ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 373-3 ตงฟำงโยวถูกจับ
ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง ในที่สุดองครักษ์ที่ลงไปก่อนหน้า
นี้ก็โผล่ศีรษะขึ้นมาเหนือน้ า เขาพูดอย่างตื่นเต้นปน
ประหลาดใจว่า “พระชายา ใต้ทะเลสาบมีอุโมงค์ลึกมาก
ข้าน้อยสันนิษฐานว่าทะลุไปข้างนอกได้พ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยลิ่นขมวดคิ้ว พูดว่า “แต่ว่า แม้เป็นเช่นนี้
คุณชายชิงเฉินก็น่าจะออกไปไม่ได้” เมื่อดูจากสภาพของ
องครักษ์ทั้งสองนายแล้ว ก็รู้ว่าที่พวกเขากลับขึ้นมา
เพราะแทบจะขาดอากาศหายใจแล้ว คุณชายชิงเฉินไม่
สามารถกลั้นหายใจได้นานเท่าองครักษ์ต าหนักติ้งอ๋อง
เป็นแน่ ยิ่งไปกว่านั้น… คุณชายชิงเฉินว่ายน้ าเป็นหรือไม่
ก็ยังมิรู้
เยี่ยหลีค่อยๆ คลายปมคิ้วที่ขมวดเข้าหากันออก
พูดว่า “พี่ใหญ่หนีไปคนเดียวไม่ได้แน่”书呆子
“พระชายาหมายถึงมีคนพาคุณชายชิงเฉินออกไป
หรือพ่ะย่ะค่ะ” จั๋วจิ้งถาม องครักษ์ที่ยังอยู่ในน้ าชูหยก
ก้อนหนึ่งขึ้นมาพูดว่า “เรียนพระชายา ข้าน้อยพบสิ่งนี้ใต้
น้ าพ่ะย่ะค่ะ”
เว่ยเลิ่นเดินขึ้นหน้ารับมา เป็นหยกแขวนที่สวีชิง
เฉินมักแขวนติดตัวไว้จริงๆ เสียด้วย เส้นไหมที่ผูกหยกไว้
ไม่ได้ขาด แต่กลับถูกพบในทะเลสาบ แสดงว่ามีคนจงใจ
ทิ้งไว้ตรงนั้น เยี่ยหลีก าหยกไว้แน่น คิดพลางถามว่า
“ทะลุออกไปได้หรือไม่”
“ข้าน้อยมิอาจท าได้พ่ะย่ะค่ะ เกรงว่า… ข้าน้อย
ว่ายไปไกลมากแล้ว แต่ยังคงไม่เห็นวี่แววของทางออก
อีกอย่าง… ที่นี่เป็นภูเขา แม้จะมีทางออก ก็กลัวว่าจะอยู่
ไกลโพ้นออกไปพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์กล่าวขอโทษ
เยี่ยหลีโบกมือพูดว่า “จะโทษพวกเจ้าได้อย่างไร
พวกเจ้าขึ้นมาก่อนเถิด เว่ยลิ่น ส่งคนไปส ารวจบริเวณ书呆子
ใกล้เคียงในรัศมีห้าลี้นี้ที บันทึกทุกแห่งที่มีแอ่งน้ าหรือ
แม่น้ าไหลผ่านมาด้วย จั๋วจิ้ง ลองดูว่ามีลูกน้องคนไหนที่
สามารถอยู่ใต้น้ าได้นาน แล้วให้พวกเขาลองตรวจสอบ
ทางตรงนี้ดูอีกที”
“พ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยรับบัญชา” ทั้งสองพูดพร้อมกัน
ตอนแรกคิดว่าจะได้ข่าวคราวของสวีชิงเฉินแล้ว ไม่
คิดว่าจะดีใจเก้อ แต่อย่างน้อยก็พอทราบข้อมูลของสวีชิง
เฉินเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้เยี่ยหลีจะเป็นห่วงความปลอดภัย
ของสวีชิงเฉิน แต่ก็ท าได้เพียงกลับเข้าไปในเมืองก่อน
ส่วนในเมืองตอนนี้กลับมีคนส่วนหนึ่งก าลังวุ่นวาย
เหมือนคลื่นใต้น้ า เนื่องจากการหายตัวไปของตงฟางโยว
ทุกๆ ที่เต็มจึงไปด้วยคนที่ต าหนักหลีอ๋องส่งออก
มาตามหา เยี่ยหลียังคงพาจั๋วจิ้งและเว่ยลิ่นที่แปลงโฉม
เดินบนท้องถนนอย่างสบายใจ อีกฝั่งหนึ่ง ตงฟางโยวถูก
ส่งกลับจวนฉู่ไปแล้ว เยี่ยหลีไม่คิดจะใช้หมากอย่างตงฟาง书呆子
โยวในตอนนี้ การแหวกหญ้าให้งูตื่นไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่าง
ใด รอให้ม่อจิ่งหลีออกจากหนานจิงเสียก่อน ตงฟางโยว
และภูเขาชางหมางย่อมมีประโยชน์มากกว่า
ตงฟางโยวถูกคนจับใส่กล่องน ากลับมาจวนฉู่ ม่อจิ่ง
หลีที่ตามหาตงฟางโยวอย่างบ้าคลั่งย่อมคิดไม่ถึงว่าตง
ฟางโยวจะถูกคนจับใส่กล่องอย่างไม่รู้ตัวราวกับสิ่งของที่
ถูกขนย้ายกลับมาหนานจิง และไม่รู้ว่าคนขนย้ายลืม
หรือไม่ จนกระทั่งเยี่ยหลีกลับถึงจวนฉู่แล้ว ตงฟางโยวก็
ยังอยู่ในกล่องปิด นางยังไม่ได้รับการน าตัวออกมา
เมื่อเปิดฝากล่องออก ตงฟางโยวได้สตินานแล้ว
เพียงแต่ว่านางถูกสกัดจุดไว้ และกินยาลงไป
ความสามารถของนางในตอนนี้จึงไม่ได้ดีไปกว่าทารกที่
เพิ่งครบขวบสักเท่าไร ฉะนั้น แม้นางจะได้สติแล้ว แต่
กลับท าได้เพียงขดตัวอยู่ในกล่อง รอคนมาปล่อยตน
ออกไปอย่างช่วยอันใดตนเองไมได้ ชั่วชีวิตที่ผ่านมาของ书呆子
ตงฟางโยวทุกอย่างเป็นไปอย่างใจมาโดยตลอด นอกจาก
ความรักของสวีชิงเฉินที่นางไม่ได้ครอบครองอย่างใจ
อยาก และการถูกบังคับให้แต่งกับม่อจิ่งหลีในครั้งนั้นแล้ว
ตงฟางโยวก็ไม่เคยถูกใครท าให้ล าบากใดๆ มาก่อน ยิ่งไม่
ต้องพูดถึงการถูกกระท าเช่นนี้ เมื่อกล่องถูกเปิดออก เว่ย
ลิ่นก็รับรู้ถึงสายตาอันแหลมคมของตงฟางโยวที่จ้องเขม็ง
มายังตน
เว่ยลิ่นยักไหล่ ยื่นมือไปหิ้วตงฟางโยวออกมาอย่าง
ไม่สนใจใยดี และโยนนางไปบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ ตงฟาง
โยวจ้องไปทางคนที่นั่งอยู่บนต าแหน่งประธานอย่างแค้น
เคือง แต่เมื่อได้เห็นคุณชายที่นั่งอยู่บนนั้นอย่างสง่างาม
แล้ว ก็อดชะงักงันไม่ได้ “เจ้าเองรึ?!”
เยี่ยหลียิ้มเล็กน้อย พยักหน้าพูดว่า “แม่นางตงฟาง
ล าบากเจ้าหน่อยนะ”书呆子
หน้าตาคือฉู่จวินเหวย แต่เสียงกลับเป็นเยี่ยหลี ตง
ฟางโยวสีหน้าเหยเกทันที นางกัดฟันกรอด พูดว่า “เยี่ย
หลี ที่แท้เป็นเจ้าเองหรือ! เจ้าบังอาจ… ” คุณชายฉู่ที่นาง
รู้สึกดีด้วยในงานชมดอกเบญจมาศครานั้น ที่แท้เป็นเยี่ย
หลีปลอมตัวมา นี่เป็นเรื่องที่ท าให้ตงฟางโยวอับอาย
เหนือสิ่งอื่นใด แต่ตอนนี้นางไม่มีเวลามาทะเลาะกับเยี่ย
หลีเรื่องที่นางกลั่นแกล้งตนแล้ว นางถามอย่างร้อนรนว่า
“คุณชายชิงเฉินอยู่ที่ใด”
เยี่ยหลีส่ายศีรษะอย่างหมดหนทาง ความรักที่ตง
ฟางโยวมีต่อสวีชิงเฉินนั้นลึกล้ ากว่าสิ่งใด แต่น่าเสียดายที่
นางใช้วิธีการผิดๆ และสวีชิงเฉินเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับ
นาง เรื่องความรักของคนสองคนไม่ใช่การตบมือข้าง
เดียว หากตงฟางโยวแค่อยากจะอยู่ใกล้ชิดสวีชิงเฉิน
อย่างเงียบๆ คงไม่เดือดร้อนใคร และเยี่ยหลีก็ย่อมไม่
หยอกล้อความรักของนาง แต่หากฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธ书呆子
อย่างชัดเจนแล้ว นางยังดึงดันถึงขั้นลงไม้ลงมือเช่นนี้ ก็
คงฝืนใจอีกฝ่ายเกินไปสักหน่อย
“เรื่องของพี่ใหญ่ ต าหนักติ้งอ๋องย่อมจัดการเอง
หากแม่นางตงฟางมีเวลาว่าง คิดเรื่องตนเองดีกว่า
หรือไม่” เยี่ยหลีพูดอย่างนิ่งเรียบ
“ข้าต้องการพบคุณชายชิงเฉิน!” ตงฟางโยวตวาด
ลั่น
เยี่ยหลีขมวดคิ้วพูดว่า “เรายังหาพี่ใหญ่ไม่เจอ”
“ข้าต้องการพบคุณชายชิงเฉิน!” ตงฟางโยวยังคง
กรีดร้องราวกับไม่ได้ยินค าพูดของเยี่ยหลี เยี่ยหลีถอน
หายใจอย่างเบื่อหน่าย “พูดไม่รู้เรื่องแล้ว เชิญแม่นางตง
ฟางกลับไปพักเถิด”
“เยี่ยหลี! ข้าต้องการพบคุณชายชิงเฉิน!” ตงฟาง
โยวมองเยี่ยหลีอย่างโกรธเคือง ราวกับนางเป็นหญิงชรา书呆子
ใจเหี้ยมที่ใช้กระบองตียวนยางให้แยกคู่[1] เยี่ยหลีขมวด
คิ้วมองนาง พูดอย่างเชื่องช้าว่า “แม่นางตงฟาง ช่วงนี้
เจ้าคิดถึงฮูหยินตงฟางบ้างหรือไม่” ตงฟางโยวชะงัก
เล็กน้อย สีหน้าพลันซีดเผือด
เยี่ยหลีโบกมือส่งสัญญาณให้คนน าตัวนางออกไป
อาจเป็นเพราะจู่ๆ เยี่ยหลีพูดถึงตงฟางฮุ่ย ตงฟาง
โยวจึงตกตะลึงและถูกน าตัวออกไปอย่างง่ายดาย
“พระชายา คิดไม่ถึงเลยว่าท่านออกไปได้เพียงครู่ก็
จับบุคคลส าคัญท่านนี้กลับมาได้แล้ว” เหยาจียืนยิ้มอยู่
หน้าประตู นางมองมาที่เยี่ยหลีแล้วพูดขึ้น เยี่ยหลีเลิกคิ้ว
มองเหยาจีที่มาหาถึงที่ ถามว่า “เจ้ามาท าอันใดหรือ”
เหยาจียิ้มตอบว่า “ตอนนี้หลีอ๋องออกตามหาคนไป
ทั่วทั้งเมือง ข้ารู้ว่าต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะ
เป็นพระชายาหลีอ๋องหายตัวไป” เยี่ยหลีแปลกใจ “ม่อจิ่ง
หลีไม่ได้ประกาศเรื่องนี้ออกไปหรือ”书呆子
เหยาจีอมยิ้มพูดว่า “เกรงว่าม่อจิ่งหลีคิดว่าตงฟาง
โยวหนีไปพร้อมกับคุณชายชิงเฉินน่ะสิ แล้วเหตุใดเขา
จะต้องประกาศให้ตนเองต้องอับอายด้วยเล่า เขาคงคิด
ไม่ถึงว่าพระชายาอุปราชที่เขาตามหาไปทั่วจะอยู่ในจวน
ฉู่ที่ห่างจากต าหนักหลีอ๋องไปไม่ไกลนี่เอง แล้วเป็น
อย่างไรบ้าง มีข่าวคราวของคุณชายชิงเฉินหรือไม่เพคะ”
เยี่ยหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วส่ายศีรษะ เหยาจี
ถอนหายใจเบาๆ พูดว่า “พระชายาอย่าได้ร้อนใจไปเลย
คุณชายชิงเฉินเป็นคนมีบุญสูงส่ง สวรรค์ย่อมช่วยเหลือ
ไม่เป็นอะไรแน่ ใช่แล้ว ข้ามาที่นี่ด้วยเพราะมีเรื่องส าคัญ
เพคะ”
เยี่ยหลียิ้มมองไปที่นาง เหยาจีหยิบจดหมาย
ออกมา ยิ้มแล้วพูดว่า “หลีอ๋องจะออกศึก แต่ยังขาด
แคลนค่าแรงทหารอยู่มาก จึงตั้งใจจะขอเรี่ยไรเงินจาก
คหบดีและผู้มีอ านาจในเมืองนี้เพคะ”书呆子
เยี่ยหลีชะงัก ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า “ก็คือ ม่อจิ่ง
หลีคิดจะเรี่ยไรเงินจากข้าเพื่อโจมตีกองทัพตระกูลม่
อหรือ”
เหยาจียิ้มตอบว่า “ใครให้จวนฉู่เป็นตระกูลสูงศักดิ์
และมีชื่อเสียงเล่าเพคะ”
[1] กระบองตียวนยางแยกคู่ ค าว่า “ยวนยาง” หมายถึงคู่รัก ส านวนเปรียบเปรยถึงคนที่ไปบังคับแยก
คู่รักให้พรากจากกัน书呆子