ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1884 จุดจบของพระสนมฉิน (5) / ตอนที่ 1885 จุดจบของพระสนมฉิน (6)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1884 จุดจบของพระสนมฉิน (5) / ตอนที่ 1885 จุดจบของพระสนมฉิน (6)
ตอนที่ 1884 จุดจบของพระสนมฉิน (5)
“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้โกหกนะเพคะ! จริงสิ ร้านโอสถผสานฌาน! ร้านโอสถแห่งนี้เป็นขององค์ชายรองแห่งอาณาจักรเทียนฉี ฉีซูเป็นคนของพวกเขาแล้ว เขาขายชาติให้ศัตรูของพวกเรา มู่เสวี่ยซินต้องมีส่วนรู้เห็นเรื่องนี้ด้วยแน่เพคะ พวกเขาร่วมมือกันจัดการอาณาจักรหลิวเฟิง! บุตรชายของข้าเป็นองค์ชายองค์เดียวของอาณาจักรหลิวเฟิง นางตั้งใจทำแบบนี้เพื่อดึงบุตรชายหม่อมฉันลงจากตำแหน่ง!”
พระสนมฉินวิตกกังวลมากจึงตั้งใจจะผลักทุกอย่างออกไปให้มู่เสวี่ยซินโดยไม่สนอะไรทั้งนั้น ถึงแม้ว่านางจะไม่อาจหนีความตายพ้น แต่นางก็จะไม่ยอมให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดี!
ดวงตาของมู่เจิ้นเทียนมืดลง “พูดถึงองค์ชายน้อยแล้ว ข้าก็ชักสงสัยแล้วว่าเขาเป็นบุตรของข้าหรือเปล่า! ข้ากลับไปเมื่อไหร่จะจัดพิธีตรวจสอบสายโลหิต!”
ร่างของพระสนมฉินอ่อนแรงแล้วทรุดลงไปที่พื้น สายตาของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวังขณะที่นางกัดปาก “แต่ว่า ฉีซูมีข้อตกลงลับๆ กับองค์ชายของอาณาจักรเทียนฉีจริง ฝ่าบาทปกป้องเขาได้อย่างไร”
“ข้อตกลงลับๆ งั้นหรือ” เสียงร้ายกาจและน่าขนลุกดังขึ้น ริมฝีปากของพระสนมฉินสั่นขณะที่หันไปมองหญิงสาว
อวิ๋นลั่วเฟิงยกยิ้ม “ใครบอกเจ้าว่าร้านโอสถผสานฌานเป็นขององค์ชายรองอาณาจักรเทียนฉี”
พระสนมฉินสะดุ้ง นางหมายความว่าอย่างไร
“ฉีซูขายตำรับน้ำยาผสานฌานให้องค์ชายรองไม่ใช่หรือ”
ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ นางก็คงไม่หยุดสร้างปัญหาให้ร้านโอสถหรอก
“เรื่องนั่นก็แค่ข่าวลือจากปากชาวบ้านจะเป็นเรื่องจริงได้อย่างไร เจ้าได้ยินฉีซูยอมรับออกมาจากปากหรือยัง” อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองพระสนมฉินด้วยใบหน้าเฉยชา ในที่สุดพระสนมฉินก็ได้สติขณะที่นางแยกเขี้ยว กางกรงเล็บหวังจะกระโจนเข้าไปหาฉีซู
“ฉีซูเจ้าโกหก! เจ้าถึงกับกล้าโกหกน้าของเจ้า! ข้าจะสังหารเจ้า!”
ฉีซูขมวดคิ้วถอยหลังแล้วยิ้มเยาะ “ถ้าข้าไม่ได้ปล่อยข่าวลือแบบนั้น เจ้าก็จะฉวยโอกาสที่ฝ่าบาทประชวรมาขโมยร้านโอสถผสานฌานของข้าโดยไม่มีใครหยุดเจ้าได้ใช่หรือไม่ ข้ายังจำที่แม่ทัพหลี่ยืนกรานว่าน้ำยาผสานฌานเป็นของตระกูลฉีและจะใช้กำลังบังคับเอาตำรับยาไปได้อยู่เลย!”
“น้ำยาผสานฌานนี่เป็นของตระกูลฉี เจ้าเอาของของตระกูลฉีไป!” จนถึงตอนนี้พระสนมฉินก็ยังไม่สำนึกผิด
มู่เจิ้นเทียนส่งสายตาแฝงความนัยไปให้ผู้ติดตามและพวกเขาก็เดินเข้ามาทันที จากนั้นก็กดตัวพระสนมฉินไว้จนทำให้นางขยับไม่ได้
“ตระกูลฉีนับเป็นอะไรได้ เงินทุกตำลึงในตระกูลก็เป็นอาจารย์ข้าที่หามาทั้งนั้น!” ฉีซูเงยหน้ามองมู่เจิ้นเทียน “ฝ่าบาท กระหม่อมมีบางอย่างที่จะอยากจะให้ฝ่าบาทตัดสินพ่ะย่ะค่ะ”
มู่เจิ้นเทียนหันมาเผชิญหน้ากับฉีซูด้วยสีหน้าที่อ่อนลง เขาค่อนข้างชอบเด็กคนนี้แต่ไม่ใช่เพราะมู่เสวี่ยซิน เขาชอบพรสวรรค์ที่โดดเด่นของอีกฝ่ายแล้วเขายังมีอุปนิสัยที่ดีด้วย มีแค่เด็กหนุ่มแบบนี้ที่คู่ควรจะเป็นราชบุตรเขย
“พูดออกมาเถอะ”
“ฝ่าบาท ก่อนหน้านี้ฉีเจิ้งพาอนุของเขา เจี่ยนเฟยเฟยเข้ามาในบ้าน ถ้าเรื่องมีแค่นั้นก็ไม่เป็นไร แต่ข้ากลับได้รู้ความจริงบางอย่างเมื่อนานมาแล้ว” ฉีซูเหลือบมองฉีเจิ้งด้วยสายตาอำมหิต “ฉีเจิ้งเป็นคนชั่วช้า เขาสังหารพี่ชายของข้าแล้วยังยอมให้บุตรชายของเจี่ยนเฟยเฟย ฉีมั่ว เข้ามาอยู่ในฐานะบุตรชายคนโตของตระกูลฉี”
อะไรนะ ทุกคนหน้าซีดด้วยความตะลึงขณะที่หันไปมองฉีเจิ้งอย่างไม่เชื่อสายตา แม้แต่สัตว์ป่ายังดูแลลูกของตัวเอง แต่เขากลับกล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมขนาดนี้เลยหรือ
ปากของฉีเจิ้งแห้งผาก จากนั้นเขาก็ตอบเสียงอ้อมแอ้ม “เจ้าพล่ามอะไรไร้สาระ”
เรื่องนี้เป็นความลับมาหลายปี แล้วฉีซูไปรู้ได้อย่างไร
“เจ้าอยากรู้หรือไม่ว่าข้ารู้ได้อย่างไร” ฉีซูยิ้มเยาะ “ตั้งแต่ที่ข้ารู้ว่าฉีมั่วไม่ใช่พี่ชายของข้า ข้าก็ไปพูดคุยกับท่านลุงเรื่องนี้ ตอนที่ท่านแม่ข้าคลอดลูก ท่านลุงท่านป้าข้ารออยู่ด้านนอก พวกเขาได้ยินเสียงเด็กร้องแต่เจ้ากลับยืนกรานว่าบุตรของท่านแม่ตายตั้งแต่ในครรภ์ ดังนั้นข้าก็เลยสืบเรื่องแล้วก็โชคดีที่สวรรค์ไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ข้าก็ได้รู้ว่าเจ้าสังหารพี่ชายของข้า!”
…………………………
ตอนที่ 1885 จุดจบของพระสนมฉิน (6)
“ซูเอ๋อร์ ลูกพูดจริงหรือ” เสียงสั่นๆ ดังขึ้น
ฉีซูสะดุ้งแล้วรีบหันไปมองก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา “ท่านแม่ ท่านออกมาที่ทำไมขอรับ”
“ซูเอ๋อร์ แม่ขอถามเรื่องเดียว ลูกพูดจริงหรือ” หลินฉิงกัดหมัดแน่นแล้วตัวสั่นไม่หยุด
ฉีซูยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพยักหน้า “จริงขอรับ” หลินฉิงรู้ว่าบุตรชายของนางไม่เคยโกหกนาง ดังนั้นนางจึงหันไปมองฉีเจิ้งอย่างเดือดดาล
“เมื่อปีนั้นเจ้าสังหารบุตรชายข้าเพื่อที่บุตรชายของเจี่ยนเฟยเฟยจะได้แอบเข้ามาเป็นบุตรชายคนโตของตระกูลฉีได้! สุดท้ายเจ้ากลับบอกว่าเป็นความผิดของข้างั้นหรือ”
“ฉีเจิ้ง เจ้าทำตัวเลวทรามขนาดนี้ได้อย่างไร เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเจ้าทำร้ายบุตชายที่บริสุทธิ์ของข้าแล้วให้ข้าดูแลบุตรชายของอนุเจ้า แต่หลังจากที่พาอนุคนนั้นเข้ามาในบ้าน เจ้าบังคับภรรยาที่กำลังป่วยหนักของเจ้าให้คุกเข่าขอโทษนาง!” เมื่อหลินฉิงคิดถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนั้น นางก็ซวนเซและน้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
“สามเดือนที่แล้ว เจ้ากล่าวว่าข้าขโมยบุตรชายของเจี่ยนเฟยเฟยทำให้ทั้งคู่ต้องแยกจากกัน ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า! เจ้าบังคับให้ข้าคุกเข่าและขอโทษเจี่ยนเฟยเฟย แต่ข้าไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำว่าฉีมั่วไม่ใช่บุตรชายของข้า! แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนสังหารบุตรชายข้า!”
ฝูงชนที่โมโหในการกระทำของฉีเจิ้งก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินหลินฉิงพูดเรื่องคับข้องออกมาทั้งน้ำตา
มีคนหน้าไม่อายขนาดนี้อยู่บนโลกด้วยหรือนี่ ตอนแรกก็สังหารบุตรชายของภรรยาเพื่อให้บุตรชายของอนุแอบเข้ามาในตระกูลอย่างลับๆ จากนั้นก็ให้ภรรยาเลี้ยงดูบุตรชายของอนุมาเป็นสิบปี สุดท้ายยังจะบังคับให้ภรรยาขอโทษอนุของตัวเองอีกงั้นหรือ เขาบอกว่านางขโมยบุตรชายของคนอื่นมาด้วยใช่หรือไม่
ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่หน้าไม่อายจริงๆ พวกเขาก็ยังมีขอบเขต แล้วคนหน้าไม่อายขนาดนี้มีชีวิตรอดมาจนถึงตอนนี้ได้อย่างไร
สีหน้าของฉีเจิ้งซีดลงเรื่อยๆ แต่ว่าเขาก็ยังไม่สำนึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป “แค่เพราะว่าฉีซูบอกว่าข้าสังหารแล้วจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าข้าทำจริง หลักฐานอยู่ที่ไหนล่ะ”
ฉีซูยิ้มเยาะ “เจ้ากล้าสาบานหรือไม่ สาบานต่อสวรรค์ว่าถ้าเจ้าสังหารพี่ชายของข้า เจ้าจะลงไปชดใช้ความผิดในนรกขุมที่ลึกที่สุดโดยไม่ได้ผุดได้เกิดอีกเลย!”
เมื่อได้ยินคำพูดของฉีซู สีหน้าของฉีเจิ้งก็ยิ่งซีดราวกับคนตายขณะที่ดวงตาของเขาปรากฏความรู้สึกผิด เพราะแบบนี้เองทุกคนก็เลยรู้ว่าใครกันที่โกหก
“ต่อให้ข้าทำแล้วอย่างไร” ฉีเจิ้งกัดฟันแล้วยอมรับ “เด็กนั่นเป็นตัวโชคร้าย! ทันทีที่เขาร้องไห้ ดอกไม้ในสวนด้านหลังทั้งหมดก็เหี่ยวเฉา แม้แต่แพทย์ทำคลอดก็บอกว่าเขาจะพาสิ่งอัปมงคลมาให้”
“การทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาหมายความว่าเป็นตัวนำโชคร้ายงั้นหรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงส่งสายตาแฝงความนัยไปให้ฉีซูเพื่อหยุดการกระทำของเขาก่อนจะหันไปหาฉีเจิ้ง “เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าข้ามีวิธีที่ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉา”
“อะไรนะ” สายตาของฉีเจิ้งว่างปล่า
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มร้าย “มีดินชนิดหนึ่งที่ชื่อดินสวรรค์อำพันที่เมื่อใช้รวมกับผงดอกไม้ฌานจะทำให้ดอกไม้เฉา ถ้าเจ้าสงสัยเจ้าก็ถามแพทย์ที่อยู่ที่นี่ก็ได้”
ถึงแม้ว่าฉีเจิ้งจะเคยเรียนทักษะทางการแพทย์มาก่อน แต่เขาไม่มีพรสวรรค์และทำได้แค่งูๆ ปลาๆ ปกติแล้วเขาไม่เคยสนใจเรื่องนี้ ท่ามกลางคนที่มู่เจิ้นเทียนพามาก็มีแพทย์อยู่ด้วยดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิง พวกเขาก็พยักหน้า
“ใช่แล้ว วิธีนี้ทำให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาได้จริงๆ”
ฉีเจิ้งอยากจะเชื่อมั่นความคิดของตัวเอง แต่เมื่อเห็นแพทย์หลวงยืนยันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “นี่มัน…นี่มันเป็นไปไม่ได้ เรื่องที่เจ้าพูดจะเกิดขึ้นในตระกูลฉีได้อย่างไร เหตุการณ์ที่ดอกไม้เหี่ยวต้องไม่ได้เกิดเพราะแบบนี้ได้”
“อย่างนั้นหรือ” ฉีซูหัวเราะอย่างชั่วร้าย เขาชำเลืองมองเจี่ยนเฟยเฟยก็ได้เห็นใบหน้าซีดเผือดของนางขณะที่เขาพูดต่อ “บังเอิญว่าข้าหาตัวแพทย์ทำคลอดเมื่อตอนนั้นได้แล้ว”