ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1724 ตบหน้า (1) / ตอนที่ 1725 ตบหน้า (2)
ตอนที่ 1724 ตบหน้า (1)
สองวันต่อมา บริเวณทางเข้าจวนตระกูลจวินก็เต็มไปด้วยฝูงม้าและรถลาก ยอดฝีมือที่ยากจะพบเห็นจากแต่ละเมืองก็ปรากฏตัวด้านนอกจวนตระกูลจวิน
เพราะมีแขกจำนวนมากผู้เฒ่าจวินจึงสั่งให้รถม้าทุกคนหยุดอยู่ห่างไปร้อยเมตรจากจวนตระกูลจวินแม้แต่ยอดฝีมือที่หยิ่งทระนงทั้งหลายก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของชายชรา
ที่ด้านนอกทางเข้าหลักของจวนตระกูลจวิน เว่ยหลิงดูยอดฝีมือจำนวนมากเดินเข้าจวนทำให้ดวงตาของนางเป็นประกาย นางหันไปมองเด็กหนุ่มหล่อเหลาที่ข้างตัวแล้วสอนอย่างจริงจัง “หลังจากนี้ ถ้าเจ้าเจอหลานสาวของผู้เฒ่าจวินล่ะก็ เจ้าต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นเพื่อนกับนาง เข้าใจหรือไม่”
เด็กคนนี้มีฐานะในตระกูลเว่ยเป็นรองแค่นางเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะมาจากตระกูลสาขาแต่พรสวรรค์ของเขาโดดเด่นมาก ที่สำคัญกว่านั้นเขายังมีหน้าตาหล่อเหลาดังนั้นนางถึงเชื่อว่าคนตระกูลจวินจะต้องชอบเขา
ปกติแล้วสำนักอย่างตระกูลจวินมักจะแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับเมืองอื่นๆ แต่น่าเสียดายที่เมืองบูรพามีแต่คุณหนูใหญ่ นายน้อยทั้งสองของเมืองอุดรไม่ตายก็พิการ เมืองประจิมก็อ่อนแอเกินไปและนายน้อยของเมืองทักษิณและเมืองหลวงก็มีภรรยาแล้วดังนั้นผู้เฒ่าจวินไม่มีทางยอมให้หลานสาวแต่งเข้าเป็นภรรยารองแน่นอน
นี่จึงเป็นเหตุผลที่นางตั้งความหวังไว้กับตระกูลเว่ยไว้สูง
“ขอรับ ท่านพี่หลิง” เด็กหนุ่มยิ้ม ความมุ่งมั่นปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
“พวกเราไปกันเถอะ” เว่ยหลิงสูดหายใจเข้าลึกๆ และเดินช้าๆ เข้าไปในสวน
ภายในสวนคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ทุกสำนักต่างส่งคนมาที่นี่และคนบางส่วนที่รู้จักกันก็จับกลุ่มสนทนากันอย่างผิวเผิน
“เว่ยเย่ว์ เจ้าต้องจำสิ่งหนึ่งไว้ให้ขึ้นใจ!” เว่ยหลิงหยุดแล้วหรี่ตา “ชายที่ชื่อเยี่ยจิ่งเฉินเป็นคู่หมั้นข้า! ถ้าเจ้าเห็นสตรีอื่นเข้าใกล้เขาก็ไม่ต้องเกรงใจ! เจ้าตรงเข้าไปช่วยข้าจัดการกับนาง!”
ถ้าจวินเฟิ่งหลิงได้ยินสิ่งที่เว่ยหลิงพูดล่ะก็ นางต้องโกรธจัดแน่นอน ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะมีความอดทนมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางทนต่อคำพูดไร้ยางอายอย่างนี้ได้
สามีของนางไปเป็นคู่หมั้นของคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน โดยเฉพาะเมื่อคู่หมั้นคนนี้ทึกทักเอาเอง…
เว่ยหลิงไม่ได้พูดแบบนี้กับชายหนุ่มหล่อเหลาแต่พูดกับเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างนางโดยเฉพาะ ถึงอย่างไรเว่นหลิงก็เป็นทายาทของตระกูลเว่ยดังนั้นอย่างน้อยนางก็ไม่มีทางดึงอันตรายเข้าหาตัวแน่
ถึงแม้ว่าเยี่ยฉีและจวินเฟ่งหลิงจะทำผิดผลาดครั้งใหญ่แต่พวกนางก็อยู่ในเขตของตระกูลจวิน ถ้าพวกเขาสร้างความวุ่นวายภายในตระกูลจวิน ก็เท่ากับเป็นการยั่วโมโหตระกูลจวินไปด้วยนั่นจึงเป็นเหตุผลที่นางพาเว่ยเย่ว์มาที่นี่เพื่อผลักนางเข้ากลางดงพายุ
“คุณหนู…” เว่ยเย่ว์เหลือบมองเว่ยหลิงแล้วกัดริมฝีปากแน่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
นางเองก็มาจากตระกูลสาขาแต่ความสามารถของนางค่อนข้างแย่ดังนั้นนางจึงไม่มีสิทธิ์เรียกเว่ยหลิงว่า ‘ท่านพี่’ แต่ต้องเรียกนางว่า ‘คุณหนู’ เหมือนบ่าวรับใช้
“นี่เป็นคำสั่ง!” ใบหน้าของเว่ยหลิงมืดครึ้ม “อย่าลืมว่าเจ้าก็เป็นแค่ขยะ ตระกูลเว่ยทำแบบนี้ก็เท่ากับช่วยชีวิตชั้นต่ำของเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าอยากให้บิดามารดาปลอดภัย เจ้าก็ต้องเชื่อฟังข้า!”
เว่ยเย่ว์ตัวสั่นและก้มหน้าโดยไม่พูดอะไร
เมื่อเว่ยหลิงเห็นท่าทางของเว่ยเย่ว์ นางก็พูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายว่า “ไม่ต้องกังวล เจ้าก็แค่ต้องพูดไม่กี่คำ ตระกูลจวินไม่ทำอะไรเจ้ามากหรอก ไม่แน่พวกเขาอาจจะขอบคุณเจ้าที่ช่วยเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของคนพวกนี้กและป้องกันไม่ให้คุณหนูหลิงเอ๋อร์ถูกหลอกก็ได้”
จะไม่ทำอะไรข้ามากงั้นหรือ
เว่ยเย่ว์หัวเราะเบาๆ อย่างขมขื่น ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง เหตุใดเจ้าต้องผลักข้าให้ออกตัวแทนที่จะพูดด้วยตัวเองล่ะ
ไม่ว่าข้างในนางจะไม่มีความสุขขนาดไหน นางก็เข้าใจว่าในเวลาแบบนี้นางไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเชื่อฟังคำสั่งของเว่ยหลิง ไม่อย่างนั้นนางจะทำให้บิดามารดาที่อยู่ในตระกูลเว่ยเป็นอันตราย
…………………………
ตอนที่ 1725 ตบหน้า (2)
เด็กหนุ่มที่ชื่อเว่ยเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านพี่หลิง เรื่องนี้ไม่ค่อยเหมาะสมนะขอรับ ไม่ว่านิสัยของเยี่ยฉีและจวินเฟิ่งหลิงจะแย่ขนาดไหนหรือคุณหนูหลิงเอ๋อร์จะตาบอดมองไม่เห็นอย่างไร ที่นี่ก็ยังเป็นเขตของตระกูลจวิน ถึงแม้ว่าเว่ยเย่ว์จะเป็นคนพูดแต่ก็ทำให้ตระกูลเว่ยมีปัญหาได้นะขอรับ”
เว่ยหลิงมองเว่ยเฟิงด้วยสายตาเย็นเยียบ “ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าไม่ต้องพูดอะไรอีก”
ความจริงแล้วเว่ยหลิงวางแผนในความคิดไว้หมดแล้ว ข่าวลือในตอนนี้แผ่ออกไปแล้วและเมื่อได้เชื้อไฟสักหน่อย เยี่ยฉีและจวินเฟิ่งหลิงก็จะไม่เหลือชื่อเสียงและที่ยืนในสังคมอีก พอถึงตอนนั้นตระกูลจวินก็คงเตะพวกนางออกมา แล้วจากนั้นนางจะลงโทษพวกนางยังไงก็ได้ไม่ใช่หรือ
แต่ว่าตระกูลจวินต้องไม่พอใจที่ตระกูลเว่ยทำให้เกิดความวุ่นวายในจวนตระกูลจวิน พอถึงตอนนั้นนางก็แค่ส่งเว่นเย่ว์ไปให้ตระกูลจวินเพื่อเป็นการขอโทษและเรื่องนี้ก็จะจบ ไม่แน่ตระกูลจวินอาจจะรู้สึกขอบคุณนางด้วยซ้ำ …
“ท่านแม่บุญธรรม มียอดฝีมือมาที่จวนตระกูลจวินเยอะเลยเจ้าค่ะ! นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ลูกได้เห็นยอดฝีมือมากขนาดนี้”
ตอนนั้นเองเสียงมีเสน่ห์ดังเข้าหูนาง เว่ยหลิงหันหลังไปก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นของเยี่ยฉี
มุมปากของเว่ยหลิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย “คนบ้านนอกก็ยังเป็นคนบ้านนอกอยู่วันยังค่ำ แค่เห็นฉากแบบนี้ก็ตื่นเต้นง่ายๆ เสียแล้ว เว่ยเย่ว์ สตรีสองคนนี้คือเยี่ยฉีและจวินเฟิ่งหลิง ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการกับพวกนาง”
เว่ยเย่ว์กัดปาก อาจจะเป็นเพราะนางนึกได้ถึงสิ่งที่บิดามารดาบอก นางจึงรวบรวมความกล้าแล้วพูดด้วยเสียงมั่นใจ “นี่ไม่ใช่เยี่ยฉีที่ช่วงนี้มีชื่อเสียงในนครจวินหรอกหรือ”
เสียงของนางชัดถ้อยชัดคำและตั้งใจพูดแทรกบทสนทนาคนอื่นอย่างชัดเจน ทันใดนั้นทุกคนก็หยุดสนทนากันแล้วหันมามองเว่ยเย่ว์ด้วยสายตาแปลกๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เว่ยเย่ว์ได้รับความสนใจดังนั้นนางจึงรู้สึกกังวลแต่ว่านางก็ยืดหลังตรงแล้วพูดว่า “คุณหนูจวินนี่ประมาทในการคบเพื่อนเสียจริง นางจึงถูกใบหน้าใสซื่อหลอกได้ สตรีผู้นี้เป็นชู้กับคนข้างนอกและยังตั้งครรภ์หลายครั้งแต่สตรีใจทรามคนนี้ก็ทำแท้งบุตรของนางครั้งแล้วครั้งเล่า”
“แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด บิดามารดาที่แท้จริงของนางโกรธจนตาย หลังจากที่ทำให้บิดามารดาตัวเองตายแล้วนางก็ถูกรับเลี้ยง แน่นอนว่ามารดาบุญธรรมของนางก็ไม่ได้ดีอะไรเหมือนกัน นางอยากปีนขึ้นสู่สังคมชั้นสูงจึงขายบุตรสาวบุญธรรมของตัวเอง! ตอนนี้พวกนางเข้ามาที่ตระกูลจวินเพราะอำนาจของตระกูลจวิน น่าสงสารคุณหนูหลิงเอ๋อร์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย”
ตอนแรกเว่ยเย่ว์ก็กลัวแต่ยิ่งนางพูด นางก็ยิ่งกล้ามากขึ้น นางระบายความเสียใจทั้งหมดที่นางเคยได้รับไปที่เยี่ยฉีและจวินเฟิ่งหลิง
“สตรีสองคนนี้ควรจะโดนลากไปโบยจนกว่าจะตายดีกว่ามาอยู่ที่นี่เพื่อหลอกลวงผู้อื่น!”
ทั่วทั้งลานถูกปกคลุมด้วยความเงียบและมีแค่เสียงตื่นเต้นของเว่ยเย่ว์เท่านั้นที่ได้ยิน คนส่วนใหญ่ที่อยู่ที่นี่ก็รู้เรื่องข่าวลือในช่วงนี้เหมือนกันแต่ก็ไม่มีใครกล้าสร้างความวุ่นวายให้ตระกูลจวิน! เลยทำให้พวกเขามองเว่ยเย่ว์ที่กระตือรือร้นอย่างมึนงง
ไม่ว่าเยี่ยฉีกับจวินเฟิ่งหลิงจะนิสัยแย่แค่ไหนแต่วันนี้เป็นงานเฉลิมฉลองของตระกูลจวิน เจ้าควรจะหาเวลาอื่นถ้าเจ้าอยากสร้างปัญหา ไม่ใช่การทำแบบนี้ตอนนี้จะทำให้ผู้เฒ่าจวินโมโหหรอกหรือ
“ท่านแม่บุตรธรรม ข้าต้องเข้าไปฉีกนังเด็กสำส่อนนี่ให้ได้!” เยี่ยฉีตัวสั่นด้วยความโกรธ นางไม่เคยถูกปฏิบัติด้วยแย่แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
แต่ว่าก่อนที่เยี่ยฉีจะได้ลงมือ ก็มือบอบบางข้างหนึ่งมาปรากฏข้างหน้าเว่ยเย่ว์ นางเงื้อมือขึ้นแล้วตบหน้าเว่ยเย่ว์อย่างแรง
“อวดดีอะไรขนาดนี้!” ใบหน้าของจวินหลิงเอ๋อร์มืดครึ้ม และดวงตาสดใสของนางก็เดือดจากความโกรธ “ใครอนุญาตให้เจ้ามาสร้างความวุ่นวายในจวนตระกูลจวินของข้า”