ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1690 ไป๋ซู่ (3) / ตอนที่ 1691 ไป๋ซู่ (4)
ตอนที่ 1690 ไป๋ซู่ (3)
“ข้าต่างหากที่จะรับเจ้ามาเป็นภรรยา ไม่ใช่ให้เจ้ารับข้าเป็นสามี”
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นบุรุษ แต่หลินรั่วไป๋กลับเอาแต่พูดว่าจะรับเขาเป็นสามีเนี่ยนะ ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าอายไปหน่อยหรือ
หลินรั่วไป๋เบิกตากว้างและยืนเท้าสะเอว “ข้าไม่สน ในระหว่างพิธีแต่งงานเจ้าต้องมีผ้าคลุมหน้าสีแดงแล้วข้าก็จะเป็นคนพาเจ้าไปที่ห้องหอเอง”
“นายหญิง นาง…” เสี่ยวโม่หันไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยความรู้สึกไม่ปกติแล้วฟ้องอย่างน่าสงสาร
อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเจ้าดังนั้นเจ้าก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองแล้วข้าก็จะไม่ออกความเห็นใดๆ ทั้งนั้น ถ้าการถกปัญหากันแก้ไม่ได้ถ้าอย่างนั้นก็ไปสู้กันบนเตียงและเชื่อฟังคนที่ชนะเสียสิ”
“ข้าเป็นบุรุษนะขอรับ ข้าจะทำร้ายสตรีได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นเหตุใดต้องไปสู้กันบนเตียงด้วย” เสี่ยวโม่ที่ทำสีหน้าสับสนก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันทีก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะแดงเถือกและศีรษะของเขาก็คล้ายจะปรากฏควันขึ้นมา
“นายหญิง ท่านโหดร้ายเกินไปแล้ว…” แต่เมื่อเสี่ยวโม่พูดจบอวิ๋นลั่วเฟิงก็เดินนำไปไกลแล้วขณะที่เขาและหลินรั่วไป๋ต้องรีบเดินตามไป
…
ณ ภูผาสุสานเทพ พลังงานจำนวนมหาศาลแผ่ออกมาจางๆ จากในส่วนลึกของหุบเขาทำให้ผู้ฝึกพลังฌานอ่อนแอไม่สามารถขยับไหนได้แม้แต่ก้าวเดียวทันทีที่พวกเขามาถึงที่นี่
ตอนนั้นเองภายในพระราชวังในภูผาสุสานเทพก็มีสตรีในชุดสีดำผู้หนึ่งกำลังนั่งคุกเข่าและมองบุรุษหล่อเหลาที่หมดสติอยู่ ชายหนุ่มมีหน้าหล่อเหลาและมีเสน่ห์เหมือนเทพเซียนจนทำให้ผู้คนหลงใหลได้ด้วยการชายตามอง
“คิก” นิ้วของสตรีผู้นี้ค่อยๆ ลูบไปตามใบหน้าของชายหนุ่มและกระซิบเบาๆ “หลายปีมานี้ข้าไม่เห็นบุรุษที่งดงามขนาดนี้มาก่อนและข้าก็จะไม่เสียใจถ้าได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา”
บุรุษคนนี้คือคนที่นางเก็บได้ในส่วนลึกของภูผาสุสานเทพ!
เมื่อวันนั้นนางเห็นเขาบาดเจ็บสาหัสและหมดสติอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่านางเหงาหรือไม่ก็เป็นเพราะหน้าตาที่งดงามมากๆ ของเขา นางจึงเลือกที่จะพาเขามาด้วยเพราะอยากจะมีคนที่อยู่เคียงข้างนางไปทั้งชีวิต
“อย่างนี้ไม่ถูกต้องสิ ชายคนนี้ไม่มีที่มาที่ไปและข้ามีแต่ต้องใช้วิธีนั้นเท่านั้นเพื่อให้เขาอยู่นางตลอดไป”
ดวงตางดงามของหญิงสาววูบไหวและรอยยิ้มร้ายกาจก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง นางหลับตาและพลังฌานก็แทรกซึมเข้าไปในความคิดของเขาทันที ตอนนั้นเองใบหน้างดงามของหญิงสาวก็ซีดเผือดและเหงื่อเม็ดใหญ่ก็ไหลจากใบหน้าของนาง
ทันใดนั้นความทรงจำของชายหนุ่มก็ไหลเข้ามาดั่งสายน้ำและเกิดเป็นภาพที่ดวงตานาง กลายเป็นว่าบุรุษผู้นี้มีนามว่าไป๋ซู่และไม่ได้มาจากแคว้นนี้
เขามีศัตรูชื่อว่าอวิ๋นเซียว
ถึงแม้ว่าอวิ๋นเซียวจะหล่อเหลาเหมือนกันและโดดเด่นกว่าไป๋ซู่แต่เขาไร้หัวใจเกินไปและมักจะทำตัวไร้ความรู้สึกอยู่เสมอ เทียบกันแล้วนางชื่นชอบบุรุษน่าหลงใหลแบบไป๋ซู่มากกว่า
แน่นอนถ้านางได้ทั้งคู่มาอยู่ในมือก็จะดีกว่า
อ้อ จริงสิ…
ไป๋ซู่ยังมีศัตรูอีกคนหนึ่งชื่ออวิ๋นลั่วเฟิง! แต่ว่าถึงแม้ว่านางจะเป็นศัตรูของเขาเหมือนกันแต่นางยังสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังที่ไป๋ซู่มีต่ออวิ๋นเซียวแต่นางสัมผัสถึงความโกรธใดๆ ที่เขามีต่ออวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้เลย…
สตรีงดงามผู้นี้ตะลึงและรีบถอนพลังฌานกลับมาทันทีแต่นางก็ไม่ลืมที่จะทิ้งสัญลักษณ์บางอย่างที่ลบไม่ได้ออกจากความคิดเขาก่อนถอนพลังออกมา
สัญลักษณ์นี้จะทำให้ไปซู่มองนางเป็นสตรีที่เขามีความรู้สึกลึกซึ้งให้มากที่สุด ไม่ว่าเขาจะรักนางหรือไม่แต่ตั้งแต่นี้ไปไป๋ซู่จะมองนางในฐานะที่เป็นสตรีที่เขารักลึกซึ้งมากที่สุด!
…………………………………..
ตอนที่ 1691 ไป๋ซู่ (4)
หลายปีมานี้ นางใช้วิธีนี้เพื่อปรับเปลี่ยนความทรงจำของบุรุษที่บุกรุกเข้ามาในส่วนลึกของภูผาสุสานเทพ โชคร้ายที่พวกเขาทนการทรมานจากนางไม่ได้และสองสามปีต่อมาก็ตายไป แต่ว่าเมื่อนางเจอบุรุษที่หน้าตาหล่อเหลาเหมือนเทพเซียน นางก็ทนทำเรื่องโหดร้ายและรุนแรงกับเขาไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
ไม่แน่นางอาจจะตกหลุมรักเขาก็ได้…
ตอนนั้นเองไป๋ซู่ก็ลืมตาขึ้น เขาหน้าซีดและหายใจอย่างอ่อนแรงจนทำให้สตรีงดงามผู้นี้เจ็บปวดใจแทนเขา
“เจ้าตื่นแล้วหรือ” สตรีงดงามมองเขาอย่างกังวลด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ทันใดนั้นไป๋ซู่ก็ชะงักและลังเลที่จะมองสตรีงดงามตรงหน้าเขา
“อวิ๋น…ลั่วเฟิง?”
สตรีงดงามเหม่อ อย่างที่คิดคนที่อยู่ในความคิดของเขาชัดเจนที่สุดคือคนที่เรียกว่าเป็นศัตรูอย่างอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ว่าเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อนี้ นางก็เผลอผ่อนคลาย ดูเหมือนว่าสัญลักษณ์ที่นางทิ้งไว้จะทำให้ไป๋ซู่มองนางเป็นอวิ๋นลั่วเฟิง นี่เป็นเรื่องที่ดีมากเพราะหมายความว่าในอนาคตชายคนนี้จะเป็นของนาง
“ใช่แล้ว ข้าคืออวิ๋นลั่วเฟิง” สตรีงดงามตอบอย่างหน้าไม่อาย “ข้าคือสตรีที่เจ้ารักมากที่สุด”
“เจ้าเกลียดข้าไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงช่วยชีวิตข้า”
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับอวิ๋นลั่วเฟิง เขาต้องการจะเอาชนะนางแต่ผลกลับทำให้พวกเขาขัดแย้งกัน ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่พวกเขาเจอหน้ากัน สตรีผู้นี้ก็ไม่เคยทำตัวดีกับเขา
ดวงตาของสตรีงดงามเป็นประกายและยิ้ม “พูดตามตรง ข้าไม่ได้เกลียดเจ้าแต่กลับกันข้ารักเจ้ามากแต่ว่าข้ารู้ว่าเรื่องของพวกเรามันเป็นไปไม่ได้ดังนั้าข้าก็เลยหาวิธีทำให้เจ้าสนใจ…”
ถ้าเป็นไป๋ซู่ในอดีต เขาไม่มีทางทำตัวไร้สมองแน่แต่ว่าเพราะความคิดของเขาโดนบุกรุกทำให้เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากเชื่อคำพูดของสตรีงดงามผู้นี้โดยไม่สงสัยอะไรเลย
“อีกอย่าง…” สตรีงดงามหยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ในอนาคตอย่าเรียกข้าว่าอวิ๋นลั่วเฟิง ให้เรียกว่าลั่วเอ๋อร์…”
นางมีคำว่า ‘ลั่ว’ อยู่ในชื่อดังนั้นแม้ว่านางจะอยากให้ไป๋ซู่ดูแลนางเหมือนนางเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงแต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะยินดีให้บุรุษที่นางรักเรียกชื่อสตรีคนอื่น
“เข้าใจแล้ว” ไป๋ซู่ยิ้มที่ดูน่าหลงใหลมากจนทำให้หัวใจของลั่วเอ๋อร์เต้นแรงอีกครั้ง
“ท่านพี่ซู่ รักษาตัวให้ดีนะเจ้าค่ะแล้วหลังจากที่ท่านหายดีแล้ว ข้าก็จะไม่ปฏิเสธอะไรท่านเลย…”
ไป๋ซู่รู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า เขาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ยินลั่วเอ๋อร์พูดอะไรตรงๆ แบบนี้ และในเวลาเดียวกันตัวเขาก็ลุกโชนไปด้วยแรงปรารถนา แต่ว่าเพราะอาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ เขาก็ทำได้แค่กักเก็บความกระหายของเขาเอาไว้
ลั่วเอ๋อร์มองเขาแล้วหน้าแดงอีกครั้งก่อนจะเดินออกไป ทันทีที่นางก้าวออกจากประตู รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าของนางขณะที่นางหรี่ตา
“บุรุษคนใดก็ตามที่ข้าชื่นชอบไม่มีทางหลุดมือข้าไปได้…”
เหตุผลที่นางไม่ต้องไปยั่วยวนบุรุษคนใดก็เพราะแค่พวกเขาดูแลนางเหมือนสตรีที่พวกเขารักก็เพียงพอ
…
ภายในพระราชวังสีดำที่มีบรรยากาศน่าขนลุกและกดดันจนหายใจไม่ออก
ที่ด้านนอกของพระราชวังคือที่ที่ไป๋ซู่อาศัยอยู่ก็มีร่างงดงามร่างหนึ่งแอบเข้ามาด้วยท่าทางวิตกกังวล
ภายในพระราชวังนี้ไม่มีคนอื่นอีกนอกจากลั่วเอ๋อร์และไป๋ซู่แต่ว่าลั่วเอ๋อร์อยู่ข้างไป๋ซู่ตลอดจึงไม่เหมาะที่นางจะบุกรุกเข้ามาและนางก็ทำได้แค่แอบอาศัยช่วงที่ลั่วเอ๋อร์ไม่อยู่เท่านั้น
จิ่นอวี้ยกมือขึ้นเปิดประตูแล้วมองหาไป๋ซู่ที่นอนพักอยู่บนเตียง
ตอนแรกไป๋ซู่คิดว่าเป็นลั่วเอ๋อร์เขาจึงมองอย่างเกียจคร้านแต่เมื่อเห็นว่าเป็นข้ารับใช้ที่งดงามของเขาเข้ามาในห้อง ใบหน้าหล่อเหลาก็ดำมืด