Legend of the mythological genes - ตอนที่ 155
ฝูซีบุตรแห่งซุยเร็นมีร่างกายท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นงู เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมายในสวรรค์และโลก และเป็นบรรพชนของแปดเหลี่ยม เขาอาจถือได้ว่าเป็นบรรพชนของมนุษย์ และเป็นราชาแห่งสรวงสวรรค์ …
ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับตำนานของฝูซีพุ่งผ่านหัวของเฟิงหลิน
เฟิงเส้าโย่วแปลงร่างเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติครึ่งงูครึ่งมนุษย์ ครึ่งล่างเป็นงูตัวใหญ่ หางของเขานั้นทรงพลังมาก สามารถสร้างกระแสลมรุนแรงเมื่อมันสะบัดไปมาความยาวกว่าสิบเมตร
เฟิงเส้าโย่วขยายใหญ่ขึ้นใหญ่ขึ้นจนหัวเกือบแตะเพดาน การเปลี่ยนแปลงฉับพลันของเฟิงเส้าโย่วทำให้เฟิงหลินตกใจมาก
ตามที่คาดจากผู้บ่มเพาะระดับสูงร่างกายของเขาได้ผ่าน ‘วิวัฒนาการพลัง’ และธรรมชาติของชีวิตเปลี่ยนไปกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งมีลักษณะที่ไม่เหมือนมนุษย์ม
“นายต้องการอะไร?”เฟิงหลินไม่ได้กลัว เขาถามอย่างเยือกเย็น
“ไม่มีอะไรมาก ดูเหมือนว่านายยังไม่รู้พลังที่แท้จริงของลูกหลานจากสามราชันย์จึงทำให้นายเลือกสิ่งที่โง่เขลา ดังนั้นฉันต้องการให้นายเห็นความแตกต่างระหว่างจุดแข็งของเรา ในเวลานั้นฉันเชื่อว่านายจะเลือกสิ่งที่ถูกต้อง “รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏบนใบหน้าของเฟิงเส้าโย่ว ตาดำของเขาเป็นรอยแตกเหมือนงูตัวใหญ่สำรวจเหยื่อเตรียมที่จะพุ่งไปกินเฟิงหลิน
หากไม้อ่อนไม่ได้ผลก็ต้องใช้ไม้แข็ง
ก่อนหน้านี้เขาเสียเวลาพูดคุยกันไปมาก ในท้ายที่สุดมันก็ยังเป็นเรื่องของว่าหมัดใครหนักกว่ากัน!
เฟิงหลินพูดไม่ออก เขาไม่ได้เตรียมที่จะสู้กับชายคนนี้
เขาไม่ใช่คนโง่ เฟิงเส้าโย่วนี่เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงและถือได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ
แม้ว่าเฟิงหลินจะไม่กลัว และแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องตัวเอง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อให้เขาจะชนะก็ตาม
ดังนั้นในกรณีนี้เหตุใดเขาจึงต้องเสียเวลากับกี่ต่อสู้ข้ามขั้นเพื่อต่อสู้กับเฟิงเส้าโย่วด้วย?
การเพาะปลูกเป็นรากฐาน มันสามารถช่วยให้ธรรมชาติของชีวิตหนึ่งเปลี่ยนแปลงและบรรลุได้
หากเขาเพียงแค่อยากจะโชว์ความสามารถ นั่นจะเป็นสัตว์เดียรัจฉานที่ไม่มีสมองและไม่ใช่มนุษย์ที่มีวิวัฒนาการเป็นผู้บ่มเพาะ
สถาณการณ์ชัดเจนมากและเขาไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับเฟิงเส้าโย่วอีกต่อไป
เขาเร่งความเร็วจนเห็นแค่แสงเงา
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาดพียงแค่จะหลบ แต่เฟิงเส้าโย่วก็ไม่พอใจ
“นายจะหนีไปไหน?” เฟิงเส้าโย่วรู้สึกว่าเฟิงหลินกลัวเขา ด้วยการสะบัดของหางงู เขาเลื้อยอย่างรวดเร็วไล่ตามเฟิงหลิน แสงเย็นวูบวาบในดวงตาของเขาปรากฎอักษรรูนสี่ตัวที่ดูแปลกประหลาด
ดิน น้ำ ลม ไฟ …
ดวงตาแห่งธาตุทั้งสี่!
ในทันที มันก็บังเกิดโซนิคบูม
ความระมัดระวังของเฟิงหลินเพิ่มขึ้น เขาหลบอย่างรวดเร็ว
พลังงานของธาตุทั้งสี่นั้นเหมือนกับลูกกระสุนปืนที่พุ่งมาในอากาศ เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหมือนดาวตก
พ่นไอน้ำออกมาเป็นแรงกระแทก ไฟที่ลุกโชติช่วงเผาไหม้สภาพแวดล้อมโดยรอบ อีกด้านพายุรุนแรงโถมมา และหินดินตกลงมาจากท้องฟ้า
เฟิงหลินดึงความรู้สึกกลับ เพียงแค่เห็นรูปแบบพลังงานสี่รูปแบบปรากฏตัวและลอยอยู่ในอากาศ มันช่างเป็นภาพที่น่าตกใจอย่างมาก
ผู้ชายคนนี้สามารถควบคุมพลังงานสี่ประเภทที่แตกต่างกันได้ ช่างยอดเยี่ยม!
ดวงตาของเขาหรี่แคบลง ขณะที่เขาใช้ประสาทสัมผัสเพื่อสำรวจอักษรรูนที่แปลกประหลาดทั้งสี่ในดวงตาของเฟิงเส้าโย่ว
นี่เป็นยีนอะไรกัน?
ยีนธาตุทั้งสี่?
ต้นกำเนิดสูงสุดสร้างเป็นคู่ คู่แสดงออกถึงองค์ประกอบทั้งสี่และก็ให้กำเนิดฝ่ามือแปดเหลี่ยม!
ผิด!
ถ้าเฟิงเส้าโย่วปลุกธาตุทั้งสี่ขึ้นมา ความแข็งแกร่งของเขาจะแข็งแกร่งมากและจะไม่ใช่แค่ระดับหลุดพ้น
ระดับความสามารถทางพันธุกรรมของเขาไม่ตรงกับพลังของธาตุทั้งสี่
ธรรมชาติของมัน มันเป็นไปไม่ได้สำหรับทุกคนในอาณาจักรระดับสูงที่จะปลุกยีนธาตุทั้งสี่ได้
ยีนที่เฟิงเส้าโย่วปลุกขึ้นมาเป็นยีนอีกชนิดหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายกับยีนธาตุทั้งสี่ มันเกรดต่ำกว่ายีนธาตุทั้งสี่
เฟิงหลินค้นพบว่าเมื่อดวงตาของเฟิงเส้าโย่วหมุนไปรอบ ๆ พลังของธาตุทั้งสี่ก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน
เห็นได้ชัดว่าเขาใช้สายตาของเขาในการควบคุมพลังงานทั้งสี่ประเภทนี้
เป็นไปได้ไหมว่านี่คือยีนเนตรสี่ธาตุ?เฟินหลินอดที่จะเดาไม่ได้
ครื่น!
ในตอนนี้เฟิงเส้าโย่วต้องการที่จะครองเฟิงหลินและแสวงหาการยอมจำนนจากเฟิงหลิน เขาไม่ต้องการที่จะเสียหน้า
การหมุนของธาตุทั้งสี่!
ตาดำของเขายังคงหมุนรอบ คล้ายกับเกียร์เครื่องจักร
การลอยของธาตุทั้งสี่เริ่มหมุน พวกมันถูกบีบอัดเข้าด้วยกันด้วยอานุภาพอันทรงพลังและหลอมรวมกลายเป็นลูกบอลพลังงานสีดำ
เฟิงหลินหรี่ตาลงและถอยหลังอย่างรวดเร็ว
เขาเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาก่อนในการแข่งขันจัดอันดับในตระกูลเฟิงก่อนหน้านี้ เมื่อพลังงานหลากหลายชนิดหลอมรวมเข้าด้วยกัน พวกมันจะเปลี่ยนเป็นรูปทรงกลม ทรงกลมที่เต็มไปด้วยพลัง
ลูกบอลพลังงานสีดำในการแข่งขันจัดอันดับมีขนาดใหญ่เท่าลูกฟุตบอล แต่ตอนนี้ลูกบอลที่เกิดจากเฟิงเส้าโย่วมีขนาดเท่ากำปั้น แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ดี จริงๆแล้วในความเป็นจริง เฟิงหลินรู้สึกถึงแรงกดดันอย่างไม่น่าเชื่อ
ลูกบอลพลังงานสีดำขนาดเล็กนี้เปล่งกลิ่นอายอันตรายรุนแรง ลมและไฟหมุนอยู่ข้างใน
เมื่อเฟิงเส้าโย่วหลอมรวมดิน น้ำ ลม ไฟเข้าด้วยกันการฟิวชั่นทำให้เกิดประกายไฟฟ้าสีม่วงระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ก่อตัวและสลายไปในพริบตา ประกายไฟสีม่วงเหล่านี้ยังทำให้เฟิงหลินรู้สึกอันตรายอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะปลุกให้ยีนลิงหินขึ้นมา ทนน้ำทนไฟมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตี แต่ก็ยังมีข้อจำกัด
ประกายไฟฟ้าเหล่านี้ที่เกิดจากลูกบอลพลังงานสีดำเห็นได้ชัดว่ามีพลังมากพอที่จะทำลายภูมิคุ้มกันของเฟิงหลินได้ นี่คือสาเหตุที่เขารู้สึกว่ามันเป็นอันตรายต่อเขา
ท้ายที่สุดนี้ เฟิงเส้าโย่วพึ่งพาตนเองในการบ่มเพาะจนได้เป็นผู้บ่มเพาะระดับสูง เขาสามารถควบคุมความสามารถของเขาได้อย่างสมบูรณ์ เขาไม่เหมือนไททันที่ไม่รู้วิธีการควบคุมพลังอย่างเต็มที่
ในฐานะผู้บ่มเพาะระดับสูง สถานะพลังของเฟิงเส้าโย่วนั้นเหนือกว่าคู่แข่งที่เฟิงหลินเคยเจอในการแข่งขันจัดอันดับ การควบคุมความแข็งแกร่งและความสามารถของเขานั้นสมบูรณ์แบบไม่ต้องสงสัยเลย
ความคิดทั้งหมดเหล่านี้พุ่งในจิตใจของเฟิงหลิน เฟิงหลินยังคงหลบเลี่ยงอย่างรวดเน็ว
ทันใดนั้นลูกบอลพลังงานสีดำก็ระเบิดและกลายเป็นพายุพลังงานและระเหยกลายเป็นไอน้ำรูปเห็ดที่น่ากลัวกลืนเฟิงหลินเข้าไปทันที
ลมเพิ่มความรุนแรง ไฟเพิ่มความแข็งแกร่งของหิน ขณะที่ไอน้ำลอยขึ้นไปในอากาศ
ในช่วงเวลานี้เฟิงหลินรู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งโดนระเบิดปรมาณูอย่างเต็มแรง การรับรู้ทั้งหมดของเขาเหมือนกำลังจะระเหยกลายเป็นไอ
แม้เขาจะมียีนลิงหิน แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าไม่สามารถทนความได้ ร่างกายเขาทรุดราวกับมีคนใช้เข็มนับล้านแทงเขา
ท้ายที่สุดยีนลิงหินเป็นเพียงยีนแรกเริ่มขั้นผันแปร มันอาจอยู่ยงคงกระพันเมื่อเทียบกับยีนในขั้นเดียวกัน แต่ถ้าข้ามขั้นและต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่านั้นแน่นอนว่ามันเป็นไปได้ยากมาก
สำหรับทุกๆอาณาจักรการบ่มเพาะ ความแตกต่างในพลังชีวิตและความแข็งแกร่งนั้นยิ่งใหญ่มาก คล้ายกับระยะห่างระหว่างสวรรค์และโลก มันไม่ง่ายเลยที่จะข้ามระดับ
เฟิงหลินไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาเรียกพลังทั้งหมดของเขาและระเบิดค้อนพลิกฟ้า!
หมัดของเขาระเบิดออกมาด้วยพลังอันยิ่งใหญ่เขย่าฟ้าดิน
ภายในพายุพลังงานเฟิงหลินพยายามเจาะรูทะลุมัน
เขาไม่ลังเลและรีบเร่งแทงทะลุมัน
เสียงแหลมดังขึ้น
ด้านนอกพายุพลังงาน เงาดำหนาพุ่งออกมาอย่างเร็วดัวยพลังอันยอดเยี่ยม
เฟิงหลินหลบไม่ทัน เขาถูกเหวี่ยงด้วยหางงูอย่างไร้ปราณี
จากนั้นเขาก็ชนกับกำแพงโลหะผสมอย่างแรง หลังจากนั้นเขาก็ทรุดลงไปที่พื้น แต่เขาย่อตัวลงทันทีและยืนขึ้นรู้สึกปวดเมื่อยที่หน้าอก
นี่คือยีนอะไร?
ยีนนาคา?
ยีนลาเมีย?
…
เฟิงหลินจ้องเฟิงเส้าโย่ ท่อนบนเป็นมนุษย์และท่อนล่างเป็นงู …
ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็กระตุก เมื่อสรุปลักษณะเฉพาะตามตำนานของฝูซีผ่านการต่อสู้กับเฟิงเส้าโย่ว จากนั้นเขาอาจจะสามารถอนุมานเส้นทางพันธุกรรมที่สมบูรณ์ของตำนานของฝูซีได้