ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 367-2 เฮ่อเหลียนพ่ำยศึก
ม่อซิวเหยาส่งเสียงเฮอะออกมาเบาๆ ขณะที่ก าลัง
จะเอ่ยขึ้นเพื่อปฏิเสธและให้เฟิ่งจือเหยาพาคนไปน า
ตัวเยี่ยหลีกลับมานั้น ก็เห็นหานหมิงเย่ว์ยิ้มบางเอ่ยว่า
“ข้าไม่รู้เรื่องการรบ แต่หากเป็นเรื่องช่วยคนล่ะก็ ข้าถนัด
กว่าเฟิ่งซานอยู่บ้าง” หานหมิงเย่ว์วรยุทธสูงส่งกว่า
เฟิ่งจือเหยา ที่ส าคัญกว่านั้นคือ เขาไม่ใช่ผู้ใต้บังคับบัญชา
ของต าหนักติ้งอ๋อง หากถึงคราววิกฤติจริงๆ แล้วเยี่ยหลี
ยังคงไม่ยอมกลับมา ต่อให้เป็นเฟิ่งจือเหยาก็คงท าอันใด
ไม่ได้ แต่หานหมิงเย่ว์กลับไม่มีความกังวลในเรื่องนี้ ต่อให้
ต้องใช้ไม้แข็ง หานหมิงเย่ว์ก็มีสิทธิชนะสูงกว่าเฟิ่งจือเห
ยา
ม่อซิวเหยาครุ่นคิดในใจ พยักหน้าเอ่ยว่า “ได้ เจ้า
ไป หานหมิงซีอยู่ที่นี่” หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นกับอา
หลี ข้าจะฆ่าหานหมิงซีทิ้งทันที หานหมิงเย่ว์มองสายตา书呆子
ข่มขู่ของม่อซิวเหยาอย่างไม่สนใจ เขายิ้มบางเอ่ยว่า
“เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ ข้าไปเตรียมตัวสักครู่แล้วจะออก
เดินทางทันที” ความจริงแล้ว ความกังวลของม่อซิวเหยา
เป็นเรื่องที่เกินจ าเป็นไปมาก ดูจากน้ าใจที่หานหมิงซีมี
ต่อเยี่ยหลี หานหมิงเย่ว์ไม่มีทางท าร้ายเยี่ยหลีแน่นอน
อย่างไรเสีย บนโลกนี้…เขาก็เหลือหมิงซีเป็นญาติเพียงคน
เดียวแล้ว
หานหมิงซีขยับปากพะเยิบพะยาบ แต่กลับไม่พูด
ออกมา ไม่เพียงเพราะเขาเป็นห่วงเยี่ยหลี ยังเพราะว่า
เรื่องครานี้เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีส าหรับ
สถานการณ์ของพี่ใหญ่ ขอเพียงหานหมิงเย่ว์สามารถคุ้ม
กันเยี่ยหลีให้ปลอดภัยได้ ความสัมพันธ์ระหว่างติ้งอ๋องกับ
พี่ใหญ่ก็น่าจะคลี่คลายไปได้มาก หลายปีมานี้ เขามอง
พี่ชายวุ่นวายและล าบากเพื่อเขาแต่ตัวเองกลับไม่ได้
อะไรลเลย ในสายตาของคนนอกเหมือนว่าคุณชายหมิง书呆子
เย่ว์เกาะน้องชายกินอย่างไรอย่างนั้น หานหมิงซีใช้ว่าจะ
ไม่รู้สึกผิด ซูจุ้ยเตี๋ยก็ตายไปหลายปีแล้ว ต่อให้เป็นการ
ลงโทษก็เถิด แต่หลายปีเพียงนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เขา
ไม่ได้หวังว่าความสัมพันธ์ของพี่ใหญ่กับติ้งอ๋องจะสามารถ
กลับคืนไปเป็นดังเก่า มีของมากมายที่พอแตกไปแล้วก็จะ
ซ่อมมันกลับคืนมาไม่ได้อีก แต่อย่างน้อยก็สามารถท าให้
พี่ใหญ่ได้รับผลตอบแทนที่ยุติธรรมหรือไม่ก็ให้เขามีอิสระ
ไปในที่ที่เขาอยากไปได้
“พี่ใหญ่ ระวังตัวด้วย” หานหมิงซีมองหานหมิงเย่ว์
แล้วเอ่ยบอก
หานมิงเย่ว์ยิ้มบางๆ โบกมือให้เขาไม่ต้องกังวลแล้ว
หันหลังเดินออกจากกระโจมใหญ่ไป
เฟิ่งจือเหยามองชายอาภรณ์ของหานหมิงเย่ว์ลาลับ
ไปจากหน้ากระโจม ก็ถอนหายใจออกมาเงียบๆ อย่างอด
ไม่ได้ ตอนนั้นคุณชายหมิงเย่ว์ที่ยอดเยี่ยมผู้นั้นตกต่ าถึง书呆子
ขั้นนี้ก็เพื่อซูจุ้ยเตี๋ยเพียงคนเดียว ส่วนติ้งอ๋องที่เคยเป็นพี่
น้องที่ดีต่อกันของเขาก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าใดนัก ก่อ
เรื่องก่อราวลั่นฟ้าสะเทือนดินเพียงเพื่อพระชายาติ้งอ๋อง
สิ่งเดียวที่สามารถเอามาเทียบได้มีเพียงสายตาของม่อซิว
เหยาที่ดีกว่าหานหมิงเย่ว์เท่านั้น
กระโจมใหญ่เงียบงันไปพักหนึ่ง ม่อซิวเหยาเอ่ย
เสียงขรึมว่า “ถ่ายทอดค าสั่งของข้าออกไป ทหารทุกคน
เตรียมตัวให้พร้อม โจมตีกองก าลังหลักของกองทัพใหญ่
เป่ยหรงอย่างสุดก าลัง!”
ทุกคนสั่นสะท้านอยู่ในใจ ลุกขึ้นขานรับว่า “รับ
บัญชา”
ม่อซิวเหยาริมฝีปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นชา “ชก
เยียหลี่ว์เหยี่ยให้ข้าสักยก ข้าจะดูซิว่า เฮ่อเหลียนเผิงจะ
มาช่วยเหลือหรือไม่”书呆子
แม่ทัพทุกนายรู้สึกถึงเพียงลมหนาวที่พัดผ่านเข้ามา
ในกระโจม ทุกคนต่างตัวสั่นกันขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ช่าง
หนาวนัก…
ณ ภูเขาหลิงจิ้ว เยี่ยหลีมองหานหมิงเย่ว์ที่ปรากฏ
ตัวขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหันด้วยความตกใจ “คุณชายห
มิงเย่ว์มาที่นี่ได้อย่างไร” หานหมิงเย่ว์ยิ้มบางเอ่ยว่า “ก็
รับบัญชาจากท่านอ๋องให้มารับพระชายากลับไปอย่างไร
เล่า”
เยี่ยหลีไม่ปิดบังแววตาที่ฉงนสงสัยของตนเลยสัก
นิด นางอมยิ้มมองเขา หานหมิงเย่ว์ยักไหล่อย่างสบายๆ
เอ่ยว่า “เดิมทีซิวเหยาตั้งใจให้เฟิ่งจือเหยาพาทหารสอง
แสนนายมาช่วยภูเขาหลิงจิ้ว ไม่ง่ายเลยกว่าเฟิ่งซานจะ
เกลี้ยกล่อมไว้ได้”
เยี่ยหลีพยักหน้าเอ่ยว่า “ข้าเชื่อค าพูดเจ้า แต่ข้าจะ
ไม่กลับไปกับเจ้า”书呆子
หานหมิงเย่ว์ขมวดคิ้วเล็กน้อย เยี่ยหลีถอนหายใจ
ออกมาอย่างจนใจ เอ่ยว่า “เฮ่อเหลียนเผิงเดือดดาลมาก
แล้ว ไม่รู้ว่าเอาทหารมากมายเพียงนี้มาจากที่ใดอีก ยาม
นี้กองก าลังที่ล้อมเขาหลิงจิ้วมีไม่น้อยกว่าสามแสนนาย
หากเขาหลิงจิ้วถูกตีแตก เขาจะใช้โอกาสนี้น าทัพไปด่าน
เฟยหงหรือไม่ก็ยากจะบอกได้ ต่อให้เขาไม่รุดหน้าต่อ
หากเขากลับเส้นทางเดิมไปจัดการเหอซู่กับซุนเย่าอู่ เกรง
ว่าพวกเขาสองคนคงได้แตกดับกันทั้งกองทัพแน่”
หานหมิงเย่ว์ถอนใจเอ่ยว่า “ดังนั้นพระชายาจึง
ตั้งใจจะรั้งอยู่ที่นี่เพื่อถ่วงเวลาเขาไว้หรือ”
เยี่ยหลีพยักหน้าเอ่ยว่า “ขวัญก าลังใจของทหาร
เวลาสู้รบนั้นส าคัญมาก ถูกปิดล้อมไว้เช่นนี้ขวัญก าลังใจก็
ยิ่งส าคัญมากขึ้นไปอีก ในฐานะที่ข้าเป็นคนน าทัพทั้งหมด
หากหลบหนีออกมาในเวลานี้ล่ะก็ ไม่ต้องให้เฮ่อเหลียน
เผิงโจมตีก็เกรงว่าเพียงไม่นานค่ายใหญ่ของภูเขาหลิงจิ้书呆子
วคงได้แตกซ่านยับเยินแน่นอน” ทหารทั้งหมดที่นี่ไม่ใช่
ทหารตระกูลม่อที่อดทนมุ่งมั่นและมีประสบการณ์
มากมายหลายต่อหลายศึก ส่วนใหญ่เป็นทหารที่รอดตาย
ของต้าฉู่และทหารเป่ยจิ้งที่เพิ่งจะมาพึ่งพิงต าหนักติ้งอ๋อง
ได้ไม่นาน
หานหมิงเย่ว์มองเยี่ยหลีอย่างลึกซึ้งอยู่นาน แล้ว
ถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “เจ้าไม่เหมือนสตรีนางอื่นจริงๆ
มิน่าเล่า…ช่างเถิด พาเจ้ากลับไปไม่ได้ ข้ากลับไปก็มีแต่
จะแย่ ข้าก็อยากจะเห็นเช่นกันว่าพระชายาติ้งอ๋องจะ
สามารถท าไปได้ถึงเพียงไหน”
เยี่ยหลีเข้าใจในความหมายของเขา นางยิ้มบางเอ่ย
ว่า “ความจริงแล้วซิวเหยากังวลจนเกินไป ตราบใดที่มี
หน่วยกิเลนอยู่ต่อให้พ่ายแพ้ข้าก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ
หรอก”书呆子
“ท่ามกลางความวุ่นวายของสงคราม กระบี่
กระบองไร้ดวงตา” ท่ามกลางกองทัพมากมาย ต่อให้เป็น
ยอดฝีมือก็ไม่กล้าพูดว่าจะกลับไปได้โดยไร้รอยขีดข่วน
ยิ่งไปกว่านั้นม่อซิวเหยาเป็นห่วงเยี่ยหลีเกินเหตุ พอเป็น
ห่วงมากก็พาให้ความคิดรวน วางใจไม่ได้จึงเป็นเรื่อง
ธรรมดา
“ท่านอ๋องไปค่ายทหารใหญ่เป่ยหรงได้รับบาดเจ็บ
หรือไม่” พอโน้มน้าวใจหานหมิงเย่ว์ได้แล้ว เยี่ยหลีจึง
เปลี่ยนไปยังหัวข้อสนทนาที่ตนก าลังกังวล แม้จะรู้ดีว่าม่อ
ซิวเหยาปลอดภัย แต่ก็อดไม่ได้ที่จะถามให้ชัดเจน คน
ของต าหนักติ้งอ๋องมีค าสั่งของม่อซิวเหยามาขัดขวางไว้ให้
ไม่บอกนาง นางจึงไม่คิดจะท าให้ใครล าบากใจ และ
บังเอิญว่าหานหมิงเย่ว์เป็นคนที่ไม่ได้ถูกม่อซิวเหยา
ควบคุมอยู่พอดี书呆子
หานหมิงเย่ว์คาดไม่ถึงอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าเขาไม่
คาดคิดว่าเยี่ยหลีจะรู้เรื่องนี้ด้วย นึกย้อนกลับไปก็รู้ได้ว่า
สาเหตุของปัญหาอยู่ที่ใด คนในต าหนักติ้งอ๋องไม่มีใครใจ
กล้าฝ่าฝืนค าสั่งของม่อซิวเหยา นั่นย่อมเป็นคนอื่นที่
เปิดเผยออกมา เขาจึงบอกเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ
ม่อซิวเหยาแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บ แต่บาดแผลเล็กน้อย
พวกนั้นส าหรับเขาไม่นับว่าเป็นบาดแผลอันใดด้วยซ้ า
เยี่ยหลีจึงได้วางใจลงอย่างแท้จริง สีหน้าจึงผ่อน
คลายลงไม่น้อย
หานหมิงเย่ว์มองสตรีอาภรณ์ขาวกระจ่างใบหน้า
งดงามเพริศแพร้วที่นั่งอยู่บนต าแหน่งประธานด้วยสีหน้า
อ่อนโยนอย่างสนใจใคร่รู้ อันที่จริงเขาไม่สนิทกับเยี่ยหลี
เท่าใดนัก แม้ว่าจะเคยได้ประมือกันหลายครั้งในเวลา
สั้นๆ แต่ไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างจริงจังมาก่อน หากเขา
ยังคงเป็นสหายที่ม่อซิวเหยาคบหาอยู่ บางทีเขาอาจจะได้书呆子
ผูกมิตรเป็นสหายกับพระชายานางนี้ด้วยเช่นกัน หรือบาง
ทีอาจจะเหมือนกับทุกคนในต าหนักติ้งอ๋องที่ภักดีชื่นชม
ต่อนาง ทว่าเขายืนอยู่คนละฝั่งกันกับพวกนางตั้งแต่แรก
จึงไม่มีเวลาท าความรู้จักสตรีนางนี้สักเท่าใด เพียงแค่รู้สึก
ว่าหน้าตา รวมถึงสติปัญญา วิธีการ และฝีมือ
ความสามารถของเยี่ยหลีล้วนเรียกได้ว่าโดดเด่น
เหนือกว่าสตรีระดับเดียวกัน ทั้งยังเป็นภรรยาที่สุดยอด
และมารดาที่ดีเยี่ยมที่หาได้ยากยิ่ง ทว่าก็ไม่อาจเข้าใจได้
ว่าสตรีที่อ่อนโยนเรียบเฉยนางนี้เหตุใดจึงท าให้คนอย่าง
ม่อซิวเหยาบ้าคลั่งเพราะนางได้
ความจริงแล้วจุดนี้เข้าใจได้ง่ายมาก ก็เหมือนคนทั่ว
ทั้งใต้หล้าที่จนปัญญาจะเข้าใจว่าเหตุใดคุณชายหมิงเย่ว์ที่
ยอดเยี่ยมผู้นี้แทบจะท าลายชีวิตตัวเองทั้งชีวิต กระทั่ง
ต้องชดใช้ด้วยชีวิตเพื่อซูจุ้ยเตี๋ยที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมนาง书呆子
นั้น ความรักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่อยๆ ทุก
วัน…
ส่วนยามนี้ เมื่อได้เห็นเยี่ยหลีที่นั่งอยู่บนต าแหน่ง
ประธานด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจัดการกับฎีกาและสาส์น
มากมายหลากหลายที่กองพะเนินเทินทึกอยู่บนโต๊ะอย่าง
เป็นระเบียบเรียบร้อย หานหมิงเย่ว์ก็พลันคิดว่าตัวเอง
เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ความงามและนิสัยเฉพาะตัวของ
สตรีนางนี้ไม่เหมือนกับสตรีธรรมดาทั่วไปจริงๆ