Legend of the mythological genes - ตอนที่ 192

น้ำศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติ!

นี่เป็นสูตรยาตัวแรกที่ปัญญาประดิษฐ์แนะนำ .. ดังนั้นเฟิงหลินจึงเลิกสนใจสูตรยาอื่น

ด้วยข้อมูลจำนวนมาก ปัญญาประดิษฐ์สามารถวิเคราะห์ความเป็นไปได้มากมายได้ในทันที ผลลัพธ์ของการค้นหานั้นน่าจะเหมาะสมที่สุดสำหรับความต้องการของเขา

เนื่องจากสูตรยานี้ปรากฏเป็นสูตรแรก จึงเป็นเหตุผลเพียงพอที่เฟิงหลินจะเลือกใช้

เฟิงหลินไม่คิดว่าสติปัญญาของเขาจะเหนือกว่าปัญญาประดิษฐ์ ดังนั้นการเชื่อในพลังของวิทยาศาสตร์จึงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด

เมื่อคลิกเปิดสูตร เขาค้นพบว่านี่เป็นยาทางพันธุกรรมที่มีเอกลักษณ์มาก มันเป็นผลิตภัณฑ์ระดับต่ำเกรดไร้ที่ติ

น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้ไม่ได้มีผลกระทบทางยามากนัก แต่มันเป็นตัวแทนการผสมผสานสากลที่จะดึงเอาคุณสมบัติพิเศษทั้งหมดของอวัยวะเหนือธรรมชาติใส่ลงไปในน้ำศักดิ์สิทธิ์

นี่เป็นความสามารถที่ยอดเยี่ยม เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากกับอวัยวะเหนือธรรมชาติและอัตราความล้มเหลวของการปรุงยาทางพันธุกรรมก็น้อยมาก โดยปกติแล้วการผสมยาทางพันธุกรรมจะให้ผลทางยาเพียง 10% ของส่วนผสมต่างๆที่ใช้ปรุง ดังนั้นมันจะเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรที่มีค่าอย่างมาก ถ้าเขาไม่มีสูตรสำหรับน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้

ผงผลึกน้ำแข็ง 36 กรัม ดอกบัวหิมะ 11 กรัม  สารละลาย92มล. … มีส่วนผสมที่หลากหลาย

ตั้งแต่ปัญญาประดิษฐ์ นำเสนอสิ่งนี้ให้กับเขา นั่นหมายความว่าส่วนผสมทั้งหมดมีในคลัง

เก็บของยานบิน ในไม่ช้าหุ่นยนต์ก็นำส่วนผสมที่จำเป็นทั้งหมดออกมาให้เฟิงหลินดู

อย่างไรก็ตามเขาไม่รีบร้อนที่จะเริ่มปรุงยา เขาศึกษาจากภาพฉายโฮโลแกรมอย่างจริงจัง

ในการฉายภาพ เขาเห็นนักวิจัยหลายคนในห้องแล็บสีขาววุ่นวายอยู่กับการปรุงยา

นี่คือบันทึกการผสมน้ำศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติโดยพนักงานของบริษัทยาไจแอนท์ แต่ละขั้นตอนมีความแม่นยำและมีรายละเอียด ภาพดูได้ 360 °และไม่มีมุมอับ ทุกอย่างสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

หลังจากดูครั้งหนึ่งเฟิงหลินก็หลับตาลงอย่างช้าๆ และคิดย้อนกลับไปถึงขั้นตอนที่เขาได้เห็น แต่ละขั้นตอนจำเป็นต้องให้ความสนใจกับรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่โชคดีที่พลังวิญญาณของเขาพัฒนาขึ้นความสามารถในการจดจำสิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็วก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เขาจำกระบวนการทั้งหมดได้อย่างชัดเจน

หลังจากตรวจสอบแน่ใจว่าสิ่งที่เขาจำได้นั้นถูกต้องแล้ว เขาลืมตาและมือเริ่มขยับไปทีละขั้นตอน มือของเขาขยับไหลลื่นกับว่าเขาเคยปรุงมันมาแล้วเป็นพันครั้ง

ต่อไปเขาจัดส่วนประกอบยาต่างๆ อย่างเป็นระบบและค่อยๆรวมมันเข้าด้วยกัน ไม่กี่นาทีต่อมากลิ่นหอมสดชื่นก็แทรกซึมอยู่ในอากาศ

เห็นได้ชัดว่าถึงแม้ว่าน้ำศักดิ์สิทธิ์จะเสร็จสมบูรณ์เพียง 50% แต่ก็มีผลข้างเคียงของยาบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว

มือของเฟิงหลินไม่หยุดเคลื่อนไหว เขายังคงเพิ่มส่วนประกอบของยาที่ละขั้นตอนตามที่เขาเห็นในการฉายภาพโฮโลแกรมก่อนหน้านี้

ในที่สุดไฟก็ติด และสิ่งเจือปนในน้ำยาจะระเหยไป ในไม่ช้าปริมาณยาก็เหลือประมาณ 50 มิลลิลิตร มันใสเหมือนน้ำและมีกลิ่นหอมมาก คุณสมบัติทางยาของส่วนประกอบทางยาที่แตกต่างรวมกันอย่างสมบูรณ์

เหลือเพียงขั้นตอนสุดท้ายของการบังคับใช้ทางจิตวิญญาณ

เฟิงหลินมีสมาธิเต็มที่ เขาเพิ่มอนุภาควิญญาณและส่วนผสมสุดท้าย : ผงแสงดาว

อย่างไรก็ตามเขาล้มเหลวจริงๆ ในขั้นตอนสุดท้ายนี้ เนื่องจากเขาไม่มีประสบการณ์จริง เขาจึงเติมมากเกินไป 0.5 กรัม ปฏิกิริยาที่รุนแรงเกิดขึ้นและยาในมือของเขาก็ระเบิด

เฟิงหลินหลบไปด้านข้างอย่างว่องไว เขาส่ายหัวและทำความสะอาดสิ่งสกปรกก่อนเริ่มกระบวนการปรุงอีกครั้ง หลังจากประสบการณ์จากความล้มเหลวนี้เขาก็ยิ่งระมัดระวังมากขึ้น

พลังวิญญาณของเขาทะลักออกมาตรวจจับการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในส่วนประกอบของยา เขารับรองว่าแต่ละขั้นตอนการผสมนั้นสมบูรณ์แบบ

ตอนนี้เฟิงหลินอยู่ในสภาพที่น่าอัศจรรย์ ทุกการเปลี่ยนแปลงและปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นในยานั้นเขาสัมผัสได้อย่างสมบูรณ์ ไม่มีอะไรพลาด

ยิ่งเขาอยู่ในสถานะนี้นานเท่าไรเขายิ่งรู้สึกถึงความเหนือกว่าในการใช้พลังวิญญาณในการตรวจสอบการผสม ไม่แปลกใจเลยที่การเล่นแร่แปรธาตุในสมัยโบราณจะต้องใช้พลังงานจิตและพลังงานจิตวิญญาณ นักเล่นแร่แปรธาตุไม่เพียงแต่ต้องควบคุมไฟเท่านั้น แต่พวกเขายังต้องรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงมากมายที่จะเกิดขึ้นกับองค์ประกอบของยา ก่อนที่พวกเขาจะผสมจนประสบความสำเร็จ

น่าเศร้าที่การเล่นแร่แปรธาตุต้องการสิ่งเหล่านี้รวมถึงความสามารถในการควบคุมไฟ จนถึงตอนนี้เฟิงหลินยังไม่ได้เรียนรู้วิธีควบคุมอุณหภูมิของไฟด้วยพลังวิญญาณของเขาเลย เพราะถ้าการควบคุมของเขาไม่สมบูรณ์ความพยายามที่จะปรุงยาจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอน

เขาสามารถเดินตามเส้นทางนี้ได้ทีละขั้นตอนเท่านั้น ไม่ว่าในกรณีใด เขาตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่การปรุงยาและทิ้งการเล่นแร่แปรธาตุไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคต

หลังจากประสบการณ์ที่ผ่านมา เฟิงหลินไม่ได้ทำผิดพลาดอีกเลย เขาเติมผงแสงดาวในปริมาณที่ถูกต้องและตอนนี้สารละลายที่ชัดเจนจากอำพันก่อนหน้ากลายเป็นสีเหลืองเปล่งประกาย

อย่างไรก็ตามสิ่งต่างๆยังไม่จบสิ้น เขาไม่สนใจกับความอ่อนเพลียและดำเนินต่อไปจนกระทั่งน้ำบริสุทธิ์เหนือธรรมชาติ 1,000 มิลลิลิตรถูกกลั่นออกมา

เฟิงหลินเอาไข่มุกดีงูสีม่วงขนาดเท่ากำปั้นค่อยๆวางลงในน้ำศักดิ์สิทธิ์

น้ำศักดิ์สิทธิ์ตอบสนองทันที มันเป็นเหมือนสารละลายที่จะละลายทุกอย่าง ไข่มุกเปลี่ยนคุณสมบัติเป็นของเหลว

สารสีม่วงยังคงไหลลงไปในน้ำศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับเมฆและหมอก ในที่สุดขวดสารละลายนั้นก็มีสีแดงอมม่วงจาง ๆ และพลังงานที่รุนแรงก็แผ่ออกมา สามารถมองเห็นจุดจางๆของแสงดาวในตัวมันได้ มันลึกลับมาก

เฟิงหลินไม่หยุดเขาได้สร้างเทคนิคการตกผลึกยาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของยาพันธุกรรมที่แตกต่างกันให้กลายเป็นยาเม็ด โครงสร้างผลึกของเม็ดยาจะทำให้มั่นใจได้ว่าสิ่งสำคัญของยาจะไม่ลดลงและผลของยาจะอยู่ในระดับสูงสุดเสมอ นอกจากนี้มันสะดวกกว่าในการจัดเก็บและพกพา

เนื่องจากเขาได้สร้างเทคนิคนี้ขึ้นมา หากเขาไม่ใช้มันจะไปมีประโยชน์อะไร?

ตอนนี้มีน้ำศักดิ์สิทธิ์ 1,000 มิลลิลิตร เขาเอาใส่ขวดแล้วเท 50 มล. ออกมาและเริ่มใช้เทคนิคการตกผลึก

เฟิงหลินวางน้ำยาลงในภาชนะเพื่อทำให้มันอุ่น หลังจากนั้นเขาก็ใช้เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุที่เขามีเพื่อให้แน่ใจว่าโมเลกุลเข้ากันอย่างแน่นหนา กลายเป็นโครงสร้างผลึกที่จะขังฤทธิ์ยาไว้ภายใน

ภายใต้การควบคุมของพลังวิญญาณ   น้ำยาเปลี่ยนรูปให้อยู่ในสถานะของแข็งที่มีโครงสร้างผลึกสวยงามอยู่ในรูปของรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน

เกร๊ง

เฟิงหลินมีประสบการณ์ไม่มากพอ เขาไม่เข้าใจลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติและทำให้อุณหภูมิสูงมากเกินไป โครงสร้างผลึกไหม้และแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทำให้ทุกอย่างไร้ประโยชน์

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หมดกำลังใจ การปรุงยานั้น แต่เดิมนั้นเป็นงานที่ต้องใช้ความแม่นยำอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งไม่สามารถผิดพลาดได้แม้เพียงนิดเดียว

ความล้มเหลวเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยมาก เขาเริ่มต้นกระบวนการทั้งหมดใหม่อีกครั้งและหลังจากล้มเหลวอีกห้าถึงหกครั้ง ในที่สุดเขาก็สามารถปรุงน้ำศักดิ์สิทธิ์ตกผลึกได้

วัตถุในมือของเขาเป็นผลึกรูปดาวห้าแฉกสีม่วง ภายในมีแสงแวบวับสวยงามดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย

เฟิงหลินมั่นใจในเทคนิคของตัวเอง เขากลืนมันลงในคราเดียว

ทันทีที่ผลึกเข้าสู่ท้อง ผลทางยาก็พุ่งออกมาทันที เฟิงหลินรู้สึกราวกับว่ามีระเบิดปรมาณูเข้าไปข้างในขณะที่ความอบอุ่นได้แผ่ไปทั่วร่างกายของเขา