Legend of the mythological genes - ตอนที่ 465 ออกเดินทางอีกครั้ง

ตอนที่ 465 ออกเดินทางอีกครั้ง

ดาวเคราะห์เส้าหลิน?

เฟิงหลินอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เขารอข้อมูลต่อไปอย่างเงียบ ๆ

จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์พูดต่ออย่างช้าๆ ดาวเคราะห์เส้าหลินเป็นเต๋าต่อสู้ทรงพลังที่มีต้นกําเนิดมาจากโลกโบราณ พวกเขามีชื่อเสียงที่งดงาม มักพูดกันว่า “วิชาการต่อสู้ทั้งหมดในโลกมีต้นกําเนิดจากเส้าหลิน” ตอนนี้พวกมันอยู่ในอาณาเขตของสาธารณรัฐดาวฮั่วเซียและยึดครองดาวเคราะห์สิ่งมีชีวิต ดาวเคราะห์ดวงนี้มีชื่อว่าดาวเคราะห์เส้าหลินและเป็นดาวเคราะห์ที่มหัศจรรย์มาก แรงโน้มถ่วงที่นั่นมากกว่า 100 เท่าเมื่อเทียบกับปกติ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าใครก็ตามที่เข้ามาต้องทนต่อแรงกดดันที่เกิดจากน้ำหนักตัว 100 เท่า มีวิชาการต่อสู้โบราณอยู่มากมาย มีการวิจัยและพัฒนาวิชาการต่อสู้ทางพันธุกรรมที่นั่น มีการพูดกันว่าสําหรับการประชุมสุดยอดผู้บ่มเพาะนี้ ดาวเคราะห์เส้าหลินจะนําวิชาการต่อสู้ทางพันธุกรรมที่เป็นความลับออกมาเป็นรางวัลสําหรับผู้ที่ได้รับอันดับสูงสุด ความรุนแรงของการแข่งขันในครั้งนี้เกินกว่าที่ผ่านมา นายต้องไม่ดูถูกใครที่นั่น”

นี่ไม่เลวเลย!

เฟิงหลินพยักหน้าเบา ๆ ไม่ตกใจ แต่มีความสุขแทน

ยิ่งการประชุมมีขนาดใหญ่การแข่งขันก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้นและสิ่งที่ท้าทายก็จะยิ่งมากขึ้น ส่งผลให้มีความเป็นไปได้สูงขึ้นที่ศักยภาพของทุกคนจะถูกกระตุ้น

การบ่มเพาะยีนในตํานานและการพัฒนาในขอบเขตการบ่มเพาะตามลําดับนั้นเกือบจะเป็นสิ่งที่แน่นอน

ต้องการที่จะบุกเข้าไปในอาณาจักรอื่นในสามเดือนอย่างงั้นหรอ? ส่วนใหญ่แล้วถ้าสิ่งนี้ถูกเผยแพร่ออกไปหลายคนอาจจะบอกว่าเขาเป็นคนโง่ที่หลงอยู่ในจินตนาการ

แต่สําหรับเฟิงหลินเขากําลังจะเปลี่ยนสิ่งนั้นให้เป็นการกระทํา

เขาครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และถามโดยไม่สมัครใจว่า “ศิษย์พี่จ้าวเจดีย์แตะสวรรค์ที่จี หยงเหินเคยผ่านการทดสอบคือที่ไหน? นั่นเป็นสถานที่ที่แม้แต่ตงหวงไทกซึ่งอยู่ในอันดับแปดของการจัดอันดับสวรรค์ก็ยังไม่ผ่านหรอ?”

” ทําไม? นายต้องการเข้าไปที่นั่นหรอ?” จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์มองเห็นความตั้งใจของเขาเพียงแวบเดียว

เฟิงหลินไม่ได้ปิดบังและพยักหน้า “ สถานที่แห่งนั้นดูเหมือนจะเป็นหอบ่มเพาะที่ไม่ค่อยมีใครพบเห็น มันไม่เลวเลย!”

“ มันแค่ “ไม่เลว” ที่ไหนล่ะ” จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์พูดเบา ๆ “ ชื่อเต็มของเจดีย์แตะสวรรค์เป็นที่รู้จักกันในชื่อหอคอยสวรรค์นครดวงดาว จากบันทึกในตํานานที่ขุดค้นพบกล่าวว่าในยุคโบราณมีเจดีย์แตะสวรรค์ที่สามารถเชื่อมต่อโลกมนุษย์กับโลกแห่งเทพได้ในเวลานั้นสิ่งมีชีวิต เทพและมนุษย์อยู่ร่วมผสมกันจนถึงจุดที่มนุษย์สูญเสียความเคารพต่อเทพไป เทพเจ้าทําลายเจดีย์สวรรค์ด้วยความโกรธ นับจากนั้นเทพก็อยู่ในโลกเทพ, มนุษย์ก็อยู่ในโลกมนุษย์ เจดีย์แตะสวรรค์ก็ได้รับการออกแบบโดยอ้างอิงจากหอคอยสวรรค์นครดวงดาวที่แท้จริง สร้างจากเทคโนโลยีล่าสุดและมีกว่าหมื่นชั้น แต่ละชั้นนั้นกว้างใหญ่พอ ๆ กับเมืองมนุษย์ สามารถพบชนชั้นสูงจากทั่วทุกสถานที่ได้ที่นั่น ในแต่ละระดับจะมีตัวตนระดับ “บอส” ที่เป็นผู้บ่มเพาะพลังหรืออสูรในอวกาศ หอคอยนี้เทียบเท่ากับวงแหวนต่อสู้ที่มีความสูงหนึ่งหมื่นชั้น จะมีการต่อสู้ที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องที่นั่น แต่ตราบใดที่นายผ่านแต่ละชั้นก็จะได้รับรางวัลและร่ำรวยมากขึ้นเรื่อย ๆ สิ่งนี้ทําให้ผู้บ่มเพาะจํานวนนับไม่ถ้วนติดใจสถานที่แห่งนี้เพราะพวกเขาจะได้ท้าทายตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า นายต้องรู้ว่าประชากรมนุษย์ในจักรวาลมีจํานวนเป็นล้านล้าน แม้ว่าจะมีผู้บ่มเพาะเพียงคนเดียวจากมนุษย์หลายหมื่นคน แต่ก็มีผู้บ่มเพาะจํานวนมากอยู่ดี ทุกคนไม่สามารถผ่านการทดสอบที่นั่นได้ เจดีย์สู่สวรรค์จะเป็นสนามรบที่ยุติธรรมสําหรับผู้บ่มเพาะจํานวนนับไม่ถ้วน ทําให้พวกเขามีโอกาสได้รับทรัพยากรการบ่มเพาะและทําให้ผู้คนนับไม่ถ้วนต้องดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งเพื่อโอกาสนั้น!”

“ เปิดให้ทุกคน? นั่นดูน่าสนใจ” เฟิงหลินรู้สึกสนใจมากขึ้นหลังจากที่เขาได้ยินสิ่งนั้น

ทุกขั้นตอนของเจดีย์แตะสวรรค์ย่อมมีอุปสรรค ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาจะเป็นผู้บ่มเพาะที่มีพลังมหาศาลในขอบเขตการบ่มเพาะเดียวกัน หากสามารถผ่านด่านทั้งหนึ่งหมื่นชั้นในเจดีย์แตะสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์ การพัฒนาฐานการบ่มเพาะก็แทบจะประเมินค่าไม่ได้

นี่คือสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่หรอ?

จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว เธอไม่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมเขาอีกต่อไป

สําหรับผู้บ่มเพาะทุกคนที่สามารถเข้าถึงระดับสูงในการบ่มเพาะตํานานของพวกเขา พวกเขาอาจจะมีความสามารถหรือหาตัวจับยาก ไม่ว่าในกรณีใดก็มีจุดที่คล้ายกันที่ทุกคนใช้ร่วมกัน ความเชื่อมั่นและความมั่นใจของพวกเขา เจตจํานงของพวกเขาไม่ใช่สิ่งที่ปัจจัยภายนอกจะสั่นคลอนได้ง่ายๆ

แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังเตือนเขาอย่างเคร่งขรึม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงนี้ นายต้องมารวมตัวกับพวกเราที่ดาวเคราะห์เส้าหลินในอีกสามเดือนข้างหน้า!”

“ นั้นแน่นอนอยู่แล้ว” เฟิงหลินพยักหน้ารับทราบ

“ โอ้ นายมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ?” จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ถามโดยไม่เต็มใจว่า “ นายต้องรู้ว่าเจดีย์แตะสวรรค์ไม่ใช่หอบ่มเพาะธรรมดา หากนายต้องการที่จะผ่านมัน นายจะต้องมีพื้นฐานการบ่มเพาะในระดับผู้ใช้ยีนระดับสูงเป็นอย่างน้อยที่สุด แม้แต่จีหยงเหินก็ใช้ต้องเวลาหนึ่งปีเพื่อผ่านมันมาแต่นายมีเวลาแค่สามเดือน เวลาน้อยเกินไป!”

แต่เฟิงหลินเพียงแค่ยิ้ม เขาไม่ตอบกลับและถามคําถามอีกว่า “ ถ้าผมไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง”

ความมั่นใจเต็มเปี่ยมในหัวใจของเขา เขาไม่เคยสงสัยในการเติบโตด้านความแข็งแกร่งของเขาจากเส้นทางในตํานานของซุนหงอคง

ต่อสู้เพื่อชัยชนะ!

ท้ายที่สุดจะไม่มีใครเทียบเขาได้ในโลก!

เส้นทางของซุนหงอคงไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ จะมาเดินก็ได้ เส้นทางสู่วิวัฒนาการคือเส้นทางแห่งการเข่นฆ่าและการต่อสู้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ในการต่อสู้แต่ละครั้ง!

ตราบใดที่เขามีโอกาสเพียงพอ เฟิงหลินมั่นใจว่าเขาจะสามารถเติบโตไปสู่จุดสูงสุด ซึ่งคนอื่น ๆ ต้องมองขึ้นไปหาเขาภายในเวลาอันสั้น

“ อยากลองดู?” จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์พึมพําและเข้าใจเจตนาของเฟิงหลิน จากนั้นเธอก็ยิ้ม “ นั่นก็เป็นเรื่องจริงสําหรับพวกเราผู้บ่มเพาะ เราจะขี้ขลาดได้ยังไง? “

เธอจึงเปลี่ยนหัวข้อ “ ศิษย์น้องเฟิง หลังจากชมรมสะสมตํานานของนายเป็นที่นิยม เป็นไปได้ไหมที่จะจัดหายาให้ฉัน ?สมาคมการต่อสู้เป็นสังคมแห่งลัทธิเต๋และการบริโภคยาเม็ดของเราก็เยอะมากจนน่าตกใจ ตอนนี้นายถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงแต่งที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพง ผลิตภัณฑ์ของนายได้รับการรับประกันคุณภาพและความต้องการสินค้านั้นสูงกว่าสินค้าที่มีมาก เราไม่สามารถซื้อยาของนายจากโลกภายนอกได้ ดังนั้นฉันสามารถมาซื้อกับนายเองได้ไหม? ”

“ เนื่องจากศิษย์พี่จ้าวขอ นี้จึงไม่เป็นปัญหา” หลังจากต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาเป็นเวลานาน ทั้งคู่ก็เข้าใจกันอย่างลึกซึ้ง โดยปกติแล้วเฟิงหลินจะไม่ปฏิเสธคําขอเล็ก ๆ เช่นนี้แน่นแน

เขาส่งรายชื่อไป “ นี่คือชื่อของยาเม็ดที่ผมสามารถให้ได้ ศิษย์พี่ช่วยดู”

ในรายการมีการระบุชื่อยาและราคาไว้อย่างชัดเจน

แม้แต่พี่น้องร่วมสายเลือดก็ต้องมีการจ่ายเงินทุกอย่างอย่างชัดเจน

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับจ้าวเยวี่ยเอ้อร์จะสนิทสนม แต่ก็ยังดีที่สุดหากมีการพิจารณาสิ่งต่างๆอย่างชัดเจน

เราต้องไม่สูญเสียหลักการของตัวเอง

เราต้องรู้ว่าสําหรับยาเม็ดยาในปัจจุบันที่เขาสามารถจัดหาได้นั้น ในความต้องการของมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงมักจะเกินกว่านั้นเสมอ เป็นเพราะเขาเห็นแก่จ้าวเยวียเอ๋อร์เขาจะขายให้เธอ ถ้าเขาให้ยาชุดนี้กับเธอฟรีนั่นคงไม่เหมาะสม

มันคงไม่ดีสําหรับพวกเขา

จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์เป็นคนฉลาดและเข้าใจตรรกะนี้อย่างชัดเจน เธอพยักหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในรายการ “ฉันขอ เม็ดยาผลึกร่วงโรยร้อยเม็ด, เม็ดยาเสือมังกรยี่สิบเม็ด เม็ดยาไม่มอดดับสิบเม็ด…”

ตามคาด เธอรวยมากจริงๆจึงสามารถสั่งซื้อยาล้ำค่าเช่นนี้ได้หลายสิบเม็ด ยอดธุรกรรมล้นหลามอย่างแท้จริง

จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ไม่ลังเลและโอนคะแนนสะสม 12 ล้านแต้มไปให้เขา

ยาเหล่านี้อยู่ในคลังของเขาทั้งหมด เฟิงหลินส่งยาให้เธอ

การทําธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์อย่างราบรื่นเช่นนั้น

“ ฉันจะพบไปนายที่ดาวเคราะห์เส้าหลินสามเดือนต่อจากนี้ ฉันหวังว่านายจะสามารถผ่านทุกชั้นของเจดีย์แตะสวรรค์ได้สําเร็จ!” จ้าวเยวี่ยเอ๋อร์ยิ้ม

ในระหว่างการต่อสู้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่สามารถตัดสินชีวิตและความตายได้ในพริบตา เธอได้ทําลายคอขวดและเข้าสู่อาณาจักรผู้ใช้ยีนระดับสูงแล้ว ดังนั้นจึงไม่จําเป็นที่เธอจะต้องมุ่งหน้าไปยังเจดีย์แตะสวรรค์

ถึงกระนั้นเธอก็สงสัยมากว่า เฟิงหลินจะปีนขึ้นไปได้ไกลแค่ไหน ถ้าเขาเข้าไปในเจดีย์แตะสวรรค์?

ทั้งหมดนี้จะทราบในอีกสามเดือนข้างหน้า

การฉายภาพโฮโลแกรมหายไป เฟิงหลินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มวุ่น

อันดับแรกเขาส่งยานบินภูเขาผลไม้ไปอัพเกรดและในเวลาไม่กี่นาทีเขาใช้จ่ายไปเกือบ 10 ล้านแต้ม

ผ่านเครือข่ายดาราเขาได้พบกับ เจดีย์แตะสวรรค์แล้ว มันอยู่ไกลจากเขามากตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก เขาต้องข้ามระยะทางมากมายเดินทางไปทั่วทั้งกาแล็กซี่นี้

ด้วยความเร็วดั้งเดิมของกระสวยอวกาศของเขา มันเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะข้ามไปได้ไกลขนาดนั้น

ด้วยประสิทธิภาพของเทคโนโลยีระหว่างดวงดาว เฟิงหลินต้องรอเพียงวันเดียวเพื่อติดตั้งการอัปเกรดทั้งหมด รูปลักษณ์ของกระสวยอวกาศของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ด้านข้างของกระสวยสีเงินมีปีกซึ่งเพิ่มเครื่องยิงไอพ่นไอออนอันทรงพลัง ที่ช่วยให้สามารถเร่งความเร็วได้ถึง3ของความเร็วแสงย่อยแม้ในเวลาอวกาศปกติ

“ ภูเขาผลไม้เตรียมออกเดินทาง” เฟิงหลินเตรียมการ หลังจากลงทะเบียนข้อมูลของเขาในมหาวิทยาลัยสุดยอดกําแพงแล้ว เขาก็นําเครื่องออกทันที

กระสวยอวกาศใหม่เอี่ยม ต่อไปเขาจะออกเดินทางไกล

กระสวยอวกาศสีเงินเหมือนสายฟ้าสีเงินเปิดรูหนอนขณะที่มันพุ่งไปที่ขอบฟ้า ระลอกมิติเวลาถูกสร้างขึ้นจากความเร็วของกระสวย ระลอกคลื่นเหล่านี้ไม่ได้หายไปแม้เวลาจะผ่านไปนาน