ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1674 ทางเลือกของเยี่ยฉี (3) / ตอนที่ 1675 เสี่ยวไป๋ตื่นแล้ว (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1674 ทางเลือกของเยี่ยฉี (3) / ตอนที่ 1675 เสี่ยวไป๋ตื่นแล้ว (1)
ตอนที่ 1674 ทางเลือกของเยี่ยฉี (3)
“อ้า!” เสียงร้องดังก้องไปทั่วห้องขัง ซูจวิ้นกุมใบหูที่เลือดออกของเขาแล้วถอยออกไปก่อนจะจ้องหน้าเยี่ยฉีอย่างเดือดดาล
“นังสารเลว เจ้ากล้ากัดข้างั้นหรือ”
เยี่ยฉียิ้มเยาะก่อนจะเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม “ข้ายังตัดสินใจเหมือนเดิม ข้าไม่มีทางร่วมมือกับเจ้า!”
“ดี! ดี ดี ดี!” ซูจวิ้นหัวเราะด้วยความโกรธและพูดคำเดิมซ้ำๆ
“ข้าให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายแต่ในเมื่อเจ้าไม่เห็นค่าก็อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน”
เพี้ยะ!
ซูจวิ้นเดินเข้ามาหานางอีกครั้งแล้วกระชากคอเสื้อนางขึ้นมาก่อนจะตบหน้านางจนเกิดเสียงดัง ทันใดนั้นใบหน้าของเยี่ยฉีก็บวมและมีเลือดไหลที่มุมปากถึงอย่างนั้นดวงตาเหยียดหยามของนางก็ยังชัดเจนอยู่เหมือนเดิมไม่มีร่องรอยความหวาดกลัวซูจวิ้นอยู่ในดวงตาของนาง
“นังสวะ! ถ้าข้าไม่ได้ให้บทเรียนเจ้า เจ้าก็คงไม่รู้ว่าราคาที่เจ้าต้องจ่ายจากการกระทำของเจ้าสินะ!”
ซูจวิ้นกระชากผมของเยี่ยฉีและกระแทกศีรษะนางเข้ากับกำแพงอย่างแรง เยี่ยฉีรู้สึกหน้ามืดเป็นเวลานานกว่านางจะฟื้นขึ้นมา
“เจ้าจะตีข้าก็ตามใจหรือจะสังหารข้าก็ได้ถ้าเจ้ากล้าพอ! ข้าบุตรสาวของจวินเฟิ่งหลิงและเยี่ยจิ่งเฉินถูกพวกท่านสอนมาเสมอว่าให้ยอมตายดีกว่ายอมแพ้!”
ไม่ว่าในอดีตเยี่ยฉีจะทำผิดมากมายแค่ไหนเพราะความไร้เดียงสา นางก็ไม่มีทางยอมละทิ้งศักดิ์ศรีและนิสัยเด็ดเดี่ยวของนางเพราะว่าท่านแม่ของนาง จวินเฟิ่งหลิงและท่านพ่อของนางเยี่ยจิ่งเฉิน!
พวกเขายอมตายดีกว่ายอมแพ้และนี่ก็คือนิสัยหยิ่งทระนงและเด็ดเดี่ยวของนาง!
“ฮะ ฮะๆ!” ซูจวิ้นหัวเราะอย่างบ้าคลั่งและยิ้มอย่างมาดร้าย “พูดได้ดี ยอมตายดีกว่ายอมแพ้งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นถ้าข้าทำให้เจ้าอยากตายล่ะ”
เยี่ยฉีชะงักไปเล็กน้อยแต่ใบหน้าของนางก็ยังแสดงความมุ่งมั่น นางไม่เคยยอมแพ้และนางก็ไม่มีทางทำอะไรก็ตามที่จะทำให้บิดามารดาบุตรทำของนางเสียใจ!
“พูดตามตรงตั้งแต่ที่ข้าเจอหลินรั่วไป๋ ข้าก็ไม่ได้แตะต้องสตรีคนอื่นอีก ถึงแม้ว่าหน้าตาเจ้าจะเทียบกับหลินรั่วไป๋ไม่ได้แต่ก็คงดับความกระหายข้าได้บ้าง” ซูจวิ้นผลักเยี่ยฉีลงพื้นอย่างแรงและพูดอย่างชั่วร้ายว่า “ข้าอยากจะเห็นสีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงเมื่อรู้ว่าน้องสาวของสามีนางถูกข้าข่มขืน”
ความหวาดกลัวปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยฉี นางผลักชายหนุ่มด้วยพลังทั้งหมดที่มีและกรีดร้อง
“ไม่นะ! ไม่!”
นางเตรียมใจที่จะตายแต่ไม่ได้หมายความว่านางยอมทรมานจากการถูกทำให้เสื่อมเสียเกียรติ ถ้านางจะต้องเสียความบริสุทธิ์ นางยอมตายดีกว่า!
“ในที่สุดเจ้าก็กลัวเป็นแล้วหรือ แต่น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว”
แควก!
ซูจวิ้นยิ้มอย่างชั่วร้ายและฉีกเสื้อผ้าของเยี่ยฉีออกเป็นชิ้นๆ จนเผยให้เห็นหน้าอกขาวราวหิมะ
ซูจวิ้นที่ตอนแรกทำเพื่อระบายความโกรธก็เริ่มตื่นตัวเมื่อเห็นหน้าอกของนาง เขาใช้มือทั้งสองกดตัวเยี่ยฉีไว้อย่างแน่นหนา ความปรารถนาเข้าครอบงำนัยน์ตาของเขา
เยี่ยฉีเลิกขัดขืนด้วยสีหน้าซีดเหมือนกระดาษและน้ำตาก็ไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง สุดท้ายนางก็หลับตา ถ้านี่เป็นชะตากรรมของนาง นางก็ทำได้แค่ยินยอม ทันใดนั้นร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏขึ้นในความคิดของนาง
ไม่ใช่ใบหน้าของพี่เยี่ยซีมั่วที่นางคิดถึง…แต่เป็นอวิ๋นลั่วเฟิงที่ครั้งหนึ่งนางเคยจัดว่าเป็นศัตรู! แต่ว่าจากการพฤติกรรมในอดีตของนาง อวิ๋นลั่วเฟิงจะมาช่วยนางหรือ
…
ด้านนอกประตูของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ มีกลุ่มผีดิบโครงกระดูกล่าสังหารมาตลอดทางเพื่อเข้ามาด้านใน พวกเขาเป็นแค่นักรบที่ไร้ความรู้สึกที่มีเปลวไฟสีเขียวเหมือนตะไคร่น้ำในดวงตาเท่านั้น
…………………………………..
ตอนที่ 1675 เสี่ยวไป๋ตื่นแล้ว (1)
“สัตว์ประหลาดพวกนี้คืออะไรกันแน่ ทำไมพวกมันถึงไม่ตายเสียที”
กลุ่มศิษย์ภายในเผ่าหน้าซีดเมื่อเห็นกองทัพผีดิบโครงกระดูก พวกเขาก็ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถไล่พวกมันไปได้
อวิ๋นลั่วเฟิงยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเบาๆ ทำให้ภาพลักษณ์ของนางคล้ายกับภาพวาดงดงามที่ผู้คนต่างแย่งชิง เส้นผมสีดำสนิทของนางปลิวไปตามลมดูหยิ่งทระนงและเผด็จการ นางเหมือนเจ้าแผ่นดินที่มองผู้คนต่ำกว่า
“ฉาฉา หั่วหั่ว เสี่ยวโม่ ไหน่ฉา เหมิงเหมิง ราชินีหนู…”
สัตว์อสูรที่นางทิ้งไว้ในมิติลวงตาเพื่อฝึกพลังเหล่านั้นก็ปรากฏตัวขึ้นทีละตัวตามชื่อที่นางเรียก
ตัวแรกคือสุนัขดุร้ายและตามมาด้วยสุนัขจิ้งจอกสีแดงไม่นานไหน่ฉาและราชินีหนูก็พาเผ่าหนูหาทองมาปรากฏตัวที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์จนทั่วทั้งหุบเขา….
เสี่ยวโม่เป็นคสุดท้ายที่ปรากฏตัว เขาใส่ชุดผ้าไหมปักดิ้นทองที่ทำให้เขาดูหล่อเหลามาก ใบหน้าของเขายังคงอ่อนเยาว์และดูน่ารักบอบบางแต่ว่า…กลิ่นอายรอบตัวเขาเหมือนคลื่นที่เกรี้ยวกราดพร้อมจะทำให้ทุกอย่างพังพินาศจนคนอื่นหวาดกลัว
“สัตว์วิญญาณอสูรระดับจักรพรรดิปราชญ์! แผ่นดินนี้มีสัตว์วิญญาณอสูรระดับจักรพรรดิปราชญ์มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
สีหน้าของศิษย์ในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์เปลี่ยนไปทันทีโดยที่สายตายังแสดงความสิ้นหวังขณะที่มองสัตว์วิญญาณอสูรปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศด้วยความตะลึง
ฉาฉาส่งเสียงหอนและพุ่งเข้าไปหาศิษย์ทั้งหลายอย่างรวดเร็ว
หั่วหั่วยืนอยู่กลางอากาศโดยมีเปลวเพลิงปรากฏขึ้นที่หางทั้งแปดของนาง ดวงตาเพลิงของนางลุกไหม้ด้วยความโกรธเจือจางและไฟจำนวนมหาศาลก็พุ่งออกมาจากร่างของนางจนทำให้ต้นไม้ ดอกไม้ใบหน้าโดยรอบติดไฟ…
เผ่าหนูกระโจนและพุ่งเข้าไปหาศิษย์พวกนั้นก่อนจะกัดพวกเขาอย่างไร้ปรานี เนื้อหนังของพวกเขาถูกกระชากออกจนเกิดเสียงดัง
เสี่ยวโม่ไม่ได้ลงมือเพราะเขารู้สึกว่าแค่การโจมตีของสัตว์อสูรพวกนี้ก็เพียงพอ เขาทำแค่ยืนมองและมีความสุขกับการแสดง
“หยุดนะ!” ทันใดนั้นก็มีเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้นมาจากฟ้าจนดังก้องไปทั่ว
ฉินเสวี่ยพุ่งลงมาที่พื้นตรงหน้าทุกคน ดวงตาเย็นชาของนางลุกโชนด้วยความโกรธขณะพูดอย่างเย็นเยียบว่า “อวิ๋นลั่วเฟิง เจ้ากล้ามาที่เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ของข้าด้วยหรือ เจ้าเดินเข้ามาในกับดักตัวเองหรือนี่”
อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้ว “เยี่ยฉีอยู่ที่ไหน”
“ฮึ่ม!” ฉินเสวี่ยส่งเสียงขึ้นจมูก “เจ้าลักพาตัวผู้สืบทอดของพวกเราและสังหารน้องสาวข้า ข้าจะให้ครอบครัวมาชดใช้! ครั้งนี้พวกเราไม่สามารถจับตัวปู่ของเจ้ามาได้และศิษย์ของข้าก็ต้องทรมานจากความพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือเจ้าแต่ว่า…น้องสาวของสามีเจ้าตกอยู่ในมือของพวกเราแล้ว!”
อวิ๋นลั่วเฟิงยกมือขึ้นแล้วสายลมทรงพลังก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือนางแล้วกระแทกเข้ากับตัวฉินเสวี่ยจนเกิดเสียงดัง
เมื่อฉินเสวี่ยเห็นการโจมตีที่พุ่งเข้ามา ดวงตาของนางก็ดำมืดแล้วนางก็ยกกระบี่ขึ้นมารับการโจมตีทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าหน้าอกของนางรับการโจมตีลูกศรทรงพลังไว้จนทำให้นางทำอะไรไม่ได้นอกจากถอยหลัง
อย่างที่คิด อวิ๋นลั่วเฟิงแข็งแกร่งมาก! ไม่นะ! เรื่องจะเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!
นางไม่มีทางยอมให้สตรีผู้นี้พัฒนาขึ้นอีกแน่ไม่อย่างนั้นในแคว้นเจ็ดเมืองจะมีใครจัดการกับนางได้!
“อวิ๋นลั่วเฟิง น้องสาวของคู่หมั้นเจ้าอยู่ในมือของพวกเรา ถ้าเจ้าไม่ทิ้งอาวุธและยอมแพ้ ข้ามีวิธีเป็นพันๆ ที่จะทำให้นางต้องทรมานจนเหมือนอยู่ในนรก!”
อวิ๋นลั่วฟิงก้มลงมองฉินเสวี่ยแล้วรอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏบนใบหน้างดงามของนาง
“เจ้าคิดว่าระหว่างพวกเจ้าสองคนใครจะตายก่อนกัน”
สีหน้าของฉินเสวี่ยเปลี่ยนไปทันที “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ถ้านางตาย ข้าเชื่อว่านางก็คงมีความสุขถ้าข้าฝังร่างของเจ้าไว้ข้างๆ นาง” อวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ เข้ามาฉินเสวี่ย
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่นางหันกระบี่เข้าหาเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ อวิ๋นลั่วเฟิงก็คงไม่มั่นใจว่านางจะเอาชนะพวกเขาได้แต่ว่าตอนนี้ไม่มีใครในแผ่นดินนี้ที่จัดการกับนางได้แล้ว!