ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 375-4 งำนเลี้ยงหงเหมินของต ำหนักอุปรำช
“ใช่แล้ว เฮ้อ…เกิดเป็นเชื้อพระวงศ์ไม่ง่ายเลย” เมื่อนายใหญ่หลินมองไปที่ฮ่องเต้น้อยที่นั่งอยู่ข้างบน อย่างเหม่อลอย ก็ได้แต่ส่ายศีรษะ สภาพของฮ่องเต้น้อย เป็นหุ่นเชิดที่เชิดไม่ได้เลยด้วยซ้ า เวลาที่อยู่ต่อหน้าหลี อ๋องก็ได้แต่เงียบราวกับจั๊กจั่นในปลายฤดูหนาว เกรงว่า หลีอ๋องเองก็ปฏิบัติไม่ดีต่อฮ่องเต้น้อยเช่นกัน จะดีเสีย กว่าหากได้อยู่ในวัง เพราะมีไทฮองไทเฮาและไทเฮาช่วย ดูแล แต่ตอนนี้ต้องอยู่ในต าหนักหลีอ๋อง มิรู้ว่าจะมีชีวิต อยู่ได้ถึงเมื่อไร
เยี่ยหลีขมวดคิ้วครุ่นคิด หันไปมองเว่ยลิ่น เว่ยลิ่น เดินเข้ามาโน้มล าตัวลงเพื่อฟังค าสั่ง เยี่ยหลีกระซิบข้างหู เว่ยลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง เว่ยลิ่นพยักหน้าเงียบๆ แล้วกลับไปยืน ที่เดิม นายใหญ่หลินมององครักษ์สองนายที่อยู่ข้าง
书呆子
หลังเยี่ยหลีด้วยความสงสัย ยิ่งรู้สึกว่าคุณชายฉู่ท่านนี้ ลึกลับน่าค้นหาจริงๆ
“คุณชายฉู่” จางไป่ว่านที่ถูกโบยเมื่อครู่จนหน้า ขาวซีดเดินเข้ามาหา เขาฝืนยิ้มและพูดขึ้นว่า “ขอบคุณ คุณชายฉู่ที่ช่วยพูดต่อหน้าอุปราช” เนื่องจากจางไป่ว่าน ท าให้ม่อจิ่งหลีไม่พอใจ ผู้คนในนั้นจึงไม่กล้าคุยกับเขา ซ้ าร้าย เขาก็ไม่ใช่คนอัธยาศัยดีนักอยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นก็คง มีคนเข้าไปเตือนเขาที่หลงผิดแต่แรกแล้ว จางไป่ว่าน กลายเป็นหนูทดลองให้คนเหล่านี้ไปโดยปริยาย งานเลี้ยง ยังไม่จบ จางไป่ว่านที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลก็ยังไม่ กล้าลากลับ จึงนั่งอยู่ในมุมคนเดียวอย่างอ้างว้าง จนถึง เมื่อครู่นี้ เขาเพิ่งรวบรวมความกล้าเดินมาขอบคุณเยี่ย หลี
เยี่ยหลียิ้มเล็กน้อย พยักหน้าพูดว่า “นายใหญ่จาง มิต้องเกรงใจ มิใช่เรื่องใหญ่อะไร”
书呆子
จางไป่ว่านยิ้มเฝื่อนๆ พูดว่า “เรื่องเล็กน้อยของ คุณชายกลับช่วยชีวิตตาแก่อย่างข้าไว้ หากต่อไปคุณชาย ฉู่มีกิจอันใด ข้ายินดีช่วยเหลือ” เยี่ยหลีแอบยิ้ม จางไป่ ว่านคนนี้ก็ไม่ได้เลอะเลือนจริงๆ เสียหน่อย แต่ค าพูด ประโยคหลังนั้นฟังผ่านๆ ไปก็พอ นิสัยรักเงินทองดั่งชีวิต ของเขาไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขกันได้ง่ายๆ
“มิบังอาจ นายใหญ่จางมิต้องเกรงใจ”
จางไป่ว่านมองไปที่นายใหญ่หลินที่อยู่ข้างๆ ฝืนยิ้ม พูดว่า “หากคุณชายฉู่มีเวลาว่าง ข้าอยากจัดงานเลี้ยง เล็กๆ เรียนเชิญคุณชายร่วมงาน” เยี่ยหลีครุ่นคิดครู่หนึ่ง ยิ้มพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น รบกวนนายใหญ่จางแล้ว”
เมื่อเห็นเยี่ยหลียินยอม จางไป่ว่านก็กลับไปที่ของ ตนด้วยสีหน้าดีใจ
นายใหญ่หลินมองจางไป่ว่าน แล้วอดหัวเราะขึ้นมา ไม่ได้ “ไม่คิดเลยว่า หลังจากจางไป่ว่านถูกโบยไปรอบ
书呆子
หนึ่งก็กลายเป็นคนใจกว้างขึ้นมาเสียอย่างนั้น เกรงว่า หลายปีมานี้ คุณชายฉู่คงเป็นคนโชคดีคนแรกที่เขายินดี เลี้ยงอย่างเต็มใจ”
เยี่ยหลียิ้มเล็กน้อย พูดว่า “นายใหญ่หลินหยอก เล่นแล้ว”
นายใหญ่หลินส่ายศีรษะพูดว่า “จางไป่ว่านเป็นคน เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน คุณชายฉู่ระวังตัวเสียหน่อยจะ ดีกว่า” เยี่ยหลีพยักหน้า ขอบคุณนายใหญ่หลินที่เตือน แม้นายใหญ่หลินเองก็มีจุดประสงค์อย่างอื่นซ่อนอยู่ เล็กน้อย แต่การที่เขาเตือนตนเองก็เป็นเจตนาดี บนโลก ใบนี้ไม่มีความปรารถนาดีที่เกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุผล อยู่แล้ว
จางไป่ว่านถือเป็นคนมีชื่อเสียงในหนานจิง เยี่ยหลี ย่อมรู้จักเขาบ้าง หากบอกว่าขอบคุณตนเองที่ช่วยชีวิตไว้
书呆子
ก็ไม่ผิด แต่ที่มากกว่านั้นเกรงว่าเขาแค่ต้องการท าการค้า กับตระกูลฉู่เท่านั้น
นายใหญ่หลินคิดอยู่ครู่หนึ่ง อมยิ้มมองไปที่เยี่ยหลี พูดเสียงเบาว่า “ข้าน้อยได้ยินมาว่าจางไป่ว่านมีลูกสาว คนหนึ่งในจวน…” แม้ไม่ได้พูดค าพูดที่เหลือ แต่เยี่ยหลีก ลับเข้าใจความหมายของเขา
อันที่จริงหลังจากวันนี้ที่ได้เจอเยี่ยหลี คนที่คิด เช่นนี้ก็มีไม่น้อย แม้ฉู่จวินเหวยเป็นเพียงคนนอกของ ตระกูลฉู่ แต่ด้วยพื้นฐานชาติก าเนิดของเขา ก็ไม่ใช่สิ่งที่ คนท าการค้าที่มักถูกดูแคลนเหล่านี้เทียบเคียงได้ อีก อย่าง หน้าตาคุณชายฉู่ดูสง่ามีราศี แม้แต่หลีอ๋องก็ดู เหมือนปฏิบัติต่อคุณชายท่านนี้อย่างสุภาพ ยิ่งไม่ต้องพูด ถึงความสัมพันธ์ของตระกูลฉู่และตระกูลสวีที่เกี่ยวพันกัน อย่างแน่นแฟ้น ลูกเขยเช่นนี้ ย่อมเป็นคู่ครองที่หมายตา ของทุกคน แม้แต่นายใหญ่หลินเองก็มีความคิดเช่นนี้ แต่
书呆子
น่าเสียดายที่จวนตนมีลูกสาวสองคน คนโตแต่งออกไป ตั้งแต่สองสามปีที่แล้ว คนเล็กอายุยังไม่ถึงสิบขวบ เขาจึง ได้แต่ถอนหายใจอย่างเสียดาย
เมื่อได้ยินค าพูดของนายใหญ่หลิน เยี่ยหลีพลัน ชะงักไป นิ่งเงียบเป็นคนใบ้ นางไม่เคยคิดถึงปัญหา เหล่านี้เลย แม้นางจะแต่งเหมือนผู้ชายมากเพียงใด แต่ ข้างในก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะคิดไปถึง ว่าคนอื่นจะยกลูกสาวให้กับตนเองหรอก แต่ว่าตอนนี้เมื่อ ได้ยินนายใหญ่หลินพูดเช่นนี้… เยี่ยหลีหันไปมองจั๋วจิ้ง และเว่ยลิ่น
ทั้งสองแสดงสีหน้าประหลาดใจ ผ่านไปนานกว่า เว่ยลิ่นจะค่อยๆ พูดขึ้นว่า “คุณชายสง่างามโดดเด่น หา ผู้ใดเทียบเคียงมิได้ ย่อมเป็นที่หมายตาของบิดามารดา มากมาย” ที่แท้แล้วท่านอ๋องไม่เพียงแต่ต้องคอยระวัง
书呆子
ผู้ชาย แต่ท่านยังต้องระวังผู้หญิงด้วยอีกหรือนี่ เว่ยลิ่น และจั๋วจิ้งอดสงสารท่านอ๋องของตนไม่ได้
เยี่ยหลีส่ายศีรษะอย่างไร้ทางเลือก ยิ้มพูดว่า “ขอบคุณนายใหญ่หลินที่เตือน ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”
นายใหญ่หลินหัวเราะแหะๆ ยกมือป้องปากยิ้มพูด เสียงเบาว่า “ข้าน้อยพล่ามไร้สาระไปเอง อันที่จริงก็คิด ว่ายอมรื้อวัดหรือศาลาดีกว่าท าลายงานแต่ง[1] แต่ว่าลูก สาวของจางไป่ว่าน… แหะๆ… คุณชายพิจารณาเถิด”
ในมุมตรงข้าม จางไป่ว่านสังเกตเห็นว่านายใหญ่ หลินอาจจะพูดเรื่องของตนเองอยู่ เขาจึงถลึงตาใส่อีก ฝ่าย แต่นายใหญ่หลินกลับดื่มสุราอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว เยี่ยหลีส่ายหัวอย่างไม่มีทางเลือก นางชูจอกสุราขึ้นไป ทางจางไป่ว่าน
书呆子
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ในนั้นต่างก็ประหลาดใจ ไม่ คิดว่าคุณชายฉู่ท่านนี้จะให้ความส าคัญกับจางไป่ว่านคน ขี้เหนียวคนนี้ต่างไปจากคนอื่น
[1] เปรียบเปรยว่า ไม่ควรยุยงให้ครอบครัวผู้อื่นแตกแยก หรือขัดขวางงานมงคลของคู่รัก