ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1398 นักบุญหญิง (3) / ตอนที่ 1399 นักบุญหญิง (4)
ตอนที่ 1398 นักบุญหญิง (3)
ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทั้งตระกูลหวงก็เหลือนางคนเดียว นางไม่สามารถเป็นคุณหนูบอบบางเอาแต่ใจได้แล้ว!
“หวงอิงอิง พวกเราจะอยู่ที่นี่สามวัน สามวันนี้ข้าจะรักษาคอเจ้า ส่วนเรื่องแผลเป็นบนร่างกาย ข้าจะทำให้หายเร็วที่สุด”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง หวงอิงอิงก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาเป็นประกายซาบซึ้ง นางแค่ต้องการให้อวิ๋นลั่วเฟิงช่วยนางแก้แค้นแต่ไม่คิดว่านางจะรักษาบาดแผลให้ด้วย ทุกคนพูดว่านายหญิงของหอแพทย์อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นคนโหดร้าย ไร้หัวใจ และสังหารศัตรูทิ้งหมดทั้งโคตรเหง้า แต่ตอนนี้หวงอิงอิงพบว่าสตรีสง่างามตรงหน้านางเป็นคนดีมากจริงๆ!
นางสงสัยว่าทำไมคนอื่นถึงได้กล่าวหานางเช่นนั้น หรือเป็นเพราะอิจฉางั้นหรือ แน่นอนเลยว่าต้องเป็นเพราะอิจฉาแน่ๆ! เพราะอิจฉา พวกเขาก็เลยใส่ความว่าเด็กสาวงดงามแบบนี้เป็นปีศาจสังหาร!
“มีอะไรหรือเปล่า” อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้ามองแล้วถามเมื่อรู้สึกได้ว่าหวงอิงอิงตกอยู่ในภวังค์
หวงอิงอิงรีบส่ายหน้าแต่ในใจรู้สึกอบอุ่น ไม่มีใครดีกับนางแบบนี้ตั้งแต่คนครอบครัวนางเสียชีวิต…
…
พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามวัน
เช้าวันที่สี่ ขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงจิบชา เด็กสาวในชุดสีส้มก็เปิดผ้าม่านแล้วเดินเข้ามาในห้องช้าๆ
เสียงของนางยังคงแหบแห้งแต่ก็สาารถพูดได้แล้ว “ขอบคุณ”
คำแรกที่นางพูดคือ ‘ขอบคุณ’ อวิ๋นลั่วเฟิง
“เจ้าเกือบหายสนิทแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดขณะมองหวงอิงอิง “ว่าแต่เจ้ามาที่แคว้นเจ็ดเมืองได้อย่างไร”
“นายท่านเฉินช่วยพามา” หวงอิงอิงกะพริบตาแล้วพูดด้วยเสียงแหบๆ “นายท่านเฉินบอกว่าเขาเป็นเพื่อนกับท่านและสามารถช่วยข้าได้จากนั้นเขาก็พาข้ามาแคว้นเจ็ดเมือง”
เฉินอวี้ชิง?
อวิ๋นลั่วเฟิงแปลกใจ ถ้าหนานกงอวิ๋นอี้ช่วยหวงอิงอิงก็พอเข้าใจได้ เพราะถึงอย่างไรหนานกงอวิ๋นอี้ก็เป็นคนดีที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นอยู่แล้ว! แต่คนแบบเฉินอวี้ชิงนะหรือ คนแบบเขาที่ดูเหมือนว่าจะละทางโลกแต่จริงๆ จิตใจเย็นชาแบบนั้น เขาไม่มีทางยุ่งเรื่องคนอื่นแม้ว่าหวงอิงอิงจะมีศัตรูคนเดียวกับนางก็ตาม!
“เฉินอวี้ชิงพูดอะไรกับเจ้าอีก” อวิ๋นลั่วเฟิงถามแล้วจิบชา
หวงอิงอิงมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างระมัดระวัง “นายท่านเฉินบอกว่าถ้าเจ้าช่วยข้าแก้แค้น ข้าต้องจงรักภักดีกับเจ้าและห้ามทรยศเจ้าเด็ดขาด!”
ให้หวงอิงอิงภักดีกับข้างั้นหรือ
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว หวงอิงอิงไม่ได้มีพรสวรรค์อะไร เป็นแค่คนธรรมดาท่ามกลางคนจำนวนมากในแดนลับแล อย่าพูดถึงแคว้นเจ็ดเมืองเลย! หรือว่า…นางจะมีบางอย่างพิเศษ
“พวกเราไปกันเถอะ”
ในเมื่อเฉินอวี้ชิงพูดแบบนั้นก็แสดงว่าเขาต้องมีเหตุผล โชคร้ายที่เขาไม่อยู่ที่นี่ดังนั้นนางเลยไม่มีโอกาสได้ถามเขา
“ตกลง” หวงอิงอิงยิ้ม ใบหน้าเต็มไปรอยยิ้มเจิดจ้า
เมื่อรู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังจะจากไปคืนนี้ ชายชราก็ถามอย่างเศร้าๆ “สาวๆ เจ้าจะเป็นกันแล้วเหรอ” เขาอยู่คนเดียวมานานจนเด็กสาวทั้งสองมาอยู่ด้วย แต่ตอนนี้พวกนางต้องไปแล้ว
อวิ๋นลั่วเฟิงครุ่นคิด “ข้ากลับมาครั้งหน้าจะพาบางคนมาอยู่กับท่านด้วย”
ตอนนั้นเองอวิ๋นลั่วเฟิงคิดถึงคัมภีร์ที่นางได้จากเจวี๋ยเชียน ในนั้นเขียนวิธีการทำให้หุ่นเชิดมีชีวิตไว้ด้วย! แต่นางยังไม่ได้ลองดูสักครั้งแม้จะผ่านมานานแล้วก็ตาม!
ตอนที่ 1399 นักบุญหญิง (4)
เพราะว่าการสร้างหุ่นเชิดมีบางอย่างที่ต้องใช้ซึ่งก็คือกระดูกของผู้ใช้เวท! ดังนั้นนางจึงมาที่เผ่าผู้ใช้เวทเพื่อกระดูกผู้ใช้เวทและดอกผู้ใช้เวท!
หลังจากพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็จากไปพร้อมหวงอิงอิงและเสี่ยวโม่โดยไม่หันหลังกลับมา แต่ว่า…ทันทีที่นางก้าวขาออกนอกประตู ร่างสีแดงคุ้นตาก็ปรากฏสู่สายตานาง ทำให้นางทำหน้าบึ้งตึง
ชายหนุ่มตรงหน้านางสวมเสื้อคลุมสีแดงหรูหรา ริมฝีปากสีแดงยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาดูสง่างามเหมือนไม่ใช่มนุษย์ ความงามของเขาแทบทำให้ลืมหายใจ
“จีจิ่วเทียน เจ้ามาทำอะไรที่นี่”
จีจิ่วเทียนยิ้ม “เดินเล่น”
เดินเล่น? เดินจากเมืองประจิมมาที่เมืองหลวงน่ะหรือ
นางไม่โง่ขนาดจะเชื่อหรอก!
“งั้นเชิญเดินเล่นต่อไป หวงอิงอิง เสี่ยวโม่ พวกเราไปกันเถอะ”
หวงอิงอิงกำลังตะลึงกับหน้าตาของจีจิ่วเทียน ทว่าหลังจากที่อวิ๋นลั่วเฟิงพูดแบบนั้น หวงอิงอิงก็หลุดจากภวังค์แล้วรีบตามนางไป “แม่นางอวิ๋น สตรีผู้นี้เป็นใครหรือ นางงดงามมากๆ เลย”
สตรี?
ใบหน้าของจีจิ่วเทียนมืดครึ้มทันทีแล้วส่งสายตาดุร้ายให้หวงอิงอิง หากนางไม่ใช่ผู้ติดตามของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วพูดแบบนี้ เขาคงสังหารนางไปแล้ว!
เสี่ยวโม่หัวเราะคิกคัก “หวงอิงอิง คนผู้นี้ไม่ใช่สตรี เขาเป็นบุรุษ”
บุรุษ?
หวงอิงอิงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว นางเคยคิดว่ามีแค่สตรีเท่านั้นที่สามารถงดงามได้ขนาดนี้ แล้วหวงอิงอิงก็เพิ่งเยินยอ ‘นาง’ ถึงความงามของ ‘นาง’ แต่กลายเป็นว่า ‘นาง’ กลับเป็นบุรุษ บุรุษที่หน้าตาแบบนี้…ประหลาดจริง!
“เฟิงเอ๋อร์”
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงกำลังจะไปจริงๆ จีจิ่วเทียนก็ขยับไปขวางหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง เขายิ้มอย่างจนปัญญา “ก็ได้ๆ ข้ายอมรับแล้วว่ามาหาเจ้า”
“ข้าดีใจที่ยอมบอกความจริงเสียที” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วมองเขาพร้อมยิ้มบาง “แล้วเจ้ามาหาข้าทำไม”
“จักรพรรดิปีศาจมาหาข้า” จีจิ่วเทียนมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสีหน้าปั้นยาก “เขาขอให้ข้าปกป้องเจ้า”
อวิ๋นเซียว?
อวิ๋นลั่วเฟิงใจสั่น นางหลุบตาต่ำแล้วยกยิ้มหวาน ผู้ชายคนนั้นเป็นเช่นนี้เสมอ คอยเตรียมทุกอย่างไว้ให้นางเงียบๆ
แล้วจะไม่ให้นางหัวใจหวั่นไหวได้อย่างไร
ในฐานะสตรีแล้ว นางยังจะต้องการอะไรอีก
“อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้าคิดว่าข้าเป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับจักรพรรดิปีศาจ” จีจิ่วเทียนทำท่าทางกรุ้มกริ่มแล้วยื่นนิ้วไปเชิดคางนางขึ้นแต่ถูกปัดออกเสียก่อน
“เขาดูสมชายชาตรี”
เขาดูสมชายชาตรีงั้นหรือ นางหมายความว่าอย่างไร
ขณะที่จีจิ่วเทียนกำลังคิดอยู่นั้น อวิ๋นลั่วเฟิงก็พูดเสริม “แต่เจ้าไม่! นี่เป็นความแตกต่างระหว่างเจ้ากับเขา”
จีจิ่วเทียนหน้ามืด เขาพยายามจะระงับความโกรธแล้วท่องในใจว่านางเป็นผู้สืบทอดของเจวี๋ยเชียนอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ระงับความโกรธแล้วฝืนยิ้มออกมาได้ “ไม่แปลกใจที่เจ้าเป็นคนรักกัน เจ้าพูดเหมือนเขาเลย”
อวิ๋นเซียวบอกว่าเขามีลักษณะเหมือนคนทั้งสองเพศ ตอนนี้อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยังพูดเหมือนกัน…
เขาดูไม่เหมือนบุรุษขนาดนั้นเลยหรือ
จีจิ่วเทียนถามตัวเองพลางคิดว่าเขามีกล้ามเนื้อเสียจนมีมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ทำไมอวิ๋นลั่วเฟิงยังคิดว่าเขาไม่เหมือนบุรุษอีก
“เจ้าจะตามข้ามาก็ได้ถ้าเจ้าต้องการ แต่…” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาแล้วส่งยิ้มให้จีจิ่วเทียน “อย่าเข้ามายุ่งเรื่องของข้าถ้าข้ายังจัดการด้วยตัวเองได้”