ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1642 กลับมาที่หอแพทย์ (1) / ตอนที่ 1643 กลับมาที่หอแพทย์ (2)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1642 กลับมาที่หอแพทย์ (1) / ตอนที่ 1643 กลับมาที่หอแพทย์ (2)
ตอนที่ 1642 กลับมาที่หอแพทย์ (1)
“พวกเจ้ามาจากหอแพทย์งั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงก้มมองคนด้านล่างแล้วพูดด้วยน้ำเสียงร้ายกาจอันทรงพลัง
ศิษย์พี่อวี๋พูดอย่างอับอายว่า “ข้าและสหายพึ่งเข้าร่วมหอแพทย์ได้ไม่นาน ครั้งนี้พวกเรามาที่นี่เพื่อตามหาหญ้าอสรพิษวิญญาณเอาไปแลกกับคัมภีร์วิชาแพทย์ของหอแพทย์ ถ้าครั้งนี้แม่นางไม่ได้มาช่วยพวกเราไว้ พวกเราก็คงตายไปแล้ว”
เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินอย่างนั้น นางก็มองใบหน้าหล่อเหลาของเขา “เจ้ามีพรสวรรค์นะ และการออกมาเสี่ยงก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรแต่เจ้าควรจำไว้ว่าไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรต้องไม่ทำเกินความสามารถตัวเองด้วย ถ้าเจ้าจดจำสิ่งนี้ไว้ได้ เจ้าจะสร้างที่ให้ตัวเองบนแผ่นดินนี้ได้”
หวืด!
พูดจบร่างของอวิ๋นลั่วเฟิงก็กลายเป็นลำแสงพุ่งหายไปทันที หลังจากที่นางไปแล้วกลุ่มเด็กหนุ่มสาวก็พึ่งรู้สึกตัวว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นและมองทิศทางที่นางจากไปอย่างแปลกใจ
“นางเป็นใครกัน เหตุใดนางถึงพูดอย่างนั้นกับพวกเรา” เด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มขมวดคิ้วและใบหน้าบอบบางของนางก็แสดงความสับสน
ศิษย์พี่อวี๋คิดสักพัก “พวกเราเอาหญ้าอสรพิษวิญญาณกลับไปกันก่อนเถอะ”
ตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าสิ่งที่อวิ๋นลั่วเฟิงพูดในวันนี่จะช่วยชีวิตเขาไว้ในอนาคตแต่ตอนนี้เขายังไม่รู้ความหมายของคำพูดนาง
…
หอแพทย์
ภายในห้องกว้างและสว่างห้องหนึ่งมีชายชราสองคนนั่งเล่นหมากรุกอยู่ตรงข้ามกัน
คนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีขาวและดูเฉยชาเหมือนเหล่าเซียนที่ละทางโลกขณะที่อีกคนมีใบหน้ายิ้มแย้มแต่ค่อนข้างดูเหยียดหยาม
“ฮะๆ เก๋อหยาง ครั้งนี้ข้าก็ชนะอีกแล้ว” ชิงมู่หัวเราะ “เหตุใดข้าถึงคิดว่าเจ้าดูใจลอยตอนกำลังเล่นหมากรุกกับข้า”
เก๋อหยางส่ายหน้า “ข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ข้ารู้สึกมีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นที่แผ่นดินนี้”
“ชิ” ชิงมู่ส่งเสียงไม่พอใจ “ตั้งแต่ที่นายหญิงจากไป แดนลับแลก็เงียบสงบแล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร อีกอย่างนายหญิงก็หายไปเกือบห้าปีแล้ว ข้าสงสัยจริงๆ ว่านางอยู่ที่แคว้นเจ็ดเมืองเป็นอย่างไรบ้าง”
เวลาห้าปีไหลผ่านไปเหมือนสายน้ำ ในช่วงห้าปีที่อวิ๋นลั่วเฟิงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย…
เมื่อคิดถึงสตรีที่หายหน้าไปห้าปี ชิงมู่ก็ถอนหายใจ ตั้งแต่ตอนที่เขาออกจากจักรวรรดิเทียนหุยเขาก็ตัดสินใจจะติดตามอวิ๋นลั่วเฟิงไปตลอดชีวิต! แต่ว่า…
ขณะที่ชิงมู่และเก๋อหยางกำลังพูดคุยกันอยู่ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ถูกผู้คุ้มกันของหอแพทย์หยุดไว้
“ถ้าเจ้ามาที่หอแพทย์เพื่อประเมินระดับทักษะทางการแพทย์ ได้โปรดเดินออกไปแล้วเลี้ยวขวา ถ้าเจ้ามาที่นี่เพื่อเข้าร่วมหอแพทย์ เจ้าต้องไปประเมินทักษะทางการแพทย์เสียก่อนไม่อย่างนั้นก็ไม่มีสิทธิก้าวเข้ามาในหอแพทย์
ผู้คุ้มกันประตูพูดประโยคเดิมๆ ด้วยสีหน้าเฉยชา
อวิ๋นลั่วเฟิงชะงัก นางจากไปห้าปีแต่ทันทีที่นางกลับมา นางก็ถูกคนของตัวเองไล่ออกไปงั้นหรือนี่
“ข้ามาที่นี่เพื่อหาคน” เด็กชายตัวน้อยที่ถูกอวิ๋นลั่วเฟิงอุ้มอยู่ ดิ้นออกจากมือนางแล้วปัดฝุ่นบนเสื้อคลุมที่สกปรกของเขาออกก่อนจะเงยใบหน้าน่ารักขึ้น “ข้าต้องการพบผู้อาวุโสชิงมู่และผู้อาวุโสเก๋อหยาง”
“เสียใจด้วย ท่านผู้อาวุโสไม่พบคนที่ไม่มีตราของหอแพทย์
ขอทานตัวน้อยนี้กล้าขอพบผู้อาวุโสของพวกเขางั้นหรือ
…………………………………..
ตอนที่ 1643 กลับมาที่หอแพทย์ (2)
อะไรที่ทำให้เขาคิดว่าตัวเองจะขอสิ่งนี้ได้
เยี่ยเสียที่โดนตะคอกก็กำหมัดแน่นแล้วพยายามอย่างมากที่จะระงับความโกรธแล้วพูดลอดไรฟันว่า “ข้าอยากพบผู้อาวุโสทั้งสอง ไปแจ้งพวกเขาเดี๋ยวนี้! “
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยของตระกูลเยี่ยแต่เขาก็ไม่เคยออกจากบ้านไปไหนดังนั้นคนของหอแพทย์จึงไม่เคยพบหน้าเขา ตอนนั้นเองก็มีเสียงต่ำๆ ดังขึ้น
“เกิดอะไรขึ้น”
ผู้คุ้มกันหันหลังไปก็เจอชายชราคนหนึ่งเดินเข้ามาจากนั้นเขาก็ยกยิ้ม “ผู้อาวุโสชวี ท่านมาแล้วหรือขอรับ คนพวกนี้ต้องการพบผู้อาวุโสเก๋อหยางและผู้อาวุโสชิงมู่แต่พวกเขาไม่มีตราของพวกเรา ข้าน้อยก็เลยเชิญให้พวกเขาออกไปขอรับ”
ชวีโยวพยักหน้าอย่างเฉยชา เขากวาดสายตามองอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นก่อนดวงตาชราของเขาจะเกิดประกายจางๆ “เด็กสาวคนนี้เป็นแพทย์งั้นหรือ”
ชวีโยวมีดวงตาเฉียบแหลมเพียงมองแวบเดียวก็รู้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นแพทย์
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองใบหน้าชราของชวีโยวแล้วพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่แล้ว”
ตัวนางเป็นแพทย์จริงๆ จึงไม่ได้ปฏิเสธ
“ในเมื่อเจ้าเป็นแพทย์ก็เข้าร่วมหอแพทย์ได้แต่ข้ามีข้อแม้…” ชวีโยวส่งยิ้มให้แล้วเชิดหน้าขึ้น “ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นศิษย์ของข้า เจ้าว่าอย่างไร”
เสี่ยวโม่มองชวีโยวเหมือนกำลังมองคนโง่ด้วยสายตาเหยียดหยาม
ชายชราคนนี้โง่ใช่หรือไม่ นายหญิงของเขาเป็นประมุขของหอแพทย์ แล้วเขาที่มีตำแหน่งเป็นแค่ผู้อาวุโสมาขอให้ประมุขของหอแพทย์มาเป็นศิษย์เขาเนี่ยนะ
“แม่นาง ความประทับใจครั้งแรกสำคัญมาก ข้าประทับใจเจ้ามากตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นดังนั้นข้าจึงอยากได้เจ้ามาเป็นศิษย์ ไม่ต้องกังวล ข้ามีตำแหน่งสูงในหอแพทย์เป็นรองก็แค่ผู้อาวุโสชิงมู่และผู้อาวุโสเก๋อหยางดังนั้นเจ้าจะมีอนาคตที่สดใสในหอแพทย์แน่นอน”
เมื่อพูดถึงชิงมู่และเก๋อหยาง ชวีโยวก็ค่อนข้างพูดถึงด้วยความเคารพ ถึงอย่างไรตอนที่นายหญิงไม่อยู่ หอแพทย์ก็พัฒนาขึ้นเพราะผู้อาวุโสสองคนนี้ เขาที่มาทีหลังก็เทียบกับผู้อาวุโสทั้งสองไม่ได้
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา “ถ้าข้าปฏิเสธล่ะ เจ้าจะไม่ยอมให้ข้าเข้าหอแพทย์งั้นหรือ”
ชวีโยวหัวเราะ “แม่นาง เจ้าเป็นคนแรกที่ปฏิเสธข้า ถ้าเจ้าปฏิเสธข้า แน่นอนว่าเจ้าก็เข้าร่วมหอแพทย์ไม่ได้และเจ้าจะต้องเสียใจไปทั้งชีวิต! “
เมื่อเยี่ยเสียที่เงียบมาตลอดได้ยินคำพูดของเขาก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงขึ้นจมูก
“ถ้านางอยากเข้า ข้าขอให้ชิงมู่กับเก๋อหยางรับนางเป็นศิษย์ก็ได้ เจ้าเป็นใครกัน ถึงกล้าพูดกับคนที่ช่วยชีวิตข้าไว้แบบนี้”
พูดตามตรง ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะช่วยเยี่ยเสียไว้แต่ตอนแรกเขาก็ยังระแวงนางอยู่ แต่ระหว่างทางที่มาที่หอแพทย์อวิ๋นลั่วเฟิงยอมไม่ใช่การบินเพราะเขาไม่ถูกกับการบินทำให้เขาซึ้งใจ…
แต่ว่าตอนที่ข้ามภูเขามีกับดักเยอะเกินไป นางจึงพาเขาบินอีกครั้งเพื่อร่นเวลา
“ฮะๆ ” ชวีโยวยิ้มเยาะ “เด็กน้อย ระวังปากหน่อย! ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสชิงมู่หรือผู้อาวุโสเก๋อหยางก็ไม่มีใครมีหลานชายทั้งนั้น เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อคำพูดเจ้าหรือ ถ้านางไม่ยอมเป็นศิษย์ของข้าก็ตามใจ! ไสหัวออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! “
ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงยอมเป็นศิษย์เขา เขาจะดูแลนางอย่างดีแน่นอน ถ้าไม่ยอมแล้วเขาจะเสียเวลาอันมีค่าไปกับคนพวกนี้ทำไม
“แม่นาง ท่านมาทำอะไรที่นี่ ท่านก็ต้องการเข้าหอแพทย์เหมือนกันหรือ”