ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1662 กลับบ้าน (3) / ตอนที่ 1663 กลับบ้าน (4)
ตอนที่ 1662 กลับบ้าน (3)
เยี่ยจวินเกลียดชังความชั่วร้ายเหมือนศัตรูตัวฉกาจแล้วเมื่อนางได้ยินเสียงร้องไห้ของอย่างทุกข์ใจของเด็กน้อย นางก็โกรธจนหน้าแดงก่ำ
“เหตุใดถึงมีคนโหดร้ายและไร้ศีลธรรมขนาดนี้อยู่บนโลกด้วย ท่านป้าหนิงซิน พวกรับเด็กพวกนี้ไว้ได้หรือไม่คะ ถึงอย่างไรตระกูลเยี่ยก็ใหญ่มากและมีธุรกิจมากมาย การดูแลพวกเขาคงไม่ลำบากมากนัก
หนิงซินขมวดคิ้วอยู่นาน สุดท้ายนางก็ปล่อยมือ
“ข้าจะส่งคนไปตรวจสอบเรื่องที่พวกเจ้าเล่าก่อน ถ้าเป็นเรื่องจริง ตระกูลเยี่ยจะรับพวกเจ้าไว้แต่ถ้าข้ารู้ว่าพวกเจ้าโกหก ข้าจะไม่ปรานีแม้พวกเจ้าจะเป็นแค่เด็กก็ตาม! “
นางไม่มีทางยอมให้ใครมาหลอกลวงครอบครัวและญาติของนาง!
สีหน้าโศกเศร้าของเด็กหญิงเปลี่ยนเป็นดีใจ “ขอบคุณแม่นางหนิง ขอบคุณคุณหนูเยี่ยจวินเจ้าค่ะ”
อวิ๋นรั่วสุ่ยเดินเข้าไปหาแล้วช่วยพยุงตัวนางขึ้น ขณะที่กะพริบตาช้าๆ
“เจ้าอยากจะแก้แค้นท่านลุง ท่านป้าของเจ้าด้วยตัวเองหรือไม่”
เด็กสาวชะงักแล้วรีบพยักหน้า “ท่านพ่อของข้าตายเพราะท่านลุง แต่ก่อนที่ท่านพ่อจะตาย เขาก็ขอให้คนที่เดินทางไปด้วยนำสมุนไพรกลับมาด้วย ไม่อย่างนั้นท่านลุงของข้าคงตายไปนานแล้ว แต่ว่าพวกเขากับทำร้ายผู้มีพระคุณแล้วขายข้าแล้วข้าจะไม่อยากแก้แค้นเขาได้อย่างไร”
“ท่านแม่เจ้าคะ” อวิ๋นรั่วสุ่ยเงยหน้ามองหนิงซิน ดวงตาฉ่ำของนางเป็นประกายไร้เดียงสา “เหตุใดท่านไม่รับนางเป็นศิษย์แล้วสอนให้นางฝึกพลังฌานเจ้าค่ะ”
หนิงซินหยุดคิด เด็กผู้หญิงคนนี้มีพรสวรรค์ไม่เลวและถ้าได้รับการสั่งสอนที่ดีนางก็คงมีอนาคตที่สดใส ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่เคยปฏิเสธคำขอของบุตรสาวอยู่แล้ว
“ก็ได้ เด็กๆ ที่ไม่มีที่ไป ข้าจะสอนเจ้าฝึกพลังฌาน แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและความขยันของพวกเจ้าเอง! ” หนิงซินหยุดก่อนพูดต่อ “ถ้าภายในห้าปีพวกเจ้าพัฒนาถึงขั้นที่ข้าพอใจ เยี่ยจวินและพี่ชายของนางรวมถึงสุ่ยเอ๋อร์ก็จะอยู่ในความคุ้มครองเจ้าในอนาคต!
เพราะอวิ๋นรั่วสุ่ย เยี่ยจวินและพี่ชายของนางยังเด็กดังนั้นการมีเด็กๆ เหล่านี้คอยให้การคุ้มครองก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม
แน่นอนว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความสำเร็จของพวกเขาเอง เด็กๆ มีความสุขเพราะพวกเขาไม่เคยคิดว่าเรื่องไม่คาดฝันจะทำให้พวกเขาได้รับโอกาสเข้าร่วมกับตระกูลเยี่ยและได้รับการสั่งสอนจากหนิงซินด้วยตัวเอง…และยังมีโอกาสได้เป็นผู้คุ้มครองทายาทตระกูลเยี่ยด้วย
ทันทีที่หนิงซินพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็พาอู๋เหยียนออกมา ใบหน้าหล่อเหลาของอู๋เหยียนเปลี่ยนจากความเย็นชาและแปลกแยกเป็นความเคารพนับถือ
“เฟิงเอ๋อร์” หนิงซินก้าวเร็วๆ มายืนข้างอวิ๋นลั่วเฟิง “เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าถามเบื้องหลังของเด็กหนุ่มคนนี้หรือยัง”
อวิ๋นลั่วเฟิงส่ายหน้า “เรื่องนั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญกว่าคือในอนาคตเขาจะอยู่ในตระกูลเยี่ยและยังคอยปกป้องอยู่ข้างๆ สุ่ยเอ๋อร์”
ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ได้ตรวจสอบเบื้องหลังของคนคนนั้น หนิงซินต้องปฏิเสธในการพาพวกเขาเข้าตระกูลเยี่ยแน่ๆ แต่ว่าคนที่พูดคืออวิ๋นลั่วเฟิง นางเชื่อว่าทุกอย่างที่อวิ๋นลั่วเฟิงตัดสินใจจะถูกต้องเสมอ
“เข้าใจแล้ว” หนิงซินตอบตกลงโดยไม่ลังเล
อวิ๋นลั่วเฟิงยกยิ้ม ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของอู๋เหยียนจะยังถูกผนึกอยู่แต่นางก็เชื่อว่าถ้าเขาอยู่ข้างสุ่ยเอ๋อร์ นางจะปลอดภัย
“พี่อู๋เหยียน” รอยยิ้มใสซื่อปรากฏบนใบหน้าของอวิ๋นรั่วสุ่ยทำให้นางดูไร้เดียงสาและน่าเอ็นดู “ในอนาคต พวกเราจะเป็นเพื่อนกัน! “
เพื่อน?
อู๋เหยียนชะงัก เขาก้มหน้าแล้วมองมือที่นางยื่นมา เขารู้สึกหวั่นไหว กลายเป็นว่า เขาก็มีเพื่อนได้หรือนี่
เพราะเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ อู๋เหยียนจึงยื่นมือออกไปกุมมือเล็กๆ บอบบางของนางแล้วทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจอย่างหนักแน่น ถึงแม้ว่าข้าจะต้องทิ้งชีวิตนี้ไป ข้าก็จะต้องปกป้องรอยยิ้มใสซื่อไร้เดียงสาบนใบหน้าของนางไว้ให้ได้
…………………………………..
ตอนที่ 1663 กลับบ้าน (4)
“เฟิงเอ๋อร์ อดีตแม่ทัพและท่นลุงรองของเจ้าคิดถึงเจ้ามาก” หนิงซินมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างอ่อนโยน “เจ้าตั้งใจจะกลับไปกับข้าหรือไม่”
“ได้เจ้าค่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงหยักหน้า หลังจากที่นางแยกจากครอบครัวไปห้าปีก็ถึงเวลาที่นางจะเดินทางกลับไปเยี่ยมอดีตแม่ทัพและท่านอารองของนาง…
…
แคว้นเฟิงอวิ๋น
อวิ๋นชิงหย่านั่งอยู่ใกล้โลงศพและมีขวดไวน์วางตั้งอยู่ข้างหน้าเขา มือของเขาถือขลุ่ยหยกสีเงินอยู่และกำลังเล่นเพลงอยู่
ข้างหน้าเขามีโลงศพสามโรงวางอยู่และสองในสามก็เห็นได้ชัดว่าพึ่งย้ายมาไม่นานแต่อักษรที่สลักอยู่บนโลงศพยังคงชัดเจน
อักษรสองตัวถูกสลักไว้ที่โลงศพเป็นแนวตั้งซึ่งอ่านว่าอวิ๋นเทียนและอีกหนึ่งคือไป๋หลิง!
อวิ๋นชิงหย่ามองโลงศพทั้งสามอย่างเงียบๆ ด้วยดวงตาเป็นประกายโศกเศร้า
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ท่านผู้เฒ่าและข้าออกจากแคว้นหลงเซียวแล้วจังย้ายโลงศพของท่านมาวางไว้ข้างท่านแม่ทัพเหวิน” ใบหน้าหล่อเหลาของอวิ๋นชิงย่าปรากฏรอยยิ้มบาง “ข้าคิดว่าท่านต้องได้ยินเรื่องความสำเร็จของเฟิงเอ๋อร์ในช่วงหลายปีมานี้จากท่านแม่ทัพเหวินแล้วและท่าน…ก็คงสามารถนอนพักผ่อนได้อย่างสงบ”
“เฟิงเอ๋อร์ไม่ใช่แค่ได้พบสามีที่ทุกคนใฝ่ฝันแต่ความแข็งแกร่งของนางก็อยู่เหนือคนทั่วไป ถ้าพวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้ามั่นใจว่าพวกท่านดีใจกับความสำเร็จของนางในวันนี้แน่นอน”
“อ้อ จริงสิ พี่ใหญ่…ข้าลืมบอกท่านไปว่าข้าแต่งงานแล้วนะ ภรรยาของข้างดงามมากและข้าก็รักนางมาก บุตรสาวของข้าก็น่ารักน่าเอ็นดูและไร้เดียงสา นางเป็นสุดที่รักที่มีค่าที่สุดของข้า ถ้าพวกท่านยังอยู่ พวกท่านต้องแสดงความยินดีกับข้าแน่นอน”
“ในโลกนี้ คนที่ข้านับถือสามารถนับได้ด้วยมือข้างเดียวและพี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ก็เป็นหนึ่งในนั้น วีรบุรุษอย่างท่านและคนกล้าหาญอย่างพี่สะใภ้ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าบุรุษก็ทำให้คนรู้สึกประทับใจ เมื่อถึงวันที่ข้าต้องมุ่งหน้าไปโลกหลังความตาย ข้าก็คงสามารถไปพบกับพวกท่านได้…”
“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ แม่ทัพเหวิน ได้โปรดให้ข้ายกจอกคำนับพวกท่านเถิด” อวิ๋นชิงหย่าวางขลุ่ยหยกของเขาลงแล้วยกจอกเหล้าขึ้นมาสาดลงที่พื้น
ทันใดนั้นเสียงร้องของเหยี่ยวก็ดังขึ้น เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นฝูงเหยี่ยวที่มีสัญลักษณ์ของตระกูลเยี่ย
ภาพคนที่ยืนอยู่บนหลังเหยี่ยวสะท้อนเขาสู่สายตาของเขา…
“ซินเอ๋อร์ เจ้าพาสุ่ยเอ๋อร์กลับมาแล้วหรือ” อวิ๋นชิงหย่ายิ้ม เขาที่ตอนแรกตั้งใจจะพูดอะไรต่อก็เห็นสตรีในชุดสีขาวยืนอยู่ข้างหนิงซินเสียก่อน
“เฟิงเอ๋อร์?” เขาชะงักไปชั่วครู่ก่อนที่ความดีใจจะเข้ามาแทนที่ความโศกเศร้าในดวงตาของเขา “เฟิงเอ๋อร์เจ้ามาแล้วหรือ”
ผ่านมาห้าปีแล้ว…สวรรค์รู้ดีว่าครอบครัวของนางในแดนลับแลอยากให้นางกลับมามากแค่ไหนแต่เด็กสาวก็จากไปถึงห้าปีโดยไร้ข่าวคราวหรือจดหมายใดๆ ถึงแม้ว่าตระกูลอวิ๋นจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของนางแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงไม่ได้…
“ท่านอารอง?” เหมือนว่าอวิ๋นลั่วเฟิงก็เห็นอวิ๋นชิงหย่าที่ยืนอยู่ข้างล่างเหมือนกัน นางกระโดดลงจากเหยี่ยว
“ท่านอารอง เหตุใดท่านถึงมาอยู๋ที่นี่เจ้าคะ”
อวิ๋นชิงหย่ายิ้ม “ตั้งแต่ย้ายโลงศพของบิดามารดาเจ้ามาที่นี่ ข้าก็มาที่นี่เพื่อพูดคุยกับพวกเขาทุกเดือนและแม่ทัพอวิ๋น…ตอนนั้นเขาเสียสละชีวิตเพื่อช่วยเยี่ยจิ่งเฉินและข้าก็ควรจะมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเขาเหมือนกัน”
เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินคำพูดของอวิ๋นชิงหย่า นางก็หันหลังไปช้าๆ และสังเกตเห็นโลงศพข้างหลังนาง
“ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ” นางยกยิ้มเล็กน้อย “ลูกไม่ได้มาเยี่ยมท่านหลายปี ท่านโทษข้าหรือไม่เจ้าคะ”
“แต่ว่า…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุด “ปี้เซียวเคยพูดถึงมาก่อนแล้วว่ามีโลกอยู่มากมายและไม่มีอะไรแปลกประหลาดเกินจินตนาการ ถ้าโลกหลังความตายมีอยู่จริงในโลกใบนี้ ถ้าอย่างนั้นลูกก็จะไปพาท่านออกมาจากที่นั่นแม้ว่าลูกจะต้องพลิกทั้งโลกหลังความตายก็ตาม!”