Legend of the mythological genes - ตอนที่ 317 นักพันธุศาสตร์ลึกลับ

“ ยาที่อยู่ในสถานะของเหลวกำลังถูกต้มด้วยไฟจริงหรือ? เขาไม่กลัวน้ำยาจะระเหยไปหมดเหรอ?”

“เขากำลังทำอะไร?”

“มันมาเล่นอะไร? อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะเขาล้มเหลวในการปรุงยา เขาจึงต้องการทำลายหลักฐาน?”

…

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังขึ้น

การกระทำที่เป็นเอกลักษณ์ของเฟิงหลิน ทำให้เกิดการเย้ยหยันอย่างรุนแรงจากทุกคน พวกเขาทำราวกับว่ากำลังดูรายการตลก

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินยังคงจดจ่ออยู่กับยา เมื่อถูกไฟเผา ความชื้นก็ค่อย ๆ กลายเป็นไอ แต่ความแรงของยาไม่ได้หายไปเลยมันถูกขังอยู่ภายในพลังวิญญาณของเฟิงหลิน อนุภาคผลึกเริ่มก่อตัวและหลอมรวม กลายเป็นก้อนผลึกสีม่วงปรากฏต่อหน้าทุกคน

“นั่นคืออะไร?”

“ใช้ไฟในการต้มยาแล้วเกิดการตกผลึกขึ้นจริงๆหรอ?”

“ช่างเป็นเทคนิคการปรับแต่งที่น่าทึ่งมาก!”

…

ยาไม่ได้ระเหยอย่างที่พวกเขาบอก กลับกันมันกลายเป็นผลึกแปลกตาแทน

วิธีการที่แปลกประหลาดนี้ทำให้บางคนถอนหายใจด้วยความชื่นชม

แม้แต่ชายหนุ่มผมดำซึ่งหลับตา เขาก็ลืมตาขึ้นมาจ้องมองเฟิงหลิน ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

คชา!

ในช่วงเวลาต่อไปเสียงแตกก็ดังขึ้น

เฟิงลินขมวดคิ้วและรีบโยนผลึก ขณะที่เขาหลบไปด้านข้าง

เสียงดังสนั่น

ทันใดนั้นรอยแตกจำนวนมากก็พลันปรากฏบนผลึกสีม่วง มันแตกสลายและกลายเป็นควัน

พลังที่รุนแรงของยาพุ่งออกมา ผู้คนในบริเวณรอบ ๆ ไม่สามารถหลบหนีได้ทัน และใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาถูกยัดด้วยส่วนผสมของยาจำนวนมหาศาล ซึ่งทำให้เลือดปั่นป่วน

กิน!

ก่อนที่พายุยานี้จะระเบิดอย่างเต็มที่ ชายหนุ่มผมดำก็อ้าปากแล้วสูดหายใจลึก ในทันใดนั้นพลังของยาทั้งหมดก็ถูกกลืนเข้าไปในท้องของเขาเต็มๆ

ร่างกายของชายคนนี้ทำมาจากเหล็กหรือเปล่า?

ยามีพลังมาก แต่เขาก็สามารถต้านทานมันได้!

ในฐานะที่เป็นนักพันธุศาสตร์ ทุกคนมีความชัดเจนเกี่ยวกับผลที่จะตามมา หากการปรุงยาทางพันธุกรรมของพวกเขาล้มเหลว ยาทางพันธุกรรมซึ่งแต่เดิมเป็นประโยชน์อย่างมากต่อมนุษยชาติจะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอน – ผลกระทบจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก การระเบิดของพลังงานยาที่ล้มเหลวอาจทำให้ผู้บ่มเพาะอ่อนแอลงจนเสียชีวิต

แต่ชายหนุ่มผมดำคนนี้กลับกลืนทุกอย่างในอึกเดียว?

“รสชาติไม่เลวความสามารถของยานั้นสูงสุด แต่น่าเศร้าที่มันระเบิดและผลข้างเคียงก็รุนแรงมาก”ชายหนุ่มผมดำพึมพำราวกับว่าเขาเป็นนักวิจารณ์อาหาร

เฟิงหลินละสายตา ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างจำใจ

นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขาเตรียมส่วนผสมสามส่วนก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้เมื่อเขาเห็นว่าผลึกก่อตัวสำเร็จ เขาไม่ได้จงใจเปลี่ยน แต่เนื่องจากความแรงของไฟสูงไป ตัวยาจึงระเบิด

หลังจากไตร่ตรองถึงเหตุผลและเน้นจุดสำคัญ เขาก็เริ่มทดลองอีกครั้ง

แม้ว่าเขาจะล้มเหลว แต่เฟิงหลินก็ไม่ลังเลเลยที่จะลองอีกครั้ง

การเคลื่อนไหวของเขามีระเบียบกว่าครั้งแรก แม้ว่าความพยายามครั้งแรกของเขาจะล้มเหลว แต่ก็ไม่มีใครกล้าดูถูกเขาแล้วครั้งนี้

นักพันธุศาสตร์คนอื่น ๆ ยักไหล่และจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ เริ่มต้นความพยายามของตัวเองเช่นกัน

คนเหล่านี้สามารถเข้าร่วมกับมหาวิทยาลัยสุดยอดกำแพงได้ แม้ว่าฐานการบ่มเพาะของทุกคนจะยังไม่สูง แต่เทคนิคในการปรุงยาของพวกเขาก็ไม่แย่อย่างแน่นอน เทคนิคการปรับแต่งยาทุกประเภทได้ถูกนำมาแสดงที่นี่

การควบคุมการไหลของน้ำ การควบคุมความเข้มของไฟ การควบคุมองค์ประกอบ …

ไฟพันธุกรรมจำนวนมากลอยอยู่ในอากาศ นักพันธุศาสตร์ปรับแต่งยาของพวกเขา อุณหภูมิ, การไหลของอากาศ, ความแรงของยา … การเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งปรากฏขึ้นในขณะนี้

การปรุงยาจำนวนมาก

เฟิงหลินจ้องมองที่ฉากนี้

เมื่อเห็นการใช้เทคนิคการปรับแต่งยาในระดับที่สูงขึ้น เฟิงหลินก็เข้าใจว่านอกเหนือจากการทำความเข้าใจธรรมชาติพื้นฐานของยีนในตำนานแล้ว พวกเขาต้องควบคุมประสิทธิภาพของส่วนผสมยา เพื่อควบคุมประสิทธิภาพที่จะเกิดกับร่างกายมนุษย์ ในเวลาเดียวกันพวกเขาต้องใส่พลังทางพันธุกรรมของตัวเองเข้าไปในยาทางพันธุกรรม นี่คือลักษณะพื้นฐานของการทำยาที่ยอดเยี่ยม

หากไม่ หากคนแค่พึ่งพาเคมีและพยายามผสมยาเข้าด้วยกัน ไม่ว่าเทคนิคของมนุษย์จะล้ำเลิศแค่ไหน พวกเขาจะเหนือกว่าเครื่องจักรได้ยังไง?

พลังทางพันธุกรรมเป็นสิ่งที่มนุษย์เท่านั้นถึงจะมี

ในขณะนี้การปรับแต่งยาของเขาใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เฟิงหลินไม่ได้คิดอะไรเพิ่มเติมและเริ่มตกผลึกยา

ภายใต้การชักนำของพลังวิญญาณ ไฟปล่อยคลื่นความร้อนระเหยยาเหลว จากนั้นอนุภาคยาก็ค่อยๆผสานกัน เปลี่ยนจากของเหลวเป็นของแข็ง

ผลึกสีม่วงค่อยๆก่อตัวขึ้น

เมื่อเห็นการก่อตัวของผลึก เฟิงหลินก็ดึงพลังงานวิญญาณของเขาทันทีเพื่อควบคุมไฟ จากนั้นความรู้สึกทางวิญญาณของเขาก็เข้าสู่โลกจุลทรรศน์ มองเห็นโครงสร้างผลึก ในขณะที่เขาควบคุมอนุภาคเพื่อทำให้มันแข็งตัวจากสถานะของเหลว

แต่ช่วงเวลาที่พลังงานไฟผันผวน อนุภาคก็ไม่สามารถมารวมตัวกันได้ทันที ทำให้เกิดความไม่เสถียรกับโครงสร้างและเกิดเป็นห่วงโซ่ที่ล้มเหลว

เฟิงหลินลืมตาขึ้นและพบว่าผลึกสีม่วงตอนนี้ละลายเป็นอนุภาคทราย ประสิทธิภาพของมันก็สูญเปล่าไปหมด

“ล้มเหลวอีกครั้ง”

“ชายหนุ่มคนนี้คิดมากเกินไป เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คุ้นเคยกับเทคนิคนี้ แต่เขาก็ยังใช้มันและสิ้นเปลืองทรัพยากร!”

“เขาจะต้องบ้าจนคิดว่าเขาอาจจะประสบความสำเร็จและได้รับคุณสมบัติในการทำภารกิจ”

…

นักพันธุศาสตร์บางคนให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวของเฟิงหลิน เมื่อพวกเขาเห็นสิ่งนี้พวกเขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกและส่ายหัว

การกลั่นยาเป็นเทคนิคที่ต้องการความแม่นยำอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ หากเกิดข้อผิดพลาดไม่ว่าข้อผิดพลาดจะเล็กเพียงใดผลลัพธ์อาจแตกต่างกันอย่างมาก

หากไฟแรงเกินไปจะไม่ได้ผล หากอุณหภูมิไม่สูงพอมันก็ยากมากที่จะตกผลึก

เฟิงหลินเงียบบอกตัวเองให้ตั้งสติ

อย่างไรก็ตามเขาเข้าใจปัญหาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะล้มเหลวถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาไม่มั่นใจ

เฟิงหลินลองอีกครั้ง

เขาไม่ได้หยุดพักหรือควบคุมการหายใจของเขา แต่เริ่มพยายามอีกครั้งตอนนี้วิธีปฏิบัติของเขาเหมือนผีเสื้อที่ทอแสงผ่านดอกไม้ ขณะที่เขาเคลื่อนไหวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น สร้างภาพตามหลังมือของเขา

อีกไม่นานครึ่งแรกของยาเซียนเทียนก็เสร็จสมบูรณ์ เฟินหลินก็เริ่มลองการตกผลึกอีกครั้ง

“นั่นเขาเริ่มใหม่อีกแล้ว?”

“คนๆนี้ไม่รู้จะยอมแพ้เมื่อไหร่”

“มันก็ดีเหมือนกัน เราจะได้มีคู่แข่งน้อยลงหนึ่งราย”

…

ผู้คนในบริเวณใกล้เคียงดูเบิกบานเต็มที่

อย่างไรก็ตามเฟิงหลินก็ยืนกรานไม่สนใจเช่นเคย

คราวนี้วิธีการของเขามั่นคงและพิถีพิถันกว่าเดิม

พลังวิญญาณของเขาถูกปลดปล่อยให้อยู่ในระดับสูงสุด สร้างเครือข่ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดครอบคลุมทุกอย่างด้วยการรับรู้ของเขา

การเปลี่ยนแปลงทุกนาทีที่เกิดขึ้นกับส่วนผสมของยา เขารับรู้อย่างเต็มที่ และโครงสร้างภายในของส่วนผสมก็ก่อให้เกิดโครงสร้างผลึกที่แน่นมาก ซึ่งทำให้เกิดเป็นความงามทางเรขาคณิต

ผลึกขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนถูกรวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็นผลึกสีม่วงแวววาวทันที ดึงดูดทุกสายตาทุกคู่ มันเปล่งประกายราวกับเพชร

เฟิงหลินประสบความสำเร็จ!

เมื่อนักพันธุศาสตร์เหล่านั้นเห็นฉากนี้ พวกเขาทั้งหมดก็วุ่นวายทันที

(ยาตกผลึกได้?ที่จุดไหน?เขาทำสิ่งนี้ให้สำเร็จจริงๆ?)

…

ภายใต้ความวิตกกังวลของฝูงชน เฟิงหลินก็นำผลึกมาให้ชายหนุ่มผมสีดำ “ผมปรุงยาเซียนเทียนเสร็จแล้ว”

“นี่คือยา?” ชายหนุ่มผมสีดำรับมันไป เขามองไปที่ผลึกที่มีลักษณะคล้ายเพชรและพูดไม่ออก

ยา …ชัดเจนว่ายาต้องเป็นของเหลว นี่จะเป็นยาได้ยังไง?

เขาอดงงไม่ได้และถามว่า “คุณใช้เทคนิคแบบไหน?”

“นี่คือเทคนิคส่วนตัว, เทคนิคการสร้างยาผลึก (การสร้างยาตกผลึก) ซึ่งสามารถรวบรวมแก่นของยาและเพิ่มประสิทธิภาพของยา” เฟิงหลินตอบอย่างใจเย็น

“เพิ่มพลังยาให้มากสุด? คำพูดเกินจริงนั่นมันอะไรกัน!” ชายหนุ่มผมสีดำหัวเราะเยาะ “ฉันจะลองดู”

เขาโยนยาเซียนเทียนที่ตกผลึกเข้าในปาก ราวกับว่ากินถั่วลิสง

แต่เกือบจะทันทีหลังจากนั้น ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไป

ผิวของเขาแดงก่ำ ดูเหมือนจะมีคลื่นลาวาไหลผ่านเลือดและปล่อยไอน้ำออกมา เขาเป็นเหมือนห่านอ้วนที่ถูกไฟไหม้!