ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1388 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (10) / ตอนที่ 1389 เผ่าผู้ใช้เวท (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1388 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (10) / ตอนที่ 1389 เผ่าผู้ใช้เวท (1)
ตอนที่ 1388 หัวใจที่เจ็บปวดของนาง (10)
เพื่ออวิ๋นเซียวอวิ๋นลั่วเฟิงไม่กลัวความตายแต่…นางไม่ยอมให้เสี่ยวโม่เสียสละตัวเอง!
นอกจากวิธีนี้แล้วก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงหรือ หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงบีบตัวอย่างแรง นางกำหมัดทุบพื้นอย่างจัง บ้าจริง! มันต้องมีทางอื่นสิ!
ตอนที่เสี่ยวโม่กำลังยอมรับความตาย สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง สีหน้ายอมจำนนของเขาถูกแทนที่ด้วยสีหน้าประหลาด “นายหญิง ข้ามั่นใจว่าก่อนหน้านี้ข้าใช้พลังฌานในมิติคัมภีร์ไปมาก ทำไมตอนนี้มันฟื้นกลับมาแล้วล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน…” ตอนนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างก่อนที่เสี่ยวโม่จะเบิกตากว้างด้วยความตะลึง “เสี่ยวซู่? เขาเข้าไปอยู่ในมิติคัมภีร์เซียนตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วดอกเบญจมาศสีเหลืองใหญ่ยักษ์นั่นมันอะไร”
ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรการฟื้นฟูของมิติคัมภีร์เซียนก็ทำให้เสี่ยวโม่ตกใจด้วยความปีติ นี่หมายความว่าเขาไม่ต้องเสียสละตัวเองก็สามารถช่วยอวิ๋นเซียวได้!
“เสี่ยวโม่ ข้าเกือบเสร็จแล้ว ส่งพลังฌานต่อไป!” อวิ๋นลั่วเฟิงฟื้นสติแล้วรีบสั่งหลังจากกดความปีติในใจเอาไว้
มีชีวิตย่ำแย่ดีกว่าตายสบาย ถ้าคนสามารถมีชีวิตต่อไปได้ ใครเล่าจะอยากตาย ดังนั้นการฟื้นฟูของมิติคัมภีร์เซียนก็ถือเป็นเรื่องดีมากแน่นอน! ไม่อย่างนั้นเขาต้องเสียสละตัวเองเพื่อรักษาอวิ๋นเซียว! แต่ว่าทันทีที่เขานึกได้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไป เขาก็โกรธจนอยากจะร้องไห้ “นายหญิง ข้าไม่แต่งกับเสี่ยวไป๋ได้หรือไม่”
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเขาอย่างใจเย็น “สายไปแล้ว”
ตอนนั้นเองหัวใจของเสี่ยวโม่ก็รู้สึกเย็นเยียบทันที เขาโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเองที่ปากพาซวย ถ้าเขาตายก็ตายไปสิ ทำไมต้องพูดอะไรอย่างชาติหน้าจะแต่งงานกับเสี่ยวไป๋ด้วย ถึงแม้ว่าเสี่ยวไป๋ที่ความจำเสื่อมจะน่าเอ็นดูมาก แต่ทันทีที่นางได้ความจำกลับมา นางก็ต้องกลับเป็นปีศาจอยู่ดี ดังนั้นเสี่ยวโม่จึงเสียใจอย่างสุดซึ้งแต่ก็สายไปแล้ว
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่สนใจเสี่ยวโม่อีกต่อไปแล้วเพ่งสมาธิไปที่การนำแก่นเลือดออกมาจากหัวใจช้าๆ …
ภายนอกห้อง อาภรณ์ของหงหลวนปลิวไปตามสายลมขณะที่นางสู้อยู่กลางสมรภูมินองเลือด เท้าของนางไม่เคยก้าวออกจากประตูสักก้าวเดียวแล้วยืนอยู่นอกประตูอย่างมั่นคง ไม่ยอมให้ใครผ่านสักคนเดียว แต่นางก็รู้สึกได้ถึงเวลาที่ผ่านไปช้าๆ ความกังวลก็เริ่มเกาะกุมจิตใจ
ไม่! นางจะไม่ยอมให้คนพวกนี้ผ่านเข้าไปรบกวนอวิ๋นลั่วเฟิง! ถึงแม้ว่านางจะต้องตาย นางก็ต้องซ่อนพวกเขาให้ได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ สายตาของหงหลวนก็มุ่งมั่นแล้วใบหน้าก็ปกคลุมด้วยความเย็นชา ยอดฝีมือที่เข้ามามีมากเกินไปจนถึงขั้นที่ผลาญพลังหงหลวนจนทำให้นางเหนื่อยอ่อน ทุกคนที่นางสังหารหนึ่งคนก็มีคนจำนวนมากมาแทนที่ ศพบนถนนกองกันสูงเหมือนภูเขาที่สูงจรดฟ้า
พรูด!
ทันใดนั้นหงหลวนก็กระอักเลือดออกมา ใบหน้างดงามของนางซีดเผือด เหตุใดถึงจบเร็วนัก ท่านแม่บอกไว้ชัดเจนว่าทนได้หนึ่งชั่วโมงแต่นี่พึ่งผ่านไปเพียงสิบห้านาทีเท่านั้น!
เมื่อรู้สึกถึงพลังที่ลดลงเรื่อยๆ สีหน้านางก็แสดงออกถึงความวิตกกังวล หรือเป็นเพราะว่ามันเก่าเกินไปทำให้ประสิทธิภาพลดลง นี่ไม่ดีแล้ว! ถ้านางไม่สามารถหยุดพวกเขาไว้ อวิ๋นลั่วเฟิงต้องตกอยู่ในอันตรายแน่นอน! นางกัดริมฝีปากแน่น ใช้มือกุมหน้าอก ให้เวลาข้าอีกสิบห้านาที! ข้าต้องแค่สิบห้านาทีเพื่อจัดการคนพวกนี้! ขอร้องล่ะ!
ผลไม้ในร่างนางไม่ฟังเสียงอ้อนวอนของนาง แล้วพลังก็ลดลงอย่างรวดเร็วเหมือนถูกสูบออก…
เมื่อพลังทั้งหมดหายไปความแข็งแกร่งของหงหลวนก็ไม่มั่นคงจนนางเกือบจะล้มลงพื้นแต่เพื่อไม่ให้คนพวกนี้เห็นอะไรผิดปกตินางจึงฝืนตัวเองไม่ให้ล้มแล้วใช้พลังทั้งหมดพยุงร่างตัวเองเอาไว้
ถึงแม้ว่านางจะพยายามแล้ว แต่ก็ยังมีบางคนสังเกตเห็นบางอย่างแล้วพูดอย่างแปลกใจ “ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นถึงขีดจำกัดแล้ว! ไม่นานพลังของนางก็ร่วงลงมาที่ขั้นราชันปราชญ์ระดับกลาง! ถึงตอนนั้นพวกเราก็สังหารนางได้ ฮ่าๆ!”
ตอนที่ 1389 เผ่าผู้ใช้เวท (1)
หงหลวนมองยอดฝีมือทั้งหลายพุ่งเข้ามาหานางอย่างเย็นชา ใบหน้าของนางซีดไร้สีเลือดแต่นางก็ยังไม่ยอมล้ม กลับยืนตระหง่านอยู่ที่หน้าประตูเหมือนภูเขาสูง
“บ้าเอ๊ย!” นางกัดฟันแน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าพลังของนางค่อยไหลออกจากร่าง “ข้าสงสัยว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะเสร็จหรือยัง ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว…”
ตราบใดที่นางยังมีลมหายใจ นางไม่มีทางยอมให้คนพวกนี้ก้าวข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว! ดังนั้นเมื่อนางเห็นกลุ่มคนเคลื่อนที่เข้ามาหานาง หงหลวนจึงพุ่งเข้าโจมตีศัตรูโดยไม่เสียเวลาคิด เสื้อคลุมสีแดงของนางปลิวไปตามสายลมขณะที่นางลงมือสังหารคนโดยไม่ลังเล แต่ทุกคนก็เห็นว่าพลังของหงหลวนลดหายไปอย่างรวดเร็วแม้นางจะพยายามไม่แสดงท่าทางอ่อนแรงก็ตาม
ฉัวะ! แควก!
นางโดนกระบี่ยาวฟันเขาที่แขนจนแขนเสื้อฉีกขาดและเลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ทำให้เกิดภาพคล้ายกับฝนที่มีสีงดงามที่สุดตกลงมาจากฟ้า
“สาวน้อย เจ้ายังไม่คิดหลบอีกหรือ” ชายชราเดินเข้ามาถามอย่างโอหังแล้วมองหงหลวนที่ยังยืนหยัดไม่ขยับไปไหนอย่างดูถูก
หงหลวนกุมแขนข้างที่บาดเจ็บแน่น ท่าทางนางปล่อยกลิ่นอายทรงอำนาจที่ดูถูกไม่ได้ออกมา “ข้าไม่เคยกลัวความตาย! ก่อนหน้านี้ข้าเคยพูดไปแล้วว่าถ้าพวกเจ้าอยากเข้าไปด้านในก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”
การที่ยาหมดฤทธิ์ทำให้ความแข็งแกร่งของหงหลวนลดลงจากจักรพรรดิปราชญ์เป็นเซียนปราชญ์แล้ว จากเซียนปราชญ์เป็นราชันปราชญ์…
โชคร้ายที่การลดระดับยังไม่ยอมหยุดเมื่อถึงระดับความแข็งแกร่งเดิมของนาง พลังนางยังคงลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเป็นขั้นปราชญ์ ขั้นเซียน…
เมื่อคนที่มากำจัดจักรพรรดิปีศาจเห็นว่าพลังนางลดลง พวกเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังไปทั่วฟ้า เสียงหัวอย่างโอหังของพวกเขาดังก้องไปทั่วที่ถนนที่เงียบสงัด
“แม่นางน้อย ข้าไม่คิดเลยว่าผลข้างเคียงจากก็เพิ่มพลังของเจ้าจะร้ายแรงขนาดนี้! ถึงกลับเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นขยะได้!”
ถ้าพลังของนางยังลดลงเรื่อยๆ แบบนี้ ความแข็งแกร่งของหงหลวนจะหายไปอย่างสิ้นเชิง แล้วนางก็จะกลายเป็นขยะตั้งแต่หัวจรดเท้า หัวใจของหงหลวนบีบรัด นางกุมแขนที่บาดเจ็บแน่น ถึงแม้นางจะไม่เคยคิดว่าผลข้างเคียงจากกินผลไม้จะร้ายแรงขนาดนี้แต่นางก็ไม่เสียใจ!
“ข้าค่อนข้างสงสัยทีเดียวว่าจักรพรรดิปีศาจเป็นอะไรกับเจ้า เจ้าถึงได้ปกป้องเขาไม่ถอยขนาดนี้” ชายอาวุโสส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วมองหงหลวนอย่างเย้ยหยัน น้ำเสียงของเขาแสดงความดูถูก หงหลวนเงยหน้ามองกลุ่มคนตรงหน้าอย่างเย็นชา “ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ใครใช้ให้เขาเป็นคนรักของอวิ๋นลั่วเฟิงเล่า ถ้าเขาตาย นางต้องใจสลายแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่ข้าทำได้ก็มีแต่ต้องปกป้องเขาด้วยชีวิต!”
“ยิ่งไปกว่านั้น…” หงหลวนหยุดก่อนประณามอย่างดูถูก “พวกเจ้าเป็นคนหน้าด้านหน้าไม่อายขนานแท้ หัวใจแห่งมันตาเป็นของจักรพรรดิปีศาจแต่เจ้ากลับไล่ล่าและขัดขวางเขาด้วยเหตุผลชั่วร้าย! ถึงแม้จะไม่มีอวิ๋นลั่วเฟิง หากข้าเห็นคนแบบพวกเจ้า ข้าก็ต้องต่อสู้เพื่อความยุติธรรมอยู่แล้ว!”
“ฮึ่ม ไม่ต้องพูดมากอีกแล้ว! สาวน้อย ในเมื่อเจ้าเลือกช่วยจักรพรรดิปีศาจ ถ้าอย่างนั้นวันนี้ข้าก็จะขอชีวิตของเจ้าเป็นเครื่องสังเวยให้กับชีวิตพี่น้องที่ต้องเสียไปการต่อสู้ครั้งนี้!”
ตูม!
ทันใดนั้นยอดฝีมือทุกคนก็ระเบิดกลิ่นอายออกมา หงหลวนกำกระบี่ในมือแน่นแล้วมองผู้คนข้างหน้านางที่ชี้ชะตาสวรรค์และพิภพ…
“ไม่แน่ ข้า หงหลวน อาจจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่! ข้ามีเรื่องเสียใจเพียงเรื่องเดียวคือข้าไม่สามารถสลักชื่อไว้บนโลกนี้เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ท่านพ่อเห็น”