ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 376-3 เหตุใดจึงเกิดเป็นเชื้อพระวงศ์
จางไป่ว่านได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกผิดหวังมากเกิน กว่าจะบรรยายได้ เขาคาดหวังเหลือเกินว่าจะได้ฉู่จวิ นเหวยคนนี้เป็นลูกเขยของตระกูลจาง หากเป็นเช่นนี้ จริงๆ ก็จะได้เป็นหลักประกันให้ตระกูลจางอีกด้วย อีก ทั้งลูกสาวตระกูลตนก็เป็นคนมีมาตรฐานสูง นางไม่สนใจ ผู้ชายธรรมดา แต่น่าเสียดายที่…
เมื่อออกจากจวนจาง เยี่ยหลี เว่ยลิ่นและจั๋วจิ้งก็อด โล่งใจไม่ได้ จั๋วจิ้งเบ้ปากพูดว่า “สายตาของคุณหนูจาง คนนั้นแทบจะตรึงอยู่ที่คุณชายอยู่แล้ว โชคดีที่คุณชาย ไหวพริบดีรีบผลักไสนางออกไป มิเช่นนั้นคงวุ่นวายน่าดู เลย” เกิดมาหน้าตาดีก็เป็นความผิดหรือนี่ ไม่รู้จริงๆ ว่า คุณชายชิงเฉินใช้ชีวิตผ่านมาได้อย่างไร มิน่าเล่าจึงท าให้ ผู้หญิงสติไม่ดีอย่างตงฟางโยวคลั่งไคล้เช่นนี้ได้ ทว่า พอ พระชายาแปลงโฉมเป็นบุรุษแล้วเจอสถานการณ์แย่กว่า
书呆子
คุณชายชิงเฉินเสียอีก คุณชายชิงเฉินเป็นบุรุษงดงามดั่ง อมตะ ผู้คนชื่นชมมิกล้าหมิ่นประมาท แต่พระชายา ปลอมตัวเป็นบุรุษแล้วกลับกลายเป็นบุรุษเลอโฉมอย่าง หาที่เปรียบมิได้ มิหน าซ้ ายังมีอัธยาศัยดี ช่างเป็นลูกเขย ชั้นดีที่ทุกคนต้องการจริงๆ
“พระชายา หากจางไป่ว่านแพร่ความลับออกไปจะ ท าอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ” เว่ยลิ่นขมวดคิ้วถาม
เยี่ยหลีพูดน้ าเสียงราบเรียบ “ถ้าเช่นนั้นนายใหญ่ จางก็คงเป็นตาเฒ่าหน้าเลือดแล้วล่ะ แต่… ข้าคิดว่าเขา เป็นคนฉลาด”
เว่ยลิ่นครุ่นคิดครู่หนึ่งพูดว่า “ก็จริงพ่ะย่ะค่ะ อีก อย่างด้วยนิสัยรักเงินทองดั่งชีวิตของเขา รู้อยู่แก่ใจว่าม่อ จิ่งหลีจะกลืนกินจวนจางของตนเองแล้ว เขาคงไม่ส่ง ตนเองเข้าถ้ าเสือ”
书呆子
เยี่ยหลีลอบถอนหายใจ พูดด้วยน้ าเสียงราบเรียบ ว่า “หากจัดการจวนจางและจวนหลินได้ ท าสิ่งใดก็จะ ง่ายขึ้นมาก” จวนจางและจวนหลินถือได้ว่าเป็นมหา เศรษฐีอันดับต้นๆ ในหนานจิง เมื่อมีพวกเขาคอย ช่วยเหลืออยู่ลับหลัง ก็คงไม่ยากที่จะแทรกแซงเข้าไปใน กองหนุนของม่อจิ่งหลี
ทุกอย่างก าลังด าเนินไปอย่างลับๆ หลังจากฉู่จวิ นเหวยกลายเป็นบุคคลโดดเด่นเมื่อครั้งร่วมงามเลี้ยงของ ต าหนักอุปราช ม่อจิ่งหลีก็คับคล้ายคับคลาว่าจะจ าชาย หนุ่มตระกูลฉู่ในอวิ๋นโจวได้ ม่อจิ่งหลีส่งคนมาเชิญเขาไป ต าหนักเป็นครั้งคราว เพื่อไถ่ถามความเห็นทางการเมือง แต่เยี่ยหลีกังวลว่าจะถูกม่อจิ่งหลีจับได้ นางจึงปฏิเสธการ เชื้อเชิญเสียเป็นส่วนใหญ่ มีเพียงครั้งที่บอกปัดไม่ได้จริงๆ จึงจะไปสักครั้ง แต่กลับไม่คิดว่าม่อจิ่งหลีจะยิ่งให้
书呆子
ความส าคัญกับเยี่ยหลี ดูท่าม่อจิ่งหลีคงอยากเล่นบทเป็น ผู้นับถือนักปราชญ์บัณฑิตกับเขาขึ้นมาบ้าง
อาจเป็นเพราะม่อจิ่งหลีกลัวว่าไทฮองไทเฮาจะ ส่งผลกระทบต่อฮ่องเต้น้อย เขาจึงให้ฮ่องเต้น้อยประทับ ในต าหนักอุปราช และพาเขาเข้าวังเมื่อต้องออกว่าราช กิจทุกวัน แม้ขุนนางน้อยใหญ่ส่วนหนึ่งจะไม่เห็นด้วย แต่ม่อจิ่งหลีเป็นผู้กุมอ านาจทางการทหารทั้งหมดไว้ใน มือ อ านาจทางการเมืองย่อมต้องพึ่งพาก าลังทหาร ตั้งแต่ โบราณกาลมา ความส าเร็จจากการก่อกบฏของขุนนาง นั้นหามีไม่
เยี่ยหลีได้พบฮ่องเต้น้อยในต าหนักอุปราชครั้งหนึ่ง ร่างกายของเขาดูอ่อนแอลงกว่าครั้งที่แล้วที่ได้เห็นกันใน งานเลี้ยง และภายในเวลาอันรวดเร็ว ต าหนักหลีอ๋องก็มี ข่าวแพร่ออกมาว่า ฮ่องเต้น้อยถูกวางยาชนิดเรื้อรัง
书呆子
เมื่อได้ข่าวจากต าหนักอุปราช ทุกคนก็ก็พลันอึ้งไป เว่ยลิ่นขมวดคิ้วถาม “ม่อจิ่งหลีคิดอะไรอยู่กันแน่” ก่อน ทหารออกศึก ย่อมต้องสยบความเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้ เขากลับวางยาฮ่องเต้น้อย นี่คงไม่เป็นผลดีต่อม่อจิ่งหลี
“ม่อซู่อวิ๋นยังอยู่ได้อีกนานเพียงใด” เยี่ยหลีถาม เสียงขรึม
เหยาจีที่มาพร้อมกับฉินเฟิงส่ายศีรษะ “แม้ยาพิษที่ ฮ่องเต้น้อยทานจะเป็นชนิดเรื้อรัง แต่ก็มีความรุนแรง อีก อย่าง ฮ่องเต้น้อยมีสุขภาพไม่แข็งแรงมาแต่ก าเนิดอยู่แล้ว สองปีมานี้ยังถูกม่อจิ่งหลีกลั่นแกล้งไม่น้อย เกรงว่า…แม้ จะแก้ยาพิษได้ ก็คงมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงวัยหนุ่ม” เหยาจีเอง ก็เป็นแม่ลูกหนึ่ง ทั้งยังไม่ได้เจอลูกแท้ๆ ของตนมาหลาย ปี นางย่อมรู้สึกสงสารเด็กเป็นธรรมดา
ท่ามกลางความขัดแย้งอันวุ่นวายนี้ ผู้บริสุทธิ์ที่สุดก็ คงเป็นฮ่องเต้น้อยที่มีชันษาเพียงแปดเก้าขวบ เขาเป็น
书呆子
เพียงเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่มีความรักจากพ่อ แม่ ไม่มีสายตระกูลคอยสนับสนุน การที่จู่ๆ ก็ถูกแต่งตั้ง ให้ขึ้นสู่ต าแหน่งสูงส่งหลังจากม่อจิ่งฉีจากไปนั้น คนที่มี ดวงตาย่อมเห็นแจ้งว่าสิ่งที่รอคอยเขาอยู่คืออะไร
“พระชายา เรื่องของม่อซู่อวิ๋นไม่เกี่ยวข้องกับพวก เรา พระชายาอย่าต าหนิตัวเองเลยพ่ะย่ะค่ะ” ฉินเฟิงพูด เสียงขรึม
เยี่ยหลีส่ายศีรษะ ยิ้มเล็กน้อยพูดว่า “ไม่ถึงกับ ต าหนิตนเองหรอก แค่รู้สึกเศร้าใจ… เขาเป็นเพียงเด็กที่ ไม่รู้ประสีประสาคนหนึ่งเท่านั้น เหตุใดจึงต้องเกิดเป็น เชื้อพระวงศ์ด้วย…” เยี่ยหลีแทบจะไม่เคยโทษตนเอง การโทษตนเองเป็นความรู้สึกผิดที่ไร้ประโยชน์ แทนที่จะ โทษตนเอง สู้ไม่ท าเช่นนั้นตั้งแต่แรกเสียยังดีกว่า ในเมื่อ ตัดสินใจเลือกแล้ว โทษตัวเองไปจะมีประโยชน์อันใด
书呆子
“เหยาจี เจ้าไปบอกเยี่ยอิ๋ง ให้น าบัญชีของนางมา ให้ข้า แล้วข้าจะบอกที่อยู่ของลูกนางทันที หากช้าไป… นางจะต้องเสียใจภายหลังแน่” เยี่ยหลีตอบเรียบๆ
เหยาจีขมวดคิ้วพูดว่า “เกรงว่าเยี่ยอิ๋งจะยินยอม ลึกๆ แล้วนางอาจจะไม่เชื่อใจพระชายา ตอนนี้บัญชีที่ นางมีอยู่ในมือถือได้ว่าเป็นสิ่งส าคัญที่สุดที่นางมีในตอนนี้ แล้ว นางย่อมไม่เอาออกมาง่ายๆ พระชายา ลองบอก ข้อมูลของเด็กคนนั้นให้นางก่อนดีหรือไม่”
เยี่ยหลีถอนหายใจ พูดขึ้นว่า “หากส่งข่าวของเด็ก คนนั้นไป เราก็คงไม่ได้สิ่งที่ต้องการ มิหน าซ้ า… แม้แต่ เจ้าและคนมากมายในเมืองหนานจิงก็จะตกอยู่ใน อันตรายด้วย” เหยาจีขมวดคิ้ว นางไม่ค่อยเข้าใจ ฉินเฟิง จึงพูดขึ้นว่า “หากพวกเราบอกเยี่ยอิ๋งว่าลูกของนางก็คือ ฮ่องเต้น้อยคนนั้น นางจะยอมช่วยต าหนักติ้งอ๋องได้ อย่างไร สิ่งแรกที่นางจะท าคือบอกเรื่องนี้กับม่อจิ่งหลี
书呆子
ตอนนี้องค์หญิงซีสยาตายไปแล้ว ตงฟางโยวก็หายตัวไป เมื่อฮ่องเต้น้อยกลายเป็นลูกของม่อจิ่งหลี…”
เหยาจีพลันกระจ่าง นางคลุกคลีกับเยี่ยอิ๋งอยู่ บ่อยครั้ง ย่อมรู้จักนิสัยของนางดี เยี่ยอิ๋งเป็นคนขี้ขลาด ซ้ ายังไม่ค่อยฉลาด ท าการใหญ่ยาก แต่กระนั้นนางก็เป็น คนเห็นแก่ตัว ลึกๆ แล้วไม่ไว้วางใจผู้ใดเลย และมีจิตใจ โหดเหี้ยมเมื่อจ าเป็น หากลูกชายของตนได้เป็นฮ่องเต้ นางก็จะเป็นไทเฮา ย่อมไม่ต้องคอยดูสีหน้าของ ต าหนักติ้งอ๋องอีก
เหยาจีถอนหายใจอย่างหมดหนทาง พูดว่า “ข้าจะ กลับไปบอกนาง” หวังเพียงเยี่ยอิ๋งจะเป็นคนมีเหตุผล ไม่ ถือดีว่าตนฉลาด มิเช่นนั้นมีแต่จะท าร้ายลูกของนางเอง
“พระชายา ตอนนี้ม่อจิ่งหลีวางยาพิษฮ่องเต้น้อย เขาจะท าอะไรกันแน่ เขาคงไม่ถึงกับอยากครองราชย์จน ทนไม่ไหว หากฮ่องเต้น้อยตายในต าหนักหลีอ๋อง เขาเอง
书呆子
คงตกเป็นผู้ต้องสงสัยเป็นแน่” จั๋วจิ้งพูดอย่างประหลาด ใจ ม่อจิ่งหลีเป็นคนถือดีว่าตนฉลาด หลักการง่ายๆเช่นนี้ เขาไม่น่าจะไม่เข้าใจ
เยี่ยหลีส่ายศีรษะ พูดเสียงขรึมว่า “อันที่จริง… อาจจะไม่ใช่ม่อจิ่งหลีที่วางยาพิษเสมอไป”
“มีคนใส่ร้ายม่อจิ่งหลีหรือ” ทุกคนพูดอย่างฉงน
ฉินเฟิงขมวดคิ้วพูดว่า “ตั้งแต่ตงฟางโยวหายตัวไป ม่อจิ่งหลีก็ได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในต าหนักหลีอ๋อง ครั้งใหญ่อีกครั้ง ตอนนี้พูดได้ว่าต าหนักหลีอ๋องอยู่ภายใต้ การควบคุมของม่อจิ่งหลี ข้อมูลที่แม้แต่เรายังสืบสาวได้ ก็เป็นไปไม่ได้ที่ม่อจิ่งหลีจะไม่รู้”