ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 374-2 แม่สำวน้อยอวิ๋นเกอ
สาวน้อยรู้สึกผิด นางมักคิดว่าตนเป็นคนที่ท าให้สวี
ชิงเฉินบาดเจ็บ อันที่จริงหากคิดดูดีๆ สวีชิงเฉินควรรู้สึก
ผิดมากกว่า เพราะเดิมทีสาวน้อยแค่อยากให้เขาช่วย
ชี้แนะการเล่นเหยาเจิ้ง หรืออาจแค่อยากหาคนคุยด้วย
เพราะอยู่คนเดียวในป่าลึกแห่งนี้แล้วรู้สึกเหงา สาวน้อย
มักคิดว่าเป็นเพราะตนที่เข้าไปยุ่งเรื่องคนอื่นและช่วยสวี
ชิงเฉินออกมา แต่อันที่จริงแล้ว หากไม่ใช่เพราะค าพูดค า
จาบางค าที่สวีชิงเฉินจงใจพูดกับนาง สาวน้อยที่ยังไม่โต
คนนี้จะคิดถึงเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร เพียงแต่เรื่องการ
บาดเจ็บอยู่เหนือความคาดหมายของสวีชิงเฉิน ทว่าสาว
น้อยตรงหน้านี้ก็ดูแลเขาอย่างดี นางคิดหาทุกวิธีทางเพื่อ
รักษาสวีชิงเฉิน ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันนี้ ท าให้สวีชิงเฉิน
รู้ว่าสาวน้อยคนนี้อยู่บนเขาแห่งนี้กับผู้เป็นบิดามาตั้งแต่
เล็ก บิดาของนางจากไปเมื่อสามปีก่อน นางจึงอยู่คน书呆子
เดียวตั้งแต่นั้นมา นางน ายาเม็ดที่ท าเองจากสมุนไพรที่
ตนปลูกไปขายในเมืองและซื้อสิ่งของจ าเป็นกลับมาเป็น
ครั้งคราว เพื่อการรักษาอาการของสวีชิงเฉินในครั้งนี้
สาวน้อยถึงกับใช้เงินซึ่งเดิมก็มีจ านวนอยู่ไม่มากของท่าน
พ่อจนหมดเกลี้ยง ทั้งยังต้องไปเก็บสมุนไพรล้ าค่าที่คน
ทั่วไปหาไม่ได้เพื่อไปแลกสมุนไพรที่ต้องใช้รักษา ทุกครั้ง
ที่สวีชิงเฉินสบตากับดวงตาที่รู้สึกผิดของสาวน้อย ก็เป็น
ครั้งแรกในชีวิตที่เขารู้สึกว่าตนเป็นคนสารเลวเหลือเกิน
“อวิ๋นเกอ มานั่งนี่สิ” สวีชิงเฉินกวักมือเรียกนางมา
สาวน้อยที่ชื่ออวิ๋นเกอท าตาปริบๆ เดินไปนั่งลงบน
เก้าอี้ที่อยู่ไม่ไกลจากเตียงของสวีชิงเฉิน สวีชิงเฉินถาม
เสียงเบาว่า “อวิ๋นเกอ วันนี้เข้าเมือง มีอะไรเกิดขึ้นใน
เมืองบ้างหรือไม่”
อวิ๋นเกอกะพริบตา พูดว่า “ข้าได้ยินคนในเมืองพูด
ว่าจะมีศึกสงคราม”书呆子
“ศึกสงครามหรือ” สวีชิงเฉินขมวดคิ้ว ตอนนี้ต้าฉู่
อยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ าอวิ๋นหลัน คู่ต่อสู้เพียงหนึ่งเดียว
ของเขาคือเหลยเจิ้นถิงเจิ้น หนานอ๋องแห่งแคว้นซีหลิง
แต่ตามหลักแล้วตอนนี้เหลยเจิ้นถิงไม่น่าจะใช้ก าลัง
ในตอนนี้ “รบกับใครหรือ”
อวิ๋นเกอท าหน้ามุ่ย พูดว่า “กับกองทัพตระกูลม่อ
ไงเล่า ท่านพ่อของข้าบอกว่าทหารตระกูลม่อเป็นคนดี
หลีอ๋องจะสู้รบกับพวกเขา หลีอ๋องเป็นคนเลว” พูดจบ
สวีชิงเฉินอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ เขาเลิกคิ้วถามว่า
“เหตุใดท่านพ่อเจ้าบอกว่าติ้งอ๋องเป็นคนดี”
อวิ๋นเกอคิดครู่หนึ่ง พูดว่า “ท่านพ่อข้าบอกว่า
ต าหนักติ้งอ๋องท าทุกสิ่งเพื่อแผ่นดิน ซื่อสัตย์และ
จงรักภักดี แต่เสียดายที่สร้างผลงานไว้มากจนฮ่องเต้
หวาดระแวงและรู้สึกถูกคุกคาม เบื้องบนทนมิได้ จนท า
ให้ติ้งอ๋องต้องด่วนจากไปเร็ว ท่านพ่อข้าบอกว่า书呆子
ต าหนักติ้งอ๋องเป็นคนดีทุกคน” ในขณะที่พูด ก็พยักหน้า
เป็นการยืนยันความคิดของตนไปด้วย
สวีชิงเฉินจึงรู้ว่า ท่านพ่อของอวิ๋นเกอหมายถึงม่อห
ลิวฟางหรือไม่ก็ม่อซิวเหวินติ้งอ๋องคนก่อนหน้านี้ เพียงแต่
ไม่รู้ว่าบุคคลลึกลับที่ถ่ายทอดวิชาการแพทย์และการต่อสู้
ที่ล้ าลึกเช่นนี้ให้อวิ๋นเกอได้แล้วด่วนจากไปเร็วคือใคร คิด
ว่าคงไม่ใช่คนธรรมดาแน่ “ก็ได้ ติ้งอ๋องเป็นคนดี ยังมีข่าว
อะไรอีกหรือไม่ ข้าให้เจ้าไปดูจวนฉู่ในเมืองมีความ
เคลื่อนไหวอะไรหรือไม่”
อวิ๋นเกอพยักหน้าพูดว่า “ข้าคอยดูอยู่นานมาก มี
คนเข้าๆ ออกๆ ตลอดเวลา แต่ในจวนนั้นมียอดฝีมือ
มากมาย ข้าก็เลยไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ข้าเห็นคุณชาย
ชุดขาวหน้าตาดีคนหนึ่ง อืม… แล้วก็มีพี่สาวสวยคนหนึ่ง
เข้าไปด้วย”书呆子
“คุณชายชุดขาว…” สวีชิงเฉินท าหน้าครุ่นคิด “หลี
เอ๋อร์มาแล้วหรือ”
อวิ๋นเกอมองเขาด้วยความสงสัย พูดว่า “เจ้าอยาก
หาคุณชายชุดขาวคนนั้นหรือ พรุ่งนี้ข้าจะไปหาเขาอีกที
แล้วก็บนเขาใกล้ๆ มีผู้คนมากมายก าลังหาอะไรอยู่ไม่รู้
ตอนที่ข้ากลับมาเกือบถูกพวกเขาจับได้เสียแล้ว วันนี้
ตอนที่ข้าไปที่หุบเขานั้น ที่นั่นก็ไม่มีใครอยู่แล้ว เจ้าวางใจ
เถิด ที่ของเราที่นี่ไม่มีใครหาเจอหรอก ไม่ต้องกลัวนะ”
สวีชิงเฉินหนักใจกว่าเดิม เขากลัวว่าที่นี่จะลึกลับ
เกินไป ไม่เพียงแต่คนอื่นหาไม่เจอ แม้แต่คนที่หลีเอ๋อร์ส่ง
มาหาเขาก็อาจหาไม่เจอเช่นกัน แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
ตอนนี้เขาเองก็ไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้อยู่แล้ว ไม่มี
ใครหาเจอ ย่อมดีกว่าถูกศัตรูหาเจอ
“สวีชิงเฉิน เจ้าสอนเหยาเจิ้งให้ข้าได้หรือไม่” อวิ๋
นเกอมองสวีชิงเฉินพูดเสียงต่ า书呆子
สวีชิงเฉินเลิกคิ้ว หัวเราะแล้วพูดว่า “ได้ ข้าสัญญา
เจ้าไว้แล้วนี่ รอข้าหายเจ็บแล้วจะสอนเจ้าเล่นเหยาเจิ้ง
นะ”
อวิ๋นเกอมองเขา “เมื่อหายเจ็บแล้ว เจ้าก็ถึงเวลาไป
แล้วมิใช่หรือ ข้าเล่นตอนนี้ เจ้าช่วยฟังหน่อยได้หรือไม่
อันที่จริงข้าเคยเรียนมาบ้าง ตอนนั้นท่านพ่อข้าสอนข้า
แต่ข้าไม่ตั้งใจเรียนเอง พอท่านพ่อ… ก็ไม่มีใครสอนข้าอีก
เลย” สวีชิงเฉินเห็นแววคาดหวังและความเศร้าหมองใน
ดวงตาของสาวน้อย เขาชะงักเล็กน้อย ยิ้มพูดว่า “ท า
ไมอวิ๋นเกอถึงอยากเรียนเหยาเจิ้งหรือ”
“เสียงไพเราะดี ข้าเล่นให้ตัวเองฟังได้” อวิ๋นเกอ
พูดพลางยิ้มตาหยี
สวีชิงเฉินถอนหายใจเบาๆ ท่านพ่อของอวิ๋นเกอก็
วางใจเกินไป ตอนที่เขาจากไป สาวน้อยอวิ๋นเกออายุ
เพียงสิบสองสิบสามเท่านั้น แม้จะต่อสู้เป็น แต่การอยู่ตัว书呆子
คนเดียวในป่าลึกเช่นนี้ก็เปล่าเปลี่ยวเกินไป แต่ว่าด้วย
หน้าตาและนิสัยของสาวน้อยคนนี้ หากไม่มีญาติผู้ใหญ่
ดูแล การอยู่ในที่ที่ไร้ผู้คนแบบนี้น่าจะปลอดภัยกว่า
เด็กน้อยคนนี้อยู่มาสองสามปี กลับไม่เคยอยาก
ออกจากที่นี่ ปกตินางก็เข้าเมืองเพียงเดือนละหนึ่งครั้ง
เพื่อซื้อสิ่งของจ าเป็นกลับมา สองสามปีมานี้นางเชื่อฟัง
ค าสั่งของท่านพ่อมาตลอด นางน ายาและสมุนไพรที่พบ
เห็นได้ทั่วไปไปขายเพื่อแลกเงิน ไม่เช่นนั้น ดูจาก
ความสามารถด้านการแพทย์ของนางแล้ว คงมีชื่อเสียง
เลื่องลือไปนานแล้ว
สวีชิงเฉินมองลงไปพลางครุ่นคิด จากนั้นก็ถามขึ้น
ว่า “อวิ๋นเกอไม่คิดจะออกจากที่นี่หรือ”
อวิ๋นเกอมองเขาอย่างฉงน “ท าไมต้องออกจากที่นี่
ท่านพ่อบอกว่าข้างนอกมีคนร้ายมากมาย” ขนาดสวีชิง
เฉินผู้มีรูปโฉมงดงามเช่นนี้ยังถูกคนจับขัง หากนาง书呆子
ออกไปก็คงต้องถูกคนร้ายจับแน่ ตอนนั้นหลังจากที่ท่าน
พ่อเพิ่งจากไปไม่นาน อวิ๋นเกอเพิ่งเข้าเมืองคนเดียวครั้ง
แรกก็เจอคนอันธพาลอยู่สองสามหน โชคดีที่อวิ๋นเกอ
ต่อสู้เป็น การผลักไสคนเหล่านั้นไปจึงเป็นเรื่องง่าย
ส าหรับนาง หลังจากนั้นทุกครั้งที่เข้าเมือง อวิ๋นเกอจึงรู้ว่า
ต้องอ าพรางตนเอง แต่หากนางต้องออกจากที่นี่ไปถาวร
นางก็คงไม่อยากทาขี้เถ้าบนใบหน้าตนเองทุกวัน แม้จะ
อาศัยอยู่ในชนบท แต่ความรักสวยรักงามเป็นนิสัยที่ติด
ตัวมาแต่ก าเนิดของผู้หญิงทุกคนอยู่แล้ว อวิ๋นเกอไม่อยาก
ท าตัวสกปรกทุกวันเลยแม้แต่น้อย
สวีชิงเฉินเริ่มหมดความอดทน เขาอดยื่นมือไปเขก
ศีรษะนางไม่ได้ แต่กลับกระเทือนโดนบาดแผลของตนจน
ต้องขมวดคิ้ว อวิ๋นเกอรีบลุกขึ้นมาประคองเขากลับลงไป
เหมือนเดิม “อย่าขยับสิ เจ้ายังไม่หายดีเลย”书呆子
สวีชิงเฉินมองนางพูดว่า “เจ้าเป็นผู้หญิงคนเดียว
และอยู่ในป่าลึกเช่นนี้ ไม่ใช่แผนระยะยาวที่ดีหรอกนะ
ไปเมืองหลีเฉิงกับข้าเถิด”
อวิ๋นเกอชะงัก แล้วส่ายศีรษะ พูดว่า “ไม่ได้หรอก
ท่านพ่อบอกให้ข้าอยู่ที่นี่ วันข้างหน้าจะมีคนมารับข้า
ไป”
“รับเจ้าไปหรือ ใครล่ะ ท่านพ่อบอกหรือไม่ว่าจะ
มารับเจ้าเมื่อใด” สวีชิงเฉินจึงรู้แจ้งในทันที ท่านพ่อขอ
งอวิ๋นเกอจะไม่คิดถึงลูกสาวของตนได้อย่างไร แต่นี่ก็สาม
ปีมาแล้ว ไม่มีข่าวคราวใดๆ เลย คนๆ นั้นจะท ามารับ
นางไปตามสัญญาหรือ
อวิ๋นเกอครุ่นคิด พูดอย่างสงสัยว่า “ท่านพ่อเขียน
จดหมายฉบับหนึ่งไว้ ให้ข้าส่งไป แล้วจะมีคนมารับข้า
แต่ก็ไม่เห็นมีใครมาเลย”书呆子
เจ้าเด็กโง่ จดหมายส่งออกไปสามปีแล้วยังไม่มีคน
มา หากไม่ใช่เพราะคนนั้นไม่ได้รับจดหมาย ก็เป็นเพราะ
เขาไม่มาแล้ว สวีชิงเฉินยิ้มพูดว่า “เอาอย่างนี้ดีไหม เจ้า
กลับไปกับข้า เราทิ้งจดหมายไว้ที่นี่ หากมีคนมารับเจ้า
พวกเขาก็จะได้ไปหาเจ้าที่เมืองหลี เมื่อข้ากลับไปแล้วจะ
ส่งคนกลับมาดูว่าที่นี่มีคนมาหาหรือไม่ อีกอย่าง เจ้าบอก
เองไม่ใช่หรือว่าอาการบาดเจ็บภายในของข้าต้องใช้
เวลานานกว่าจะรักษาหายได้ เจ้าจะได้ไปช่วยรักษาข้า
ด้วย ดีหรือไม่”