ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1638 อวิ่นรั่วสุ่ย (6) / ตอนที่ 1639 อวิ๋นรั่วสุ่ย (7)
ตอนที่ 1638 อวิ่นรั่วสุ่ย (6)
ไม่นานเยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ยก็ก้าวเข้ามาในห้องมืดๆ แล้วก็เห็นคนที่นั่งอยู่ในห้องหยุดบทสนธนาแล้วหันมามองหน้าพวกนางแทน
“แม่นางหรูอี้ นางยืนยันว่าจะพาน้องสาวไปกับนางด้วยแต่ขยะแบบนี้…”
ความไม่พอใจของหลินซีถูกหรูอี้หยุดไว้ มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อยแล้วส่งยิ้มน่าหลงใหลไปให้ “ถ้าอย่างนั้นก็ส่งพวกนางไปที่ตระกูลชวี”
หลินซีประหลาดใจแต่ความสงสัยของเขาก็ถูกกลืนกลับไปเมื่อเห็นหรูอี้ขยิบตาให้เขา
เยี่ยจวินกำหมัดแน่น ดวงตาของนางคมเหมือนกระบี่จนทำให้หัวใจของหรูอี้นสะท้าน
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุแค่ห้าปี ทำไมนางถึงมีท่าทางน่ากลัวขนาดนี้ ถ้านางโตขึ้นเมื่อไหร่นางต้องนำหายนะมาให้นางแน่…
ตอนนั้นหรูอี้ไม่รู้ว่านี่เป็นคำอวยพรหรือคำสาปที่ส่งเยี่ยจวินไปให้ตระกูลชวี
“เด็กน้อย” เมื่อคิดได้อย่างนั้นหรูอี้ก็ยิ้มแล้วยืนขึ้นช้าๆ “ข้าทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อเจ้า ตระกูลชวีมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหอแพทย์ ถ้าเจ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลชวี เจ้าก็ได้มีความสุขในฐานะชนชั้นสูงและมั่งคั่ง”
อวิ๋นรั่วสุ่ยใช้ดวงตาคู่โตของนางเหลือบมองเยี่ยจวิน “นายหญิงของหอแพทย์เป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า ถ้าเจ้ากล้าส่งท่านพี่เยี่ยจวินให้ตระกูลชวี ลูกพี่ลูกน้องของข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่”
ท่านพ่อบอกว่าลูกพี่ลูกน้องของนางแข็งแกร่งมาก ตระกูลจวินเคยถูกรังแกตอนอยู่ที่แผ่นดินหลงเซี่ยว ท่านลุงและท่านป้าถูกสังหารและท่านตาก็โดนดูถูกและรังแกแต่ลูกพี่ลูกน้องของนางก็แบกภาระหนักอึ้งไว้บนบ่าบอบบางของนางแล้วก่อตั้งหอแพทย์ขึ้น ส่วนตระกูลชวีนั้น…
นับเป็นอะไรได้
ท่านพี่เยี่ยจวินเป็นน้องสามีของลูกพี่ลูกน้องนาง สตรีผู้นี้กล้าส่งท่านพี่เยี่ยจวินไปให้ตระกูลที่แค่เกี่ยวข้องกับหอแพทย์งั้นหรือ
ได้ยินอย่างนั้นหรูอี้และพรรคพวกก็มองหน้ากันก่อนจะยกยิ้มเยาะเย้ย
“เจ้าบอกว่าลูกพี่ลูกน้องเจ้าเป็นนายหญิงของหอแพทย์งั้นหรือ ฮะๆ น่าขัน ถ้านายหญิงของหอแพทย์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า ข้าก็คงเป็นสามีของนายหญิงของหอแพทย์แล้ว”
ชายร่างใหญ่ระเบิดเสียงหัวเราะ ดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าอวิ๋นรั่วสุ่ยกำลังโกหก
ถึงแม้ว่าเยี่ยเสียจะเป็นที่รู้จักกันดีในแผ่นดินนี้และก็มีหลายคนที่รู้จักเยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ยแต่คนพวกนี้ส่วนใหญ่เป็นคนสำคัญของแผ่นดินนี้ แม้แต่ข่าวการหายตัวไปของเด็กๆ ของตระกูลเยี่ยก็รู้กันแค่ตระกูลที่มีอำนาจเท่านั้น
หรูอี้และคนอื่นๆ เป็นแค่กลุ่มลักเด็กเล็กๆ ที่อยู่ในชนชั้นล่างของแผ่นดินนี้ พวกเขาไม่รู้ชื่อของบุตรหลานตระกูลเยี่ย! นั่นทำให้หรูอี้ไม่ได้รู้สึกแปลกๆ เมื่อได้ยินชื่อของเยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ย
“เด็กน้อย มีคนมากมาพยายามจะสร้างความสัมพันธ์กับหอแพทย์แต่ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะทำได้” หรูอี้ชำเลืองมองด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “แต่ว่าตอนนี้ข้าให้โอกาสดีๆ กับเจ้า ถ้าเจ้าดูแลนายน้อยของตระกูลชวีได้ดีหลังจากที่แต่งเข้าไปแล้ว เข้าก็จะมีอนาคตที่ดีแน่นอน”
พูดจบหรูอี้ก็โบกมือแล้วออกคำสั่งอย่างเย็นชา “หลินซี มัดพวกนางแล้วโยนเข้าไปในรถม้าของข้าซะ!”
ในหมู่คนพวกนี้หรูอี้และชายในชุดผ้าไหมเป็นผู้นำ ในเมื่อชายในชุดผ้าไหมไม่เคยตัดสินใจจึงเป็นหน้าที่ของหรูอี้
หลินซีก้มคำนับแล้วพาเยี่ยจวินและอวิ๋นรั่วสุ่ยออกไป
…………………………………..
ตอนที่ 1639 อวิ๋นรั่วสุ่ย (7)
“หรูอี้ พรสวรรค์ของอวิ๋นรั่วสุ่ยแย่เกินไปและตระกูลชวีก็คงไม่ต้องการนาง เหตุใดเจ้าถึงยอมรับคำขอของเยี่ยจวิน” ชายร่างใหญ่ถามขณะขมวดคิ้ว
“เจ้าคิดว่าข้าจะส่งอวิ๋นรั่วสุ่ยไปตระกูลชวีจริงๆ หรือ แน่นอนว่าไม่มีทาง ข้าก็แค่ทำเพื่อให้เยี่ยจวินพอใจ นางยังเด็กและมีบุคลิกเข้มแข็งและไม่ได้จัดการง่ายเหมือนอวิ๋นรั่วสุ่ย”
หรูอี้ยิ้มเยาะ “เพื่อป้องกันไม่ให้นางตัดสินใจผิดพลาด ข้าก็ต้องตามใจนาง!”
เห็นได้ชัดว่าในความคิดของพวกเขาเทียบกับจิตใจที่แข็งแกร่งของเยี่ยจวินแล้ว อวิ๋นรั่วสุ่ยเอาชนะง่ายกว่ามาก
“ระหว่างทาง…ก็หาทางแยกอวิ๋นรั่วสุ่ยออกจากเยี่ยจวินแล้วพาเด็กผู้หญิงคนนั้นกลับมาที่นี่” …
บนถนนขรุขระที่รถม้าวิ่งผ่าน คนขับรถม้าคือชายร่างใหญ่และชายหนุ่มกับเด็กผู้หญิงอายุราวสี่ห้าปีสองคนก็นั่งอยู่ข้างในรถม้า เด็กผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าจับมือเด็กผู้หญิงอีกคนไว้แน่น ดวงตากลมโตใสซื่อของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ว่า…
เด็กผู้หญิงที่นั่งข้างนางทำให้นางรู้สึกดีขึ้น
“ข้ามีคำถาม” เยี่ยจวินเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองชายหนุ่มข้างนางพวกนางอย่างเย็นชา “นอกจากที่นี่แล้ว เจ้ายังมีที่อื่นอีกหรือไม่”
หลินซีเหลือบมองเยี่ยจวิน “มีสิ!”
“ถ้าอย่างนั้น…ที่เจ้าพูดว่าจับเด็กผู้ชายที่อายุเท่าข้ามา ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนแล้ว”
หลินซีหยุด “เจ้าอยากรู้ไปทำไม”
เยี่ยจวินต้องการจะถามต่อแต่นางก็กลัวว่าจะโดนเอาเรื่องนี้มาขู่ดังนั้นนางจึงหันหน้าหนีแล้วตอบอย่างเย็นชาว่า “ข้าก็แค่สงสัย แค่นั้นแหละ”
หลินซีไม่ได้ถามอะไรนางเพิ่มแล้วพูดแค่ว่า “เด็กน้อย เจ้าควรห่วงตัวเองดีกว่า พยายามทำตัวดีๆ เมื่อไปถึงตระกูลชวีไม่อย่างนั้นเจ้าจะต้องพบกับชะตากรรมที่โหดร้าย”
ตอนนั้นเองรถม้าก็หยุดวิ่ง หลินซีขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเจ้ารออยู่ที่นี่”
พูดจบเขาก็กระโดดลงไปจากรถม้า
พอหลินซีกระโดดลงจากรถม้าไปแล้ว เยี่ยจวินก็รีบหันไปหาอวิ๋นรั่วสุ่ย “สุ่ยเอ๋อร์ ฟังข้านะ คนพวกนี้ไม่มีทางยอมให้เจ้าไปตระกูลชวีกับข้า ในเมื่อข้ายังไม่มั่นใจว่าพี่ชายของข้าถูกพวกเขาจับมาหรือไม่ ข้าก็จำเป็นต้องอยู่ที่นี่”
“ท่านพี่เยี่ยจวิน…”
“ดังนั้นถ้าหลังจากนี้พวกเขาแยกพวกเราออกกัน เจ้าสามารถอยู่ห่างจากข้าได้ชั่วคราวแล้วส่งข้อความไปหาตระกูลเยี่ยขอให้เขามาที่ตระกูลชวี”
“ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” อวิ๋นรั่วสุ่ยกระพริบตาแล้วพูดว่า “ท่านพี่เยี่ยจวิน ข้าจะส่งข้อความไปที่ตระกูลเยี่ย ได้โปรดรอข้าอยู่ที่ตระกูลชวีนะเจ้าคะ”
ตอนที่เยี่ยจวินกำลังจะพูดต่อ หลินซีก็กลับเข้ามาในรถม้า เขามองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทั้งสองอย่างเย็นชาแล้วพูดอย่างเฉยชาว่า “อวิ๋นรั่วสุ่ย รถม้ามีบางอย่างผิดปกติ รถม้าทนรับน้ำหนักมากไม่ได้ดังนั้นข้าต้องพาเจ้าไปที่ตระกูลชวีก่อน”
รถม้าทนรับน้ำหนักไม่ได้งั้นหรือ
เยี่ยจวินตะลึง นางคิดว่าคนพวกนี้จะมีข้ออ้างที่ดีกว่านี้แต่เขากับใช้ข้ออ้างไม่ได้เรื่องแทน พวกเขาคิดว่าพวกนางโดนหลอกเพราะเป็นแค่เด็กหรือ
“ท่านพี่เยี่ยจวิน” อวิ๋นรั่วสุ่ยใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตามองเยี่ยจวินอย่างน่าสงสาร “ข้าจะไปหาท่านทีหลังนะเจ้าคะ”