ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1596 สงครามระหว่ามนุษย์และสัตว์อสูร (3) / ตอนที่ 1597 ตบหน้า
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1596 สงครามระหว่ามนุษย์และสัตว์อสูร (3) / ตอนที่ 1597 ตบหน้า
ตอนที่ 1596 สงครามระหว่ามนุษย์และสัตว์อสูร (3)
วานรยักษ์ต้องการจะอ้อมอวิ๋นอี้ไปโจมตีหั่วหั่วแต่กลับถูกอวิ๋นอี้ขวางไว้ เขาจึงยิ่งโกรธมากขึ้นแล้วต่อยเข้าไปที่หน้าอกของอวิ๋นอี้อย่างแรง
เวลาเดียวกันนั้น สัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นๆ ก็เริ่มลงมืออีกครั้ง พวกเขาตั้งใจจะบินโฉบลงมาแต่หั่วหั่วกลับใช้กำแพงไฟหยุดพวกเขาเอาไว้ สัตว์อสูรบางตัวหยุดไม่ทันจึงพุ่งชนเข้ากับกำแพงไฟจนทำให้พวกมันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
คนของกลุ่มพรรคไล่ตามวายุตะลึงงันจนพูดไม่ออกเมื่อพวกเขามองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ในชุดสีแดงเพลิง
สัตว์อสูรวิญญาณนี้…กำลังช่วยพวกเขางั้นหรือ
“แกว้กๆ!”
สัตว์อสูรวิญญาณที่ก่อนหน้านี้พุ่งเข้ามากลางฝูงชนต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มหนูหาทอง
“ถ้ามีกำแพงอยู่ที่นี่ก็ไม่มีใครผ่านเข้ามาได้” หั่วหั่วปรบมือแล้วหันมาหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยรอยยิ้มสดใส “นายหญิง แค่นี้คงพอแล้วเจ้าค่ะ”
อวิ๋นอี้และหนูหาทองสามารถจัดการกับสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นๆ ได้
นายหญิง?
ทุกคนหันไปมองอวิ๋นลั่วเฟิงทันที
สัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของนางหรือ เพราะมีไพ่ตายแบบนี้นี่เอง นางถึงกล้าเข้ามาในเมืองสัตวอสูร!
“ฮ่าๆๆ! เจ้ามนุษย์หน้าโง่!” วานรยักษ์หัวเราะดังลั่น “เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะเอาชนะเผ่าสัตว์อสูรได้ง่ายๆ ช่างไร้เดียงสาจนน่าขัน! เผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดสองเผ่ายังไม่ปรากฏตัวเลย! แต่ข้าได้รับข่าวมาแล้วว่ายอดฝีมือของเผ่าวิหคเพลิงมุ่งหน้ามาที่นี่แล้ว!”
สีหน้าของกลุ่มพรรคไล่ตามวายุซีดเผือด กำแพงไฟป้องกันไม่ให้ฝูงสัตว์อสูรวิญญาณข้างนอกเข้ามา แต่นั่นก็หมายความว่าพวกเขาเองก็ถูกขังอยู่ที่นี่เหมือนกัน เมื่อคนจากเผ่าวิหคเพลิงมาถึง พวกเขาก็คงหนีความตายไม่พ้น…
“ฮึ่ม!” วานรยักษ์ส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวอย่างเหยียดหยาม “มนุษย์สองคนนี้ทำร้ายราชาเสือดาว เผ่าสัตว์อสูรของพวกเราไม่มีวันไว้ชีวิตคนที่มาสร้างปัญหาแน่นอน!”
“อะไรนะ” ซงมู่หันมามองพวกเขาด้วยความตกใจ “จะ เจ้า…ทำร้ายราชาเสือดาวงั้นหรือ”
ใบหน้าไร้อารมณ์ของอวิ๋นเซียวและดวงตาสีนิลที่เย็นชาจ้องไปที่วานรยักษ์ตรงหน้าพวกเขา กลิ่นอายเคร่งเครียดถูกปลดปล่อยออกจากร่างของเขา ทำให้อาภรณ์สีดำของเขาเต้นระบำอย่างบ้าคลั่ง
ตอนนั้นเอง เสียงของวิหคเพลิงก็ดังขึ้นจากท้องฟ้า ทำให้ทุกคนตะลึงและเกือบจะทรุดตัวลงกับพื้น
วิหคเพลิงมาพร้อมกับเปลวไฟ ดังนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดงเพลิงจนเหมือนกับแสงงดงามจากพระอาทิตย์ตก ทั้งสว่างสดใสและเป็นประกาย ท้องฟ้ากลายเป็นภาพน่าตื่นตาตื่นใจ วิหคเพลิงจำนวนมหาศาลมุ่งหน้ามาจากไกลๆ อย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเงาสีแดงทิ้งไว้เบื้องหลัง เมื่อพวกเขาบินผ่านก็ราวกับพวกเขากำลังจุดประกายไฟให้ท้องฟ้า
วิหคเพลิงเหล่านี้สวยและสง่างามมากในขณะที่เข้าปกคลุมทุกตารางนิ้วบนนภาและปลดปล่อยแรงกดดันใส่ทุกคนอย่างหนัก จนพวกเขารู้สึกตัวว่าตนเองอ่อนแอขนาดไหนเมื่ออยู่ต่อหน้าวิหคเพลิงที่สง่างามเหล่านี้
“ฮ่าๆ พวกมนุษย์ เจ้าเห็นหรือไม่ หนึ่งในเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเรา เผ่าวิหคเพลิงมาถึงแล้ว! ถ้าพวกเจ้ายอมแพ้แล้วก้มหัวเป็นทาสของเผ่าสัตว์อสูรอย่างเชื่อฟัง ไม่แน่พวกเจ้าอาจจะยังพอมีความหวังก็ได้!” วานรยักษ์พูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง เสียงหัวเราะของเขาเต็มไปความเยาะเย้ยและเหยียดหยาม
เห็นได้ชัดว่าสำหรับสัตว์อสูรวิญญาณแล้ว มนุษย์มีไว้แค่เป็นทาสเท่านั้น! ก็เหมือนกับที่มนุษย์จับสัตว์อสูรข้างนอกเมืองสัตว์อสูรเป็นทาสนั่นแหละ
วิหคเพลิงปลดปล่อยเสียงร้องที่ไพเราะอีกครั้งจนดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า แล้วทำให้เสียงคำรามและเห่าหอนข้างล่างพวกเขาเหมือนเป็นแค่เสียงตอบรับเสียงร้องของวิหคเพลิงเท่านั้น
…………………………………..
ตอนที่ 1597 ตบหน้า
“มันจบแล้ว!” ความสิ้นหวังปรากฏบนใบหน้าของซงมู่ แล้วความหวังในดวงตาเขาก็หายไปโดยไร้ร่องรอย
การมาถึงของวิหคเพลิงก็เหมือนกับโทษตายของพรรคไล่ตามวายุ
“ท่านวิหคเพลิง มนุษย์เหล่านี้ทั้งเจ้าเล่ห์และน่าไม่อาย ข้าขอร้องท่าน ช่วยพวกเราด้วยขอรับ!”
สัตว์อสูรทุกตัวส่งเสียงร้องขึ้นมาพร้อมกัน! และบางตัวก็ส่งเสียงเพื่อขอความช่วยเหลือจากเผ่าวิหคเพลิง สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพและบูชา
ในทางกลับกันคนของพรรคไล่ตามวายุก็ทรุดตัวลงที่พื้นเหมือนว่าสิ่งที่รอคอยพวกเขามีเพียงเส้นทางของเทพแห่งความตาย
วิหคเพลิงที่นำหน้าตัวอื่นๆ อยู่กลางอากาศตัวใหญ่มาก ปีกของเขามีเปลวไฟลุกโชติช่วง และเมื่อเขากระพือปีก เสื้อผ้าของคนด้านล่างก็ติดไฟ
ความหวาดกลัวเข้าครอบง่ำจิตใจของทุกคน ตอนนี้เองที่ทุกคนเข้าใจว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เล็กแค่ไหนในสายตาของเผ่าสัตว์อสูร!
ตูม!
ทันใดนั้นเอง เสียงบาดหูก็ดังขึ้น แล้วผู้นำฝูงวิหคเพลิงก็โฉบลงมาหาอวิ๋นเซียวที่อยู่บนพื้น
กำแพงไฟที่แข็งแกร่งสั่นสะเทือนเพราะกลิ่นอายทรงพลังและรุนแรง สุดท้ายก็ถูกผ่าครึ่งก่อนจะกลายเป็นลูกบอลไฟแล้วหายไป
“พวกเราต้อนรับการกลับมาของนายท่าน!”
ปัง!
ผู้นำวิหคเพลิงรีบร่อนลงพื้น ร่างของเขาเปลี่ยนเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาที่มีเส้นผมสีแดงเพลิงคนหนึ่ง เขาคุกเข่าทำความเคารพตรงหน้าอวิ๋นเซียว
“พวกเราต้อนรับการกลับมาของนายท่าน!”
เสียงเข้มแข็งของวิหคเพลิงดังก้องไปทั่วท้องฟ้าจนสั่นสะเทือนไปในอากาศ
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที
สำหรับเผ่าสัตว์อสูร ความแปลกใจเปลี่ยนเป็นตะลึง แล้วความตะลึงก็เปลี่ยนเป็นความกลัว นัยน์ตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ในทางตรงกันข้าม ความหวังก็ค่อยๆ ปรากฏบนใบหน้าซีดของมนุษย์ทุกคน แล้วพวกเขาก็หันไปหาอวิ๋นเซียวและยอดฝีมือจากเผ่าวิหคเพลิง
นายท่าน? ถ้าพวกเขาได้ยินไม่ผิด เมื่อกี้ยอดฝีมือของเผ่าวิหคเพลิงเรียกอวิ๋นเซียวว่า ‘นายท่าน’ นี่
เรื่องนี้…เป็นไปได้อย่างไร เผ่าที่ทรงพลังอย่างเผ่าวิหคเพลิงจะยอมติดตามมนุษย์แล้วนับถือเป็นเจ้านายได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าในความคิดของทุกคนจะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีใครกล้าถามถึง อย่างไรก็ไม่มีใครกล้ายั่วโมโหยอดฝีมือจากเผ่าวิหคเพลิง
“อวิ๋นเซียว ไม่ใช่ว่าเจ้าควรจะอธิบายให้ข้าฟังหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วแล้วมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างนางด้วยรอยยิ้ม
“ข้าเคยบอกท่านแล้วว่าข้ามาที่แคว้นเจ็ดเมืองเพื่อตามหาผู้ติดตามให้กับท่าน แล้วยังบอกท่านแล้วว่าข้าพอมีอำนาจในแคว้นเจ็ดเมืองอยู่บ้าง…” อวิ๋นเซียวหยุดแล้วมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างจริงจัง “เผ่าวิหคเพลิงคือเผ่าที่ข้าได้รับมาตอนมาที่เมืองสัตว์อสูร”
มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงกระตุกเล็กน้อย “แล้วทำไมเจ้าไม่บอกว่าอำนาจที่เจ้ามีอยู่คือเผ่าวิหคเพลิง”
สีหน้าของอวิ๋นเซียวมีร่องรอยความแปลกใจ ไม่เข้าใจและเสียใจ “ก็ท่านไม่ได้ถามข้า…”
ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงถามเขา เขาก็ต้องบอกนางแน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่านางไม่เคยถาม ดังนั้นเขาก็เลยไม่เคยบอกนางเรื่องภายในเมืองสัตว์อสูร
อวิ๋นลั่วเฟิงกัดฟันแน่น “คืนนี้ข้าจะลงโทษเจ้า”
“ข้าจะเตรียมแส้ไว้รอท่าน” อวิ๋นเซียวตอบอย่างจริงจัง
ยอดฝีมือของเผ่าวิหคเพลิงรู้สึกเหมือนโลกของเขาแตกสลาย
นายหญิงกล่าวว่าจะลงโทษนายท่าน แล้วนายท่านก็พูดว่าเขาจะเตรียมแส้ไว้รอนางงั้นหรือ