ชายาเคียงหทัย - ตอนที่ 378-2 กำรโจมตีครั้งสุดท้ำย ควำมตำยของ เยี่ยอิ๋ง
เยี่ยอิ๋งค่อยๆ บีบนิ้วมือในแขนเสื้อไว้แน่น นางกลัว ว่าม่อซู่อวิ๋นจะหลุดปาก แต่ม่อซู่อวิ๋นกลับเอาแต่มองม่อ จิ่งหลีอย่างหวาดกลัว จนเขาหดล าตัวเข้าไปข้างใน และ ไม่พูดอะไรเลยสักค า
ม่อจิ่งหลีเคยชินกับสภาพเช่นนี้มานานแล้ว สองปี มานี้ทุกครั้งที่ม่อซู่อวิ๋นเจอเขา เขาก็อยู่ในสภาพนี้ตลอด แต่อย่างไรก็ตามวันนี้ตัวตนของเขาไม่เหมือนเดิมอีก ต่อไป เมื่อก่อนมีเพียงความรู้สึกสะใจและความเกลียดชัง ตอนนี้กลับมีความรู้สึกซับซ้อนที่ยากจะอธิบายและความ โกรธเคือง คนอ่อนแอขี้ขลาดเช่นนี้ เป็นลูกของม่อจิ่งหลี ได้อย่างไรกัน!
ม่อจิ่งหลีเคลื่อนสายตาไป พูดขึ้นว่า “ในเมื่อฮ่องเต้ ชอบ ข้าจะให้คนไปเชิญพ่อครัวจากร้านนั้นมาท าให้
书呆子
ฮ่องเต้เอง” เยี่ยอิ๋งพยักหน้า พูดเสียงเบาว่า “ท่านอ๋อง ตัดสินใจก็แล้วกันเพคะ”
ม่อจิ่งหลีพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เหลือบมองซุปไก่ ที่เหลืออยู่ครึ่งถ้วย พูดขึ้นว่า “ให้ฮ่องเต้พักผ่อนเถิด ข้า จะส่งเจ้ากลับห้องเอง”
“เพคะ” เยี่ยอิ๋งมองม่อซู่อวิ๋นที่ก าลังเหม่อลอยอีก ครั้งด้วยสายตาอาวรณ์ นางหันหลังเดินตามม่อจิ่งหลีไป เพิ่งออกจากเรือนของม่อซู่อวิ๋นได้ไม่เท่าไร ก็มีคนเดินเร่ง รีบเข้ามาพูดว่า “เรียนท่านอ๋อง เมื่อครู่นี้ฮูหยินหยางที่อยู่ เรือนรอง แจ้งว่าตั้งครรภ์ได้หนึ่งเดือนครึ่งแล้วพ่ะย่ะ ค่ะ”
“อะไรนะ” ม่อจิ่งหลีชะงัก พลันดีใจยกใหญ่ จนลืม ไปว่าต้องส่งเยี่ยอิ๋งกลับเรือน เขาหัวเราะพูดขึ้นว่า “ดี มาก ตบรางวัลงามๆ มีราชโองการแต่งตั้งจ้าวซื่อเป็นพระ ชายารอง”
书呆子
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง ยินดีกับท่านอ๋องด้วยพ่ะย่ะ ค่ะ” คนที่แจ้งข่าวก็ดีใจ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นถึงทายาท เพียงหนึ่งเดียวของต าหนักหลีอ๋อง นายท่านอารมณ์ดี ย่อมตบรางวัลให้ไม่น้อย ม่อจิ่งหลีโบกมือ “เอาเถิด ข้าไป ดูเองดีกว่า” พูดจบ ก็เดินสาวท้าวมุ่งไปทางเรือนรอง ทันที ราวกับลืมเยี่ยอิ๋งที่ตามอยู่ข้างเขาเสียสนิท
ที่หน้าประตู เยี่ยอิ๋งเหลียวกลับไปมองประตูเรือน อีกครั้ง นางหลุบตาลงเดินกลับไปที่เรือนของตนอย่าง เงียบๆ
ณ เรือนที่ไม่เป็นที่สังเกตแห่งหนึ่งในเมืองหนานจิง สวีชิงเฉินและเยี่ยหลีนั่งเล่นหมากรุกอยู่ในเรือน อวิ๋นเกอ นั่งอยู่ด้านข้างคอยชมทั้งสองเข่นฆ่ากันไปมา นางมองเยี่ย หลีด้วยนัยน์ตาที่เปี่ยมล้นไปด้วยความชื่นชมและเลื่อมใส เยี่ยหลีมองไปที่แม่สาวน้อยอย่างไม่มีทางเลือก นางส่าย ศีรษะแล้วยิ้ม อวิ๋นเกอเล่นหมากรุกไม่เป็น นางเห็น
书呆子
เพียงเยี่ยหลีรุกจนท าให้สวีชิงเฉินได้แต่ถอย โดยที่ไม่เคยรู้ เลยว่าท้ายที่สุดคนที่เล่นหมากรุกกับสวีชิงแล้วแพ้นั้น ส่วนใหญ่คือเยี่ยหลีเอง ส าหรับการต่อกรกับสวีชิงเฉิน แล้ว ไม่ว่าจะคิดวางแผนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ นางจึงรีบ รุกเพื่อจบกระดานเสียก่อน
“คุณชายชิงเฉิน พระชายา” ฉินเฟิงผู้สวมชุด ธรรมดาดูไม่สะดุดตาเท่าไรนักปรากฏตัวขึ้นในเรือน เขา ค านับอย่างสุภาพ
สวีชิงเฉินวางหมากในมือลง เมื่อเห็นการแต่งตัว ของฉินเฟิงก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “ผู้บัญชาการฉินเฟิง แต่งอะไรก็เหมือนอย่างนั้นจริงๆ หากไปเดินเจอกันข้าง นอกคงไม่รู้ว่าเป็นเจ้า” ค าพูดของสวีชิงเฉินนั้นไม่เกินไป เลย ปกติฉินเฟิงเป็นคนมีสง่า ท าให้ไม่มีคนกล้าท าตาม อ าเภอใจ แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ในชุดสามัญชน ความสง่าที่ เคยแผ่ซ่านรอบตัวจึงหายไป แม้แต่ใบหน้าหล่อๆ ของเขา
书呆子
ก็ยังดูธรรมดามาก หากเขาแฝงตัวเข้าไปในฝูงชนแล้ว เกรงว่าก็คงไม่มีผู้ใดสังเกตเห็น คนเช่นนี้ ไม่เพียงเหมาะ แก่การเป็นองครักษ์ลับ หรือสายลับ แต่ยังเหมาะเป็นมือ สังหารอีกด้วย
ฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย พูดว่า “คุณชายชมเกินไปแล้ว ขอรับ”
เยี่ยหลียักคิ้วพูดว่า “ถึงกับบังคับให้เจ้าแต่งเช่นนี้ ได้ ดูท่าเราคงกระตุกหนวดเสืออย่างม่อจิ่งหลีเข้าให้ แล้ว”
ฉินเฟิงพูดว่า “แม้ช่วงนี้ในเมืองหนานจิงดูเหมือน ไม่มีอะไร แต่กลับมีการลอบตรวจสอบกันอย่างเคร่งครัด หลังจากม่อจิ่งหลีบุกค้นฐานที่มั่นได้ คนที่เขาจับได้เป็น เพียงคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น อาจเป็นเพราะนึกเจ็บใจ กระมัง”
书呆子
เยี่ยหลีพยักหน้ายิ้มอย่างพอใจ “ดูท่าเยี่ยอิ๋งคงยัง ไม่ซื่อถึงขั้นสุด นางไม่ได้บอกเรื่องของเหยาจี”
อันที่จริงการเดินหมากของเยี่ยอิ๋งที่บอกตัวตนที่ แท้จริงของม่อซู่อวิ๋นไปนั้นถือว่าเสี่ยงมาก แต่หากม่อจิ่ง หลีและเยี่ยอิ๋งต้องตายจากการใช้ม่อซู่อวิ๋น เยี่ยหลีก็ท าใจ กับเรื่องแบบนี้ไม่ได้อยู่ดี ถึงอย่างไร… นางก็เป็นแม่ลูก สาม เพียงแค่คิดถึงเด็กน้อยซุกซนอย่างม่อตัวน้อยที่อยู่ที่ เมืองหลี กับลูกฝาแฝดอีกคู่ที่อายุยังไม่ถึงขวบถูกทิ้งไว้ที่ บ้าน เยี่ยหลีก็อดใจอ่อนขึ้นมาไม่ได้ แม้นางไม่เชื่อเรื่องผี สาง แต่นางก็ยังอยากใช้ชีวิตอย่างสบายใจ อย่างที่ท่านปู่ พูด ผลบุญกรรมหาเกี่ยวกับภูตผีไม่ นักปราชญ์บัณฑิต เชื่อในผลแห่งการกระท าของตนเท่านั้น ไม่เชื่อเรื่องเหนือ ธรรมชาติ แต่หากวิธีการโหดร้ายเกินไป อย่างไรก็ถือเป็น การท าลายวัฏจักรแห่งธรรมชาติ
书呆子
โชคดีที่เยี่ยอิ๋งไม่ได้ท าให้ตนผิดหวัง หากเยี่ยอิ๋งพูด เรื่องของเหยาจีออกมา หนทางการส่งสารลับของ ต าหนักติ้งอ๋องในเมืองหนานจิงคงถูกท าลายไม่น้อย ถึง ตอนนั้นแม้แต่นางเองก็คงหมดหนทางเช่นกัน ต าหนักติ้ง อ๋องคงไม่อาจส่งคนไปบุกเข้าไปในต าหนักต้งอ๋องเสียดื้ๆ หรอกกระมัง
“ต าหนักหลีอ๋องมีความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่” เยี่ยหลีถาม
ฉินเฟิงตอบว่า “ม่อจิ่งหลีและเสียนเจาไท่เฟยรู้แล้ว ว่าม่อซู่อวิ๋นยังไม่ตายในเร็ววันนี้ ก าลังลังเลว่าจะวางยา พิษฤทธิ์รุนแรงดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ฉิน เฟิงก็อดขมวดคิ้วขึ้นไม่ได้ แสดงให้เห็นถึงความเกลียดชัง ที่มีต่อม่อจิ่งหลีอย่างชัดเจน เสือถึงจะร้าย ก็ไม่กินลูก ตนเอง มิหน าซ้ าเขายังเป็นเพียงเด็กที่ไม่รู้ประสาอะไรอีก
书呆子
ด้วย หากม่อจิ่งหลีกระท าเช่นนั้นจริงๆ เขาคงไม่ใช่มนุษย์ แล้ว
เยี่ยหลีเลิกคิ้วเล็กน้อย มองไปที่สวีชิงเฉินถามว่า “พี่ใหญ่ พี่คิดว่าม่อจิ่งหลีจะตัดสินใจอย่างไร”
สวีชิงเฉินถอนหายใจ ค่อยๆวางหมากตัวหนึ่งลงบน กระดานพลางพูดว่า “ในต าหนักหลีอ๋องมีคนท้องแล้วใช่ หรือไม่”
ฉินเฟิงชะงัก “คุณชายรู้ได้อย่างไรขอรับ ชายารอง จ้าวในต าหนักหลีอ๋องเพิ่งมีข่าวออกมาว่าตั้งครรภ์ เห็น บอกว่าหนึ่งเดือนครึ่งแล้ว” สวีชิงเฉินไม่กลับไปตอบ ค าถามของเยี่ยหลี พูดเพียงว่า “หากหลีเอ๋อร์อยาก ช่วยม่อซู่อวิ๋น ก็รีบช่วยเถิด”
“พี่ใหญ่หมายถึง” เยี่ยหลีชะงัก แม้นางเองก็รู้ ว่าม่อจิ่งหลีไม่ยอมทิ้งบัลลังก์เพื่อช่วยลูกชายตนเอง แต่ กลับไม่เคยคิดว่าเมื่อม่อจิ่งหลีเมื่อรู้ความจริงแล้วยังจะ
书呆子
ฆ่าม่อซู่อวิ๋นอยู่อีก ถึงอย่างไร แม้จะยุ่งยากอยู่สักหน่อย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีทางแก้ไขมิใช่หรือ สวีชิงเฉินพูดเสียง เรียบ “หากมีม่อจิ่งหลีเพียงคนเดียว เขาอาจจะไม่ฆ่าม่อ ซู่อวิ๋น แต่ข้าเกรงว่า…มีใครอีกคนที่อยากฆ่าม่อซู่อวิ๋น จริงๆ ความบังเอิญกับข่าวเรื่องทายาทนี้ ส าหรับม่อ ซู่อวิ๋นแล้วไม่ใช่เรื่องดีอันใดเลย”
เยี่ยหลีถอนหายใจพูดว่า “เอาเถิด คืนนี้ข้าจะไป ต าหนักหลีอ๋องเอง”
ฉินเฟิงค่อนข้างกังวล พูดว่า “พระชายา หากมี อะไรสั่งข้าน้อยไปท าก็ได้นะพ่ะย่ะค่ะ เหตุใดต้องไปเสี่ยง ด้วยตนเองด้วย”
เยี่ยหลีส่ายศีรษะพูดว่า “เยี่ยอิ๋งไม่เชื่อพวกเจ้า หรอก ข้าไปเองดีกว่า”
ในคืนที่เงียบสงบ เยี่ยอิ๋งยังคงไม่เข้านอน นางเดิน ไปเดินมาในห้องอย่างกระวนกระวายใจราวกับสัตว์ที่ถูก
ขัง จวบจนตอนนี้นางเพิ่งรู้ว่าการไร้ความช่วยเหลือจาก องครักษ์ลับของต าหนักติ้งอ๋องนั้น ท าให้นางกลายเป็น คนไร้ความสามารถเพียงใด เพียงค าสั่งเดียวของม่อจิ่งหลี นางถึงกับมิสามารถเคลื่อนย้ายผู้ใดในต าหนักได้ ยิ่งมิต้อง พูดถึงข่าสารที่ต้องการส่งออกไปเลย
แม้นางไม่ใช่คนฉลาดนัก แต่ที่ผ่านมานี้นางก็เข้าใจ หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น อนุของม่อจิ่งหลีตั้งครรภ์แล้ว ลูกของนางยิ่งไม่มีทางรอด ทว่าตอนนี้ แม้แต่จัดการจ้าว ซื่อคนนั้นนางก็ยังไม่อาจท าได้ ไม่ ตอนนี้นางไม่อยากฆ่า ใครทั้งนั้น นางหวังเพียงว่าลูกของตนจะมีชีวิตอยู่ต่อไป อย่างปลอดภัย