ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1730 ตบหน้า (7) / ตอนที่ 1731 นางเป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1730 ตบหน้า (7) / ตอนที่ 1731 นางเป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (1)
ตอนที่ 1730 ตบหน้า (7)
เว่ยเย่ว์ชะงักและเบิกตากว้างด้วยความตะลึง ร่างของนางก็เริ่มสั่น
เขาหมายความว่าอย่างไรที่ว่าเยี่ยฉีพึ่งมาที่แคว้นเจ็ดเมืองเมื่อสองเดือนก่อน
เว่ยหลิงเองก็แปลกใจและด้วยเหตุผลบางอย่างหัวใจของนางก็รู้สึกกังวล
ผู้เฒ่าจวินส่งเสียงขึ้นจมูกแล้วกวักมือเรียกเยี่ยฉี “ฉีฉี มายืนข้างตาสิ วันนี้ตาจะทวงความแค้นคืนให้มารดาเจ้ากับเจ้าเอง!”
ตา?
ตูม!
เว่ยหลิงรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าจนมือสั่นแล้วทำให้น้ำชาในถ้วยกว่าครึ่งหกรดมือตัวเอง น้ำชาที่พึ่งเดือดกระเด็นโดนหลังมือนาง แต่นางก็ไม่รู้สึกอะไรเลยและร่างกายของนางก็เริ่มสั่น
เยี่ยฉีเป็นหลานสาวของผู้เฒ่าจวินงั้นหรือ งั้นก็หมายความว่าจวินเฟิ่งหลิงเป็น…
เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้! สตรีอย่างจวินเฟิ่งหลิงจะมีเบื้องหลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้อย่างไร นางไม่เชื่อ
“ท่านพ่อเจ้าคะ” เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดของเว่ยหลิง จวินเฟิ่งฟลิงก็ยิ้มแล้วเข้าไปหาบิดาของนางช้าๆ “ข่าวลือเรื่องนี้ถูกแผ่ออกมาโดยตระกูลเว่ยเพื่อใส่ร้ายบุตรสาวของข้าและทำให้ตระกูลวินเตะฉีฉีออกไปเจ้าค่ะ จากนั้นตระกูลเว่ยก็จะได้จัดการกับข้าและขโมยสามีของข้าไปได้”
สายตาของทุกคนพุ่งไปที่ตระกูลเว่ยทันที
แม้แต่คนจากเมืองอุดรที่กำลังรู้สึกเสียดายก็ถูกเหตุการณ์นี้ดึงความสนใจไปเหมือนกัน จะขโมยสามีของคุณหนูใหญ่ตระกูลจวินงั้นหรือ เหอๆ คุณหนูตระกูลเว่ยคนนี้ช่างกล้ามากจริงๆ และคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว
“มะ ไม่…” เว่ยหลิงยืนขึ้น ริมฝีปากของนางซีดและสั่นจนไม่สามารถพูดจบประโยคได้ หัวใจของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และนางก็ไม่หวังอะไรมากไปกว่าการโขกศีรษะตัวเองเข้ากับกำแพงจนตาย
จวินเฟิ่งหลิงไม่ได้สนใจคำอธิบายที่อ่อนแรงของเว่ยหลิงและพูดขึ้น “ลูกและท่านพี่เฉินเจอคุณหนูใหญ่ตระกูลเว่ยแล้วนางก็ตกหลุมรักท่านพี่เฉินตั้งแต่แรกเจอ นางยืนยันที่จะพยายามทำให้ท่านพี่เฉินและข้าเข้าจวนตระกูลเว่ย แน่นอนว่านางไม่ได้ให้พวกเราไปที่ตระกูลเว่ยเพื่อดูแลพวกเราแต่เพื่อให้ท่านพี่เฉินรับนางเป็นภรรยา ส่วนข้า…นางพูดอย่างเข้าใจและใจดีว่านางอนุญาตให้ข้าเป็นนางบำเรอของท่านพี่เฉิน”
ทุกคนในห้องจัดเลี้ยงตะลึงกับเรื่องที่ได้ยิน ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเว่ยหลิงใช้กำลังขโมยสามีของคุณหนูใหญ่ตระกูลจวินก็ว่านางกล้าหาญมากแล้ว ใครจะคิดว่านางถึงกลับกล้าพอจะทำให้คุณหนูใหญ่ตระกูลจวินไปเป็นนางบำเรอกัน
นางไปได้ความกล้าและความมั่นใจที่จะพูดแบบนั้นมาจากส่วนไหนของโลก
“ท่านพ่อตา” เยี่ยจิ่งเฉนยืนขึ้นพร้อมรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา “คุณหนูใหญ่ตระกูลเว่ยยังพูดอีกว่าตระกูลเว่ยของพวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นสูงของนครจวินและนางยังเป็นทายาทของตระกูลเว่ย ถ้าข้าแต่งงานกับนางก็เหมือนแต่งกับตระกูลเว่ยและข้าก็จะได้อำนาจมากมาย นางยังพูดอีกว่าถ้าข้าฉลาด ข้าก็จะรู้ว่าทางเลือกแบบไหนถึงจะให้ผลประโยชน์กับข้ามากกว่า”
ใบหน้าของผู้เฒ่าจวินดำมืดยิ่งกว่าก้นกระทะ ความโกรธในหัวใจของเขาเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ได้ยินคำพูดของจวินเฟิ่งหลิงกับเยี่ยจิ่งเฉิน
“ตระกูลจวินของข้าเทียบได้กับตระกูลเว่ยของเจ้าได้ตั้งแต่เมื่อไร” ผู้เฒ่าจวินขบฟันแน่น “ถ้าลูกเขยของข้าไม่ได้เลือกเจ้าก็หมายความว่าเขาไม่ฉลาดงั้นสิ ข้าพูดถูกหรือไม่”
ใบหน้าของเว่ยหลิงไร้สีเลือด นางก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวและชนเข้ากับเชิงเทียนที่อยู่ด้านหลัง เปลวไฟพุ่งขึ้นมาจากทุกทิศทางและเผาหลังมือของนาง
เว่ยเย่ว์เองก็ทรุดลงไปที่พื้นด้วยใบหน้าสิ้นหวัง บางทีนางอาจจะไม่เคยจินตนาการว่าการทำตามคำสั่งของเว่ยหลิงจะไม่ใช่ทำลายชีวิตทั้งชีวิตของนางแต่งเป็นตระกูลเว่ยทั้งตระกูลด้วย!
ตอนนั้นเองที่ในที่สุดอวิ๋นลั่วเฟิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ผู้เฒ่าจวินก็แสดงตัว นางลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างไม่รีบร้อน “เหตุใดสองสามวันที่ผ่านมาถึงไม่มีใครบอกข้าเรื่องข่าวนี้”
นางไม่รู้เลยว่ามารดาและน้องสาวของนางจะถูกใส่ร้ายขนาดนี้!
…………………………
ตอนที่ 1731 นางเป็นผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง (1)
“ท่านพี่หญิงอวิ๋น ช่วงนั้นท่านกำลังอยู่ระหว่างเก็บตัวฝึกพลังฌานเจ้าค่ะ หลังจากที่ท่านออกมาแล้ว ท่านก็ยุ่งอยู่กับการจัดงานพิธีการเปิดตัวดังนั้นข้าก็เลยไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้ให้ท่านฟังเจ้าค่ะ” จวินหลิงเอ๋อร์อธิบายเงียบๆ
“ในเมื่อตอนนี้ข้าก็รู้แล้ว ข้าก็ต้องทวงความยุติธรรมให้ท่านแม่ของข้า” มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงยกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเรียวสีนิลของนางค่อยๆ หันไปมองทุกคนในตระกูลเว่ยด้วยประกายน่าขนลุก
เมื่อเห็นสายตาของหญิงสาว เว่ยหลิงก็รู้สึกเหมือนความคิดตัวเองระเบิดและตัวสั่นเล็กน้อย
นางยอมยั่วโมโหราชาแห่งนรกดีกว่ามีปัญหากับอวิ๋นลั่วเฟิง! ครั้งหนึ่งนางเคยพูดเรื่องกับท่านลุงเว่ยด้วยตัวเองแต่ตอนนี้กลับเป็นนาเองที่ยั่วโมโหสตรีผู้นี้ที่น่ากลัวยิ่งกว่าราชาแห่งนรก!
เมื่อใดที่ราชาแห่งนรกต้องการชีวิตใครสักคน เขาก็แค่ทำให้คนคนนั้นตายแต่ว่านางจะทำให้ชีวิตของเจ้าแย่ยิ่งว่าความตาย…
ตุบ!
เว่ยหลิงทรุดตัวลงไปคุกเข่าอยู่ที่พื้นและร้องไห้ “แม่นางอวิ๋น อดีตผู้นำตระกูลจวิน ข้าน้อยไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจวินเฟิ่งหลิงกับตระกูลจวินจริงๆ เจ้าค่ะ ข้าก็เลยทำเรื่องผิดผลาดแบบนี้ ได้โปรดอภัยในความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจของข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ”
นางรู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าตระกูลจวินอันทรงพลังการอธิบายก็ไม่มีประโยชน์ การยอมรับผิดยอมดีกว่า ไม่แน่…ชายชราอาจจะยกโทษให้นางเพราะถึงอย่างไรนางยังไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ต่อจวินเฟิ่งหลิง
แต่ที่น่าขันก็คือเว่ยหลิงไม่คิดว่าการทำลายเกียรติของผู้อื่นจะเป็นการทำร้ายอย่างหนึ่งเหมือนกัน
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองเว่ยหลิงที่คุกเข่าขอร้องอยู่ “เจ้ากำลังจะบอกว่าถ้าท่านแม่ของข้าไม่ได้เป็นคนตระกูลจวิน นางก็สมควรโดนเจ้าขโมยสามีงั้นหรือ หรือว่านางสมควรจะเป็นนางบำเรองั้นสิ”
“ข้า…” ใบหน้าของเว่ยหลิงซีดขาวและนางก็พูดอะไรไม่ออกไปสักพักหนึ่ง
อวิ๋นลั่วเฟิงขยับเข้าไปใกล้เว่ยหลิงมากขึ้น “ตอนนี้เจ้ากำลังขอร้องให้ได้รับการให้อภัย แต่ถ้าท่านแม่ของข้าไม่ได้มีฐานะที่น่าเกรงขามหนุนหลัง เจ้าจะละเว้นนางหรือไม่”
เมื่อเว่ยหลิงสัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาใกล้ นางก็ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิมและไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการฝั่งศีรษะของนางไว้ในพื้น
“ในเมื่อเจ้าไม่คิดจะละเว้นนางแล้วเหตุใดพวกเราต้องละเว้นเจ้าด้วย” อวิ๋นลั่วเฟิงเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยและกวาดตามองเว่ยหลิงที่คุกเข่าอยู่อย่างหยิ่งยโส “ใครก็ตามที่ทำผิดก็ต้องชดใช้!”
วินาทีทีเว่ยหลิงเงยหน้า นางก็เห็นเจตนาสังหารในดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็สะดุ้งด้วยความหวาดกลัวและคุกเข่าคำนับอย่างแรง “แม่นางอวิ๋น ข้าขอร้องให้ท่านละเว้นข้า! ข้ายินดีเป็นทาสรับใช้ท่าน”
อวิ่นลั่วเฟิงก้มตัวลงมาช้าๆ และนิ้วเรียวของนางก็จับคางของเว่ยหลิงเอาไว้แล้วบังคับให้นางอ้าปาก “ถ้าลิ้นของเจ้ามีไว้ใช้ใส่ร้ายและนินทาผู้อื่น ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเก็บไว้”
“อืมม…” ดวงตาของเว่ยหลิงเป็นประกายหวาดกลัวแต่ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ จากนั้นก่อนที่นางจะทันได้ตั้งตัวก็มีลำแสงพุ่งผ่านและนางก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ลิ้นของนาง เลือดอุ่นๆ พุ่งไปในอากาศและย้อมพื้นให้เป็นสีแดง
“ฮือ ฮือ” นางรีบเอามือกุมปากที่เลือดไหลและตัวของนางก็สั่นไม่หยุดแต่นางก็ไม่สามารถพูออกมาได้แม้แต่คำเดียว
“ท่านตาเจ้าคะ” อวิ๋นลั่วเฟิงปล่อยมือของนางออกมาทันทีที่ตัดลิ้นของเว่ยหลิงแล้วและพูดขึ้น “เรื่องของตระกูลเว่ยข้าจะปล่อยให้ตระกูลจวินจัดการ ข้าไม่อยากทำมือตัวเองให้แปดเปื้อนอีก!”
ใครก็ตามที่ทำผิดต้องชดใช้! ไม่มีใครยอมทนการทำตัวเหนือกฎเกณฑ์และโอหังของตระกูลเว่ย!
“ผู้คุ้มกัน ลากคนจากตระกูลเว่ยพวกนี้ออกไป พวกเขาจะได้รับการลงโทษหลังจากที่งานเปิดตัวครั้งนี้จบลง” ผู้เฒ่าจวินโบกมือออกคำสั่งอย่างหมดความอดทน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็รู้ดีว่าตั้งแต่นี้เป็นต้นไปตระกูลเว่ยต้องถูกกำจัดจากนครจวินและจะไม่มีตระกูลนี้อีกต่อไป