ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1778 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (2) / ตอนที่ 1779 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (3)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1778 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (2) / ตอนที่ 1779 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (3)
ตอนที่ 1778 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (2)
จางเซี่ยชี้หน้าโอวหลานอย่างโกรธแค้น “เจ้าใส่ร้ายข้า”
ใส่ร้ายเจ้างั้นหรือ
แล้วอย่างไร
โอวหลานยิ้มเยาะ ถึงแม้ว่าสำนักต้องการจะหาคนมาลงโทษ พวกเขาก็มีแค่จางเซี่ยที่สามารถอธิบายได้และนางก็กลายเป็นคนที่หูหลีเกลียด!
“พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่” ทันใดนั้นก็มีเดือดดาลดังขึ้นจากด้านหลังของพวกเขาแล้วฝูงชนก็หันหลังไปเจอกับหูหลีที่กำลังรีบเดินเข้ามาหาพวกเขาแล้วตามมาด้วยสตรีในชุดสีแดง
เมื่อเห็นสตรีในชุดแดง โอวหลานก็หน้าซีด หงหลวนงั้นหรือ เหตุใดนางถึงมาที่นี่
“โอวเฟย เจ้ากำลังพยายามจะทำอะไร” เมื่อเห็นคนพวกนี้กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับอวิ๋นลั่วเฟิง หูหลีก็เดือดดาลแล้วดวงตาหงส์ของเขาก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่เย็นเยียบ
“ผู้อาวุโสหูหลี เรื่องเป็นอย่างนี้…”
ด้วยกลัวว่าหูหลีจะเกลียดนาง จางเซี่ยก็รีบบอกเขาเกี่ยวกับข่าวลือในช่วงนี้ และสุดท้ายนางก็พูดเสริมว่า “ได้โปรดเชื่อศิษย์ ศิษย์ไม่ได้ทำจริงๆ เจ้าค่ะ”
“ดี ดีมาก!” หูหลีโกรธจัดจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เจ้ากล้าปล่อยข่าวลือเลวทรามอย่างนี้ได้อย่างไร! เจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”
ภายในสำนักศึกษา เพราะความแข็งแกร่งของโอวเฟยทำให้มีสุนัขมากมายวิ่งไล่ตามเขา คนพวกนี้ก็เหมือนเขา คืออิจฉาหูหลีที่กลายเป็นผู้อาวุโสตั้งแต่อายุยังน้อย อีกอย่างโอวเฟยก็ค่อนข้างมีพรสวรรค์ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดว่าตัวเขาด้อยกว่าหูหลี แม้จะต้องเผชิญหน้ากับหูหลี เขาก็ไม่กลัวแม้แต่น้อย
“ผู้อาวุโสหูหลี ท่านอธิบายได้หรือไม่ว่าเหตุใดศิษย์ใหม่ทั้งสองคนนี้ถึงไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบ อีกอย่างก็มีบางคนเห็นพวกเขารู้จักกับท่าน ถ้าท่านไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสมกับพวกเขาแล้วพวกเขาจะเข้ามาในสำนักได้อย่างไร”
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับโอวเฟย
โอวเฟยอ้าปากและพยายามจะพูดแต่ก็พบว่าตัวเขาอยู่ภายใต้แรงกดดันทำให้ไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว ทำได้เพียงยืนอยู่ตรงนั้นอย่างวิตกกังวล ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอวิ๋นเซียว แต่ว่าทันทีที่อวิ๋นเซียวปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลังออกมา เขาก็รู้ว่าบุรุษคนนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะมีปัญหาด้วยได้ แต่ว่าตอนนี้เขาก็พูดไม่ได้แล้วดังนั้นเขาจึงหยุดคนพวกนี้ไม่ได้…
“ศิษย์ใหม่งั้นหรือ”
หงหลวนหัวเราะ เสียงหัวเราะของนางเต็มไปด้วยการเหยียดหยามและนางก็ย้ายสายตาทรงเสน่ห์ของนางไปที่โอวเฟยและโอวหลาน
“เจ้าบอกว่าพวกเขาเป็นศิษย์ใหม่งั้นหรือ”
ทันทีที่หงหลวนปรากฏตัว โอวหลานก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ แต่การที่จู่ๆ นางก็พูดแบบนี้ทำให้โอวหลานตัวแข็งทื่อ
ข้าเข้าใจผิดงั้นหรือ พวกเขาไม่ใช่ศิษย์ใหม่งั้นหรือ
“ฮะ ฮะๆ พวกเราทำได้แล้ว! พวกเราทำได้แล้ว!”
ขณะที่หงหลวนกำลังเดินเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงก็มีเสียงหัวเราะดังลั่น ฝูงชนก็เงยหน้าก็เห็นซวีคงในชุดคลุมสีเทาวิ่งเข้ามา
“ผู้…ผู้อาวุโสซวีคง เหตุใดท่านถึงมาอยู่ที่นี่ขอรับ”
“เฟิงเอ๋อร์ จักรพรรดิปีศาจ ในที่สุดพวกเราก็เปิดมิติได้แล้ว ตอนนี้พวกเจ้าก็สามารถเข้าไปได้”
ใบหน้าของซวีคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่นานเขาก็สัมผัสได้ว่าที่นี่มีบรรยากาศแปลกๆ เขาจึงเอ่ยถาม “เกิดอะไรขึ้น”
โอวหลานเบิกตากว้างด้วยความตะลึงและจ้องซวีคงที่วิ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาเหลือเชื่อ
เดี๋ยวก่อนนะ
เขาพึ่งเรียกสตรีผู้นี้ว่า ‘เฟิงเอ๋อร์’…
และเรียกบุรุษที่เย็นชาและหล่อเหลาว่า ‘จักรพรรดิปีศาจ’ งั้นหรือ
“เป็น…เป็นไปได้อย่างไร” โอวหลานกระถดถอยหลังไปหลายก้าวด้วยใบหน้าซีดเผือด
จักรพรรดิปีศาจ นายน้อยของตระกูลจวินและสามีของอวิ๋นลั่วเฟิง!
ดังนั้นสตรีในชุดสีขาว…ก็คือตำนานของแคว้นเจ็ดเมือง – อวิ๋นลั่วเฟิงงั้นหรือ
โอวหลานกัดปากแน่นเนื้อตัวสั่น สตรีผู้นี้จะเป็นอวิ๋นลั่วเฟิงได้อย่างไร
…………………………
ตอนที่ 1779 นางคืออวิ๋นลั่วเฟิง (3)
คนที่มีอิทธิพลมากเสียจนทำให้เจ้าเมืองทุกคนหวาดกลัว
คนที่สามารถทำให้ทั่วทั้งแคว้นสั่นสะเทือนได้เพียงแค่กระทืบเท้า
นางทำให้อวิ่นลั่วเฟิงไม่พอใจและถึงกับอยากแย่งสามีของนาง จักรพรรดิปีศาจงั้นหรือ
“เกิดอะไรขึ้น” ซวีคงขมวดคิ้วและดวงตาของเขาก็เป็นประกายเย็นชา เขาหันไปมองจางเซี่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าหูหลีแล้วพูดย่างเย็นชาว่า “เจ้า บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น”
น้ำเสียงของเขาจริงจังมากจนทำให้จางเซี่ยตัวสั่นและรีบทวนสิ่งที่นางพึ่งพูดให้หูหลีฟัง
ใบหน้าของซวีคงมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ “เจ้าบอกเจ้าไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวลือ ถ้าอย่างนั้นใครเป็นคนทำ” เสียงของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร
ใช่แล้ว ตอนนี้ซวีคงอยากจะสังหารคนที่ปล่อยข่าวลือจริงๆ!
ใครก็ตามที่กล้าใส่ร้ายศิษย์ของเขาต้องตาย!
“ข้าคิดว่า เรื่องนี้ก็เห็นได้ชัดนะว่าใครเป็นคนผิด” อวิ๋นลั่วเฟิงกลับมายืนตัวตรงแล้วเหลือบมองโอวเฟยกับโอวหลาน “คนที่มาสร้างปัญหาก็ต้องเป็นคนที่ปล่อยข่าวลือ”
เมื่อเซี่ยหลิงที่ซ่อนอยู่ในฝูงชนเห็นแบบนี้ นางก็พยายามจะหนี นางอดไม่ได้ที่จะสาปแช่งโอวหลานภายในใจนาง นังโง่นี่ไร้ความอดทนสิ้นดี ถ้านางมาสร้างปัญหาให้อวิ๋นลั่วเฟิงช้ากว่านี้สักหน่อย นางก็คงไม่โดนเปิดโปง
ถ้าไม่ใช่เพื่อโอวเฟย นางก็คงไม่ให้คำแนะนำสักอย่างกับโอวหลาน!
“ไม่ ไม่ใช่ข้านะ!” เมื่อโอวหลานถูกอวิ๋นลั่วเฟิงจ้องนางก็รู้สึกหวาดกลัว ทันทีที่นางเห็นเซี่ยหลิงกำลังจะหนี นางก็กัดริมฝีปาก “เป็นเซี่ยหลิง นางเป็นคนปล่อยข่าวลือ ข้าพยายามจะหยุดนางแล้วนางไม่ฟัง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับข้าแม้แต่น้อย”
ใบหน้าของเซี่ยหลิงเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันทีและนางก็จ้องหน้าโอวหลาน ไม่นานนางสัมผัสได้ถึงสายตาดุร้ายของซวีคงดังนั้นนางจึงหยุดแล้วรีบคุกเข่าลงที่ตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง
“แม่นางอวิ๋น โอวหลานบังคับให้ข้าทำแบบนี้ ข้าไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำ ได้โปรดปล่อยข้าไป ข้าบริสุทธิ์เจ้าค่ะ”
“บริสุทธิ์งั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “เจ้าคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์จริงหรือ”
ดวงตาสีนิลของนางเป็นประกายที่ยากจะยั่งถึงราวกับว่าอวิ๋นลั่วเฟิงสามารถอ่านความคิดนางได้
ภายใต้สายตาของนาง เซี่ยหลิงก็ทรุดลงที่พื้น นางรู้ดีว่าครั้งนี้ นางจบแล้ว…
“นังโง่!”
ตอนนั้นเอง โอวเฟยก็สามารถขยับร่างกายของตัวเองได้ เขารีบวิ่งไปโอวหลานแล้วตบหน้านาง “เหตุใดเจ้าถึงโง่ขนาดนี้ ครั้งนี้ข้าถูกเจ้าทำลาย! ในเมื่อเจ้าทำข้ามีปัญหา ตอนข้ากลับไปที่บ้าน ท่านพ่อท่านแม่ไม่มีทางให้อภัยเจ้าแน่!”
โอวหลานขยับริมฝีปากและใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ตระกูลโอวให้ความสำคัญกับบุตรชายมากกว่าบุตรสาว อีกอย่างพี่ชายของนางก็เป็นความหวังของตระกูล! หลายปีมานี้ ถ้าพี่ชายไม่ปกป้องนาง นางก็คงมีชีวตที่แย่ยิ่งกว่าบ่าว ถ้าท่านพ่อ ท่านแม่รู้ว่านางทำให้พี่ชายเจอปัญหาใหญ่ พวกเขาไม่มีทางให้อภัยนางแน่…
“เจ้าไม่ได้เป็นศิษย์ของสำนักอีกต่อไปแล้ว!” ซวีคงสะบัดแขนเสื้ออย่างเย็นชา “หูหลี ถ่ายทอดคำพูดของข้าออกไป – โอวเฟยและโอวหลานสร้างปัญหาให้อวิ๋นลั่วเฟิง ถ้าใครกล้าคบค้าสมาคมกับตระกูลโอว พวกเขาจะถูกไล่ล่าโดยขั้วอำนาจใหญ่ทั้งหมดของแคว้น”
ดวงตาของโอวเฟยฉายแววตื่นตระหนก ถ้าเขาแค่โดนเตะออกจากสำนัก เขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบายได้ด้วยพรสวรรค์ของเขา แต่ตอนนี้ถ้าทุกคนรู้ว่าเขาทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงไม่พอใจ พวกนั้นย่อมไม่มีทางให้โอกาสเขาแน่
“ผู้อาวุโสซวีคงขอรับ” โอวเฟยรีบคุกเข่าลง “การไม่รู้สามารถให้อภัยได้ ศิษย์ไม่รู้ว่านางคืออวิ๋นลั่วเฟิง ได้โปรดให้อภัยศิษย์ด้วยขอรับ”