ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1578 การกล่าวหาแบบผิดๆ (2) / ตอนที่ 1579 การแย่งชิงอำนาจของสัตว์อสูรป่าเถื่อน (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1578 การกล่าวหาแบบผิดๆ (2) / ตอนที่ 1579 การแย่งชิงอำนาจของสัตว์อสูรป่าเถื่อน (1)
ตอนที่ 1578 การกล่าวหาแบบผิดๆ (2)
ถึงแม้ว่าเจ้าเมืองจะมอบอำนาจให้หลิงซวง แต่บ่าวรับใช้ตัวเล็กๆ จะมาเป็นภรรยาของอนาคตเจ้าเมืองได้อย่างไรกัน ดังนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับสายตาอ้อนวอนของหลิงซวง ผู้อาวุโสทั้งหมดจึงทำเป็นมองไม่เห็นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ฮึ่ม หัวขโมยควรมีโทษสมควรตาย!”
ผู้อาวุโสในชุดสีเทาส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ “อีกอย่าง เจ้ากล้าโจมตีคนของพวกเรา นับเป็นความผิดสองกระทง มีโทษสถานเดียวคือตายเท่านั้น!”
“ผู้อาวุโส!” ริมฝีปากซีดของหลิงซวงสั่น ใบหน้าของเขาแสดงความเจ็บปวดและทรมาน เขาเสียใจ…เสียใจที่เชื่อหลิงเฉินแล้วเรียกเหล่าผู้อาวุโสออกมา ใครจะคิดเล่าว่าเจ้าชั่วหลิงเฉินจะไม่ปล่อยอิงอิง!
“น้องรอง” หลิงเฉินถอนหายใจแล้วเดินไปยืนข้างหลิงซวงก่อนจะตบไหล่เขา “พูดตรงๆ เลย ทุกอย่างที่ข้าพูดมีหลักฐานทั้งนั้น หวงอิงอิงขโมยของจากจวนของพวกเราจริงๆ ไม่อย่างนั้นท่านพ่อจะต่อต้านเจ้าไปทำไม”
หลิงซวงตัวสั่นแล้วส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้ อิงอิงไม่ใช่คนแบบนั้น…”
เมื่อได้ยินคำตอบแบบนั้น หลิงเฉิงก็หันไปหาผู้อาวุโสในชุดสีเทา ผู้อาวุโสคนนี้มีอำนาจมากที่สุดในจวนดังนั้นคำพูดของเขาย่อมเชื่อถือได้
“คุณชายใหญ่พูดถูกแล้ว หวงอิงอิงได้ขโมยบางอย่างไปจากจวนเจ้าเมืองอุดรจริงๆ…”
หลิงซวงเป็นอนาคตเจ้าเมืองอุดร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดแก้แค้นใดๆ ในอนาคต พวกเขาต้องสาดโคลนใส่หวงอิงอิง
หวงอิงอิงชะงัก นางเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจราวกับไม่คิดมาก่อนว่าพวกเขาจะกล่าวหานาง
“อิงอิง บอกข้ามาตามตรง พวกเขาพูดความจริงหรือ” หลิงซวงมองอิงอิงด้วยความเจ็บปวดขณะถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
หวงอิงอิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้อยากแต่งงานกับเจ้า ข้าก็ไม่คิดจะทนรับข้อกล่าวหาแบบนี้! หลิงซวง เจ้าฟังให้ดีๆ! ข้าไม่เคยหยิบแม้เหรียญทองแดงสักเหรียญเดียวจากจวนเจ้าเมืองอุดร ข้ากลัวว่ากลิ่นเหม็นเน่าจากเหรียญทองแดงในจวนเจ้าจะทำให้มือข้าแปดเปื้อน!”
“เหอะๆ” หลิงซวงหัวเราะเยาะ “อิงอิง เจ้าหลอกข้ามากี่ครั้งแล้ว ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าบอกข้าว่าเจ้าออกเดินทางคนเดียวเพื่อหาประสบการณ์ในโลกกว้าง แต่เจ้าไม่เคยบอกข้าว่าเจ้าเป็นบ่าวรับใช้!”
เขาถอยหลังไปสองสามก้าวขณะที่เขาได้ลิ้มรสความขมขื่นและสะเทือนใจ
“ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าเป็นเป็นบ่าว ไม่แน่ข้าอาจจะไม่ตกหลุกรักเจ้า แล้วข้าก็คงไม่ต้องมาเจอความวุ่นวายแบบนี้… ทำไมเจ้าต้องเก็บมันเป็นความลับด้วย”
หลิงซวงโมโหเมื่อได้ยินเสียงตะโกนตอบของหวงอิงอิง เขารู้สึกว่าทุกอย่างเป็นความผิดของนาง เป็นนางที่ทรยศความรักของเขา!
หวงอิงอิงตัวสั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางค่อนข้างโกรธ แต่ทันใดนั้นก็มีมือมาวางบนไหล่ที่สั่นสะท้านของนาง แล้วร่างที่เย็นเยียบของนางก็พลันอบอุ่นขึ้น
สายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงมีแววยิ้มแย้ม จากนั้นนางก็ใช้ดวงตาอันร้ายกาจมองไปที่หลิงซวง “ข้าอยากถามเจ้าสักสองสามคำถาม อย่างแรก เจ้าเอาแต่พูดว่าหวงอิงอิงหลอกเจ้า แต่เจ้าเคยถามถึงตัวตนของนางหรือไม่ สอง เจ้าบอกว่านางขโมยของ แต่ไหนเล่าหลักฐาน”
หลิงซวงตัวสั่น อันที่จริงเขาก็ไม่เคยถามถึงตัวตนของหวงอิงอิงเลย แต่นั่นก็เป็นเพราะเขาไม่คิดว่านางจะเป็นแค่บ่าวรับใช้…
“เฟิงเอ๋อร์” อวิ๋นเซียวขมวดคิ้ว กลิ่นอายสังหารและน้ำเสียงไร้ปรานีของเขาเข้มขึ้น “เจ้าจะเสียเวลาไปกับพวกเขาทำไม”
คำพูดของเขาหมายความว่าจัดการกับพวกเขาเลยดีกว่า ทำไมต้องมาเสียเวลาด้วย
…………………………………..
ตอนที่ 1579 การแย่งชิงอำนาจของสัตว์อสูรป่าเถื่อน (1)
และแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นที่ภายนอกประตูเมือง กลิ่นอายสังหารเข้มข้นปกคลุมทั่วท้องฟ้า ทำให้ผู้คนตัวสั่นด้วยความกลัว
หลิงซวงตัวแข็งแล้วมองชายหนุ่มในชุดดำที่ยืนนิ่งอยู่ที่ประตูเมืองด้วยความหวาดกลัว เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่ชายคนนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเขาปีนขึ้นมาจากขุมนรก ทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วกลิ่นอายสังหาร
ฉึก!
ก่อนที่ผู้อาวุโสในชุดสีเทาจะได้ลงมือ เขาก็เห็นสายตาของอวิ๋นเซียวกำลังจ้องมาที่เขา แล้วในเวลาเดียวกันนั้นก็มีกระบี่ที่มองไม่เห็นพุ่งทะลุผ่านร่างของเขาทำให้เขาร่วงลงมา
ทั่วทั้งถนนเงียบกริบ… ฝูงชนที่ก่อนหน้านี้มองดูอวิ๋นเซียวต่างพากันตื่นกลัวหลังจากหายตะลึง และในตอนนั้นเอง ทุกคนก็วิ่งหนีเหมือนฝูงนกที่กระจายออกไปเพราะกลัวว่าถ้าตัวเองยังอยู่จะถูกลูกหลงไปด้วย
ทันใดนั้นก็เหลือเพียงแค่อวิ๋นลั่วเฟิง กลุ่มของนางและคนจากจวนเจ้าเมืองอุดรที่อยู่บนถนน หลิงเฉินหน้าซีดปากสั่นขณะที่เหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านหน้าผากของเขา
“เจ้า…เจ้าตั้งใจจะทำอะไร ถ้าเจ้าสังหารกองกำลังของจวนเจ้าเมืองอุดรจริงๆ ก็เท่ากับว่าเจ้าต่อต้านแคว้นเจ็ดเมืองทั้งแคว้นนะ เจ้าแน่ใจหรือ”
สำหรับแคว้นเจ็ดเมืองแล้ว ทุกคนต้องรักษาชื่อเสียงของตัวเองเอาไว้ การทำลายเมืองหนึ่งเมืองก็หมายถึงการทำร้ายเมืองอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าระหว่างเมืองจะมีความขัดแย้งกันมากแค่ไหน แต่พวกเขาก็จะร่วมมือกันเหมือนโต๊ะสามขา
ถ้าพรรคหนึ่งโดนโจมตี เมืองใหญ่ๆ เมืองอื่นก็จะถือว่าพวกเขาเป็นศัตรูทันที นี่เป็นสิ่งที่หลิงเฉินมั่นใจ
รอยยิ้มของอวิ๋นลั่วเฟิงดูสงบและเฉื่อยชา นางใช้ดวงตาร้ายกาจของนางมองสีหน้าซีดเผือดของหลิงเฉิน “ถ้าข้าไม่สังหารเจ้า เมืองอุดรจะยอมปล่อยพวกเราไปงั้นหรือ”
หลิงเฉินพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ใช่แล้ว ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป พวกเราก็จะเลิกแล้วต่อกัน ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีเมืองบูรพาหนุนหลังก็อย่าลืมว่ายังมีเมืองประจิม เมืองทักษิณ เมืองหลวงและเมืองวิญญาณอยู่อีก!”
เขาหยุดไปชั่วครู่ก่อนพูดต่อ “เจ้าคิดว่าตัวเองจะต่อต้านเมืองทั้งห้าที่เหลือโดยอาศัยเพียงแค่ความร่วมมือจากเมืองบูรพางั้นหรือ”
“จริงสิ ยังมีเผ่าผู้ใช้เวทอีก…”
ความเงียบของอวิ๋นลั่วเฟิงทำให้ตาของหลิงเฉินกระตุกขณะพูดขู่ “เผ่าผู้ใช้เวทในเมืองหลวงมีอำนาจมากพอๆ กับจวนเจ้าเมืองของเมืองหลวง เพราะฉะนั้นก็หมายความว่าเจ้ากำลังมีปัญหากับขั้วอำนาจทั้งหก…”
เผ่าผู้ใช้เวท?
อวิ๋นลั่วเฟิงหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ข้าเกรงว่าเจ้าต้องผิดหวังแล้ว”
หลิงเฉินเบิกตากว้าง จู่ๆ เปลวเพลิงสีนิลก็ปรากฏขึ้นที่ใต้ฝ่าเท้าเขาจากนั้นก็ปกคลุมรอบตัวเขา เสียงร้องขาดใจของเขาดังไปทั่วท้องฟ้า ทำให้ผู้คนขนลุก
อวิ๋นเซียวถอนมือออกอย่างเฉยชา เขาไม่ชอบที่มีใครกล้าขู่อวิ๋นลั่วเฟิง
“หวงอิงอิง” อวิ๋นลั่วเฟิงมองหน้าหวงอิงอิง “เจ้าตั้งใจจะจัดการกับ…ชายคนนี้อย่างไร”
ร่างของหวงอิงอิงชะงักค้างแล้วก้มหน้า นางเงียบไปสักพักก่อนจะเงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิง
“นายหญิง ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อคนอื่นแต่เขาก็ไม่ได้ทำร้ายข้า ดังนั้นข้าจะไม่สังหารเขา แต่ว่าเขาหลงผิดและต้องการทำร้ายนายหญิง เช่นนั้นแล้วเขาควรถูกท่านลงโทษ”
“อิงอิง!” หลิงซวงหน้าซีดเผือด เขาไม่เคยคิดว่าหวงอิงอิงจะโหดร้ายขนาดนี้ นางไม่สนว่าเขาจะอยู่หรือตาย
หวงอิงอิงหันหน้าหนี นางไม่สนใจมองหลิงซวงแม้แต่นิดเดียว นางกลัวว่าถ้านางมองเขานานกว่านี้ นางจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
“อวิ๋นอี้ ทำให้หลิงซวงพิการและสังหารคนอื่นซะ!”
ครั้งนี้จวนเจ้าเมืองอุดรต้องเจอกับการสูญเสียครั้งใหญ่!
ผู้อาวุโสจำนวนมากถูกสังหารและนายน้อยคนหนึ่งก็ตาย ส่วนอีกคนบาดเจ็บ! สำหรับจวนเจ้าเมืองอุดรแล้ว นี่เป็นการสูญเสียที่เจ็บปวดที่สุดที่พวกเขาเคยเจอ พวกเขาไม่สามารถฟื้นตัวได้ไปอีกหลายสิบปี