Legend of the mythological genes - ตอนที่ 239

สัตว์ผิดปกติในรังแม่ถูกทำลายจนหมด และแขกที่ไม่ได้รับเชิญกลุ่มนี้ก็ปรากฏตัวขึ้นทันที

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของแอริส เฟิงหลินก็รู้ได้ทันทีว่าคนเหล่านี้ต้องการอะไรและจะมาขโมยคะแนนของพวกเขา

เฟิงหลินเร่งความเร็วของเขา อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แสดงตัว เขาเลือกที่จะซ่อนตัวในความมืดและสังเกตคนเหล่านี้

คนเหล่านี้ดูเหมือนจะมาจากกลุ่มเดียวกัน พวกเขาสวมชุดรบสีเงินขาวและมีสัญลักษณ์รูปดาวสีเงินติดอยู่ สัญลักษณ์ดาวนี้ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครของดาวเคราะห์หรือจักรวรรดิ

เมื่อพิจารณาถึงความทรงจำของผู้บ่มเพาะแล้ว เฟิงหลินก็จำได้ทันทีว่าเขาเคยเห็นสัญลักษณ์นี้ในชุดการต่อสู้ของสองพี่น้องชาวกรีกมาก่อน

(พวกเขามาจากที่ไหน พวกเธอมีความสัมพันธุ์กับคนกลุ่มนี้หรือเปล่า)

เนื่องจากนี่เป็นเรื่องส่วนตัวสำหรับพวกเธอสองคนเฟิงหลินจึงจะไม่ยุ่งมากเกินไป เขาพอใจที่จะดูอยู่เงียบ ๆ ในตอนนี้

“ยานา แอริสเธอสองคนคิดว่าเธอสามารถหลบหนีจากดาวราชาสวรรค์ได้หรอ? แม้ว่าเธอทั้งสองจะเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเธอจะหนีออกจากเงื้อมมือของฉันได้!” ชายหนุ่มรูปงามที่มีใบหน้าแหลมยาวยืนอยู่หน้าสุดเดินเข้าหาพวกเธอ เขาจ้องมองพวกเธอด้วยสายตาเด็ดเดี่ยว ขณะที่เขาหัวเราะเยือกเย็น ราวกับว่าสองพี่น้องชาวกรีกอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาและจะไม่มีทางหนีไปไหนพ้น

สายตาที่น่ากลัวของเขาดูชั่วร้าย ดูไม่เข้ากับใบหน้าของเขา

“มันเป็นเกียรติของพวกเธอที่เจ้าชายของเราเห็นเธอสองคนอยู่ในสายตา ต้องการให้เธอทั้งหมดเป็นนางสนมของเขาอย่าโง่ไปหน่อยเลย”

“เธอทั้งสองได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ลี้ภัยที่อยู่ในรายชื่อประกาศจับอันดับต้นๆของดาวเรา หากเธอยังคงเลือกที่จะดื้อรั้น อย่าคิดว่าวันนี้จะได้ออกไปจากที่นี่!”

“จงเชื่อฟังและส่งมอบนิ้วหัวแม่มือของสัตว์ผิดปกติทั้งหมดมาให้เราซะ”

…

พวกลิ่วล้อเห่า

ร่างกายของแอริสก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ตอนนี้พวกเธอเผชิญหน้ากับศัตรูที่ยิ่งใหญ่ เธอเหมือนเสือเพศเมียที่ต้องการพุ่งใส่และฉีกมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“เฮเซลโล! พวกแกไม่กลัวว่าพ่อของเราจะจัดการพวกแกหลังจากที่ท่านกลับมาหรอ? ท่านจะใช้กฎของตระกูลจัดการกับพวกแก!” แอริสตะโกน

“ฮิ ฮฺ ฮิ! ถ้าพ่อที่น่าสมเพชของเธอยังอยู่ ฉันจะหนีทันที แต่นับตั้งแต่ที่เขาก้าวออกจากดาวของเรา และเข้าไปในอวกาศระหว่างดวงดาวก็ไม่มีข่าวของเขาอีกเลย เขาคงตายไปแล้วที่ส่วนไหนสักส่วนของจักรวาล “

เมื่อได้ยินว่าพ่อของพวกเธอกำลังถูกพูดถึงในลักษณะนี้ สองพี่น้องชาวกรีกก็โกรธมาก ดวงตาของยานาเปล่งประกายแสงสีทอง ใบหน้าของเธอเย็นชามาก

เฟิงหลินสามารถเข้าใจบางสิ่งในขณะที่เขามองดูอยู่ข้าง ๆ สองสาวนี้มีต้นกำเนิดมาจากดาวราชาสวรรค์ อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าศัตรูของพวกเธอจะพบต้นเหตุของปัญหา

เฟิงหลินไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าไปยุ่ง ตราบใดที่คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นปรปักษ์กับเขา

ความไม่พอใจส่วนตัวของคนอื่นไม่เกี่ยวอะไรกับเขา

ความสัมพันธ์ระหว่างเฟิงหลินกับสองสาวเป็นหนึ่งในความร่วมมือซึ่งกันและกัน ถ้าเขาเอาเรื่องของธุรกิจมาปนกับเรื่องส่วนตัว เขาจะรอดชีวิตมาจนถึงปัจจุบันได้ยังไง?

เฟิงหลินไม่ส่งเสียงดัง เขายังคงอยู่ในความมืด เพียงแค่ดูสถานการณ์

“หากเธอสองคนรู้ว่าอะไรดีสำหรับพวกเธอ รีบส่งคะแนนทั้งหมดของพวกเธอมา และรับใช้เจ้าชายอย่างดี เขาจะทำให้เธอได้รับผลประโยชน์ไม่รู้จบ!”

“เมื่อเจ้าชายของเราเข้าสู่มหาวิทยาลัยเอกภพ พวกเธอยังสามารถติดตามเขาในฐานะสาวรับใช้ของท่านได้”

“ผู้หญิงไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อรับใช้ผู้ชายหรอ? ยังไม่นับความจริงที่ว่านี่เรากำลังพูดถึงเจ้าชาย”

…

กลุ่มคนที่ล้อมรอบสองสาว และพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม

บรรยากาศตึงเครียดขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่าการต่อสู้จะเกิดขึ้นในไม่ช้า

เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ ยานาพูดจาเย้ยหยัน “เข้ามหาวิทยาลัยเอกภพ? เราสองคนสามารถบรรลุได้ด้วยตัวเราเอง ทำไมเราต้องพึ่งพวกนายด้วย? นอกจากนี้นิ้วโป้งคือชัยชนะของเรา ทำไมเราควรต้องให้พวกนาย? “

“ มีรังแม่ขนาดใหญ่เพียงสามรังเท่านั้นในดาวอสุรา ชัดเจนว่าที่นี่จะเป็นหนึ่งในเป้าหมายของฉัน เธอกล้าจู่โจมมันก่อนฉันได้ยังไง?” เจ้าชายเฮเซลโลพูดอย่างกดขี่ข่มเหง โดยไม่สนใจตรรกะทั้งหมดมองดูรังขนาดใหญ่ว่าเป็นสิ่งที่เป็นของเขาอยู่แล้ว และไม่ยอมให้คนอื่นมาจู่โจม

“ไม่ต้องสนใจพวกเธอ พวกนายเข้าไปและฆ่าราชินีสัตว์ผิดปกตินั่นซะ!” เจ้าชายโบกมือโดยไม่สนใจใบหน้ารังเกียจของสองพี่น้อง ข้างหลังเขากลุ่มผู้เชี่ยวชาญรีบเข้าไปในรังแม่ และลูกน้องที่เหลือของเขาก็ล้อมรอบสองสาว

ดวงตาของเฟิงหลินเปล่งประกายด้วยความเย็นชา เขาไม่สนใจแม้ว่าจะมีคนพุ่งเป้าไปที่สองสาว แต่คนเหล่านี้ต้องการปล้นของจริงๆ? นี่คือสิ่งที่เขาทนไม่ได้

เขาจะทนดูคนอื่นคว้าถ้วยรางวัลแห่งชัยชนะไปได้ยังไง?

คนเหล่านี้เป็นเพียงคนพาลที่มั่นใจเพราะมีพวกเยอะ

ทั้งหมดนี้คือจุดที่เขาสามารถเก็บเกี่ยวได้

เฟิงหลินเฉยเมย เมื่อเสียงของเขาดังขึ้น เขาก็พุ่งออกไปเหมือนเงา แขนของเขาโบกในอากาศระเบิดหมัดออกไป

“ใคร?” เสียงคำรามด้วยความโกรธสะท้อนออกมา พวกลูกน้องกลุ่มนั้นไม่สามารถหลบได้ทัน และทุกคนก็ลอยออกไปเหมือนกระสอบทราย

“อะไรกัน?” เฮเซลโลจ้องมองที่เฟิงหลิน จากนั้นเขาก็หัวเราะเยาะเย้ย “ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ยอมรับคำโน้มน้าวของเจ้าชาย พวกเธอนอนกับแกแล้วนี่เอง ช่างรู้จักวิธีใช้เสน่ห์ให้เป็นประโยชน์!”

คำพูดของเขาน่าเกลียดจริงๆ

ดวงตาของเฟิงหลินทอประกายเย็นชา

“แกพูดอะไร?” สองพี่น้องพูดด้วยความโกรธ คำพูดเขาทำลายชื่อเสียงของพวกเธอ

“เฟิงหลิน ช่วยเราด้วยเถอะ คนเหล่านี้เป็นศัตรูของเราในดาวราชาสวรรค์ หากนายช่วยเราอีกครั้งเราสัญญาว่าจะใช้หนี้บุญคุณนาย ในอนาคตฉันสามารถบอกความลับโบราณให้กับนายได้ ความลับเกี่ยวกับการบ่มเพาะ! ” ยานาโกรธแค้น แต่เธอยังใจเย็น เธอส่งสัญญาณเสียงไปที่เฟิงหลิน

หัวใจของเฟิงหลินวกวน

ต้นกำเนิดของสองพี่น้องนี้ไม่ธรรมดา ก่อนหน้านี้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการอนุมานตำนานและวิธีสรุปตำนาน ทำให้เขาได้รับประโยชน์มากมายผ่านคอขวดของเขามาได้

ความรู้ในการบ่มเพาะมีคุณค่าอย่างไม่มีใครเทียบ และสำหรับความลับโบราณบางอย่างเราหวังเพียงว่าจะโชคดีพอที่จะได้เรียนรู้ เนื่องจากไม่สามารถแสวงหาความรู้ได้ ถ้าเขาเห็นด้วยกับข้อตกลง เขาจะไม่เสียหายอะไร

แม้จะละไม่สนใจคำสัญญาของเธอ แต่พวกเขาทำงานร่วมกันมาสักพักแล้ว ยังมีมิตรภาพระหว่างพวกเขาอยู่บ้าง

ไม่ว่าในกรณีใดประเด็นหลักคือเขารู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งกับทัศนคติของคนกลุ่มนี้ …

“สารเลวกลิ่นอายของราชินีขนาดใหญ่หายไปแล้ว แกฆ่ามันไปแล้ว?!”

“ถ้าแกรู้ว่าอะไรดีสำหรับแก รีบเร่งส่งคะแนนรวมถึงยีนต่อมใต้สมองของราชินีมา ถ้าไม่ก็อย่าคิดว่าจะได้ออกไปจากที่นี่อย่างปลอดภัย”

“แกกล้าดียังไงมาจับเหยื่อที่ดาวราชาสวรรค์ของเราตั้งเป้าหมายไว้?”

… ..

แต่ก่อนที่เฟิงหลินจะพูดอะไร คนเหล่านี้ก็ล้อมรอบเฟิงหลินด้วยสัญญาณจากเจ้าชายเฮเซลโล

เฟิงหลินโกรธมากจนหัวเราะ คนเหล่านี้รู้จักแต่การคุยโวจริงๆ พวกเขาทำเหมือนรังแม่นี้เป็นสมบัติของพวกเขา!

(แกมาวางท่าอยู่ข้างหน้าฉัน?อย่าโทษถ้าฉันตีแสกหน้าแก!)

คนจากดาวราชาสวรรค์เปล่งประกายกลิ่นอายดุเดือด ขยับเข้ามาใกล้เข้ามาแล้วปิดวงกลมรอบเฟิงหลิน

“ทำตัวเอง” ท่าทางของเฟิงหลินสงบ ในขณะที่เขาพูดอย่างไม่รีบร้อน

พลังแห่งวิญญาณไร้รูปร่างเปล่งประกายออกมาคล้ายกับสายลมอ่อนโยน

คนเหล่านั้นตกตะลึงทันที

ปู่!

ที่จริงแล้วพวกมันคือมีดสั้นและแทงทรวงอก แขน ขา ท้องและส่วนสำคัญอื่นๆซ้ำๆ ทำให้เลือดสดไหลลงบนพื้นดิน

“เกิดอะไรขึ้น?!” เจ้าชายตกใจ เขาคำรามด้วยความโกรธปลุกลูกน้องของเขา

อย่างไรก็ตามลูกน้องของเขาไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ

ฉากที่แปลกประหลาดเช่นนี้จะทำให้คนที่เห็นรู้สึกหนาวสั่นในส่วนลึกของหัวใจ

“การสะกดจิต?การควบคุมวิญญาณ!” ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้น

ด้านหลังเจ้าชายเฮเซลโลหญิงสาวสวยหุ่นดีสวมชุดรัดรูปเดินออกมา ฐานการบ่มเพาะของเธอไม่ธรรมดาและประสบการณ์ของเธอนั้นกว้างใหญ่ เธอสามารถระบุปัญหาได้ทันทีที่เห็น

กลุ่มของผู้หญิงแต่งตัวโป๊ปรากฏขึ้นและล้อมรอบเฟิงหลิน จ้องมองเขาด้วยความระมัดระวัง ราวกับว่าพวกเธอกลัวว่าเขาอาจใช้พลังวิญญาณที่แปลกประหลาดอีกครั้ง

ตอนนี้เฟิงหลินค้นพบว่าผู้คุ้มครองเจ้าชายนี้เป็นผู้หญิงทั้งหมด พวกเธอแต่ละคนสวยงามเหมือนดอกไม้และฐานการบ่มเพาะของพวกเธอทั้งหมดอยู่ในช่วงปลายของอาณาจักรผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว

“ดาวราชาสวรรค์เป็นดาวเคราะห์ส่วนตัวที่เป็นของกลุ่มตระกูลไคลน์ พวกเขาสร้างอาณาจักรของตัวเองบนดาวใบนี้และ เฮเซลโลคือเจ้าชายคนที่สาม ตั้งแต่เด็กความสามารถของเขาสูงที่สุด เขาอยู่ในช่วงปลายของอาณาจักรผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวตั้งแต่อายุยังน้อย เขามีพี่ชายสองคนและทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยระหว่างดวงดาว มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีคุณสมบัติในการสอบของมหาวิทยาลัยเอกภพ เขาคือคนแรกที่จะได้สืบทอดราชบัลลังก์หากมีอะไรเกิดขึ้นกับกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ทหารองครักษ์เหล่านี้เติบโตมาพร้อมกับเขาตั้งแต่ยังเด็ก และพวกเธอก็เป็นผู้หญิงของเขาเช่นกัน “ยานาอธิบายผ่านกระแสจิตซึ่งเผยให้เห็นภูมิหลังของเฮเซลโล่

เฟิงหลินรู้สึกถึงขอบเขตอันกว้างใหญ่ของเขา

ตามที่คาดไว้ ยิ่งเอกภพมีขนาดกว้างใหญ่เท่าใด ก็มีสิ่งมหัศจรรย์ทุกประเภทอยู่ทุกที่ มีความเป็นไปได้ไม่จำกัด

ตระกูลหนึ่งสามารถครอบครองทั้งดาวได้จริงๆ สร้างอาณาจักรและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทั้งหมด

…

เฟิงหลินและยานามองตากันสื่อสารถึงเจตนาของพวกเขาอย่างเงียบๆ เจ้าชายแห่งดาวราชาสวรรค์รู้สึกถึงเปลวไฟความหึงหวงในหัวใจของเขา และมองว่าเฟิงหลินเป็นเข็มทิ่มแทงใจของเขา

“จับเขา!” เขาคำรามด้วยความโกรธ นำลูกน้องล้อมรอบเฟิงหลิน

เฟิงหลินตัดสินใจทันที ร่างของเขาพุ่งเข้าใส่เร่งความเร็วไปที่สองพี่น้อง

“หยุดเขา!” เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเข้ามาช่วยสองสาว เจ้าชายคำรามด้วยความโกรธเคือง

บูม!

พื้นสั่นสะเทือน

ทหารหญิงเปล่งคลื่นพลังงานก่อตัวเป็นสายฟ้าน้ำแข็ง – พลังงานทุกประเภทระเบิดใส่เฟิงหลิน

“ไป!” เฟิงหลินคำรามด้วยความโกรธ กระบองเหล็กในมือของเขาขยายใหญ่ขึ้น เหวี่ยงออกไปคล้ายกับเทพกวนสมุทร ทำให้เกิดคลื่นที่รุนแรงพร้อมกับการเคลื่อนไหวของเขา

ทุกที่ที่กระบองผ่านมันจะกระจายพลังงานและระเบิด

ในช่วงเวลานั้นเมื่อเขาใช้พลัง ความแข็งแกร่งของเขาปล่อยกลิ่นอายข่มขี่อย่างไม่มีใครเทียบ ทหารเหล่านี้ไม่สามารถล้อมรอบเขาได้

วงล้อมถูกทำลาย

“ไปกันเถอะ!” เฟิงหลินไม่เสียเวลา เขามาถึงตรงหน้าสองสาว และพลังวิญญาณของเขาจับพวกเขากระโดดขึ้นไปบนอากาศ

ก้อนเมฆขนาดใหญ่ก่อตัวอยู่ใต้เท้าคล้ายกับพรมบิน ขณะที่พวกพุ่งสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและทิ้งคนจากดาวราชาสวรรค์ไว้

บูซ

เสียงดังสนั่นออกมา เฟิงหลินพาสองพี่น้องไปด้วย ขณะที่เร่งความเร็วสูงสุด

ราชินีในรังนี้ถูกเขาฆ่าแล้วและสัตว์ผิดปกติอื่น ๆ ก็ถูกสองพี่น้องตามล่าแล้ว พวกเขาได้รับประโยชน์มากที่สุดแล้ว หากพวกเขาไม่ออกไปตอนนี้ พวกเขาควรจะออกไปเมื่อไหร่?

เฟิงหลินไม่ได้มีอารมณ์หรือชอบที่จะยุ่งกับคนเหล่านี้ การทำเช่นนั้นจะเป็นการเสียเวลาของเขาเท่านั้น เขาจะไม่ได้รับอะไรเลย ดังนั้นทำไมเขาต้องใส่ใจ?

ความแข็งแกร่งของคนกลุ่มนี้ค่อนข้างทรงพลัง มันไม่ง่ายเลยถ้าเขาต้องการจัดการกับพวกเขา

ดังนั้นอัตราส่วนของการให้และการรับไม่เท่ากันเลย

หลังจากการจู่โจมให้แปลกใจ เฟิงหลินก็ออกเดินทางโดยไม่ลังเล

“บัดซบ!” เจ้าชายกัดฟันและเดือดดาล เขารู้สึกแสบร้อนบนแก้มราวกับเพิ่งโดนเฟิงหลินตบหน้า

พวกเขาได้เปรียบในด้านจำนวนคน หากรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถรับมือกับคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

โดยไม่คำนึงถึงราชินีขนาดใหญ่หรือสองสาวชาวกรีก เจ้าชายมองว่าพวกเธอเป็นสมบัติของเขา เขาจะยอมแพ้ง่ายๆได้ยังไง?

เขาจ้องมองร่างของเฟิงหลินในอากาศ ในที่สุดเจ้าชายก็ตัดสินใจลงมือเอง แสงสีเงินส่องสว่างบนใบหน้าของเขา

ดาบบิน!

มือของเขาประกอบท่าทาง ขณะที่เขาอ้าปากและถ่มน้ำลาย ปรากฏเป็นดาบเล่มเล็กๆ เปล่งประกายดาบอันทรงพลัง มันห่อหุ้มเขาและลูกน้องทั้งหมดของเขา จากนั้นดาบก็ขยายใหญ่ ลอยใต้เท้าพวกเขา พาพวกเขาบินขึ้นไปในอากาศ

“มอบหัวแม่มือของราชินีและสองพี่น้องมา มิฉะนั้นวันนี้ฉันจะไม่ปล่อยแกไป!” ตอนนี้เจ้าชายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบของเขา บินผ่านอากาศส่งเสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า

วิชาดาบบิน!

เฟิงหลินตกใจเงียบ ๆ เจ้าชายตระกูลนี้มีต้นกำเนิดที่ไม่ธรรมดาจริงๆ พวกเขาได้รับมรดกดาบบินจากฮั่วเซียโบราณ

การควบคุมดาบเพื่อบินผ่านอากาศและความสามารถของขี่เมฆาเป็นศิลปะการบินระดับสูงสุดในตำนานจีน ความเร็วของทั้งสองรวดเร็วอย่างไม่มีใครเทียบ

เขายังไม่รู้ด้วยว่าตระกูลไคลน์แห่งดาวราชาสวรรค์ได้รับมรดกนี้มาจากไหน

หลายสิ่งหลายอย่างยังไม่กระจ่าง

แต่เขารู้สิ่งหนึ่ง หากเขาต้องการออกจากที่นี่วันนี้อย่างปลอดภัยมันคงไม่ง่ายนัก

“ขู่ฉันหรอ?” รอยยิ้มเย้ยหยันและเย็นชาปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาไม่กลัวเลย

(มาที่นี่เพื่อปล้นของฉัน และแกยังกล้าที่จะพูดเหมือนว่าแกอยู่เหนือเหตุผล?)

(ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าฉันไม่ตอบโต้ตอนนี้แกจะไม่ถือว่าฉันเป็นแมวป่วยแทนเสือดุร้ายหรือยังไง?)

…

ดาบบินนั้นเหมือนหยดฝนที่พุ่งทะลุท้องฟ้า เคลื่อนไหวด้วยความเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ

ภายในหนึ่งพันไมล์ดาบบินสามารถฆ่าใครก็ได้ในพริบตา

เขารู้สึกได้ถึงเจตนาฆ่ามาจากที่ไกล ต้องการที่จะฉีกเขาเป็นชิ้น ๆ

ปัง ปัง ปัง!

เฟิงหลินควงกระบองเป็นวงกลมรอบตัวเขา

เจ้าชายสร้างดาบบินมากขึ้นและใช้พวกมันเพื่อโจมตี ไล่ตามเฟิงหลิน ดาบบินเหล่านั้นบินด้วยความเร็วสูงพุ่งใส่เฟิงหลิน แต่ทุกเล่มต่างถูกกระบองของเขากระแทกให้กลายเป็นแค่เศษโลหะ

“อะไรกัน?” เจ้าชายอดตกใจไม่ได้ ดาบบินที่อยู่ในมือของเขาเป็นสมบัติในตำนานที่ตระกูลของเขาได้รับหลังจากฝ่าฟันปัญหามากมาย ว่ากันว่าดาบบินนี้เป็นของฮั่วเซียโบราณ มันคมอย่างไม่น่าเชื่อและมีความลับที่ลึกซึ้งมากมาย

ตอนนี้ความคาดหวังในการชนะที่ชัดเจนของเขาหายไปหมด กระบองเหล็กนั่นเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สิ่งของมนุษย์ ระดับของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าดาบบินของเขา

ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโลภ ขณะที่จ้องกระบองเหล็กของเฟิงหลิน

“ไป!” รัศมีของเจ้าชายเฮเซลโลนั้นเต็มไปด้วยพลังงานจากโลหะ ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยคลื่นดาบ

ดาบบินแยกเป็นหมื่นเล่ม

พวกมันก็เปิดการโจมตีใส่เฟิงหลินทันที

เฟิงหลินไม่ตกใจ กระทุ้งกระบองเหล็กในมือของเขาให้ป้องกันตัวเอง

เสียงปะทะกันดังกึกก้องจากการกระแทกแต่ละครั้ง สองสาวก็ไม่ได้อยู่นิ่งเช่นกัน แอริสรวบรวมกลิ่นอายเผด็จการของเธอไว้ที่ฝ่ามือทำให้หอกยาว จัดการลูกน้องบางคนให้ตกจากดาบบินและดิ่งลงพื้น

ยานาสร้างพายุวิญญาณ ทำให้เกิดความโกลาหล คลื่นจิตของเธอส่งผลต่อความคิดของพวกเขา

กลุ่มของเฟิงหลินทั้งสามและคนจากราชาสวรรค์กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด

การต่อสู้ในอากาศนั้นรุนแรงมาก ผู้ที่โชคร้ายจะหล่นลงมาจากความสูงกระแทกพื้น

ขณะที่พวกเขากำลังหนี จากระยะไกลการก่อตัวของกลุ่มแปลกๆจำนวนมากก็ปรากฏตัวขึ้น

คนเหล่านี้ล้วนกึ่งเปลือยกายและมีรอยสักบนผิวหนังของพวกเขา ราวกับคนดึกดำบรรพ์

คนเหล่านี้จริง ๆ แล้วคือพวกอาชญากรโทษประหารที่ก่ออาชญากรรมที่ไม่อาจยกโทษให้ได้ แต่จำนวนกลับสูงจนน่าตกใจ

อาชญากรเหล่านี้ล้วนมีการกดขี่ข่มเหงและไร้ระเบียบ ตอนนี้พวกมันทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่เกิดอะไรขึ้น?

…

เฟิงหลินสังเกตฉากนี้อย่างเงียบ ๆ แต่เขาไม่สนใจ

ท้ายที่สุดพวกเขาอยู่ในอากาศในขณะที่อาชญากรอยู่บนพื้นดิน ไม่ว่าพวกมันจะดุร้ายและโหดร้ายเพียงใด พวกมันจะไม่สามารถคุกคามเขาได้

เขาไม่ได้ลดความเร็วลงและบินไปข้างหน้า ผู้ที่มาจากดาวราชาสวรรค์ยังคงตามมาด้วยความเร็วสูงไม่ปล่อยให้พวกเขาหนีไปได้

เสียงการต่อสู้กระจายออกไปทำให้อาชญากรรู้ว่าพวกเขายังอยู่ อาชญากรบนพื้นล้วนส่งเสียงคำรามเมื่อเห็นคนในอากาศ

“ช่างหยิ่งผยอง กล้าที่จะเป็นปรปักษ์กับราชานักฆ่า?”

เสียงนี้ดังพอ ๆ กับเสียงฟ้าร้อง

แต่เฟิงหลินและผู้เชี่ยวชาญจากดาวราชาสวรรค์ยังคงต่อสู้กันอย่างดุเดือด โดยไม่สนใจอาชญากรบนพื้นดิน พวกอาชญากรสร้างการจลาจล ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธและการสาปแช่งไม่หยุดยั้ง

ทันใดนั้นเสียงแหบห้าวและเสียงดังกึกก้องก็ดังขึ้น คลื่นวิญญาณที่ไร้รูปร่างคล้ายกับกฎแห่งเวรกรรมล็อกเฟิงหลินและคนอื่น ๆ

“แช่แข็ง!”