ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 372-3 สถำนที่ซ่อนคุณชำย สถำนกำรณ์พลิก ผั
ทว่าไทเฮาออกมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการ
โต้เถียงกับม่อจิ่งหลีจริงๆ นางเพียงแค่ไม่เข้าใจว่าในหัว
ของลูกคนนี้ก าลังคิดอะไรอยู่ ความจริงแล้ว ไทเฮาเองก็
เคยคิดอยากจะจัดการต าหนักติ้งอ๋อง ทว่าแม้ในตอนที่
ต าหนักติ้งอ๋องอ่อนแอที่สุด ไทเฮาก็ไม่เคยคิดจะ
ประจันหน้ากับต าหนักติ้งอ๋องด้วยทหารและม้ามากมาย
อย่างเปิดเผยเช่นนี้
นางอยู่ข้างกายฮ่องเต้องค์ก่อน จึงคอยเฝ้าดูเขาคิด
หาวิธีการจัดการกับต าหนักติ้งอ๋องมาครึ่งชีวิต แต่ก็ต้อง
พ่ายแพ้ทุกครั้งไป ทั้งยังได้ประจักษ์ว่าม่อหลิวฟางมาก
ความสามารถและเก่งกาจน่าทึ่งเพียงใด และย่งได้เห็นลูก
ชายคนโตของตนยอมสละต้าฉู่ เพื่อก าจัดกองทัพตระกูล
ม่อ อีกทั้งยังได้เห็นม่อซิวเหยาผู้เป็นท่านอ๋องทุพพลภาพ书呆子
แสนสาหัสในตอนนั้น ช่วยให้ต าหนักติ้งอ๋องกลับมา
รุ่งโรจน์ได้อีกครั้งได้อย่างไร ไทเฮาจึงเริ่มเกิดความรู้สึก
อย่างหนึ่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว นางรู้ว่าต าหนักติ้งอ๋องไม่ใช่ที่
ที่คนธรรมดาสามารถรับมือได้ ที่ส าคัญคือ แม้ทั้งสาม
แคว้นจะเป็นพันธมิตรกันเพื่อก าจัดต าหนักติ้งอ๋องให้สูญ
สิ้นแล้วอย่างไร ซีหลิงและเป่ยหรงจะยอมแบ่งอาณาเขต
ของต้าฉู่ให้หรือ ไม่เป็นเช่นนั้นแน่ เมื่อปราศจากความย า
เกรงและการควบคุมของกองทัพตระกูลม่อ พวกเขามีแต่
จะยิ่งเหิมเกริม รวบแผ่นดินของต้าฉู่ไว้ เกรงว่า… ชีวิตบั้น
ปลายอันสุขสงบของนางคงจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว
ม่อจิ่งหลีกลับไม่รู้ว่าไทเฮาคิดเช่นนี้ เขาเห็นเพียง
ไทเฮาที่เป็นมารดาแท้ๆ ของตนเป็นผู้ขัดขวางตนไปเสีย
ทุกเรื่อง ทั้งยังโอนเอนไปทางต าหนักติ้งอ๋องอีกด้วย นาง
ช่วยม่อซิวเหยาด้วยการควบคุมเขา ตอนนี้เมื่อเห็นว่า
ไทเฮาจะมาขัดขวางเรื่องของตนอีก จึงพูดเสียงเย็นชาว่า书呆子
“เสด็จแม่เป็นคนวังหลัง รีบกลับไปพักผ่อนเสียจะดีกว่า
กิจธุระบ้านเมืองย่อมมีลูกและเหล่าขุนนางคอยจัดการ
หรือว่า… เสด็จแม่อยากยุ่งเรื่องบ้านเมืองจริงๆ ข้ายังจ า
รูปภาพที่เสด็จพี่ทิ้งไว้ได้… ”
“ม่อจิ่งหลี เจ้า!” ไทเฮาพลันรู้สึกโกรธจนตัวสั่นเทา
รูปภาพที่ม่อจิ่งฉีทิ้งไว้ก่อนจะจากไปเป็นสิ่งต้องห้ามสิ่ง
เดียวในใจไทเฮา เมื่อถูกม่อจิ่งหลีพูดออกมาต่อหน้าฝูงชน
ทั้งยังข่มขู่ทางอ้อมเช่นนี้ สุดท้ายไทเฮาจึงทนไม่ไหวอีก
ต่อไป ภาพเบื้องหน้าพลันดับวูบ ก่อนนางจะหงายหลัง
ล้มลงไป
ม่อจิ่งหลีเหลือบมองไทเฮาที่สลบอยู่บนพื้น สั่ง
เสียงขรึมว่า “เสด็จแม่ล้มป่วยแล้ว ยังไม่รีบส่งนาง
กลับไปและเรียกหมอหลวงมารักษาอีกรึ หากยังปล่อยให้
ไทเฮาไปมาอย่างอิสระจนกระทบกระเทือนร่างกาย ข้า
จะหาค าอธิบายจากพวกเจ้า!”书呆子
เมื่อเห็นไทเฮาถูกประคองลงไป ความหวังของ
เหล่าขุนนางก็ดับลงอีกครั้ง ม่อจิ่งหลีกดสายตาลงมองทุก
คนจากเบื้องบนพูดว่า “ม่อซิวเหยาน าทัพตระกูลม่อกว่า
แสนนายครองซีเป่ย ตงเป่ยและฉู่จิง ทรยศต้าฉู่มานาน
แล้ว ถือเป็นคนหัวกบฏ ข้าผูกสัมพันธมิตรกับซีเป่ย
และเป่ยหรง ก็เพื่อก าจัดกบฏ ช่วยเหลือและคืนความ
สงบสู่แว่นแคว้น หากผู้ใดมีปัญหา ก็ต้องโทษข้อหากบฏ
ไปด้วย”
พูดจบ ก็สะบัดแขนเสื้อเดินออกไปโดยไม่สนใจ
เหล่าขุนนางและฮ่องเต้น้อยที่สะอึกสะอื้นอย่างน่าเวทนา
อีก
ในเมืองหนานจิง เรื่องที่ถูกวิพากวิจารณ์กันมาก
ที่สุดย่อมเป็นเรื่องที่หลีอ๋องเป็นพันธมิตรกับซีหลิง
และเป่ยหรงเพื่อต่อสู้กับกองทัพตระกูลม่อ ผู้เฒ่าที่ร้อง书呆子
ห่มร้องไห้และปากคอยพร่ าคร่ าครวญว่าต้าฉู่สิ้นสลาย
ตอนกลางวันแสกๆก็มีไม่น้อย
แม้กองทัพตระกูลม่อและต้าฉู่ไม่มีความสัมพันธ์
ใดๆต่อกันแล้วก็ตาม แต่ผู้เฒ่าหลายคนกลับไม่สามารถ
ตัดความสัมพันธ์ลงได้อย่างง่ายดายเพียงนั้น คนที่
คาดหวังให้ต าหนักติ้งอ๋องครองแผ่นดินและกอบกู้ต้าฉู่ไว้
ก็มีไม่น้อย ย่อมไม่ใช่เพื่อเรื่องเหล่านี้ ต าหนักติ้งอ๋อง
ปกป้องต้าฉู่มาหลายร้อยปี แม้จะถูกราชวงศ์บีบบังคับให้
ต้องออกไป ก็พูดได้ว่าไม่เคยท าเรื่องผิดต่อต้าฉู่เลย แต่สิ่ง
ที่อุปราชท านี้ คือความไร้ความเมตตา ลืมบุญคุณ และไร้
ซึ่งเหตุผล แผ่นดินราชวงศ์เช่นนี้ สวรรค์จะไม่ทอดทิ้งได้
อย่างไร
ในบรรดากลุ่มชาวบ้านสามัญชนก็ก่นด่ากันไปทั่ว
เช่นกัน แม้ม่อจิ่งหลีอยากจะห้าม แต่ตอนนี้เขาก าลังวุ่น
กับทั้งกิจภายในและภายนอก จนไม่สามารถจัดการทุกสิ่ง书呆子
เองได้ หากห้ามมิให้สามัญชนวิพากวิจารณ์ เกรงว่าทหาร
บีบคั้น ชาวประชาจะลุกฮือ ม่อจิ่งหลีผู้ไม่รู้จะท าอย่างไร
จึงได้แต่หลับตาข้างเดียว ไม่สนใจคนเหล่านี้ ส่วนอีกฝั่ง
หนึ่งก็ออกค าบัญชา รวบรวมทหารและตระเตรียมเสบียง
เพื่อเตรียมตัวออกศึกที่จะมาถึงในเร็ววันนี้
ณ โรงเตี๊ยมเงียบสงบแห่งหนึ่ง เยี่ยหลีนั่งอมยิ้มจิบ
ชาอยู่ในเซียงฝาง [1]แม้จะปิดประตูไว้แล้ว แต่เสียง
วิพากวิจารณ์ของแขกในโรงเตี๊ยมก็ยังดังมาถึงในห้อง
อย่างต่อเนื่อง ท าให้รู้ว่าการถกเถียงกันของผู้คนด้าน
นอกนั้นดุเดือดเพียงใด สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้ปรากฏแค่
ในโรงเตี๊ยมแห่งนี้เท่านั้น โรงเตี๊ยมทุกแห่งในเมืองหนาน
จิงล้วนเป็นเช่นนี้หมด ในเมื่อทหารไม่สนใจเหล่าประชา
การถกเถียงจึงยิ่งดุเดือดขึ้น คนที่ด่าทอม่อจิ่งหลีในแต่ละ
วันก็มีไม่น้อยเลย书呆子
“พระ… คุณชายคิดอย่างไรกับสิ่งที่คนเหล่านี้พูด
เจ้าคะ” ในเซียงฝาง เหยาจีนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มองไปยัง
คุณชายชุดขาวหน้าตาสงบตรงหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
เยี่ยหลียิ้มมุมปากพูดว่า “เรื่องแค่นี้เกรงว่าไม่กระทบต่อ
การตัดสินใจของหลีอ๋องหรอก”
เหยาจีเอียงศีรษะพลางคิด แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ดูก็รู้ว่าหลีอ๋องถูกความแค้นที่มีต่อต าหนักติ้งอ๋องบังตา
หากหลีอ๋องมองทะลุปรุโปร่ง ก็จะรู้ว่าการเป็นพันธมิตร
กับซีหลิงและเป่ยหรงไม่ได้เป็นประโยชน์กับเขาเลยแม้แต่
น้อย ไม่ว่ากองทัพตระกูลม่อจะแพ้หรือชนะ แต่ชื่อเสียนี้
จะติดตัวเขาไปตลอดชีวิต” น่าเสียดายที่ม่อจิ่งหลีดื้อรั้น
อยากจะชนะม่อซิวเหยาเกินไป แม้จะมีโอกาสเพียงน้อย
นิด เขาก็อยากเห็นม่อซิวเหยาพ่ายแพ้ต่อหน้าเขา书呆子
“จวนมู่หยางโหวก็ได้รับบัญชาจากหลีอ๋องแล้ว
เช่นกัน มู่หยางโหวและมู่หยางจะออกศึกครั้งนี้ด้วยกัน”
เหยาจีพูดเสียงเบา
เยี่ยหลีพยักหน้า นางไม่รู้สึกแปลกใจ แม่ทัพที่มี
ความสามารถด้านการรบก็เหลือน้อยอยู่แล้ว เหลิ่งไหว
และหนานโหวเป็นกบฏต่อต าหนักติ้งอ๋องมานาน แม้มู่
หรงเซิ่นไม่ได้แสดงออกชัดเจน แต่การกระท าของเขา
พิสูจน์ความคิดของเขาตั้งแต่แรกแล้ว อีกอย่างมู่หรงเซิ่น
ไม่เพียงเป็นกองทัพเก่าของม่อหลิวฟาง แต่ยังเป็นพ่อตา
ของเหลิ่งเฮ่าอวี่ที่เป็นคนสนิทของติ้งอ๋องด้วย อย่างไรก็
ตัดความสัมพันธ์จากต าหนักติ้งอ๋องไม่ได้ แม้มู่หยางโหว
อายุมากแล้ว แต่เหลิ่งไหวและหนานโหวที่มีอายุใกล้เคียง
กับเขายังสามารถต่อสู้ในสนามรบได้อย่างไม่มีใครเทียบ
ได้ เขาย่อมไม่มีความเห็นอะไร书呆子
“ในเมื่อม่อจิ่งหลีตัดสินใจแล้ว เช่นนั้น… ข้าก็ควร
มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาเสียหน่อย” เยี่ยหลียิ้ม น า
บัญชีรายชื่อออกมาจากแขนเสื้อ วางลงข้างหน้าเหยาจี
และฉินเฟิง เหยาจีหยิบขึ้นมาเปิดดู ถามด้วยความสงสัย
“คุณชาย นี่คือ… ”
เยี่ยหลีพูดเสียงขรึม “รายชื่อคนในนั้น ฆ่าทิ้งให้
หมด”
เสียงของเยี่ยหลีไม่สุขไม่ทุกข์ สงบเรียบเหมือน
ทะเลที่ไร้คลื่น แต่กลับท าให้คนรู้สึกถึงความอันตรายที่
อยู่ใต้ท้องทะเลลึก รายชื่อคนในบัญชีนี้คือบุคคลส าคัญ
ของกองทัพต้าฉู่ในตอนนี้ อ านาจและต าแหน่งอาจจะไม่
สูงส่ง แต่ขาดพวกเขาไปจะสร้างผลกระทบต่อกองทัพไม่
น้อย แต่สิ่งที่เหยาจีสงสัยคือ ในบัญชีนี้ไม่มีชื่อของมู่หยาง
และมู่หยางโหวอยู่书呆子
เยี่ยหลีเหลือบมองนาง ยิ้มพูดว่า “มิต้องแปลกใจ
ครั้งนี้พ่อลูกมู่หยางโหวต้องเป็นแม่ทัพของกองทัพต้าฉู่อยู่
แล้ว หากพวกเขาเป็นอะไรไป กองทัพต้าฉู่จะออกศึกได้
หรือไม่นั้นก็ยังเป็นปัญหา ในเมื่อม่อจิ่งหลีเข้ามาร่วมด้วย
แล้ว ก็อย่าคิดจะได้ถอนตัวออกไปอีกเลย คนเหล่านี้ไม่ใช่
คนส าคัญอะไร ถือโอกาสก าจัดทิ้งไปเสีย พี่ใหญ่ยังอยู่ใน
ก ามือของตงฟางโยว อย่าท าให้เป็นที่สังเกตของผู้คน”
ฉินเฟิงเก็บบัญชีรายชื่อนั้น พยักหน้าพูดว่า
“คุณชายวางใจเถิดขอรับ”
เยี่ยหลีพยักหน้า “เยี่ยอิ๋งมีข่าวคราวบ้างหรือไม่
บัญชีรายชื่อที่ตงฟางโยวให้ม่อจิ่งหลีนางรู้หรือเปล่า”
เหยาจีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง พูดเสียงขรึมว่า “นางรู้ แต่
นางไม่ยอมบอก” เยี่ยหลีชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเงียบไป
ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้าพูดว่า “ข้าเข้าใจนาง นางกลัวว่าข้า书呆子
จะผิดค าพูด ไม่บอกนางว่าเด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน” เหยาจี
ถามขึ้น “เช่นนั้นให้เราไป… ”
[1] เซียงฝาง คือห้องที่ขนาบข้างห้องหลัก อยู่ฝั่งทิศตะวันตก และทิศตะวันออก