ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1864 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (1) / ตอนที่ 1865 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (2)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1864 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (1) / ตอนที่ 1865 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (2)
ตอนที่ 1864 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (1)
นางเหมือนคนจมน้ำที่คว้าจับฟางเส้นหนึ่งเอาไว้
“เข้าใจแล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้า “ข้าจะบอกเจ้าว่าข้าต้องการสมุนไพรพลังฌานอะไรบ้าง ไปตามหามาให้ข้า แน่นอนว่ายิ่งเร็วยิ่งดี ข้าเกรงว่าเขาจะเหลือเวลาไม่มากนัก”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นมู่เสวี่ยซินก็รีบให้คนไปหากระดาษและพู่กันมา อวิ๋นลั่วเฟิงใช้พู่กันเขียนรายชื่อสมุนไพรพลังฌานที่ใช้ขับพิษลงกระดาษ
“เจ้าต้มสมุนไพรพลังฌานพวกนี้ในน้ำหนึ่งร้อยถัง เคี่ยวจนกว่าจะเหลือแค่ถังเดียวและให้เขาลงไปแช่ในอ่างสมุนไพรหนึ่งวันหนึ่งคืน หลังจากนั้นพิษหญ้าคืนฝันก็จะถูกขับออก”
หลังจากที่ยื่นตำรับยาให้มู่เสวี่ยซินแล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงก็เขียนอีกหนึ่งแผ่น
“ตำรับยานี้สำหรับถอนพิษบึง แต่เจ้าควรป้อนน้ำแกงสมุนไพรให้เขาแทนที่จะให้เขาแช่ในอ่างสมุนไพร สองวันต่อมาพิษจากบึงก็จะหายไป และเขาก็จะตื่น” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดมือและพูดขึ้นว่า “ข้าเขียนตำรับยาบำรุงร่างกายไว้ให้ด้วย หลังจากที่เขาตื่นให้เจ้าต้มสมุนไพรแล้วเอาให้เขาดื่ม ภายในครึ่งเดือน บิดาของเจ้าจะกลับมาหายดี”
มู่เสวี่ยซินกำตำรับยาในมือแน่น ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ถ้าอวิ๋นลั่วเฟิงสามารถรักษาเสด็จพ่อให้หายได้จริงๆ นางก็จะกลายเป็นผู้มีพระคุณของอาณาจักรหลิวเฟิง
“อีกอย่าง…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดแล้วมองมู่เสวี่ยซิน “ในเมื่อมีคนตั้งใจจะสังหารเขา ช่วงนี้เจ้าก็ควรจะอยู่ข้างจักรพรรดิเพื่อไม่ให้คนพวกนั้นได้มีโอกาสลงมือ”
ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะไม่ได้เตือนนางแต่มู่เสวี่ยซินก็รู้ว่าต้องทำอะไร เมื่อคิดว่าคนพวกนั้นสังหารเสด็จพ่อเพื่ออำนาจ ประกายเหี้ยมก็พาดผ่านดวงตาของนาง
“ข้าเข้าใจแล้ว แม่นางอวิ๋น ขอบคุณท่านมากไม่ว่าเสด็จพ่อจะดีขึ้นหรือไม่ ข้าก็จะตอบแทนน้ำใจของท่านไปตลอดชีวิต”
อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปกลับมองฉีซูด้วยรอยยิ้มบาง “เจ้าจะอยู่ที่นี่หรือกลับไปกับข้า”
ฉีซูสับสน เขาอยากอยู่กับมู่เสวี่ยซินแต่ว่าสุดท้ายเขาก็ส่ายหน้า
“ข้าจะมีเรื่องที่ต้องจัดการกับร้านโอสถผสานฌานอีกมากและ…” ดวงตาของเขาฉายแววซับซ้อน “ถ้าข้าอยู่ที่นี่ก็จะทำให้มู่เอ๋อร์เกิดปัญหาได้”
ถ้าคนของพระสนมฉินรู้ว่าเขาอยู่ในจวนองค์หญิง พวกเขาต้องส่งคนมาที่นี่เพื่อเอาตัวเขาไปแน่ เมื่อถึงตอนนั้น ถ้าพวกเขาพบว่าจักรพรรดิกำลังฟื้นตัวแล้วจะต้องหาทางสังหารฝ่าบาทอีกแน่
ในเมื่อเป็นแบบนั้น ช่วงนี้เขาก็ไม่อยู่ที่นี่ย่อมดีกว่า
เมื่อคิดได้อย่างนั้น ฉีซูก็หันไปมองมู่เสวี่ยซินอีกครั้งแล้วหลุบตาเพื่อซ่อนดวงตาที่มีความรักใคร่ต่อนางเอาไว้ “เสี่ยวหลิง พวกเราไปกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ ท่านพี่”
ใบหน้าของฉีหลิงดูสดใสด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับนาง นางเอียงคอแล้วมองมู่เสวี่ยซินด้วยดวงตากลมโตกระจ่างใส
“พี่หญิงมู่ ถ้าท่านพี่จัดการธุระเสร็จแล้ว พวกเราจะมาเยี่ยมท่านอีกนะเจ้าคะ”
มู่เสวี่ยซินยิ้มแล้วไม่ได้ขอให้พวกเขาอยู่ ตอนนี้ความคิดของนางมีเพียงเสด็จพ่อของนางเท่านั้น เวลาแบบนี้นางจะมีใจไปสนใจเรื่องความรักได้อย่างไร อีกอย่างฉีซูก็พูดถูก ด้วยสถานการณ์ตอนนี้พวกเขาไม่ควรอยู่ที่นี่
ฉีซูกุมมือฉีหลิงแล้วเดินออกไปช้าๆ เมื่อพวกเขาออกมาจากห้อง เขาก็หยุดฝีเท้าแล้วเม้มปากขณะครุ่นคิด
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไรแต่อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยังเห็นความกังวลเกี่ยวกับมู่เสวี่ยซินบนใบหน้าของเขา
“ข้าไม่รู้ว่าพวกเราจะฝ่าฟันสามวันนี้ไปได้หรือไม่”
อีกสามวันต่อจากนี้ จักรพรรดิก็จะตื่น
เมื่อถึงตอนนั้น ในอาณาจักรหลิงเฟิงแห่งนี้ก็จะไม่มีใครทำร้ายนางได้!
ตอนที่ 1865 จักรพรรดิปีศาจและจีจิ่วเทียน (2)
อวิ๋นลั่วเฟิงที่เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ถ้าเจ้ากังวลเกี่ยวกับนาง ข้าจะให้หุ่นเชิดเจ้าสองตัวไว้แอบปกป้องนางอย่างลับๆ”
นางไม่เคยขี้เหนียวกับคนของนาง ในเมื่อตอนนี้ฉีซูทำงานให้นาง นางก็ควรดูแลเขาให้ดี
“ขอบคุณขอรับ”
เสียงของฉีซูฟังดูติดขัดเล็กน้อยและดวงตาก็เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง “การช่วยมู่เอ๋อร์ก็เท่ากับช่วยข้า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าขอยกชีวิตให้ท่าน ตราบใดที่ท่านต้องการ”
อวิ๋นลั่วเฟิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย นางดูโอหังและเย่อหยิ่งจนไม่มีใครกล้าต่อต้าน
“อย่างที่ข้าพูดตั้งแต่แรก เป้าหมายของข้าคือการปกครองทุกแผ่นดิน! และเจ้าก็เป็นผู้ติดตามที่จะติดตามข้าไปถึงจุดสูงสุดหลังจากที่ข้ากลายเป็นราชันย์ของโลกใบนี้แล้ว! …
…ดังนั้นเจ้าไม่ต้องขอบคุณข้า! เจ้าแค่ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีก็พอ”
เสียงไพเราะของนางก้องกังวาน และทำให้หัวใจของฉีซูปั่นป่วนขึ้นมา
ปกครองทุกแผ่นดินงั้นหรือ
กลายเป็นราชันย์ของโลกใบนี้ใช่หรือไม่
มีเพียงนางเท่านั้นที่จะทำเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นี้ให้สำเร็จได้!
ฉีซูรู้สึกเหมือนเลือดสูบฉีดเป็นครั้งแรก ไม่แน่นี่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตที่เขาเลือกจะอุ้มนางขึ้นมาในวันนั้น
“แล้วเรื่องบุรุษที่ข้าให้เจ้าไปหาล่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว
แคว้นเฟิงอวิ๋นไม่ได้ใหญ่ แล้วอวิ๋นเซียวกับจีจิ่วเทียนไปอยู่ที่ไหน
“ข้าส่งคนออกไปตามหาแล้ว ข้าเชื่อว่าอีกไม่นาน พวกเราจะหาพวกเขาเจอ”
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉีซูก็หงุดหงิดเล็กน้อย เขาตามหาคนทั้งสองมานานแต่ก็ยังหาไม่เจอ แต่เขาก็ไม่มีทางยอมแพ้!
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องเดียวที่อวิ๋นลั่วเฟิงขอให้เขาทำ
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาแล้วมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ไกลออกไป ดวงตาสีดำและเย็นชาของนางเป็นประกายมุ่งมั่น
“ข้าเข้าใจแล้ว ตอนนี้เจ้าก็เกือบจะได้ตระกูลฉีมาอยู่ในมือแล้ว เจ้าสามารถส่งคนออกไปหาพวกเขาได้ เจ้าต้องหาพวกเขาให้เจอ!”
“ขอรับ นายหญิง”
ฉีซูตอบด้วยความเคารพแล้วในใจอดสงสัยไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษสองคนนี้กับอวิ๋นลั่วเฟิงคืออะไร ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสำคัญกับนางมาก…
…
ในหุบเขาสูงตระหง่านลาดชันที่ทอดยาวออกไปนับหมื่นลี้
ท้องฟ้าที่ควรจะเป็นสีฟ้าก็ถูกปกคลุมด้วยเมฆหนาทึบ สายฟ้าผ่าและฟ้าร้องดังก้องไปทั่ว
บนท้องฟ้าปรากฏบุรุษสองคนที่ยืนหันหลังให้กัน ชุดคลุมของพวกเขาปลิวไปตามลมทำให้พวกเขาดูทรงอำนาจ
ทั้งคู่มีใบหน้าหล่อเหลาอย่างยิ่ง
หนึ่งในนั้นสวมชุดคลุมสีแดงเพลิงขณะที่เส้นผมยาวสีดำสะบัดไปตามสายลม ระหว่างคิ้วมีจุดสีแดงที่ขับให้เขาดูมีเสน่ห์มากขึ้น
บุรุษผู้นี้ดูร้ายกาจเพราะมีรอยยิ้มเย็นเยียบประดับอยู่บนใบหน้าน่าหลงใหลของเขา
บุรุษที่ยืนหันหลังให้เขาสวมชุดคลุมสีดำสนิท บุรุษทรงเสน่ห์ในชุดสีแดงไม่สามารถข่มเขาได้แต่กลับเสริมให้เขาดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาน่าเกรงขามทำให้เขาดูราวกับพระเจ้า เพียงแค่เขาเหลือบมองก็ทำให้คนลืมหายใจ ดวงตาคมเย็นชาแลดูมืดมิดยากหยั่งถึงของเขาคล้ายกับตาของเหยี่ยว
“จักรพรรดิปีศาจ” จีจิ่วเทียนยิ้ม “ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”
อวิ๋นเซียวมีสีหน้าไร้อารมณ์และดูเย็นชาราวกับคนตาย เขาดูเหมือนพระเจ้าที่คอยมองคนเบื้องล่างจากเบื้องบน
“ข้าจะทำลายใครก็ตามที่นางเกลียด และจะปกป้องใครก็ตามที่นางใส่ใจ ไม่ต้องขอบคุณข้า เจ้าควรขอบคุณนาง”
ทุกครั้งที่จีจิ่วเทียนมองอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาของเขาก็จะฉายแววรักใคร่นาง ตามหลักแล้วเขาควรจะนับอีกฝ่ายเป็นศัตรูหัวใจ
แต่ว่า…
จีจิ่วเทียนต่างจากไป๋ซู!
ไป๋ซูไม่ได้รักอวิ๋นลั่วเฟิง เขาแค่ต้องการความสามารถของนางเท่านั้น! แท้จริงแล้วเขายังทำร้ายอวิ๋นลั่วเฟิงหลายครั้ง