Legend of the mythological genes - ตอนที่ 272
ในขณะนี้หมอกควันจางไปบ้างและทีมสามคนเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ เผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของพวกเขา
จริง ๆ แล้วพวกเขาคือคนจีนสามคน แต่มีอะไรแปลก ๆ พวกเขาไม่ได้เดินปกติและมีบาดแผลทั่วร่างกาย มีความเหนื่อยล้าบนใบหน้า กลิ่นเลือดจากร่างกายของพวกเขาบ่งบอกว่าพวกเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้ที่ขมขื่นมา
อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าหยุดพัก พวกเขาเพิ่มความเร็วราวกับว่ามีสัตว์ป่าไล่ล่าพวกมันจากด้านหลัง
“เร็วเข้า ทีมญี่ปุ่นจะตามมาทันแล้ว!”
“ไอ้พวกนั้น! พวกมันเลวจริงๆ หลังจากทำลายทีมอื่นอีกสามทีม แม้แต่พี่น้องของพวกเราสองคนก็ถูกฆ่าตาย!”
…
สีหน้าของพวกเขากลัวและโกรธ พวกเขาดูทั้งขายหน้าและเกลียดชัง แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้
“ สองคนมีสถานะพลังประมาณ 300+ และหนึ่งในนั้นมีมากกว่า 500+ พลังในการต่อสู้ของพวกเขาไม่แข็งแกร่ง นายอยากจะให้ลงมือไหม?” แอริสรู้สึกถึงกลิ่นอายของพวกเขา เจตนาฆ่าแผ่ออกมาจากเธอ
“ไม่ต้องรีบ” เฟิงหลินจ้องที่บาดแผลของคนเหล่านี้ ดวงตาของเขาส่องประกาย
“ทำไมล่ะ?” แอริสลังเลที่จะยอมแพ้ ชิ้นเนื้อสามชิ้นรอจะเข้าปากของเธอแล้ว
เฟิงหลินพูดอย่างใจเย็นว่า “ทั้งสามคนเห็นได้ชัดว่าไม่มีอะไร พวกเขาไม่มีสิ่งของมีค่าใด ๆ เลยและอุปกรณ์ปราณจิตของพวกเขาน่าจะเสียหายไปแล้ว มันไม่คุ้มที่เราจะเสียการซุ่มโจมตีและเปิดเผยตัวตนเพราะพวกนี้ จากสิ่งที่พวกเขาพูดยังมีทีมที่ไล่ตามพวกเขามาและ – ทีมญี่ปุ่น – ต้องปล้นพวกเขาไปก่อนหน้านี้ สมบัติที่พวกเขาจะต้องอยู่กับทีมญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ถ้าเราเปิดเผยตัวเองและทีมญี่ปุ่นเห็นเรา การซุ่มโจมตีครั้งนี้จะไม่เกิดผลนะ “
ดวงตาของเขาเปล่งประกายความคมชัด
“ ทีมญี่ปุ่นน่าจะต้องแข็งแกร่งมาก บางทีมันอาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะรับมือกับพวกเขา” ยานากล่าว
“มาดูกันก่อนเถอะ” เฟิงหลินตอบแบบไม่รีบ “ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนของเรา พวกเราจะออกไปก่อนไม่จำเป็นต้องปะทะกัน เหมือนอย่างที่เธอพูด ความอยู่รอดคือกุญแจสำคัญในการสอบนี้ เราต้องจัดลำดับความสำคัญของการอยู่รอดเอาไว้ก่อน “
หากกำลังพูดถึงสติปัญญา เขายอมรับว่าเขาไม่อาจเทียบเท่ายานาได้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็เด็ดขาดและมีวิจารณญาณที่ดี ตอนนี้สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง เขาจะมองสิ่งต่าง ๆ ไม่ชัดเจนได้ยังไง?
อีกสี่พยักหน้าและซ่อนตัวต่อ
ทีมชายสามคนนั่นรีบหนีเข้าไปในบึงน้ำด้วยสีหน้าวิตก พวกเขาไม่ยอมเสียเวลากับการชักช้า พวกเขาไม่รู้ว่าจะโชคดีพอที่จะอยู่รอดได้หรือเปล่า
ทีมของเฟิงหลินเฝ้าดูพวกเขาจากไป พวกเขาเป็นนักล่าที่มีประสบการณ์ซึ่งรู้ว่าเมื่อใดที่จะปล่อยให้เหยื่อตัวเล็กหนีไป เพื่อรอจับเหยื่อตัวโต
หวด, หวด, หวด ~
หลังจากนั้นไม่นานก็มีร่างห้าร่างปรากฏ หมอกควันบางส่วนถูกพัดไปด้วยความเร็วการมาถึงของพวกเขา
พลังวิญญาณของเฟิงหลินพุ่งกระฉูด เขารู้ทันทีว่าพวกเขาสองคนเป็นนินจาสวมชุดสีดำ มีซามูไรสองคนที่สวมชุดคาตานะ และมีชายร่างผอมที่สวมเสื้อคลุมศักดิ์สิทธิ์และมีมงกุฎอยู่บนหัว ชัดเจนว่าผู้ชายคนนี้เป็นหัวหน้าของทีมนี้
ฐานการบ่มเพาะของพวกเขาแตกต่างกัน จากกลิ่นอายที่เขารู้สึก
นินจาทั้งสองคนมีสถานะพลังประมาณ 500 ซามูไรทั้งสองมีสถานะพลังประมาณ 600 ในขณะที่หัวหน้ามีสถานะพลังเกินกว่า700
แม้ว่าหัวหน้า องเมียวจิคนนี้จะมีร่างกายที่ดูอ่อนแอแต่กลิ่นอายของเขานั้นช่างน่ากลัว มันมืดมนและเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง แต่หนักเหมือนภูเขา เมื่อเขาปล่อยกลิ่นอาย มันจะทำให้ผู้คนจะรู้สึกกดดันอย่างมาก
แม้แต่เฟิงหลินก็ไม่มีข้อยกเว้น กลิ่นอายแบบนี้ชี้ให้เห็นว่าสถานะพลังขององเมียวนี้ควรมีอย่างน้อย 900 เขาเหลืออีกเพียงหนึ่งก้าวจากการเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ
“ องเมียวนี่น่าจะเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในทีมนี้ พลังในการต่อสู้ของเขานั้นสูงมากและสถานะพลังของเขาเหนือกว่าพวกเราทุกคน หากเราไม่มีวิธีจัดการกับเขา มันจะยากมากสำหรับเราที่จะชนะทีมนี้” ยานากล่าว
“เราสามารถใช้ได้เพียงกลยุทธ์การแข่งม้าเทียนจีเท่านั้น!” เฟิงหลินกล่าวอย่างเย็นชา “ใช้คนที่อ่อนแอสุดของเราไปจัดการกับคนแข็.แกร่งสุด ขณะที่อีกสี่จะต้องรีบจัดการคนอื่น หลังจากนั้น เราจะร่วมมือกันรับชัยชนะ แต่ประเด็นคือ เราควรส่งใครไป?”
เขาจ้องมองไปรอบ ๆ
“ให้ฉันทำ” ซูลี่พูด ไม่สามารถเห็นสีหน้าของเขาภายใต้หน้ากาก แต่ดวงตาของเขาส่องแสงเยือกเย็น “จากคำพูดของผู้เฒ่าผู้แก่ของเผ่าฉัน ฉันได้ยินมาว่าองเมียวล้วนสามารถควบคุมภูติผีและปีศาจได้ ฉันต้องการทดสอบเทคนิคของเขา “
เขาเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร
เฟิงหลินและคนอื่น ๆ ก็ไม่ปฏิเสธ
แม้ว่าสถานะพลังของพวกเขาแต่ละคนจะไม่ได้สูงมาก แต่เส้นทางที่พวกเขาเดินนั้นล้วนแต่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทุกคนล้วนมีความมั่นใจในตัวเอง
ตั้งแต่ซูลี่ตัดสินใจแล้ว ถ้าเขาพยายามหยุดเขา นั่นจะเป็นความอัปยศของซูลี่
นินจาที่อยู่หน้าสุดเดินไปยังทางเข้าของบึงเมฆควัน เขาสูดอากาศก่อนที่จะพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า “อืม พวกมันเข้าไปในบึงน้ำแล้ว! อาเบะคุง เราต้องเพิ่มความเร็วของเรา ถ้าไม่อย่างนั้นหมอกควันจะขัดขวางเทคนิคไล่ตามลมของเราอย่างแน่นอนและเราจะไม่สามารถจับหนูตัวเล็กสามตัวนั้นได้ “
“ ใช่แล้ว โคชิโระ ฮัตโตริ นายควรไล่ตามพวกมันต่อไป” ดวงตาขององเมียวแวววับ
“ไฮ!” นินจาพูดด้วยความเคารพ เขาดมกลิ่นเลือดในอากาศ ขณะที่สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
โซ, โซ, โซ ~
เสียงดังสนั่น
ลูกธนูหนึ่งหมื่นลูกพุ่งออกมาราวกับว่านกยูงแผ่ปีก
อี้เริ่มการโจมตี คนที่โจมตีก่อนมักจะได้เปรียบ
อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของชาวญี่ปุ่นเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอเช่นกัน พวกเขาไม่ใช่ตัวละครธรรมดาและโต้ตอบกลับทันที
“นั่นอะไร?” พวกเขามีประสบการณ์และตอบสนองเร็วมาก
นินจาที่ยืนอยู่ด้านหน้าโคชิโระ ฮัตโตริประสานมือและกดฝ่ามือของเขาลงบนพื้น
ธาตุดิน – กำแพงดิน
พื้นผิวดินแตกเปิดเห็นโคลนจำนวนมากก่อตัวขึ้นเป็นชั้นของกำแพงดินที่ปกป้องพวกเขาทั้งห้าคน
ปู, ปู, ปุ
ลูกธนูเหล่านี้มีแรงหมุน เจาะทะลุเข้ากำแพงดิน
การโจมตีของลูกธนูหนึ่งหมื่นลูกไม่ใช่สิ่งที่กำแพงสามารถปิดกั้นได้
ธาตุดิน: กำแพงดินสามชั้น!
โคชิโระ ฮัตโตริประสานมือและสร้างกำแพงดินสามชั้น ความเหนียวของกำแพงเหล่านี้คล้ายกับเหล็ก หลังจากนั้นเทคนิคของเขาก็สามารถป้องกันพลังของลูกธนูได้ อย่างไรก็ตามตอนนี้กำแพงมีลูกธนูจำนวนมากเจาะอยู่ ดูเหมือนเม่น
“ พวกแกเป็นใคร กล้าดียังไงที่จะมาลอบฆ่าทีมยามาโตะผู้สูงศักดิ์!” นินจาอีกคนพูดด้วยความโกรธ เขาประกอบมือและอากาศที่ชั่วร้ายก็ปะทุออกมาจากเขา
“ธาตุวิญญาณ – วิญญาณโลกีย์!”
หวือออ ~
เสียงของผีร่ำไห้คร่ำครวญดังขึ้น
หัวผีขนาดใหญ่เท่าบ้านปรากฏขึ้น ผีมีใบหน้าร้ายกาจเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ปากมันเหมือนหลุมดำและโครงกระดูกในนั้นก็ร่ายรำ กระโดดออกจากปาก
ทีมของเฟิงหลินถูกบังคับให้ออกมา
“อืมม พวกน่ารังเกียจ พวกแกกล้าเข้าซุ่มโจมตีเรา ยังไงพวกแกก็ต้องตาย!” นินจาคำราม
ซามูไรคนหนึ่งกระทืบรองเท้าไม้กับพื้นอย่างแรง ถีบตัวขึ้นอากาศ แต่ละมือเขาถือดาบ คล้ายปีก
“เทคนิคดาบคู่บิน!”
แสงเย็นเฉือนผ่านอากาศ
หวด ~
พลังดาบพุ่งทะลักออกมาอย่างรุนแรงต้องการที่จะหั่นทีมของเฟิงหลินให้เป็นลูกเต๋าทันที
บูม!
ปราณดำรวมตัวกัน
ยักษ์ตัวหนึ่งลุกขึ้นจากก้นบึ้งของโลก สวมชุดเกราะ ปกป้องทีมของเฟิงหลินไว้ภายในฝ่ามือมัน
เงาดำอีกหนึ่งเงามีดาบสองเล่มกระโดดขึ้นไปในอากาศ ซามูไรมองด้วยหน้าตาโหดเหี้ยมขณะสับดาบลงมาสุดแรง
“กงล้อวิญญาณ หนึ่งดาบสะบั้น!”
แสงดาบสีดำเปล่งประกายแหลมคม ราวกับสามารถฟันทุกอย่างได้ ทิ้งรอยดาบไว้บนตัวรูปปั้น
เงาซามูไรไหววูบ เทคนิคการเคลื่อนไหวนี้แปลกประหลาดอย่างมาก เขาเฉือนทุกอย่างด้วยดาบ ต้องการที่จะฉีกรูปปั้นการต่อสู้ออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ตึง!
ทันใดนั้น เงาร่างถือกระบองเหล็กก็กระโจนออกมาใส่ซามูไร
ประกายไฟบินวนไปมาอย่างดุเดือด
กระบองเหล็กอัดแน่นด้วยพลังและการปะทะทุกครั้งก็ทำให้ซามูไรต้องล่าถอยด้วยแขนที่สั่นเทา
ในเวลาเพียงไม่นาน เฟิงหลินสามารถควบคุมคู่ต่อสู้ของเขาได้
ปัก ปัก ปัก1
ในเวลาเดียวกันโครงกระดูกที่ถูกเรียกออกมานั้นก็ถูกส่งไปโจมตีรูปปั้นการต่อสู้
พวกนินจาควบคุมวิญญาณโครงกระดูกเพื่อโจมตี ปากของมันที่เป็นเหมือนหลุมดำยังคงสั่น พยายามคายสิ่งต่างๆออกมา
โซ่ทองทำลายวิญญาณ!
ทันใดนั้นยานาก็ลงมือ เธอสวมชุดเกราะสีทองและเป็นเหมือนเทพธิดาที่จุติลงมา คทาเธอชี้ออกและคลื่นพลังงานไร้วิญญาณรวมตัวกันเป็นแสงสีทองของโซ่ที่พันกันอยู่ในอากาศ ล้อมรอบวิญญาณโครงกระดูก
ไม่นานเฟิงหลินและสมาชิกในทีมของเขาก็ออกมาต่อสู้กับทีมญี่ปุ่น
องเมียวที่สวมมงกุฎลืมตา สายตาของพวกเขาแสดงความเลือดเย็นและความมุ่งร้าย
ขบวนสิบอสูร!
เขาสะบัดแขนเสื้อของเขาและผีร้ายสิบตัวปรากฏตัวออกมา ผีที่มีลิ้นยาวห้อย มีใบหน้าสีเขียวและมีเขี้ยวที่หลั่งเลือดออกมาจากรูรับแสงทั้งเจ็ด
ในเวลากลางวัน ปราณวิญญาณออกอาละวาด ทำให้บรรยากาศกลายเป็นน่าขนลุก
ผีทั้งสิบตัวกระจายออกไป วิ่งไปหาเฟิงหลินและสมาชิกคนอื่น ๆ ของเขา
“คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน!” ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้วข่วนกรงเล็บอันแหลมคม
ซู่ลี่เปลี่ยนร่างเป็นปีศาจจิ้งจอก แยกวิญญาณออกเป็นสองส่วน
“คลื่นเพลิงปีศาจสิบชั้น!”
หางปีศาจทั้งปรากฏขึ้นข้างหลังเขา คลื่นปีศาจสีดำปะทุขึ้นมาอีกครั้งไม่หยุด
วิญญาณชั่วร้ายเหล่านั้นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะสลายตัวไปอย่างสมบูรณ์
“แกเป็นใคร?” องเมียวพูดด้วยเสียงขึงขัง เขายังคงมีทัศนคติที่สูงส่งและเยือกเย็น
ดวงตาที่เผยให้เห็นจากหน้ากากของซูลี่นั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา “ ประเทศเล็ก ๆ อย่างญี่ปุ่น ชอบโอ้อวดจริงๆ”
“บ่วงสามหาง!”
น้ำแข็ง ไฟและสายฟ้า…
ธาตุที่แตกต่างกันทั้งสามโคจรเป็นวงกลมระเบิดใส่องเมียว
“เส้นทางตามตำนานของจิ้งจอกเก้าหาง?” องเมียวตื่นตกใจ
ชาวญี่ปุ่นมีความสุขุมรอบคอบในการรักษาตำนานอยู่เสมอ ไม่ว่าในกรณีใดก็ตามยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับจิ้งจอกเก้าหางในตำนานญี่ปุ่น ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักกันในชื่อคิวบิ โนะ คิตสึเนะ
เมื่อเห็นลักษณะแปลก ๆ ของซูลี่ ดวงตาขององเมียวนั้นเต็มไปด้วยความโลภ มันเหมือนกับว่าเขาเพิ่งเห็นสมบัติล้ำค่าและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าที่จะเอามาเป็นของตัวเอง
ผู้บ่มเพาะในเส้นทางตำนานจิ้งจอกเก้าหางนั้นหายากมาก ถ้าเขาสามารถรับวิญญาณของชายคนนี้ได้ เขาจะสามารถกลั่นชิกิกามิของจิ้งจอกเก้าหางได้
ดวงตาของซูลี่เริ่มเยือกเย็น เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าถูกจ้องมอง
“เตรียมตัวตายเถอะ!” ร่างของเขาพุ่งผ่านอากาศ ในขณะที่เขาคว้าไปที่ลำคอขององเมียว
“ฮิ ฮิ” องเมียวหัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย มือของเขาประกอบท่าทางรอยประทับ “แกอาจสามารถฆ่าผีสิบตัวนั่นได้ แต่กสามารถฆ่าได้ถึงหนึ่งร้อยตัวไหมล่ะ? ร้อยภูติผี!”
ปราณสีดำน่ากลัวทะลักออกมา ก่อตัวเป็นกรอบสีดำล้อมรอบท้องฟ้า
แผ่นดินแยก ผีและปีศาจร้ายนับไม่ถ้วนคลานออกมา ผีไม้ เด็กภูเขา ลิ้นสีแดงเข้ม … ผีร้ายพุ่งทะลักออกมาเหมือนกระแสน้ำ
….
แสงกระบี่กระพริบอย่างเย็นชา
ซามูไรเปลี่ยนเป็นยักษ์ เขาควงดาบคาตานะ
กระบองโลหะของเฟิงหลินพุ่งออกมาด้วยความดุร้าย การเคลื่อนไหวของเขานั้นธรรมดามาก แต่พวกมันก็กดดันเหมือนภูเขา
การใช้กำลังดุร้ายเพื่อทำลายเทคนิคทั้งหมด!
ไม่ว่าแสงกระบี่จะแหลมคมแค่ไหน ภายใต้กระบองอันทรงพลัง แสงดาบก็ถูกบังคับให้กระจายไปยังปราณดาบ เมื่อปราณดาบกระทบใส่ร่างของเฟิงหลิน ประกายไฟก็กระจายออกมา แต่ไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บ
ปัง ปัง ปัง!
กระบองโบกไปมาอย่างรวดเร็ว กระแทกอย่างรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำอีก ทำให้ซามูไรบาดเจ็บหนักและทำให้เขาต้องถอยกลับ
เฟิงหลินได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ หากมีเวลาพอเขาจะได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ตามนี่ยังไม่เพียงพอ!
ปีศาจต่างก็เดินพล่านด้วยความคลั่งไคล้
…
สามหางของซูลี่ยังคงเคลื่อนไหวปกป้องตัวเอง เขาถูกล้อมรอบไปด้วยผีนับร้อยและเขาแทบจะไม่สามารถปกป้องชีวิตของเขาเอาไว้ได้ มันยากเกินไปที่จะชนะ
สามหางยังคงระเบิดออกมาทำลายผี แต่มันมีจำนวนมากเกินไป พื้นที่รอบๆตัวเขาตอนนี้ก็เหมือนนรกในโลกมนุษย์
ซูลี่ยังคงฆ่าผีเหล่านั้นต่อไป อย่างไรก็ตามความพยายามของเขาเหมือนการขว้างถ้วยน้ำลงบนไฟที่ลุกโหม มันไม่เพียงพอ เขาไม่มีทางที่จะแยกตัวออกจากการโจมตีนี้ได้
เฟิงหลินมองและรู้สึกไม่ดีในหัวใจ
ตอนนี้ซู่ลี่ทำได้เพียงการเปลี่ยนแปลงแบบสามหางเท่านั้น เขายังไม่เข้าใจสาระสำคัญที่แท้จริงของเส้นทางตำนานของสุนัขจิ้งจอกเก้าหาง
เส้นทางในตำนานของเขาจะไม่แพ้องเมียวอย่างแน่นอน น่าเศร้าความแตกต่างของสถานะพลังระหว่างเขาและคู่ต่อสู้ของเขานั้นสูงมากเกินไปตอนนี้
ผีร่ายรำอย่างดุเดือดตั้งใจที่จะฆ่าซูลี่ ทุกอย่างอยู่ในความวุ่นวาย
ตอนนี้นินจาและซามูไรเหล่านั้นได้รับความช่วยเหลือจากองเมียว พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดมากขึ้นเรื่อย ๆ
เฟิงหลินและอีกสามคนถูกระงับไว้
“ ฮ่าฮ่าฮ่าไอ้พวกน่ารังเกียจ เมื่อท่านองเมียวลงมือ พวกแกจะไม่มีโอกาสชนะ แค่เตรียมตัวตายก็พอ!” ซามูไรที่กำลังต่อสู้กับเฟิงหลินหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สำหรับเฟิงหลินความตั้งใจในการฆ่าของเขาปะทุขึ้น
เฟิงหลินไม่สนใจเขาอย่างสมบูรณ์
คนประเภทนี้ที่ต้องพึ่งพาคนอื่น ไม่มีค่าอะไรในสายตาของเขา
อย่างไรก็ตาม …
ทุกอย่างไม่สามารถดำเนินต่อไปแบบนี้!
เฟิงหลินรู้ว่าพวกเขาต้องหยุดองเมียวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าองเมียวแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ถึงแม้เฟิงหลินจะสามารถหลบหนีได้ สมาชิกในทีมคนอื่นของเขาจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน
” ไสหัว!” เขาคำราม กระบองของเขาพุ่งใส่คาตานะของซามูไร
“อย่าแม้แต่จะคิด!” ซามูไรคำราม
“หนึ่งดาบ เทพสายลม+.
เขาคำราม ฟันจากบนลงล่างเพื่อเปิดเส้นทาง หลังจากนั้นเขาก็แทบดาบออกไปหวังเจาะเฟิงหลิน
คาตานะนั้นห่างจากเฟิงหลินเพียงหนึ่งนิ้ว ซามูไรมองเห็นว่าเฟิงหลินถูกเสียบแล้ว
แต่ในวินาทีต่อมาใบหน้าที่มีรอยยิ้มก็ปรากฏ
“ บัดซบ ฉันถูกหลอก!” ซามูไรรู้สึกหวาดกลัวในใจ และรีบถอยหนี
อย่างไรก็ตามมือกลับพุ่งออกมา โดยไม่สนใจทุกสิ่ง จับขอบคาตานะโดยตรง เลือดไหลจากฝ่ามือของเฟิงหลิน แต่เขาไม่สนใจบาดแผล
ในเวลาต่อมาหมัดอีกข้างของเขาก็กระแทกออกเหมือนค้อนส่องประกายด้วยความแวววาวราวกับหยก
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังสะท้อนในอากาศ
ปู่!
สมองสีขาวเหลืองทะลักลงบนพื้น
หัวของซามูไรระเบิดและร่างของเขาก็ร่วงลงบนพื้น
เฟิงหลินตั้งใจเผยจุดบอดเล็กน้อยและฆ่าซามูไรในครั้งเดียว ร่างกายของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือดของซามูไร
สายตาของสมาชิกอีกสี่คนจากทีมญี่ปุ่นมองมา ความกลัวปรากฏในใจพวกเขา
บูม!
ในขณะนี้การระเบิดที่รุนแรงดังขึ้นทำลายความเงียบ
คนจากทั้งสองทีมจ้องมองไปโดยสัญชาตญาณ และเห็นยานบินขนาดยักษ์แหวกผ่านอากาศ มันโยนภาชนะที่เปล่งแสงสีแดงออกมา
เสบียงจากสมาคมการบ่มเพาะ ในที่สุดก็มาถึง!
–
–
–