Legend of the mythological genes - ตอนที่ 147
สถานะพลังของเขาสูงแค่ไหนกัน?
การสะกดข่มจากความแตกต่างในสถานะพลังจะกลายเป็นแรงกดดันทางร่างกายที่เจาะลงในใจฝ่ายที่อ่อนแอกว่าความกดดันที่พวกเขารู้สึกเหมือนภูเขาที่กดลงบนตัวทำให้ไม่สามารถยืนได้
ในจุดที่เฟิงหลินยืนอยู่คลื่นพลังงานจำนวนมากปั่นป่วนอย่างดุเดือด
แม้แต่กลุ่มคนที่ดูจากระยะไกลก็รู้สึกกดดันในใจอย่างมาก พวกเขาตกใจมากจนไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
“เข้ามาพร้อมกันนั่นแหละ ไม่งั้นพวกแกจะไม่มีโอกาส” เฟิงหลินเตือนอีกครั้ง
ไม่ว่าคนเหล่านี้จะไม่มั่นใจ แต่ในเวลานี้พวกเขาไม่สามารถโต้แย้งได้ การสะกดข่มที่ทรงพลังเนื่องจากความแตกต่างของพลังชีวิตทำให้พวกเขาพูดไม่ออก
ตอนนี้พวกเขารู้ว่าเฟิงหลินไม่ได้พูดเล่น เขาพร้อมและมีพลังเพียงพอตามคำพูดของเขา เขาต้องการเอาชนะทุกคนพร้อมๆกัน
สถานะพลังที่ทรงพลังเช่นนี้ … เขาควรจะอยู่ใกล้กับผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้ว!
แม้ว่าเฟิงหลินจะยังไม่เคยต่อสู้กับใครในสิบคนนี้ แต่ความแตกต่างก็สูงมาก
พวกเขาคิดว่าเฟิงหลินแค่หยิ่ง แต่เมื่อเขาปล่อยพลังงานชีวิตของเขาออกมา มันน่ากลัวจริงๆ ทำให้พวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลเช่นนี้
ตอนนี้ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ทุกคนดูเป็นกังวลใจ ไม่มีใครกล้าที่จะเริ่มการเคลื่อนไหว
แม้หลังจากรอไปซักพักก็ไม่มีใครขยับ ความอดทนของเฟิงหลินพลันหมดลง เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า “ถ้าพวกแกไม่ทำอะไร ฉันจะทำให้พวกแกขยับเอง”
เฟิงหลินกระทืบพื้นกระโดดขึ้นไปในอากาศ เท้าของเขาขยับเป็นท่าเท้าแปดเหลี่ยม และร่างกายของเขาเหมือนมังกรเคลื่อน มือทั้งสองของเขาก่อตัวเป็นกรงเล็บพุ่งเข้าหาคนที่อยู่ใกล้ที่สุด
ฝ่ามือแปดเหลี่ยม กรงเล็บเย้ยมังกรฟ้า!
เขาเป็นเหมือนมังกรฟ้าพุ่งทะยานขึ้นไปในอากาศ มือของเขาเป็นเหมือนกรงเล็บมังกร พลังกรงเล็บแหลมคมล็อคเป้าหมายจากทุกทิศทุกทางทำให้เป้าหมายของเขาไม่มีทางหนีรอดได้
“ อะไรกัน?” นี่คือชายหนุ่มที่มีหน้าหม่นหมอง ตอนนี้สีหน้าของเขามืดมนและโกรธ เขาไม่ได้คาดหวังเฟิงหลินจะเลือกเขาเป็นคนแรก
เหมือนส้มแมนดาริน คนเราจะบีบลูกที่อ่อนที่สุดก่อนเสมอ!
เด็กเหลือขอนี่คิดว่าฉันอ่อนแอที่สุดจากผู้เข้าร่วมทั้งหมดนี่หรอ?
“ แกคิดว่าแกจะชนะฉันอย่างงั้นหรอ?” ชายหน้าเศร้าหมองโกรธมากจนต้องหัวเราะออกมา จากนั้นเขาก็คำรามและกางมือออกเหมือนมังกรเปิดกระเพาะ
มังกรกลืนน้ำแข็ง!
ผลึกสีดำปรากฏขึ้นรอบๆและขยายใหญ่ขึ้นราวกับว่ามันยังมีชีวิต
อุณหภูมิในสภาพแวดล้อมลดลงอย่างรวดเร็ว เหมือนพื้นที่ทั้งหมดถูกเปลี่ยนเป็นนรกเยือกแข็ง
มังกรที่ออกมาจากผลึกน้ำแข็งสีดำปรากฎตรงหน้าชายหนุ่มหน้าหม่นหมองนี่
“โฮกกก!”
ทันใดนั้นมังกรน้ำแข็งก็เปิดกระเพาะของมันทำให้เกิดลมหนาวขึ้น มันส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ
พลังเสียงคำรามเดียวน่ากลัวมาก
อย่างไรก็ตามตาของเฟิงหลินยังคงสงบนิ่งและเย็นยะเยือกเหมือนตอนแรก เขาไม่หวั่นไหวและยังคงโจมตีต่อไป เฟิงหลินพูดได้แค่ว่าชายหน้ามืดนี่คิดมากเกินไป
มีเหตุผลเพียงข้อเดียวที่ทำให้เฟิงหลินเลือกเขา เพราะเขาเป็นคนที่อยู่ใกล้ที่สุด!
อย่างไรก็ตามเฟิงหลินไม่มีอารมณ์ที่จะอธิบาย เขาไม่สนใจไม่ว่าในกรณีใดเขาจะจัดการผู้เข้าร่วมทุกคนอยู่แล้ว ไม่มีความแตกต่างไม่ว่าใครจะเป็นคนแรก
มังกรน้ำแข็งเผยให้เห็นฟันที่คมกริบ มันหายใจออกมาเป็นกรวยน้ำแข็งห่อเฟิงหลินไว้
เฟิงหลินไม่หลบเลี่ยงผลึกน้ำแข็งก่อตัวขึ้นบนร่างกายของเขา
จากนั้นมังกรก็กัดอย่างไร้ความปราณี กลืนเฟิงหลินแช่แข็งเข้าไปในท้องของมัน
มนุษย์ที่ยังมีชีวิตถูกกลืนกินอย่างนั้น
เสียงอุทานตกใจดังทั่วทุกที่
“เฟิงหลิน!” ผู้ปกครองของเฟิงหลินยืนขึ้นด้วยความกระวนกระวายใจ มีความกังวลบนใบหน้าของพวกเขาเต็มไปหมด
“พี่ชาย!” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเฟิงเฉิงและเฟิงซิน
ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆต่างก็หัวเราะเยาะ เมื่อเห็นฉากนี้
ในฐานะอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงมานานในตระกูล พวกเขาจึงคุ้นเคยกัน
เฟิงซวนปลุกยีนน้ำแข็งดำซึ่งเป็นยีนแรกเริ่มขั้นสูงที่วิวัฒนาการมาจากยีนน้ำแข็งทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมน้ำแข็งดำได้และอุณหภูมิของน้ำแข็งนี้ก็ต่ำกว่าลบร้อยองศา ทำให้เป้าหมายของพวกเขาถูกกำจัดได้อย่างรวดเร็ว และถูกแช่แข็ง
แต่จริง ๆ แล้วเฟิงหลินไม่ได้หลบ เขาเข้าไปในท้องของมังกรน้ำแข็งและตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่หรือไม่
พวกเขาทั้งหมดส่ายหัวและจ้องเขม็ง ในใจพวกเขาคิดว่าเฟิงหลินเสียชีวิตแล้ว
แม้จะไม่ตาย เขาก็ต้องพิการ!
บูม!
เมื่อพวกเขาคิดว่าเฟิงหลินตายแล้ว เสียงดังก้องขึ้นจากท้องของมังกรน้ำแข็ง ระเบิดออกมาเป็นร่างมนุษย์กระโดดออกมา
หากนี่ไม่ใช่เฟิงหลินแล้วจะเป็นใครได้อีก?
ร่างกายของเขาเหมือนหยกส่องแสง น้ำค้างแข็งปกคลุมร่าง เขาไม่ได้บาดเจ็บเลย
“อะไรกัน?” เฟินซวนไม่คาดหวังว่าเฟิงหลินจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย หอกน้ำแข็งสีดำจำนวนมากก่อตัวขึ้นจากน้ำค้างแข็งและเจาะเข้าหาเฟิงหลิน
แรงของกรงเล็บเฟิงหลินนั้นแหลมคมเหมือนเช่นเคย ใช้เพียงแค่มือเดียวหอกน้ำแข็งก็แตกเป็นเสี่ยงๆ ขณะที่มืออีกข้างของเขาจับแขนของเฟิงซวนไว้
การแสดงออกของเฟิงซวนเปลี่ยนไปอย่างมากและต้องการที่จะล่าถอย
แต่เนื่องจากเขาถูกเฟิงหลินจับ เขาจะถอยหนีได้ยังไง?
นิ้วของเฟิงหลินออกแรงบังคับเหมือนห่วงเหล็กรัดคู่ต่อสู้ไว้ ไม่ว่าเฟิงซวนจะดิ้นรนยังไงเขาก็ไม่สามารถขยับได้
ร่างกายทั้งหมดของเฟิงซวนถูกรัดไว้และเขาไม่สามารถออกแรงได้เลย
เฟิงหลินยกเฟิงซวนขึ้นด้วยมือเดียว ราวกับว่าเขากำลังแกล้งเด็กที่อ่อนแอกว่า เขาค่อยๆเดินไปที่ขอบลานประลองและเหวี่ยงเฟิงซวนลงไปเบาๆ
คู่ต่อสู้คนหนึ่งถูกกำจัด! ทุกอย่างดูง่ายมาก!
แทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามเลย เฟิงหลินปล่อยกลิ่นอายความเป็นอมตะทำให้ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆรู้สึกระแวดระวังอย่างมาก
นอกจากเฟิงหลี่ เฟิงจินเผิงและอีกไม่กี่คนที่มีความมั่นใจในตัวเองอย่างมาก ผู้เข้าร่วมคนอื่นๆต่างตัดสินใจที่จะร่วมกลุ่มกัน พวกเขาต้องการรวมพลังเพื่อกำจัดเฟิงหลิน ภัยอันตรายครั้งใหญ่นี้พวกเขาไม่ได้เป็นคนเลือก ทำได้เพียงต่อสู้ให้ชนะ หรือไม่ก็ถูกกำจัดตกจากลานประลอง
เฟิงหลินไม่กลัวหรือกังวล หลังจากเขาแสดงความแข็งแกร่ง เขาก็ค่อย ๆ เดินไปหาผู้เข้าร่วมคนอื่น
ในแต่ละก้าวที่เขาก้าวไปข้างหน้าคนเหล่านั้นก็ถอยหลัง ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวล ดูการเคลื่อนไหวของเฟิงหลินอย่างใกล้ชิด
เฟิงหลินพร้อมที่จะต่อสู้กับทุกคนและดูเหมือนว่าเขาจะมีอำนาจในการสะกดข่มคนรอบข้าง ไม่มีใครในตระกูลที่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้
“ให้ฉันลอง” เสียงเยือกเย็นดังขึ้น ในที่สุดก็มีคนก้าวมาข้างหน้า
นี่คือชายหนุ่มร่างผอมแห้งใบหน้าของเขาดูเคร่งขรึม เขาก็ยืนตัวตรงเขามีลักษณะคล้ายดาบกระบี่ที่คมกริบเปล่งประกายคมชัด
นี่ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากอัจฉริยะระดับสูงที่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชนที่สามารถยืนหยัดเคียงข้างเฟิงจินเผิงได้ ชื่อของเขาคือเฟิงหลี่
เฟิงหลี่ค่อนข้างคล้ายกับเฟิงหลิน เนื่องจากทั้งคู่เป็นสมาชิกระดับต่ำ เพียงแค่เขาเพิ่มชื่อเสียงได้เร็วกว่าเฟิงหลิน
แม้ว่าเฟิงหลินจะช้าไปนิดหน่อย แต่เขาก็ให้ความรู้สึกว่าการที่เขาผงาดขึ้นมานั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถจัดการได้
เฟิงหลี่จ้องเฟิงหลินอย่างแน่วแน่ ร่างกายของเขาเปล่งประกายมุ่งมั่นชัดเจน เขาเป็นเหมือนดาบวิเศษที่ถูกซ่อนอยู่เป็นเวลานานและพร้อมที่จะถูกเปิดเผย
“ฉันจะใช้กระบวนท่า หากนายป้องกันได้ ฉันจะยอมแพ้ทันที!”เฟิงหลี่พูดเสียงเย็น
ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงต่างตกใจมาก
การกระทำแบบนี้ เฟิงหลี่ได้วางตัวเองอยู่ในตำแหน่งที่ด้อยกว่าเฟิงหลิน เขาต่อสู้กับเฟิงหลินจากมุมมองของผู้ท้าชิง
“ลองดู” เฟิงหลินไม่พูดมาก เขายื่นมือทำท่าทางและรอให้เฟิงหลี่ลงมือ
เขาต้องการที่จะรู้ว่าอัจฉริยะระดับสูงสุดของตระกูลนี้สามารถกดดันเขาได้มากแค่ไหน
กลุ่มตระกูลยังเล็กเกินไป เล็กเกินไป
หลังจากประสบกับการต่อสู้ระหว่างชีวิตและความตายบนดาวอังคาร ขอบเขตของเฟิงหลินกว้างขึ้นมาก
ในการเดินทางของเขา การจัดอันดับครั้งนี้ไม่มีคู่ต่อสู้แม้แต่คนเดียวนับเป็นการท้าทาย ทุกอย่างน่าเบื่อเกินไปสำหรับเขา
เฟิงหลี่ยังไม่ใช่คนที่ชอบพูดมาก เปลือกตาของเขาหรี่ลงเล็กน้อยและมีแสงสว่างวาบขึ้น
ดาบวิเศษของเขาบินออกมาจากฝัก เป่าอากาศให้คมชัดขณะที่มันพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า มันก่อให้เกิดกระแสพลังงานวนในอากาศที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
คลื่นปราณดาบนั้นก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและห่อหุ้มเฟิงหลินไว้ภายใน จากระยะไกลดูเหมือนว่ากระบี่กำลังฟาดฟันลงมา
แม้ว่าฝูงชนจะมองจากที่ไกล แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาสั่นเทาราวกับว่าภัยพิบัติกำลังจะมาถึงพวกเขาเอง
ยีนดาวไถสวรรค์!
กระบี่สวรรค์ลงทัณฑ์!