ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1484 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (9) / ตอนที่ 1485 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (10)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1484 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (9) / ตอนที่ 1485 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (10)
ตอนที่ 1484 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (9)
นางไม่คิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะสามารถยืนขึ้นได้หลังจากโดนการโจมตีของนาง ดวงตาของนางมีร่องรอยความตะลึง “เจ้าต่างจากมนุษย์ที่ข้าเคยเห็น น่าเสียดายที่มนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์อยู่วันยังค่ำ”
มนุษย์โลภ เห็นแก่ตัว เลวทรามและไร้ความปรานีมากเกินไป พวกเขาชั่วร้ายอย่างเทียบไม่ติด!
“ช่างมันเถอะ”
เมื่อสบเข้ากับดวงตาร้ายกาจของอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็โบกมือแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง “ข้าไม่จำเป็นต้องให้เจ้าอยู่เป็นเพื่อนผู้สืบทอดของข้าแล้ว ตอนนี้เจ้าออกไปได้ แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะเว้นระยะห่างกับนางแล้วไม่ต้องมาเจอนางอีกในอนาคต”
อวิ๋นลั่วเฟิงยืนตัวตรงอยู่หน้าสตรีในอาภรณ์สีเขียว จ้องมองความมุ่งมั่นแน่วแน่บนใบหน้างดงามของนาง
“ข้าพาเสี่ยวไป๋มาที่นี่ ข้าก็ต้องพานางออกไปด้วย!”
“ฮึ่ม!” สตรีชุดเขียวส่งเสียงขึ้นจมูก “ข้าให้หนทางรอดกับเจ้าแล้วแต่เจ้ากลับไม่รู้ว่าควรทำอะไร ตอนนี้ข้าจะทำให้เจ้าริมรสผลที่กล้าต่อต้านข้า!”
วืด!
หญิงสาวยกมือขึ้น แล้วกิ่งไม้จำนวนมากก็โผล่ขึ้นมาจากทุกทิศทางก่อนจะโจมตีอวิ๋นลั่วเฟิง กิ่งไม้พวกนี้เคลื่อนไหวเหมือนมังกรยืดหยุ่นราวกับมีชีวิต พวกมันโจมตีอวิ๋นลั่วเฟิงเหมือนมีความนึกคิดเป็นของตัวเอง
“นายหญิง ระวัง!” เสี่ยวโม่วางเสี่ยวไป๋ลงที่พื้นแล้วพุ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความเป็นห่วง ดวงตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แล้วไฟแห่งความเดือดดาลก็ลุกขึ้นจากร่างเขา
แต่ว่า…ทันทีที่เขากำลังจะถึงตัวอวิ๋นลั่วเฟิง กิ่งไม้ที่มีชีวิตพวกนี้ก็แห้งเ**่ยวแล้วอ่อนกำลังลงทันที
สตรีชุดเขียวหน้าซีดเผือดด้วยความกลัวก่อนถอยหลังขณะที่ดวงตาสีเขียวเข้มของนางจ้องไปอวิ๋นลั่วเฟิงโดยไม่ละสายตา
มีลำแสงสีขาวพุ่งออกมา แล้วทันใดนั้นเด็กชายตัวน้อยในชุดสีขาวก็มายืนอยู่หน้าอวิ๋นลั่วเฟิง
ใบหน้าของเด็กชายตัวน้อยเหมือนหยกสลัก ดวงตากลมโตของเขาฉายแววคุกคามแตกต่างจากท่าทางที่ดูใสซื่อบริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ ตอนนี้เข้าดูเหมือนปีศาจตัวน้อยที่ตัวโชกเลือด กลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมาทำให้ผู้คนหวาดกลัว
“ต้นไม้เล็กๆ อย่างเจ้ากล้ารังแกท่านแม่ข้าหรือ” คำพูดฉะฉานของเด็กชายตัวน้อยเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร
ถึงแม้เวลาที่เด็กน้อยอยู่กับอวิ๋นลั่วเฟิงจะดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่อย่าลืมว่าเขาเป็นใคร เขาไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์อสูรวิญญาณ! เขาเป็นต้นไม้ที่เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์แล้วต้นไม้ต้นนี้ก็มีอายุเป็นพันปีแต่ว่าเพราะเขาได้รับบาดเจ็บก็เลยต้องกลับไปเป็นต้นไม้
ต้นไม้ที่เต็มไปด้วยกลิ่นฆ่าฟันต้นนี้จะเป็นมนุษย์ที่ใสซื่อและน่าเอ็นดูได้อย่างไร เขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายที่สุดที่อยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิง!
ขณะที่กำลังสับสน สตรีชุดเขียวก็สั่งให้กิ่งไม้โจมตีอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นอีกครั้ง วินาทีต่อมานางก็ต้องตะลึงเพราะกิ่งไม้ที่ควรจะโจมตีอวิ๋นลั่วเฟิงกลับหันมาโจมตีนาง
ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัวนี้ ชุดของหญิงสาวก็ถูกฉีกออกโดยกิ่งไม้แล้วบาดผิวหนังบอบบางของนางไปด้วยจนเลือดสดๆ ไหลออกมา
โชคดีที่ความสามารถในการฟื้นฟูของต้นไม้แห่งชีวิตแข็งแกร่งมาก ดังนั้นแผลของนางจึงถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงสีเขียวบางๆ แล้วก็หายไปทันที แต่ว่าตอนนั้นเองนางก็ไม่สามารถสนใจความเจ็บปวดของตัวเองได้เพราะดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจ นางมองเสี่ยวซู่โดยไม่ละสายตา แล้วก็แสดงท่าทางไม่เชื่อออกมา
“ได้…ได้อย่างไร พวกเราเป็นต้นไม้คนละชนิด แล้วเจ้าควบคุมกิ่งก้านของข้าได้อย่างไร ถ้าเจ้า ถ้าเจ้าไม่ใช่…”
ตอนที่ 1485 เก็บเกี่ยวอย่างเต็มที่ (10)
สตรีชุดเขียวกัดปากแน่น ไม่สามารถพูดคำสุดท้ายของตัวเองได้
เป็นไปได้อย่างไร!
ทำไมสิ่งมีชีวิตแบบเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่และยอมรับมนุษย์เป็นเจ้านาย แต่ว่านอกจากเขาแล้ว ใครจะมีความสามารถแบบนี้อีก
“คุกเข่า!” เด็กชายตัวน้อยไพล่มือไว้ด้านหลังก่อนตะโกนอย่างเย็นชา
เขาเหมือนกับจักรพรรดิที่กำลังนั่งอยู่เบื้องบนแล้วมองสตรีชุดเขียวด้วยหางตาอย่างรังเกียจ
ตุบ!
นางควบคุมตัวเองไม่ได้ รีบคุกเข่าลงตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงทันที เหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านหน้าผากขณะที่ร่างบอบบางของนางสั่นสะท้านทันที
“ท่านแม่” หลังจากเสี่ยวซู่เหลือบมองสตรีชุดเขียว เขาก็หันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิง ทันใดนั้นกลิ่นอายสูงส่งของเขาก็หายไปทันที กลับมาดูเป็นเด็กน้อยใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนก่อนหน้านี้
“สตรีนิสัยไม่ดีผู้นี้กล้ารังแกท่าน ข้าควรตีนางเพื่อระบายความโกรธให้ท่านหรือไม่”
ตอนแรกเสี่ยวซู่ตั้งใจจะพุ่งเข้าไปสั่งสอนสตรีผู้นี้เมื่อเห็นว่านางรังแกอวิ๋นลั่วเฟิง แต่เพราะอวิ๋นลั่วเฟิงกลัวว่าสัตว์อสูรวิญญาณจะตกอยู่ในอันตรายระหว่างการต่อสู้ นางจึงตัดการเชื่อมต่อกับมิติคัมภีร์เซียนทำให้เขาออกมาไม่ได้
ถึงแม้ว่าเสี่ยวซู่จะทรงพลัง แต่มิติคัมภีร์เซียนไม่ได้ฟังคำสั่งเขา ถ้าการเชื่อมต่อถูกตัดขาด เขาก็ออกมาไม่ได้ โชคดีที่เสี่ยวโม่พยายามทำทุกอย่างตอนที่อวิ๋นลั่วเฟิงลดการหวาดระแวงลงและแอบใช้พลังตัวเองเชื่อมต่อกับมิติคัมภีร์เซียนอีกครั้ง
เสี่ยวซู่เลยสามารถออกมาแล้วสั่งสอนสตรีชุดเขียวได้
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เสี่ยวซู่ก็พูดอย่างโมโห “ท่านแม่ พี่หั่วหั่วบอกข้าให้บอกท่านว่า ถึงแม้ว่านางจะรู้ว่าท่านเป็นห่วงพวกนาง แต่การลงมือเองของท่านทำให้พวกนางโกรธมาก! นางบอกอีกว่าทันทีตัดสินใจติดตามท่าน นางก็ตั้งใจจะร่วมเป็นร่วมตายอยู่ข้างท่าน แต่ท่านกลับเอาแต่เผชิญหน้ากับอันตรายคนเดียวแล้วจะมีพวกนางเอาไว้ทำไม ยิ่งไปกว่านั้นสัตว์อสูรวิญญาณไม่ได้มีไว้ป้องกันอันตรายให้ท่านหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงหน้ามืดครึ้มแล้วพูดอย่างเคร่งเครียดว่า “เสี่ยวซู่ ข้ายอมรับว่าข้าเป็นพวกเชื่อมั่นในตัวเองและไม่ได้คิดไตร่ตรองถึงความรู้สึกของพวกเจ้า แต่นั่นก็เป็นเพราะพวกเจ้าสำคัญกับข้ามาก แล้วถ้าพวกเจ้าตายเพื่อช่วยชีวิตข้า ข้าก็ขอตายเองดีกว่า!”
“เจ้าพูดถูก ข้าเห็นแก่ตัวเพราะข้าไม่อยากให้พวกเจ้าหายไป อีกอย่างสัตว์อสูรวิญญาณไม่ใช่เครื่องมือเพื่อต่อสู้ แต่เป็นครอบครัวที่อยู่กับข้าไปชั่วชีวิต!”
เมื่อเห็นสีหน้าหดหู่ของเสี่ยวซู่ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ลูบหัวเขา “ก่อนหน้านี้ข้าตัดการเชื่อมต่อก็เพราะข้าไม่รู้ความสามารถของเจ้า ดังนั้นข้าสัญญากับพวกเจ้าทุกคนว่าในอนาคตข้าจะไม่ตัดการเชื่อมต่อของพวกเราอีกแต่ข้าไม่ต้องการให้พวกเจ้าตายเพื่อข้า”
ความอบอุ่นจากฝ่ามือนางทำให้เสี่ยวซู่เปลี่ยนอารมณ์แล้วกระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของนางด้วยสีหน้าไร้เดียงสาบนใบหน้าเหมือนหยกสลักของเขา
ถ้าไม่เห็นการกระทำของเขาก่อนหน้านี้ ทุกคนอาจจะดูแลเขาเหมือนเด็กมนุษย์คนหนึ่ง
“ท่านแม่ เป็นท่านที่ให้ชีวิตข้า ชีวิตนี้ข้าไม่มีทางทิ้งท่านไปแน่นอน”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม ทันใดนั้นนางก็นึกอะไรบางอย่างออก แล้วสีหน้านางก็ชะงักไป “เสี่ยวซู่ เจ้าติดตามข้ามาเกือบสี่ปีแต่ข้าไม่เคยรู้เรื่องความสามารถของเจ้าเลย เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าตกลงเจ้าเป็นอะไร”
เสี่ยวซู่ทำสีหน้าแปลกประหลาด “ข้าก็ไม่แน่ใจ ข้ายังเด็กแล้วก็ได้รับแค่ความทรงจำส่วนเล็กๆ มา หลังจากนี้อีกสองสามปีข้าอาจจะจำเรื่องราวในอดีตได้”