Legend of the mythological genes - ตอนที่ 299
อากาศปั่นป่วน
ลำแสงไอน้ำพุ่งออกไปไกล
ดวงตาของเฟิงหลินเกือบจะหลุดออกจากเบ้า นี่ไม่ใช่วิทยาศาสตร์เลย
ไอน้ำนี้เป็นเทคโนโลยีแบบย้อนหลัง มนุษย์ได้ค้นพบยานพาหนะที่ใช้พลังงานไอน้ำมาตั้งแต่ยุคโลกโบราณและพวกเขาก็หยุดใช้มันไปแล้ว เทคโนโลยีไอน้ำถูกใช้เวลาเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนที่มันจะถูกเปลี่ยนไปเป็นพลังงานไฟฟ้าแทน
ตอนนี้ผ่านมาหมื่นปีแล้ว
ทำไมจะมีกระสวยอวกาศที่ใช้เทคโนโลยีไอน้ำ มันสามารถลอยขึ้นไปในอวกาศได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเห็นกับตา เฟิงหลินก็คงไม่เชื่อ
ยานบินมีรูปร่างอ้วนและดูเหมือนบอลลูน แต่ความเร็วของพวกมันนั้นเร็วมากประมาณครึ่งหนึ่งของความเร็วแสง
เรดาร์ของภูเขาฟผลไม้แสดงจุดแสงที่หนาแน่นจำนวนมากประมาณสามร้อยจุด พวกมันเหมือนตั๊กแตนรุมล้อมรอบเขา
ในยุคปัจจุบันนี้สำหรับสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พวกเขาถือว่ามันเป็นปริศนา
เฟิงหลินรู้สึกได้ถึงความลึกลับ
อัตราการใช้พลังงานของพลังงานไอน้ำต่ำเกินไป เพื่อรักษาสภาพแสงนี้พวกเขาต้องใช้ไอน้ำจำนวนมหาศาล เป็นไปไม่ได้ในทุกช่วงเวลานี่ไม่มีเหตุผลและไม่สามารถจินตนาการได้
เป็นไปไม่ได้ที่ยานบินไอน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไอน้ำเหล่านี้จะมีความจุพลังงานจำนวนมาก นอกจากนี้มันจะไม่สามารถขุดหาแร่ธาตุและทรัพยากรได้ นอกจากนี้ยังมีพลังลึกลับบางอย่างที่เฟิงหลินเองก็ไม่สามารถคิดเป็นอื่น ๆได้
ยานบินขนาดยักษ์ที่ดูเหมือนปลาวาฬตัวใหญ่ล้อมรอบด้วยปลาตัวเล็กนับไม่ถ้วน
บูม บูม บูม!
ขีปนาวุธเปล่งแสงสีดำพุ่งออกมา ลักษณะของมันโบราณมาก แต่พลังของมันนั้นทรงพลังอย่างไม่มีที่เปรียบ
เปลวไฟสีน้ำเงินเผาไหม้ในสุญญากาศของอวกาศเป็นเวลานาน โลหะที่หุ้มด้านนอกของกระสวยยักษ์ถูกหลอมละลายเมื่อเปลวไฟยังคงขยายตัวเข้าไปด้านใน
อย่างไรก็ตามกระสวยอวกาศที่ขาดรุ่งริ่งเริ่มสั่นสะเทือนด้วยความเร็วสูง ทำให้ผิวเคลือบชั้นนอกหลุดออกอย่างรวดเร็วแผ่นโลหะจำนวนมากตกลงมา
หลังจากที่ปล่อยชั้นนอกหลุดออกไป ยานบินที่ดูไม่น่าเชื่อถือในที่สุดก็เผยให้เห็นลักษณะที่แท้จริง ปืนใหญ่สีดำนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากกระสวยอวกาศ
ครื่น
แสงที่หนาแน่นจำนวนมากระเบิดแสงสั่นสวรรค์และโลก
ยานบินไอน้ำขนาดเล็กกว่าสิบลำระเบิดออกเป็นชิ้น ๆ ทันที
แต่ยานบินพลังไอน้ำที่เหลือดูเหมือนจะไม่รู้จักการหลบหนี พวกมันใช้โอกาสนี้และรีบพุ่งใส่แทน เป็นเหมือนฝูงตั๊กแตนที่ตั้งใจจะทำลายพื้นที่รอบๆกระสวยอวกาศขนาดยักษ์
มีการปล่อยระเบิดไฟหลายครั้ง ทำให้กระสวยยักษ์ลุกเป็นไฟ
จิ จิ จิ ~
ท่ามกลางเปลวไฟ มีกระแสไฟฟ้าที่ขยายออกมาจากกระสวยขนาดยักษ์ ก่อตัวเป็นใยขนาดยักษ์ที่ทำลายยานบินไอน้ำอีกสิบกว่าลำ
ยานบินพลังไอน้ำสร้างขึ้นจากโลหะสีดำ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลเข้าภายใน พวกมันก็ระเบิดเป็นชิ้น ๆ ทันที
ยานบินพลังไอน้ำที่เหลือกระจัดกระจายเหมือนนก ในเวลานี้ลายเส้นลึกลับมองเห็นได้บนวัตถุสีดำของพวกมันกอตัวเป็นรูปหกเหลี่ยมที่ซ้อนทับกันกลายเป็นแผนภาพที่ซับซ้อนมาก
ความรู้สึกผันผวนเกิดขึ้นในอากาศ ขณะที่อนุภาคแสงไร้รูปร่างรวมตัวกันก่อตัวเป็นกำแพงแสงที่กั้นกระแสไฟฟ้า
พลังลึกลับมีคำว่า ‘ลึกลับ’ พวกมันเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้
แม้ว่ามนุษย์ระหว่างดวงดาวจะมาถึงจุดสูงสุดของวิทยาศาสตร์อย่างไม่เคยมีมาก่อน พวกเขายังไม่สามารถแยกความจริงที่ลึกซึ้งของจักรวาลได้ทั้งหมด
ยานบินยักษ์ที่น่าสงสารก็เหมือนช้างที่ถูกล้อมรอบด้วยหมาป่าหิวโหยนับไม่ถ้วน ทั้งสองฝ่ายเริ่มการสู้รบในอวกาศก่อให้เกิดเปลวไฟกระจายเต็มอากาศ
ดาวเคราะห์ขนาดเล็กในสภาพแวดล้อมถูกโจมตีโดยระลอกคลื่นและพังทลายลงทันทีกลายเป็นเศษซาก
แม้ว่าภูเขาผลไม้จะอยู่ในสถานะซ่อนตัว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไร้รูปร่าง ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหลบเพราะกลัวว่าจะถูกทำลาย
เทคโนโลยีสงครามที่ขับเคลื่อนด้วยไอน้ำ!
เทคโนโลยีที่แตกต่างกันสองชนิดปะทะกันกลางอากาศ ในขณะที่ปะทะกัน อวกาศก็เต็มไปด้วยความผันผวน
ตั้งแต่ต้นจนจบทั้งสองฝ่ายไม่มีปฏิสัมพันธ์อื่นใด เหมือนกับต่างฝ่ายต่างจะไม่หยุดจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกกำจัดออกไป
ถึงแม้ว่ากระสวยอวกาศที่ใช้พลังไอน้ำนั้นจะด้อยกว่ากระสวยขนาดใหญ่ในแง่ของความสามารถ แต่พวกเขาใช้ยุทธวิธีการรบแบบกองโจรและล้อมรอบกระสวยยักษ์เหมือนฝูงหมาป่า
ในทางกลับกัน ขีปนาวุธลึกลับของกระสวยยักษ์อาจดูโบราณ แต่พลังของมันนั้นไม่มีอะไรต้องสงสัย เปลวไฟที่เผาไหม้ในอวกาศและหลังจากนั้นก็แข็งตัว รังสีของแสงที่เปล่งออกมาดูเหมือนจะทำให้เกิดการสลายตัวด้วย
หลังจากทำลายกระสวยอวกาศที่ขับเคลื่อนด้วยไอน้ำกว่าร้อยลำ ยานบินที่ดูทรุดโทรมยิ่งดูเหมือนซากเรืออับปางไปแล้วในตอนนี้
ตอนนี้ประกายไฟกระจายไปทุกหนทุกแห่ง ดูเหมือนว่ามันใกล้จะหมดสภาพแล้ว
เฟิงหลินรู้ว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องแสดงตัว
ผู้คนที่อยู่บนกระสวยยักษ์ที่ขาดรุ่งริ่งนั้นเป็นมนุษย์!
ยานบินไอน้ำเหล่านี้ไม่ใช่เทคโนโลยีของมนุษย์ มันเก่าแก่และแปลกประหลาดจนเกินจินตนาการ
เฟิงหลินไม่จำเป็นต้องคิดว่าเขาควรช่วยใคร
(ผู้ที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของฉัน ฉันไม่สามารถเชื่อถือแรงจูงใจของพวกเขาได้!)
“จื่อเซี่ย ปิดการซ่อนตัวและเริ่มการโจมตีแบบเต็มกำลัง!” เฟิงหลินสั่ง
“ได้ค่ะ นายท่าน” จื่อเซี่ยตอบ
ครื่น
สิ่งกีดขวางจากแสงกระจัดกระจายไปตามอวกาศที่บิดเบี้ยว ทันใดนั้นกระสวยอวกาศสีเงินก็ปรากฏตัวขึ้น ตัวยานมันไร้รอยขีดข่วนและเต็มไปด้วยกลิ่นอายของวิทยาศาสตร์ มันเป็นเหมือนดาวสีเงินที่สะท้อนแสงดาว
ทันทีที่มันปรากฏขึ้น ทั้งสองฝ่ายก็สังเกตเห็นได้ทันที
ทั้งคู่ต่างก็ระมัดระวังอย่างมาก
“ปืนใหญ่ควอนตัม บรรจุเต็มกำลัง!” เฟิงหลินสั่ง
ตอนนี้เอง ภูเขาผลไม้พลันยิงลำแสงหนาทึบที่มีลักษณะคล้ายกับดาบยาวพุ่งออกไปด้านนอก
อนุภาคควอนตัมทั้งหมดมีขนาดเล็กกว่าอะตอม พวกมันทำลายศัตรูในระดับที่เล็กกว่าอะตอมได้และทุกที่ที่มันผ่านไปจะมีภาพการทำลายล้างปรากฏขึ้นมาทันที
ดาวเคราะห์ขนาดเล็กที่ขวางทางถูกทำลายทั้งหมด
ด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว ยานบินไอน้ำกว่าห้าสิบลำถูกเปลี่ยนเป็นฝุ่นและกระจายตัวไปในอวกาศรอบนอก
ลำแสงปืนใหญ่ควอนตัมยังคงขยายไปสู่ความลึกของจักรวาล ปลายทางสุดท้ายของมันไม่มีใครรู้
พลังของการยิงครั้งเดียวทำให้เกิดความหวาดกลัวอย่างสุดขีด ทำให้ยานบินไอน้ำสูญเสียกำลังใจ
ยานบินไอน้ำที่เหลือกำลังตกตะลึงและเริ่มหนีไปทุกทิศทุกทาง
บูม บูม บูม!
ปืนใหญ่ยิงไปในอากาศ
ยานบินที่ดูทรุดโทรมเข้าใจว่ายานบินสีเงินที่เพิ่งมาใหม่นี้เป็นมิตรและไม่ใช่ศัตรู มันทำให้ยานบินไอน้ำได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยานบินขนาดยักษ์ย่อมไม่พลาดโอกาสดีๆ
ทันใดนั้นยานบินยักษ์ก็โจมตีอย่างแรงทำให้ยานบินไอน้ำเหล่านั้นถูกทำลายไปสิบลำ ส่วนที่เหลือก็หายไป
…
พลังงานที่เหลืออยู่ 68%!
ปืนใหญ่ควอนตัมปล่อยควันออกมา มันค่อยๆถอยกลับเข้าไปในภูเขาผลไม้
เฟินหลินยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อมองพลังงานที่เหลืออยู่
เขาต้องไม่ทำตัวให้มันเอิกเกริกอีก!
นัดเดียวใช้พลังงานไป 32%
นั่นหมายความว่าพลังงานทั้งหมดที่เก็บไว้ในภูเขาผลไม้จะสามารถยิงได้อีกเพียงสามนัด
โชคดีที่เฟิงหลินบรรลุเป้าหมายของเขาและทำให้ยานบินไอน้ำเหล่านั้นหนีไป
กระสวยขนาดยักษ์ที่ดูทรุดโทรมขยับเข้ามาใกล้และส่งสัญญาณมายานบินของเฟิงหลิน
หลังจากกระสวยของเฟิงหลินตอบรับ ร่างของชายมีกล้ามก็ปรากฏขึ้นจากกระสวยยักษ์ เขามีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ
“คุณเป็นใครกัน?” ชายคนนั้นถาม