Legend of the mythological genes - ตอนที่ 292
สำหรับมนุษย์ยุคระหว่างดวงดาว น้ำหนักตัวผู้ชายปกติอยู่ที่ประมาณ 100 กิโลกรัม
ภายใต้แรงโน้มถ่วง 30เท่าก็คือสามตัน!
คนกลุ่มนี้ล้มตัวลงนอนบนพื้นและรู้สึกเหมือนถูกรถบรรทุกทั้งคันกดทับร่าง พวกเขากำลังจะแบน
ภายใต้แรงโน้มถ่วงอวัยวะภายในของพวกเขาถูกกดอย่างหนัก และพวกเขารู้สึกว่าทนไม่ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้แต่เฟิงหลินก็รู้สึกว่าไหล่ของเขาหนักมาก เพียงนั่งขัดสมาธิบนพื้นก็หนักเอาการแล้ว
“แกอย่ามาตุกติก!” ชายผมสีเงินคนนั้นมีฐานการบ่มเพาะสูงสุดและเป็นหัวหน้ากลุ่มนี้ เขาเป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะแล้วและในเวลานี้เขาแทบจะยืนด้วยเท้าของเขาไม่ได้
“ พวกแกต้องการห้องแรงโน้มถ่วงไม่ใช่หรอ? ถ้าแกทนต่อแรงโน้มถ่วงในระดับนี้ไม่ได้ แกจะใช้ห้องนี้ไปทำไม?” เฟิงหลินพูดอย่างสงบ เขายิ้มอย่างเยือกเย็น “แรงโน้มถ่วง 40เท่า”
“อย่า!” เสียงตะโกนด้วยความกลัวดังขึ้น
ในวินาทีต่อมาทุกคนครวญครางด้วยความเจ็บปวด ขณะที่มีเลือดไหลออกจากปาก อวัยวะภายในของพวกเขาตกอยู่ภายใต้แรงกดทับจนถึงจุดที่พวกเขามีเลือดออกมาภายใน
โครงสร้างร่างกายทั้งหมดเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นแบน
แม้แต่สีหน้าของเฟิงหลินก็ซีดเซียว ร่างของเขาโซเซ เกือบจะล้มกระแทกกับพื้น
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังยืนกรานมั่นและไม่ทรุดลงกับพื้น
ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้เข้ามาในท่าทางที่ดุร้าย แต่ตอนนี้ก้นของพวกเขายกสูง พวกเขาใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อจะคลานออกจากสถานที่แห่งนี้
ชายผมสีเงินคนนั้นวางมือทั้งสองอยู่บนพื้นแต่ปากของเขาก็น่ารังเกียจเหมือนเคย “แกคิดว่าทำแค่นี้แล้วแกจะชนะหรือไง?เมื่อหัวหน้าเฟอร็อตมาที่นี่ด้วยตัวเอง แกจะหนีไปไหนไม่รอด! “
“เหอะ … ” เฟิงหลินหัวเราะเยือกเย็นแล้วเขาก็พูดว่า “50เท่า!”
ก่อนที่ชายผมสีเงินจะพูดอะไรออกมาอีก ร่างกายของเขาก็ถูกกระแทกลงกับพื้น เลือดไหลออกมาจากปากของเขา
คราวนี้เขาไม่กล้าพูดอะไรกับเฟิงหลินอีก เขาคลานออกไปเงียบ ๆ เหมือนหนอนที่น่าสงสาร
หลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็คลานออกมาจากห้องนี้ด้วยความยากลำบากจนตัวสั่น พอออกจากห้องได้สีหน้าดูราวกับว่าพวกเขาเพิ่งรอดพ้นจากภัยพิบัติ
สายตามุ่งร้ายมองมาที่เฟิงหลิน
เฟิงหลินลดแรงโน้มถ่วงและหายใจเข้าลึก
เขาแปลงร่างเป็นลิงหินซึ่งมีความทนทานอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถ้าไม่งั้นเขาจะไม่สามารถต้านทานแรงกดดันเช่นนี้ได้เช่นกัน
คนเหล่านี้มองเขาอย่างมุ่งร้าย แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะก้าวเข้ามาในห้องอีก
เฟิงหลินไม่สนใจคนพวกนั้น เขาปรับแรงโน้มถ่วงเป็น 10เท่า และเริ่มบ่มเพาะต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เขาเริ่มต้นด้วยการปรับลมหายใจเพื่อปรับปราณในร่างกายของเขา เติมเต็มความแข็งแกร่งที่เสียไปก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นเขาก็ไม่สนใจคนอื่นและเริ่มฝึกเทคนิคการต่อสู้ของเขา
เปลือกตาของคนพวกนี้กระตุกขณะที่มองดูเขา
แม้จะมีแรงโน้มถ่วง 10 เท่า การเคลื่อนไหวของเฟิงหลินนี้ก็ไม่มีข้อจำกัด และเป็นธรรมชาติไม่ได้รับผลกระทบจากแรงกดเลย
พวกเขารู้สึกแผ่วเบาที่นิ้วเท้าของพวกเขากระแทกกับแผ่นเหล็ก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่เต็มใจที่จะจากไปแบบนั้น
ร่างกายของเด็กเหลือขอนี่แข็งแกร่งมากสามารถทนแรงกดดันที่แรงโน้มถ่วง 50เท่าได้
ตราบใดที่เฟิงหลินไม่ออกไป พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับเขาได้ พวกเขาทำได้เพียงรออยู่ข้างนอก จนกระทั่งเฟิงหลินออกไป
ไม่นานก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
ผ่านไปครึ่งวัน!
…
การแสดงออกของคนเหล่านี้น่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ
เฟิงหลินกำลังหมกมุ่นอยู่กับการบ่มเพาะ เขาไม่สนใจคนเหล่านี้มาตั้งแต่เริ่ม เหมือนกับว่าไม่มีอะไรจะทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหว
“พวกแกกำลังทำอะไรอยู่?นานขนาดนี้พวกแกยังไม่มีห้องแรงโน้มถ่วงให้ฉัน” เสียงแหบห้าวเสียงดังกึกก้อง ทำลายความเงียบงัน
บูม บูม บูม!
เสียงฝีเท้าหนักดังกระทบทำให้พื้นสั่นสะเทือน
ทุกคนหันไปทางเสียง รูปร่างที่สูงกว่าห้าเมตรซึ่งคล้ายกับภูเขาลูกเล็ก ๆ เดินมาจากระยะไกล ทุกคนสามารถรู้สึกถึงกลิ่นอายที่น่าประทับใจจากเขา แรงกดดันที่เขาปล่อยออกมาทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัด
“หัวหน้าเฟอร็อต!” คนเหล่านั้นยิ้มอย่างมีความสุข พวกเขาฟ้องทันที “มีผู้บ่มเพาะระดับสูงคนหนึ่ง ยึดห้องแรงโน้มถ่วง เขาไม่ยอมมอบมันให้เรา”
“ เขาไม่มีอะไรนอกจากไก่ที่อ่อนแอ แต่พวกแกก็ยังไม่สามารถโยนเขาออกไปได้?” ยักษ์ส่งเสียงสาปแช่งเสียงดัง
คนเหล่านั้นล้วนรู้สึกหดหู่อย่างมาก “เราไม่รู้ว่าเส้นทางในตำนานที่เด็กเหลือขอนั่นเดินคืออะไร?ร่างกายของมันนั้นแข็งเหมือนเหล็กและสามารถทนแรงกดดันได้สูงถึง 50 เท่า เมื่อเด็กนั่นปรับแรงโน้มถ่วง เราไม่สามารถก้าวไปในห้องนั่นได้! “
“ขยะจริงๆ!” ยักษ์คำราม เขาเดินเข้าไปในห้องแรงโน้มถ่วงทันที
ผู้ชายคนนี้ทรงพลังมาก
เฟิงหลินลืมตาอย่างสงบและสำรวจคน ๆ นี้ ในไม่ช้าหัวใจของเขาก็จมลงที่ก้นหุบเขา
เจ้ายักษ์นี้เปล่งแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ เนื่องจากความแตกต่างของพลังชีวิต สถานะพลังของเขาต้องมีอย่างน้อย 2,000 ในขณะที่เฟิงหลินมีเพียง 900 กว่าเท่านั้น แน่นอนเฟิงหลินไม่เหมาะสมจะสู้กับผู้ชายคนนี้
สิ่งที่ยากกว่าในการจัดการคือร่างที่สูงและกล้ามเนื้อของยักษ์ตัวนี้ ผิวหนังของเขาส่องประกายโลหะสีบรอนซ์และกล้ามเนื้อของเขาเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ ความแข็งแกร่งของร่างกายเขานั้นสูงมาก
เราต้องรู้ว่าทุกๆการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ กระดูกพวกเขาก็จะแข็งขึ้นด้วยเช่นกัน ยักษ์ตัวนี้สูงกว่าห้าเมตรถ้าร่างกายของเขาไม่แข็งแกร่งพอ มันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะมีกล้ามเนื้อเช่นนี้ เพียงแค่มองดูร่างกายของเขาก็ทำให้แล้วคนรู้สึกกดดัน
“ฉันรู้จักนาย นายคือเฟิงหลิน” เฟอร็อตก้าวเข้าสู่ห้องแรงโน้มถ่วง แรงโน้มถ่วงอยู่ที่ 10 เท่า ร่างกายของเขาโค้งเล็กน้อย แต่การเคลื่อนไหวของเขาก็ยังสบายๆ
เฟิงหลินไม่ตอบ เขาจ้องมองผู้ชายคนนี้อย่างมั่นคง
“นายเกิดในภูมิภาคดาวห่างไกลของระบบสุริยะ แต่นายสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งปัจจุบันได้ ในท้ายที่สุดความสามารถและความฉลาดของนายก็ทำให้ทีมของนายสามารถเอาชนะทีมสุดยอดผู้บ่มเพาะได้ ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับความสามารถที่ตระการตาของนาย สุดท้าย นายได้รับการคัดเลือกล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง “เฟอร็อตอาจดูเหมือนเป็นชายบ้ากล้ามไร้สมอง แต่รูปร่างของเขาไม่ตรงกับบุคลิกภาพของเขาเลย เขาอยู่ในความเป็นจริงสายตาของเขาส่องแสงเจิดจ้าขณะที่ศึกษาเฟิงหลิน
“งั้นเหรอ?” เสียงของเฟิงหลินเยือกเย็น เขาไม่ได้พูดอะไรมาก
“เฟิงหลินต้นกำเนิดของนายต้อยต่ำ นายเติบโตมาในภูมิภาคดาวที่ไม่มีอนุภาควิญญาณและมันทำให้นายเป็นแค่ผู้บ่มเพาะระดับสูง” เฟอร็อตหัวเราะ เขายื่นมือเข้ามาด้วยท่าทางเชื้อเชิญ “แล้วทำไมนายไม่มาร่วมกับฉันล่ะ? มหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงปะทะกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่างดาวบ่อยครั้ง และสิ่งต่างๆจะเป็นอันตรายมาก หากนายติดตามฉันมันจะมีประโยชน์กับนายมากมาย”
เขามองใบหน้าของเฟิงหลิน เหมือนกับว่าสิ่งที่เขาเสนอคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเฟิงหลิน แต่เฟิงหลินก็หัวเราะเยือกเย็น
“แกเป็นใครใคร?”
รอยยิ้มของเฟอร็อตหายไปทันที สายตาของเขาเปลี่ยนไปจ้องมองเฟิงหลินด้วยสายตาโหดร้ายและไม่พูดอะไร
และทันใดนั้น ~
บูซ!
พื้นสั่นสะเทือน แรงกดดันที่มองไม่เห็นพุ่งออกมา
เฟิงหลินรู้สึกเพียงว่ามีภูเขาบนไหล่ของเขาต้องการที่จะกดเขาลงกับพื้น
เฟอร็อตร่างยักษ์ขยับทีละก้าว กระจายพลังชีวิตที่รุนแรง เขาสะกดข่มเฟิงหลินอย่างจงใจด้วยความแตกต่างของพลัง
ฮ่า ๆ ๆ ๆ …
เฟิงหลินแค่หัวเราะ เขาลุกขึ้นยืนและขยายร่างช้าๆไม่นานเขาก็สูงกว่าห้าเมตร
ทั้งคู่เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพง ใครจะเต็มใจเป็นผู้ติดตามของคนอื่น
(ใครจะยอมตกนรก?)
…
แรงโน้มถ่วง 60เท่า!
เฟิงหลินปรับแรงโน้มถ่วงให้สูงขึ้น อย่างไม่เคยมาก่อน
ทันใดนั้นพวกเขาทั้งสองโซเซ ราวกับว่าเพิ่งขึ้นชกอย่างหนักหน่วง
แม้ว่าเฟิงหลินจะไม่กลัวเฟอร็อต แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะโง่
ยักษ์นี้เป็นสุดยอดผู้บ่มเพาะ ถ้าเขาต่อสู้ด้วยเขาจะเป็นเหมือนไข่ที่กระแทกเข้ากับก้อนหิน มันเป็นการตัดสินใจที่โง่เขลา
สิ่งที่เฟิงหลินต้องการจะแข่งขันคือความแข็งแกร่งของร่างกาย
เขามีร่างกายลิงหินและทานทนต่อน้ำ ไฟ ซุนหงอคงซึ่งเป็นลิงหินทนต่อความหายนะจากสวรรค์มากมาย แม้กระทั่งเปลวไฟในตำนานก็ยังทำอะไรเขาไม่ได้ และยังช่วยให้เขาได้เทคนิคเนตรเพลิงอีกด้วย
เขาจะกลัวการเปรียบเทียบความแข็งแกร่งของร่างกายยังไง?
เอี้ยด เอี้ยด
กระดูกพวกเขาส่งเสียงดังลั่น ขณะที่พวกเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันสูง
แรงโน้มถ่วง 70เท่า!
เฟิงหลินปรับแรงโน้มถ่วงอีกครั้ง คราวนี้พวกเขาสองคนไม่สามารถยืนได้อีกต่อไป แรงกดเหล่านี้กดทับและทำให้พวกเขานั่งราบลงนบนพื้น พวกเขาใช้ความพยายามทั้งหมดเพื่อค้ำจุนร่างกาย
ในขณะนี้เฟิงหลินค้นพบว่าการรักษารูปร่างของเขาไว้ที่ระดับห้าเมตรนั้นไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด ด้วยความตั้งใจของเขา เขาก็หวนกลับไปสู่ขนาดที่แท้จริงและยังคงหดตัวลงต่ำกว่าหนึ่งเมตร
ร่างกายที่เล็กลงจะทำให้แรงกดดันที่กระดูกเขารับนั้นน้อยลง!
เฟิงหลินพยายามเคลื่อนไหวและรู้สึกว่าขนาดนี้มีความสะดวกสบายมากกว่ารูปแบบขนาดใหญ่ของเขา เขายิ้มและมองสายตาที่ตกตะลึงจากเฟอร็อต และคำราม”80เท่า!”
ครื่น
ร่างยักษ์ของเฟอร็อตถูกกดลงบนพื้น ศีรษะของเขากระแทกกับพื้นอย่างแรง ทำให้เกิดเสียงทุ้มดังออกมา
แม้ก่อนหน้านี้จะสูงส่งและสง่างาม แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่จ้องมองเฟิงหลินเท่านั้น
“น่ารังเกียจ” เฟอร็อตพยายามเงยหน้าขึ้น ขณะจ้องเฟิงหลิน หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
“อะไรกัน?แม้แต่หัวหน้าเฟอร็อตก็ยังแพ้”
“เด็กเหลือขอนั่นใช้ลูกเล่นอะไรกัน!”
“แต่แพ้ก็คือแพ้!”
…
นักเรียนเหล่านี้ล้วนแต่หวาดกลัว
เมื่อเผชิญหน้ากับความไม่พอใจของเฟอร็อต เฟิงหลินก็ไม่พูดอะไร เขานั่งขัดสมาธิ ขณะที่เขาหายใจออก รักษาแรงโน้มถ่วงที่ 80 เท่า แรงกดดันที่ท่วมท้นทำให้เฟอร็อตยกหัวขึ้นอย่างยากลำบาก
เฟิงหลินละสายตาจากทุกคน เขาเหมือนพระที่นั่งอยู่บนเสื่อทำสมาธิ โดยไม่สนใจสิ่งรบกวนภายนอกทั้งหมด เขาเริ่มบ่มเพาะ
ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะคงอยู่จนกว่าพวกเขาจะไปถึงจุดหมาย แต่ทันใดนั้นแสงสีแดงก็สว่างวาบ เมื่อเสียงเตือนดังดังก้องขึ้นภายในกระสวยบิน
“ทุกคน ฟังให้ดี เผ่ามนุษย์ต่างดาวที่ชื่อเผ่าวิญญาณกำลังบุก เตรียมพร้อมรบ!”