋อร์…ข้าเกลียดชังม่อจิ่งหลี เหตุใดท่านต้องบังคับข้า
ด้วย ท่านรักและเอาใจโยวเอ๋อร์ที่สุด ท่านอย่าได้โทษข้า
…”
ในขณะที่ตงฟางโยวได้รับแจ้งข่าวการจากไปของ
ตงฟางฮุ่ย ม่อจิ่งหลีก็ย่อมได้รับข่าวนี้เช่นเดียวกัน แต่เขา
กลับต่างจากตงฟางโยวที่เศร้าโศกเสียใจจนแทบอยาก书呆子
ปลิดชีพตนเองโดยสิ้นเชิง ม่อจิ่งหลียินดีและพอใจอย่าง
มาก แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่เขากลับร าคาญ
การปิดปากและสั่งนู่นสั่งนี่ของตงฟางฮุ่ยเต็มทน นี่ไม่
เหมือนกับสิ่งที่เขาคิดไว้แต่เดิมเกี่ยวกับอ านาจของภูเขา
ซางหมางเลยแม้แต่น้อย หากตงฟางฮุ่ยยังไม่ตาย เกรงว่า
ต้องมีสักวันที่เขาได้กลายเป็นหุ่นเชิดแน่นอน
ทว่าหากเปลี่ยนเป็นตงฟางโยวล่ะก็ ทุกอย่างจะ
แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ตงฟางโยวฉลาดปราดเปรื่อง แต่
เมื่อเทียบกับตงฟางฮุ่ยแล้วกลับรับมือได้ง่ายกว่ามาก อีก
ทั้งเขายังสัมผัสได้ว่าตงฟางฮุ่ยปรารถนาในอ านาจมากขึ้น
เรื่อยๆ ส่วนตัวของตงฟางโยวเองความจริงแล้วกลับมิได้
มีความสนใจอันใดต่ออ านาจ ม่อจิ่งหลีเชื่อว่าหากมีเวลา
มากกว่านี้ เขาต้องยืมมือตงฟางโยวมาควบคุมอ านาจของ
ภูเขาซางหมางเอาไว้ได้แน่ แม้ว่าอ านาจส่วนใหญ่ในนั้น
จะถูกเจิ้นหนานอ๋องท าลายไปแล้วก็ตาม แต่ส่วนที่书呆子
เหลืออยู่ก็ส าคัญเช่นกัน อย่างน้อยๆ ภายในเขตเจียง
หนานนี้ ม่อจิ่งหลีก็ยังมีอ านาจตัดสินใจค าไหนค านั้นและ
ควบคุมอ านาจเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์
ในขณะที่ม่อจิ่งหลีรีบร้อนมายังห้องของตงฟางโยว
นั้น เขาก็ได้ยินเสียงสะอึกสะอื้นดังลอยมาจากด้านใน จึง
ขมวดคิ้วอย่างอดมิได้ แล้วผลักประตูเข้าไป “พระชายา
…”
ตงฟางโยวลุกขึ้นนั่งโดยพลัน สายตาดั่งคมมีดกวาด
มองไปยังม่อจิ่งหลี นางเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
“เจ้าเข้ามาท าไม!”
ม่อจิ่งหลีกลับไม่สนใจความเกรี้ยวกราดของนาง
เขาก้าวเข้ามาในห้อง เลิกคิ้วยิ้มเอ่ยว่า “ร้องไห้เพื่อสิ่งใด
กัน เพื่ออาจารย์ของเจ้ารึ” ตงฟางโยวเช็ดน้ าตา จ้องมอง
เขาด้วยความเย็นชาพลางเอ่ยว่า “เจ้าอยากจะพูดอันใด书呆子
กันแน่ หรือเจ้าคิดว่าพอสิ้นท่านอาจารย์แล้ว ข้าจะเกรง
กลัวเจ้าหรือ”
ม่อจิ่งหลีมองนางแล้วกล่าวว่า “อาจารย์เจ้าไม่
เพียงตายไปแล้ว แต่ภูเขาซางหมางก็ยังจบสิ้นไปด้วย ตง
ฟางโยว เจ้าคิดว่าข้ายังต้องเกรงอกเกรงใจอันใดเจ้าอีก
หรือ” ตงฟางโยวหัวเราะเสียงเย็น เอ่ยว่า “อ านาจภูเขา
ซางหมางของข้าจะจบสิ้นง่ายดายเพียงนั้นเชียวรึ ต่อให้
เป็นอ านาจของซีหลิงกับต าหนักติ้งอ๋องสูญสิ้นไปด้วย ม่อ
จิ่งหลี เจ้าเชื่อข้าหรือไม่ว่ายามนี้ข้าก็บีบเจ้าให้ตายได้!”
ม่อจิ่งหลีตาเป็นประกายวาววับ เขาจ้องตงฟางโย
วอย่างระแวดระวัง เพราะรู้ดีว่าตงฟางโยวมิได้ล้อเล่น สิ่ง
ที่สตรีนางนี้แตกต่างกับอาจารย์ของนางอย่างมากก็คือ
การไม่ค านึงถึงผลได้ผลเสีย สตรีเช่นนี้จึงยิ่งอันตราย
เพราะหากท้าทายยั่วยุนางมาเข้า นางอาจจะท าให้เราถึง
ตายได้ แม้ว่าการสู้สตรีนางหนึ่งไม่ได้จะท าให้ม่อจิ่งหลีอับ书呆子
อายขายหน้าอย่างมาก ทว่าเขากลับต้องยอมรับมัน วร
ยุทธของตงฟางโยวไม่เลวเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นสตรีที่
มีวรยุทธสูงส่งที่เขาเคยพบเจอมา ร้ายกาจกว่าเยี่ยหลี
และเหลิ่งหลิวเย่ว์แห่งส านักเยี่ยนอ๋องอยู่ไม่น้อย
ม่อจิ่งหลีแววตาเข้มขึ้น ยิ้มเรียบเอ่ยว่า “เจ้าอย่า
ท าเช่นนี้เลย ข้ามิได้มีเจตนาจะท าให้เจ้าล าบากใจ”
ตงฟางโยวส่งเสียงเฮอะออกมาอย่างเย็นชา เห็นได้
ชัดว่านางไม่สนใจ ม่อจิ่งหลีมองนางแล้วกระซิบว่า “ข้ารู้
ความคิดของเจ้า เราสามารถร่วมมือกันได้”
ตงฟางโยวตกตะลึง นางมองเขาด้วยความสงสัย
ม่อจิ่งหลีเอ่ยโดยสีหน้าไม่เปลี่ยนว่า “เจ้ายังคงไม่ลืมสวีชิง
เฉินใช่หรือไม่ เจ้าอย่ารีบร้อนไป ขอเพียงเจ้าร่วมมือกับ
ข้า ข้าสามารถช่วยให้เจ้าได้เขามาได้”
“เจ้าน่ะรึ” ตงฟางโยวเอ่ยอย่างไม่แยแส书呆子
ม่อจิ่งหลีถูกนางดูแคลนเข้า ความไม่พอใจใน
สายตาก็พลันเปล่งประกาย ทว่ากลับมิได้โกรธเคือง “ใน
เมื่อข้ากล้าพูดเช่นนี้ก็ย่อมมีความมั่นใจและความสามารถ
อยู่ที่เจ้าว่าจะต้องการหรือไม่ บางที…คุณชายชิงเฉินคง
จะไม่ส าคัญเท่าใดในใจเจ้ากระมัง หากเป็นเช่นนั้นเจ้าก็
ยอมเป็นพระชายาแห่งจวนอุปราชเสียโดยดีเถิด ข้าไม่
ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรมแน่นอน แต่ว่า คุณชายชิง
เฉินอายุอานามก็เลยวัยสร้างเนื้อสร้างตัวไปแล้ว กลัวก็
แต่ว่าอีกไม่ถึงสองปีก็ต้องแต่งงาน ถึงเวลานั้น คงมีสาว
งามล่มเมืองดั่งบุปผามาอยู่เคียงข้างกาย…”
“หยุดพูดเดี๋ยวนี้!” ตงฟางโยวเอ่ยขึ้นอย่างโมโห
ม่อจิ่งหลีเลิกคิ้วมองนาง เนิ่นนานทีเดียว ตงฟาง
โยวจึงเอ่ยขึ้นเสียงขรึมว่า “ข้าจะร่วมมือกับเจ้า!”
ด้านนอกประตู เงาร่างขาวพิสุทธิ์ร่างหนึ่งจากไป
อย่างเงียบๆ书呆子
ณ เรือนหรงเฟย เยี่ยอิ๋งยื่นจดหมายให้สตรีหน้าตา
สะสวยข้างกายด้วยท่าทางไม่ใส่ใจ “ให้คนเอาจดหมาย
ฉบับนี้ไปส่งให้ฮูหยินเหยาจีแห่งจวนมู่หยางโหว”
เพียงไม่นาน เงาร่างสีเทาก็ออกจากต าหนักไป
อย่างคล่องแคล่วว่องไว