ระบบสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่ง - ตอนที่ 162
SB:ตอนที่ 162 ซากหุ่นเชิดแห้งๆ
ยิ่งเดินไปมากเท่าไหร่ ลู่หยางก็ยิ่งรู้สึกว่านี่คือเขาวงกตโบราณที่มีเส้นทางตัดกันที่ผู้คนไม่สามารถเข้าใจได้ ในขณะที่เขาเดิน แล้วเขาก็กลับมายังตำแหน่งเดิม ราวกับว่าเขาเดินไปมาในสถานที่เดิมตลอดเวลา
“ ให้ตายเถอะ ข้าหลงทางจริงๆเหรอนี่ ช่างน่าเวียนหัวอะไรอย่างนี้” ลู่หยางหยุดเดินยืนอยู่ตรงทางแยก เขาก่นด่าหน้าตาพูดไม่ออก
“ โชคยังดีที่ข้าทิ้งเข็มสีเงินไว้ตรงมุมหนึ่งเมื่อข้ามาที่นี่ ไม่อย่างนั้น ข้าคงไม่รู้ว่าตัวเองจะไปทางไหน “
“ เขาวงกตนี้ก็สวยดี คืนพรุ่งนี้ ถ้าคนพวกนั้นติดอยู่ในนั้น ข้าก็สามารถลอบสังหารอย่างลับๆแบบคาดไม่ถึงได้สิ”
“ ดูเหมือนว่าข้าจะต้องรีบแล้ว ไม่อย่างนั้น ข้าอาจจะไม่สามารถคุ้นเคยกับสถานที่นี้ได้ทันในคืนวันพรุ่งนี้ ” หลังจากพูดจบ ลู่หยางก็ไม่โอ้เอ้และยังคงเดินต่อไปตามเส้นทางหินสีเหลือง เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และในช่วงเวลาสั้น ๆก็ทำความคุ้นเคยกับสิ่งรอบตัวและจดจำมันไว้ในใจ
ลู่หยางเก็บเข็มเงินมากว่าเจ็ดสิบเข็มที่กับดักก่อนหน้านี้ และจะทิ้งเข็มไว้เป็นเครื่องหมายที่ทางแยกทุกจุดบนถนน ถ้าเขาไม่พบทางแยกใหม่บนถนน นั่นก็หมายความว่านี่คือเส้นทางใหม่
อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนของสุสานโบราณแห่งนี้ยังเกินจินตนาการของลู่หยางมาก เขาใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงที่นี่แล้ว แต่เขาก็ยังติดอยู่บนเส้นทางเดิมเหมือนเคย
เมื่อลู่หยางเห็นประตูหินเป็นครั้งแรก เขาค่อนข้างพอใจกับการออกแบบของประตูหินและรู้สึกว่ามันเป็นภาพที่น่าพึงพอใจที่ได้เห็น แต่ในขณะนี้นั้น ลู่หยางกลับพูดไม่ออก และรู้สึกรำคาญเมื่อเห็นประตูหินเจ็ดสี
เพราะประตูหินเจ็ดสีเหล่านี้ทำให้เขาเดินวนไปรอบ ๆ ได้นับไม่ถ้วน ในที่สุดเขาก็ยังกลับไปที่จุดเริ่มต้น
“ บ้าจริง ข้าจะต้องถูกขังอยู่ที่นี่เหรอ? หากเพียงแต่พลังวิญญาณแข็งแกร่งขึ้นอีกเล็กน้อย มันก็จะสามารถครอบคลุมเขาวงกตทั้งหมดได้ แล้วข้าก็ไม่ต้องทำงานหนักขนาดนี้ ข้าจะสามารถสัมผัสได้โดยตรงถึงสภาพแวดล้อมของเขาวงกตนี้ได้ ” ลู่หยางมองไปที่ประตูหินเจ็ดสีตรงหน้าขณะที่เขาเดินผ่านมา
แม้ว่าลู่หยางจะยังคงเดินวนซ้ำเส้นทางเดิมที่เขาใช้มาก่อนหน้านี้ หากเขาต้องการกลับตอนนี้ เขาสามารถกลับไปที่ประตูหินเจ็ดสีบานแรกที่เขาเจอได้เสมอ เพราะทุกครั้งที่เขาเดินผ่านทางแยกในถนนเขาจะไม่เพียงแต่วางเข็มเงินไว้ที่มุม แต่เขายังชี้ปลายเข็มเงินไปในทิศทางที่เขามา ตราบเท่าที่เขาเห็นทิศทางที่เข็มเงินชี้เขาก็สามารถกลับไปในทิศทางนั้นได้
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เขาไม่ได้หลงทางในเขาวงกตสุสานโบราณนี้โดยสิ้นเชิง เขาแค่ไม่สามารถหาทางไปข้างหน้าต่อได้ ยังคงมีทางหนีและเขาได้เตรียมการมานานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะหันหลังกลับ
แม้ว่าเขาจะทำอะไรไม่ถูกกับความซับซ้อนของสุสานโบราณ แต่ลู่หยางก็ยังคงฝืนเดินต่อไปแม้ว่าจะมีความเป็นไปได้ที่เขาจะหลงทางอีกครั้งก็ตาม
“…”
หลายชั่วโมงต่อมา ในที่สุดลู่หยางก็ค้นพบเส้นทางทั้งหมดได้ ระหว่างทางลู่หยางวิ่งด้วยความเร็วสูงมาก และแน่นอน ในขณะที่วิ่งเขาก็ระมัดระวังสิ่งรอบข้างอย่างมากด้วย
เขาพบกับกับดักเช่นเดียวกับเข็มเงินมาก่อน แต่ลู่หยางยังคงเดินหน้าต่อไปด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก เข็มเงินแทงเข้าไปที่ด้านข้างของกำแพงหินและไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับลู่หยาง
ตอนนี้ลู่หยางมีเข็มเงินหลายร้อยเข็มอยู่กับเขาแล้ว ยิ่งมีมากก็ยิ่งสนุก เขาไม่คิดว่าเขาจะมีเข็มเงินมากเกินไป วัสดุของเข็มเหล่านี้แข็งมาก ในอนาคตเมื่อเขาได้พบศัตรูที่ยากลำบาก เข็มเหล่านี้อาจให้ผลที่ไม่อาจจินตนาการได้
หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ลู่หยางก็ผ่านอุโมงค์ส่วนใหญ่ไปแล้ว และเขาก็เข้าใจสภาพแวดล้อมเป็นอย่างดี ดังนั้นตอนนี้ก็เป็นวันที่สองแล้วนับตั้งแต่ที่ลู่หยางและเสี่ยวหลิงเข้าสู่สุสานโบราณ ลู่หยางต้องเดินผ่านพื้นที่ที่เหลือที่เขาไม่ได้เดินผ่านในเวลาที่เหลือ จากนั้นเขาต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่ง มิฉะนั้นหากเขาไม่มีความแข็งแกร่งเหลืออยู่ในระหว่างการต่อสู้คืนนี้ เขาจะสามารถช่วยปู่ของเสี่ยวหลิงได้อย่างไร?
ตอนนี้ ลู่หยางที่คุ้นเคยกับทางเดินส่วนใหญ่ได้มาถึงห้องโถงที่คล้ายกับที่เสี่ยวหลิงพาเขามาก่อนหน้านี้โดยไม่รู้ตัว เพียงแต่ว่าห้องโถงนี้มีขนาดเล็กกว่าห้องที่เสี่ยวหลิงพาเขามาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังใหญ่โตและกว้างขวางมาก
ลู่หยางยกแสงในมือขึ้นสูงและสแกนห้องโถงทั้งหมด ทันใดนั้น วัตถุตรงหน้าเขาก็ทำให้ลู่หยางสะดุ้ง
“ฮู่ว!” แสงจากเครื่องมือส่องสว่างของลู่หยางส่องไปที่มุมหนึ่งของห้องโถงใหญ่ซึ่งมีคนผิวดำสนิทคนหนึ่งยืนอยู่ เหมือนกับคนตาย ไม่ใช่ น่าจะเป็นคนตาย
ไม่มีสัญญาณที่มีชีวิตใดๆบนร่างกายที่เหี่ยวเฉาของเขา ร่างกายผอมแห้งของเขาเน่าเปื่อยไปแล้ว และมีดวงตาที่ดูกลวงโบ๋ เห็นได้ชัดว่าคน ๆ นี้ตายไปแล้ว บางทีเรียกว่า หุ่นเชิด เพื่ออธิบายเขาจะเหมาะสมกว่า
“ก็มันเป็นหุ่นเชิดจริงๆนี่! กล่าวกันว่า หุ่นเชิดสามารถขัดเกลาได้โดยศพนั้นเป็นระดับเหลืองเท่านั้น ถ้าอย่างนั้นเจ้าของหุ่นเชิดตัวนี้อย่างน้อยก็ต้องเป็นยอดฝีมือระดับเหลืองตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่!”
เมื่อเห็นศพที่จู่จู่ก็ส่งเสียงคำรามขึ้นมา ใบหน้าของลู่หยางเต็มไปด้วยความตกใจแล้วเขาก็พึมพำกับตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาเคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับหุ่นเชิดมาบ้าง ดังนั้นเขาจึงเข้าใจเรื่องนี้อยู่บ้าง
แม้ว่าเขาจะเคยอ่านเกี่ยวกับหุ่นเชิดมาก่อน แต่ในตอนนี้ลู่หยางยังคงตกใจมากที่ได้เห็นด้วยตาของเขาเอง เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับหุ่นเชิดที่นี่ และไม่รู้ว่าเขาควรจะเรียกตัวเองว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่
“โฮว!”
“อะไรนี่ ? มีมากกว่าหนึ่งตัว! “
ไม่ไกลจากตรงนั้นนัก ซากศพส่งเสียงคำราม และเสียงคำรามที่คล้ายๆกันก็ดังออกมาจากส่วนอื่น ๆ ของห้องโถง ดูเหมือนว่าจะมีหุ่นเชิดมากกว่าหนึ่งตัวในห้องโถงนี้
“มันลำบากยุ่งยากจริงๆ อย่างน้อยก็เป็นหุ่นเชิดที่ขัดเกลามาจากซากศพของระดับเหลือง ข้าไม่รู้ว่าพวกมันมีความแข็งแกร่งตั้งแต่ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าคงจะต้องตายจริงๆ!” เมื่อเห็นหุ่นเชิดมัมมี่กำลังใกล้เข้ามา ลู่หยางก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่ง
“ ช่างมันเถอะ พวกเรามันล้วนเป็นคนตายแล้ว ข้าไม่เชื่อว่าพวกเจ้าจะสามารถอยู่รอดจริงๆ! ” ลู่หยางวางแผนที่จะทดสอบความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดมัมมี่เหล่านี้
ชูวว์! ชูวว์! ชูวว์!
“โฮว!”
ภายใต้แสงส่องสว่างโดยลู่หยาง เขาสามารถมองเห็นหุ่นเชิดมัมมี่เจ็ดตัวที่ดูน่ากลัวกำลังเข้ามาใกล้เขาได้ชัดเจน
แม้ว่าหุ่นเชิดมัมมี่ทั้งเจ็ดจะตายไปแล้ว แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของพวกมันก็ไม่ต่างจากคนที่มีชีวิต เพียงแค่การเคลื่อนไหวของพวกมันดูแข็งกระด้างและน่าเกลียดเล็กน้อย แต่ลู่หยางไม่ได้สนใจเรื่องนั้น
ชูวว์! ชูวว์! ชูวว์! ดาบสังหารมังกรวาดลำแสงสามเส้นออกมา ความเร็วของมันเร็วมากและพุ่งตรงไปที่หัวของหุ่นเชิดมัมมี่ทั้งสาม
แต่ทว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปทำให้ลู่หยางพูดไม่ออก หัวของหุ่นเชิดมัมมี่ทั้งสามแข็งราวกับเหล็ก ราวกับว่าดาบสังหารมังกรได้แทงเข้าไปในผนังทองแดง นอกเหนือจากเสียงของโลหะกระทบกันแล้ว ผิวของพวกมันไม่แตกหักเลย
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ลู่หยางตกตะลึง เขาไม่เคยคิดเลยว่าร่างกายของคนตายเหล่านี้จะแข็งขนาดนี้หลังจากที่ได้รับการขัดเกลาให้เป็นหุ่นเชิด และแม้แต่รัศมีของดาบที่สร้างขึ้นจากพลังงานวิญญาณก็ไม่สามารถทะลุศีรษะของพวกมันได้
จากสิ่งนี้ทำให้เห็นได้ว่าความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดมัมมี่เหล่านี้ไม่ได้ต่ำ ลู่หยางอาจจะต้องเผชิญกับปัญหาใหญ่เสียแล้ว
“มันยากมาก แม้แต่ดาบสังหารมังกรก็ไม่สามารถทำร้ายคนตายเหล่านี้ได้เลย ดูเหมือนว่าข้ายังต้องใช้ยุทธวิธีที่ทรงพลังบางอย่าง ไม่งั้นจะเป็นอันตรายได้”
“พัฟฟ์!” แต่ในเวลานี้ หุ่นเชิดมัมมี่ได้เหวี่ยงหมัดหนักของมันไปที่ลู่หยางซึ่งก็กำลังพุ่งเข้าหามันเช่นกัน ด้วยพลังที่น่าอัศจรรย์ แม้ว่าจะเป็นผู้คุมอสูรระดับสูงที่กำลังจะเผชิญหน้ากับมัน เขาก็จะถูกกระทกและระเบิดด้วยกำปั้นเหล็กที่หนักหน่วงและตายที่ตรงจุดนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหุ่นเชิดมัมมี่จะมีพลังโจมตีที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็เป็นเพียงหุ่นเชิดเชิดที่ไร้ความคิดกับวิธีการโจมตีแบบเดียว เพียงมองแวบเดียว ลู่หยางที่ผ่านประสบการณ์การต่อสู้มาหลายร้อยครั้งแล้วก็สามารถมองเห็นจุดอ่อนของหุ่นเชิดมัมมี่ได้
ต่อมา เขาหลบหลีกการโจมตีของหุ่นเชิดมัมมี่อย่างคล่องแคล่ว จากนั้นเรียกระฆังทองคำอมตะออกมาก่อนที่หุ่นเชิดมัมมี่จะทำการเคลื่อนไหวต่อไป
หลังจากปล่อยสัตว์เลี้ยงสงครามออกมาแล้ว ก็มีปัจจัยที่ไม่รู้จักมากเกินไป และเขาจำเป็นต้องรักษาความแข็งแกร่งให้เพียงพอที่จะจัดการกับพวกมัน ลู่หยางมีสัตว์เลี้ยงสงครามทั้งหมดยี่สิบตัว และพวกมันเกือบทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ระดับจักรพรรดิ์ ได้เข้าสู่ปฎิบัติการในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าหุ่นเชิดมัมมี่เหล่านี้จะไม่ทรงพลังอย่างที่เขาคิด มันถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ แต่หุ่นเชิดมัมมี่ไม่ได้มีเลือดออกเหมือนคนทั่วไป
หลังจากจัดการกับหุ่นเชิดมัมมี่แล้ว ลู่หยางก็มีความเข้าใจในความแข็งแกร่งและวิธีการโจมตีที่เฉพาะเจาะจงของพวกมัน เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มและพึมพำ: “ในเมื่อข้ารู้ถึงความแข็งแกร่งและวิธีการโจมตีของเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่มีทางที่จะโจมตีข้าได้อีกต่อไป!”
อย่างไรก็ตาม หุ่นเชิดมัมมี่ที่เหลือไม่ได้หยุดที่จะโจมตี พวกมันยังคงฟาดฟันไปที่ลู่หยางเหมือนคนไร้สมอง
เมื่อเห็นว่าคนตายเหล่านี้เพิกเฉยต่อคำพูดของเขา ลู่หยางก็ส่ายหัว ในขณะที่เขากำลังจะปล่อยให้สัตว์เลี้ยงสงครามฉีกพวกผีดิบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในใจของเขา
“ใช่แล้ว ข้าสามารถยืมความแข็งแกร่งของหุ่นเชิดมัมมี่เหล่านี้เพื่อขัดขวางคนเหล่านั้น และก่อความวุ่นวาย ในขณะที่ข้าจะใช้โอกาสนี้เพื่อช่วยปู่ของเสี่ยวหลิง”
ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของลู่หยางในทันใดนั้นเอง จากนั้น เขาก็ยิ้มให้กับหุ่นเชิดมัมมี่ที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร แล้วกลายร่างเป็นเงาเพื่อหลบหลีกการโจมตีของมัน จากนั้นเขาก็รีบถอยกลับไปที่ทางเดิน
หุ่นเชิดมัมมี่เหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับศัตรูในคืนนี้หากใช้พวกมันได้อย่างเหมาะสม … ลู่หยางนึกคำนวณในใจ