ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1770 สตรีโง่งม (2) / ตอนที่ 1771 สตรีโง่งม (3)
ตอนที่ 1770 สตรีโง่งม (2)
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ชายหนุ่มที่ยืนเงียบๆ อยู่ในห้องก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “ศิษย์พี่หญิงโอวหลาน เหตุใดท่านถึงสัญญากับเซี่ยหลิงเล่าหากท่านจะไม่ช่วยนาง”
“ข้าแค่อยากใช้นางทำธุระให้ข้า” โอวหลานนอนลงบนเก้าอี้ยาว “นางอยากจะเป็นพี่สะใภ้ข้างั้นหรือ ฮะๆ ฝันไปเถอะ! พี่ชายของข้าเป็นถึงศิษย์ระดับสวรรค์ลำดับสาม สตรีธรรมดาแบบนางจะคู่ควรกับพี่ชายข้าได้อย่างไร”
“ถ้าอย่างนั้นท่านคิดว่าพรสวรรค์แบบไหนถึงจะคู่ควรกับศิษย์พี่โอวเฟย”
ที่ชายหนุ่มถามคำถามนี้ก็เพราะมีเหตุผล โอวเฟยเป็นคนรักในฝันของศิษย์หญิงมากมายในสำนักศึกษาเมืองประจิมรวมถึงน้องสาวของเขาก็ด้วย โอวเฟยมีใบหน้าหล่อเหลาและมีพรสวรรค์ เขาเข้าสำนักศึกษาเมืองประจิมเมื่อสี่ปีที่แล้วแต่ตอนนี้เขากลับเป็นถึงศิษย์ระดับสวรรค์ลำดับสาม
ที่สำคัญกว่านั้น เขายังเป็นศิษย์ที่อายุน้อยที่สุดในศิษย์ระดับสวรรค์ด้วย!
แน่นอนว่าศิษย์ลำดับสวรรค์ทุกวันนี้ไม่เหมือนกับศิษย์ลำดับสวรรค์เมื่อห้าปีก่อน ห้าปีที่แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงและ ‘ผู้บ้าคลั่ง’ หงหลวนก็เป็นศิษย์สวรรค์!
แต่ว่าศิษย์ระดับสวรรค์จะได้รับการปรับเปลี่ยนทุกห้าปี ซึ่งอวิ๋นลั่วเฟิงและหงหลวนก็ออกจากสำนักศึกษาไปได้ห้าปีแล้ว ตอนนี้ศิษย์ระดับสวรรค์ของสำนักศึกษาเมืองประจิมถูกครอบครองด้วยโอวเฟยและพรรคพวกของเขา!
“เจ้ารู้จักอวิ่นลั่วเฟิงหรือไม่” โอวหลานพูดอย่างภาคภูมิใจ “สตรีที่ทำให้เกิดการแตกตื่นในสำนักศึกษาเมื่อห้าแล้วน่ะ ข้าคิดว่ามีแต่อัจฉริยะแบบนางเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับพี่ชายข้า”
อวิ๋นลั่วเฟิง?
ชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ เขาไม่ได้ไม่รู้จักชื่อนี้ หรือพูดให้ถูกคือทั่วทั้งสำนักศึกษาเมืองประจิมก็รู้จักนางทั้งนั้น และแม้แต่ทั่วทั้งแคว้นเจ็ดเมืองก็รู้จักชื่อนี้เช่นกัน
สิ่งที่ทำให้ชายหนุ่มตกใจก็คือ โอวหลานยกย่องตัวเองว่ามีแค่อวิ๋นลั่วเฟิงเท่านั้นที่คู่ควรกับพี่ชายนาง พูดตามตรง ถึงแม้ว่าโอวเฟยจะมีพรสวรรค์แต่ก็แค่ภายในสำนักศึกษาเมืองประจิมเท่านั้น ในขณะที่อวิ๋นลั่วเฟิงเป็นถึงผู้ฝึกฌานขั้นจักรพรรดิปราชญ์ระดับสูง
อวิ๋นลั่วเฟิงและโอวเฟยก็เหมือนก้อนเมฆกับโคลนตม!
แต่ว่าชายหนุ่มก็ไม่กล้าพูดอย่างนั้นเพราะเขาไม่กล้ามีปัญหากับโอวหลานที่เชื่ออย่างสุดหัวใจว่าพี่ชายของนางดีที่สุดในโลก! ดังนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่นางจะพูดอะไรน่าขันแบบนี้
“ศิษย์พี่โอวหลาน อวิ๋นลั่วเฟิง…แต่งงานแล้วนะขอรับ”
เขาหมายความว่าไม่มีทางอวิ๋นลั่วเฟิงจะมาเป็นพี่สะใภ้ของนาง
โอวหลานยกยิ้ม “เจ้ายังจำหงหลวน บุตรสาวของเจ้าเมืองบูรพาได้หรือไม่ นางเองก็มาจากสำนักศึกษาเมืองประจิมเหมือนกัน นางเป็นตัวเลือกอันดับสอง ข้าคิดว่านางเองก็เหมาะจะเป็นพี่สะใภ้ของข้าเหมือนกัน”
ชายหนุ่มอ้าปากค้างด้วยความตะลึง นางมั่นใจหรือว่าพี่ชายของนางจะคู่ควรกับหงหลวน
ถ้าพูดถึงฐานะทางสังคม หงหลวนเป็นทายาทของเมืองบูรพาและอนาคตเจ้าเมืองบูรพาในขณะที่โอวเฟยมาจากตระกูลร่ำรวย ส่วนฐานะในสำนักศึกษา เมื่อห้าปีที่แล้วหงหลวนเป็นศิษย์ระดับสวรรค์อันดับที่หนึ่งในขณะที่โอวเฟยพึ่งอยู่อันดับสาม และเรื่องความแข็งแกร่งหงหลวนอายุน้อยกว่าและมีความสามารถมากกว่าโอวเฟย
อะไรที่ทำให้นางเชื่อว่าโอเฟยคู่ควรกับทายาทเมืองบูรพากัน และนางยังทำท่าราวกับว่านางยอมรับหงหลวนมาเป็นพี่สะใภ้แบบไม่เต็มใจ…
“อีกสองสามวัน ข้าจะไปที่เมืองบูรพากับท่านพี่ จากนั้นข้าก็อยากเจอทายาทของเมืองบูรพา นางต้องตกหลุมรักพี่ชายข้าแน่เมื่อนางเห็นว่าเขาหล่อเหลาแค่ไหน”
มุมปากของชายหนุ่มกระตุก ทันใดนั้นเขาก็คิดว่าเขาควรอยู่ให้ห่างจากพี่น้องตระกูลโอวด้วยเกรงว่าเขาจะถูกลากไปเกี่ยวข้องขณะพวกเขาออกไปรนหาที่ตาย
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ชายหนุ่มก็ใจเย็นลงแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็ขอให้ศิษย์พี่หญิงโอวหลานทำสำเร็จ อ้อ ข้าจำได้ว่าข้ามีบางอย่างเร่งด่วนต้องไปจัดการ ข้าต้องไปแล้ว” พูดจบชายหนุ่มก็รีบจากไป เขาต้องกลับเตือนน้องสาวไม่ให้ไล่ตามโอวเฟย
…………………………
ตอนที่ 1771 สตรีโง่งม (3)
ไม่อย่างนั้นนางอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวชก็ได้! …
บนถนนที่มุ่งตรงสู่สำนักศึกษา มีสตรีงดงามในชุดสีแดงโลหิตกำลังเดินอยู่
ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งเดินตามนางโดยไม่ยอมให้นางทิ้งเขาไว้ข้างหลัง
“เหตุใดเจ้าถึงเอาแต่ตามข้า” หงหลวนหันมาจ้องหน้าหนานกงอวิ๋นอี้และถามอย่างโกรธเคือง
หนานกงอวิ๋นอี้สะบัดผมอย่างน่ามอง “ข้าจะไม่หยุดตามเจ้าจนกว่าเจ้าจะตกลงแต่งงานกับข้า”
หงหลวนหรี่ตา “เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะสังหารเจ้าหรือ”
“เจ้าไม่สังหารข้าหรอก”
หนานกงอวิ๋นอี้ยิ้ม “อย่างมากเจ้าก็ตีข้า แต่ถึงแม้ว่าเจ้าจะตีข้าจนเกือบตาย ข้ายังจะติดตามเจ้าอยู่ดี เจ้าทิ้งข้าไว้ไม่ได้หรอก”
“หนานกงอวิ๋นอี้เจ้ามันรนหาที่ตาย!”
พรึบ!
หงหลวนยกกระบี่ขึ้นอย่างเดือดดาล “อย่าหาว่าข้าทำตัวไร้มารยาทถ้าเจ้ายังตามข้าอยู่อีก!”
ความจริงแล้วถ้าหนานกงอวิ๋นอี้แค่เดินตามนางเฉยๆ หงหลวนก็คงไม่โกรธ แต่เขาชอบยื่นมือมาแตะต้องนาง
นางตีเขาทุกครั้งที่โกรธ แต่ไม่ว่านางจะตีเขาหนักแค่ไหน เขาก็แค่ทำตัวติดกับนางเหมือนกาวและไม่ยอมไปไหน
“เจ้ากำลังจะไปตามหาอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ใช่หรือ นางเองก็เป็นสหายของข้าเหมือนกัน ดังนั้นเหตุใดพวกเราไม่ไปด้วยกันล่ะ” หนานกงอวิ๋นอี้มองกระบี่ที่จ่อคอของตัวเองด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
ถ้าหงหลวนใช้กระบี่จ่อคอเขาตอนที่เจอกันครั้งแรก เขาก็คงกลัวนางจนยืนไม่ไหวแล้ว
เขารู้ว่าหงหลวนไม่มีทางสังหารเขาดังนั้นเขาจะกลัวนางไปทำไม
นางก็แค่ตีเขา ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าเทียบกับการที่นางจะมาเป็นภรรยาในอนาคตของเขา
“ข้าเป็นศิษย์ของสำนักศึกษาเมืองประจิมดังนั้นก็เป็นธรรมดาที่ข้าจะกลับไปที่สำนัก แต่เจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับสำนักล่ะ” ใบหน้างดงามของหงหลวนเต็มไปด้วยความโมโห ดวงตาของนางลุกโชนด้วยความโกรธและนางก็พูดขณะกัดฟัน “ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจะไปดีๆ หรือไม่!”
“ข้าจะไปถ้าเจ้ายอมแต่งงานกับข้า” หนานกงอวิ๋นอี้พูดอย่างหน้าไม่อาย
หงหลวนกดแรงลงไปที่กระบี่และรอยเลือดก็ปรากฏบนลำคอของเขา
“หนานกงอวิ๋นอี้ เจ้าจะเดินทางไปกับข้าก็ได้ตราบใดที่เจ้าสัญญาว่าเจ้าะไม่แตะต้องข้าอีก!”
หนานกงอวิ๋นอี้ยกยิ้มมุมปาก เขาแค่พยายามจะสัมผัสใบหน้าและจูบนางตอนที่นางนอนหลับเท่านั้นเอง แต่นางก็จะตื่นขึ้นมาก่อนที่เขาจะทำสำเร็จทุกครั้ง จากนั้นนางก็ทุบตีเขา
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่อยากจากไป…
เมื่อเห็นหนานกงอวิ๋นอี้ไม่พูด หงหลวนก็ชักดาบกลับไป “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าไม่ต้องรับผิดชอบข้าดังนั้นเจ้าก็ไม่ต้องตามข้าอีกต่อไปแล้ว ข้าจะไม่แต่งงานกับเจ้าแค่เพราะว่าเจ้าเห็นข้าเปลือย!”
“ข้า…” หนานกงอวิ๋นอี้ขยับไปข้างหน้าเพื่อพยายามจะอธิบายว่าเขาไม่ได้อยากแต่งงานกับนางเพราะต้องการรับผิดชอบ
แต่ว่าหงหลวนก็ไม่ให้โอกาสเขาได้อธิบายแล้วนางก็เขย่งปลายเท้าและกระโดดผลิวขึ้นไปในอากาศ …
เทียบกับอวิ๋นลั่วเฟิงแล้ว หงหลวนอยู่ในสำนักศึกษาเมืองประจิมนานกว่าดังนั้นนางจึงก่อตั้งกลุ่มของตัวเอง สมาชิกในกลุ่มก็จากสำนักศึกษาเมืองประจิมไปกันแล้ว แต่ว่าก่อนที่นางจะเดินทางมาสำนักศึกษาเมืองประจิม หงหลวนก็ได้ส่งจดหมายไปบอกว่านางกำลังจะกลับมา คนเหล่านี้ก็เดินทางกลับมาจากทั่วโลกเพื่อมาเจอหงหลวนและรอนางอยู่ที่สำนักศึกษา