Legend of the mythological genes - ตอนที่ 200

เส้นทางในตำนานของเทพีอามาเทราซุ?

นี่คือเทพีสูงสุดในเทพนิยายญี่ปุ่นหรือที่รู้จักกันในนามเทพธิดาแห่งดวงอาทิตย์ …

เนื่องจากผู้หญิงชาวญี่ปุ่นคนนั้นกำลังเดินบนเส้นทางนี้ มันจึงไม่ยากที่จะจินตนาการว่าความสามารถที่เธอมีคืออะไร

เมื่อมองไปที่นินจาผู้น่าสงสาร หัวใจของเฟิงหลินก็สับสน เขาตรวจสอบสิ่งของๆนินจาและนำไปเป็นของเขาเอง

มีที่ทาสีซึ่งสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้อย่างสมบูรณ์ ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมและในเวลาต่อมาหน้าตาของเขาก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง

ตอนนี้เฟิงหลินใช้รูปร่างหน้าตาของนินจา

มันเหมือนกับว่าเขาได้เห็น ‘โชคไม่ดี’ บนใบหน้าของคนญี่ปุ่นคนอื่นๆ เขาหัวเราะเสียงดัง หลังจากนั้นเขาก็ลดเสียงลงและพยายามเลียนแบบคำพูดของนินจาก่อนหน้านี้ เฟิงหลินพยักหน้า

ดินแดนแห่งจินตนาการที่สะท้อนให้เห็นถึงเมืองอิซูโมะแห่งยุคโบราณ และบนแผนที่ที่เขาค้นพบในสิ่งของๆนินจามันบ่งบอกค่ายของปีศาจต่างๆอย่างชัดเจน มีเครื่องหมายสามอันบนแผนที่ซึ่งมีความชัดเจนมากและเครื่องหมายทั้งสามนี้ได้กล่าวถึงปีศาจที่ยิ่งใหญ่ในตำนานทั้งสามอย่างอย่างไม่ต้องสงสัย – ชูเท็น โดจิ , คิวบิ โนะ คิตสึเนะ และ ไดเทนงุ

ชูเท็น โดจิเป็นปีศาจร้ายที่ล่อลวงผู้หญิง มันชอบดื่มเลือดมนุษย์และได้รับฉายาว่า ‘ราชาแห่งร้อยปีศาจ’

คิวบิ โนะ คิตสึเนะเป็นปีศาจทรงพลังที่มีเสน่ห์ไร้ขอบเขตและเป็นสาวงามแห่งยุค มันคือปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและแต่ละหางก็มีความสามารถแตกต่างกัน

ไดเทนงุคือปีศาจมนุษย์ มันมีจมูกสีแดงขนาดใหญ่และมีปีกที่ด้านหลัง แต่งกายด้วยชุดเกราะซามูไรโบราณและควงดาบคาตานะ นอกจากนี้ยังมีบุคลิกที่หยิ่งผยอง

จากปีศาจที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามนั้นชูเท็น โดจิโหดร้ายที่สุด คิวบิ โนะ คิตสึเนะนั้นมีเสน่ห์ที่สุดในขณะที่ไดเทนงุมีความกล้าหาญสุด

ดังนั้นตามที่ยามาโมโตะ อิชิโร่บอกเขา คนญี่ปุ่นเหล่านี้วางแผนที่จะปราบปีศาจเหล่านี้ก่อนและทำให้พวกมันกลายเป็นชิกิงามิ

คนญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ฟูมะ ทาโร่นำคนจำนวนหนึ่งไปจัดการกับชูเท็น โดจิ และสำหรับเทพธิดาเนื่องจากเธอเป็นผู้หญิง เธอจะไม่หลงเสน่ห์จิ้งจอกเก้าหาง ดังนั้นเธอจึงไปจัดการกับมัน

สำหรับไดเทนงุพวกเขาวางแผนที่จะยอมแพ้ในการโจมตีอย่างชัดเจนเพราะมันมีพลังในการบินและความกล้าหาญสูง มันยากเกินไปที่จะจัดการ

อย่างไรก็ตาม เฟิงหลินมีความคิดอื่น เนื่องจากปีศาจที่ยิ่งใหญ่อีกสองตัวเป็นเป้าหมายของคนญี่ปุ่น พวกนั้นจะต้องรู้ตัวถ้าเขาไปจัดการกับปีศาจตัวใดตัวหนึ่งในสองตัวนั้น

แม้ว่าไดเทนงุจะจัดการได้ยากและมันสามารถบินได้ แต่เฟิงหลินเองก็สามารถใช้ขี่เมฆได้ เขาจะไม่ด้อยกว่าไดเทนงุในแง่นี้

หากเขาสามารถปราบไดเทนงุได้และใช้มันเป็นชิกิงามิ เขาจะได้รับขุมทรัพย์อันน่าพิศวง การดำรงอยู่ของไดเทนงุจะช่วยเพิ่มพลังการต่อสู้ของเขาอย่างมาก มันไม่ใช่ความคิดที่แย่ในการใช้มันเป็นผู้ช่วย

เมื่อเขาเริ่มปะทะกับคนญี่ปุ่น พวกเขาจะทำสีหน้ายังไงเมื่อพวกเขาต้องสู้กับจอมปีศาจในตำนานของตนเอง?

แผนที่แสดงให้เห็นว่าที่ตั้งของรังไดเทนงุตั้งอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร บนภูเขาที่มีชื่อว่ายอดเขาเท็นงุ

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเนื่องจากความล่าช้า เฟิงหลินไม่ลังเลเลยที่จะเปิดใช้งานความสามารถของทะยานเมฆ ในขณะที่เขาบินขึ้นไปบนยอดเขาเท็งงุ

ยีนวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นถึง6 ทำให้พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความเร็วในการขี่เมฆาของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากและเขาสามารถใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น เขาพุ่งผ่านอากาศด้วยความเร็วสูง สร้างเป็นเสียงแหลม

อย่างรวดเร็ว ยอดเขาที่สูงมากปรากฏในวิสัยทัศน์ของเขาท่ามกลางภูเขาอื่นๆ ยอดเขานี้คล้ายกับดาบสมบัติชี้ไปที่ท้องฟ้า ยอดเขาเต็มไปด้วยก้อนหินมากมายและไม่มีร่องรอยของพืชใดๆเลย สถานที่ทั้งหมดดูเหมือนจะเปล่งรัศมีแห่งความเงียบงัน

ยอดเขาปกคลุมไปด้วยชั้นเมฆดำที่ไม่กระจายแม้จะผ่านไปนานก็ตาม ความมืดมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง บรรยากาศรู้สึกแปลกประหลาดมาก

นี่คือปราณปีศาจ

เฟิงหลินเงยหน้าขึ้นมองเมฆดำที่ปกคลุมยอดเขา ปราณปีศาจหนามากจนกลายเป็นวัตถุ ตามที่คาดไว้ของปีศาจที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน ความแข็งแกร่งของมันจะต้องแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับปีศาจและสัตว์ประหลาดอื่นๆ ที่เขาต่อสู้มาก่อนหน้า ถึงแม้จะอยู่ในระยะนี้เขาก็ยังรู้สึกถึงแรงกดดัน

น่าสนใจ

เฟิงหลินเพิ่มความเร็วและบินเข้าไปใกล้

“ใคร?” เสียงคำรามด้วยโกรธลอยไปจากที่ไกล

เงาร่างสูงกว่าสามเมตรนั่งขัดมาธิอยู่บนยอดเขา เมฆปราณปีศาจปกคลุมเขา ขยายและหดตัวตามลมหายใจของมัน เห็นได้ชัดว่านี่คือจอมปีศาจ

เพื่อพบการมาถึงของเฟิงหลิน ปีศาจก็โน้มหัวและเผยใบหน้าที่คล้ายกับสุนัข จมูกของมันยาวและใหญ่มากมีน้ำเสียงเย่อหยิ่ง

“มนุษย์ เจ้าคือมนุษย์อ่อนแอที่คิดปราบข้า?” เสียงของไดเทนกุเยือกเย็นและดวงตาของมันก็จ้องเฟิงหลินไม่ละสายตา เป็นไปได้มากว่าถ้าเฟิงหลินเคลื่อนไหวแปลกๆ ไดเทนกุจะลงมือทันที

“ใช่แล้ว” เฟิงหลินตอบ

“โอ้ เจ้าดูจะมั่นใจมาก”ไดเทนกุยืนขึ้น ร่างของมันสูงห้าเมตรและมีรูปร่างคล้ายยักษ์ ปีกที่อยู่ด้านหลังห่อหุ้มร่างกายปกปิดไว้อย่างสมบูรณ์ ปราณปีศาจในพื้นที่ปั่นป่วน เมฆดำขยายตัว พุ่งออกมาเหมือนกระแสน้ำในมหาสมุทรสร้างแรงกดดันมหาศาล ถ้าคนธรรมดาอยู่ที่นี่คนนั้นจะตัวสั่นอย่างไม่เต็มใจเพราะความกลัว

บรื้ออ ~

คาตานะที่เอวของไดเทนกุนั้นถูกหุ้มไว้และปล่อยกลิ่นอายอันตรายออกมา เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอาวุธมาร

“ฮิ ฮิ ฮิ”

เฟิงหลินหัวเราะเยาะเย้ย รัศมีที่สง่างามเช่นนี้ ไดเทนกุพยายามทำให้เขาตกใจ?

เขาจับอากาศบางๆ ขณะที่พลังวิญญาณอันดุเดือดของเขาปรากฏเป็นดาบ พร้อมกับสะบัดดาบออกไปทันที

เมฆปราณปีศาจปั่นป่วน ในขณะที่พวกมันกระจัดกระจาย

แสงแดดที่ไม่สามารถส่องผ่านมาเป็นเวลาหลายพันปีส่องลงมา ส่องสว่างใส่ที่มืดมิด แสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามายังดวงตาของไดเทนกุ ทำให้ไดเทนกุกรีดร้อง

ไป!

นิ้วของเฟิงหลินเหมือนดาบ เขาเจาะทะลุออกไป พลังวิญญาณของเขาปรากฏตัวขึ้นกลายเป็นโซ่ที่ยิงออกไป

เมื่อโซ่สัมผัสกับไดเทนกุ มันจะจบลงเหมือนนินจาก่อนหน้านี้ กลายเป็นลูกแกะที่รอการสังหาร

ดาบ1 พิฆาตสิ้น!

ไดเทนกุหรี่ตาลง มันจับคาตานะด้วยมือทั้งสองและยกขึ้นสูงก่อนที่จะเหวี่ยงลง แสงสีดำกระพริบบนยอดเขา

ลำแสงสีดำรูปจันทร์เสี้ยวแหวกผ่านอากาศ แม้แต่พลังวิญญาณของเฟิงหลินก็ยังถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์

พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!

ไดเทนกุลอยขึ้นไปในอากาศ ทำให้ปราณปีศาจดำมืดมารวมตัวกัน เผยให้เห็นพายุระดับ13 ก้อนหินมากมายยกตัวขึ้นและสาดเทใส่เฟิงหลิน

เฟิงหลินยืนอยู่ท่ามกลางพายุลมปีศาจ คล้ายภูเขาที่ไม่สั่นคลอน หมัดของเขาเหมือนสายฟ้า พลังนั่นทำให้ภาพการสั่นสะเทือนปรากฏขึ้นรอบตัว ระเบิดวัตถุทั้งหมดที่พุ่งใส่เขา

หวด ~

ร่างมหึมาลอยขึ้นไปในอากาศ มีรูปร่างคล้ายมนุษย์และถือคาตานะ ไม่นานไดเทนกุก็เร่งความเร็วลง เสริมพลังของแรงโน้มถ่วงให้กับการโจมตีของเขาและเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าดาวตก

พลังวิญญาณของเฟิงหลินพุ่งออกมา สร้างเมฆหมอกรอบตัวเขาขณะที่เขาซ่อนตัวอยู่ในนั้น

ดาบ2  การทำลายล้างสีดำ

คาตานะเฉือนและแทงไปในทิศทางต่างๆ ก่อใยพลังงานของดาบและสลายเมฆหมอกอย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตามเฟิงหลินก็หายตัวไปนานแล้ว

โดยสัญชาตญาณ ไดเทนกุรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันเหลือบมองขึ้นไปบนท้องฟ้าและเห็นว่าเฟิงหลินปรากฏตัวในอากาศเหนือเขาแล้ว

รอยประทับค้อนพลิกฟ้า!

บูม!

เฟิงหลินสูดหายใจเข้าลึก  ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เขายกแขนขึ้นแล้วสะบัดลงมาอย่างโหดเหี้ยม

เกิดเสียงฟ้าร้องดังกึกก้อง

แรงกดดันที่ยิ่งใหญ่และหนักหนาเหมือนภูเขากดทับลงมา

แขนของเฟิงหลินระเบิดเหมือนปืนใหญ่กระแทกเข้ากับไดเทนกุอย่างแรง ทำให้ไดเทนกุถูกซัดจมพื้นด้วยความเร็วสูง