ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1892 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (1) / ตอนที่ 1893 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (2)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1892 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (1) / ตอนที่ 1893 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (2)
ตอนที่ 1892 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (1)
อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาที่เป็นประกายเย็นชาของนางก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงและเดินออกไป
ด้านนอกสวนมีกลุ่มหญิงสาวในชุดสีสันสดใสนั่งอยู่ท่ามกลางพุ่มดอกไม้ และดูเหมือนว่าพวกนางกำลังทะเลาะกันอยู่
เมื่อพวกนางเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงเดินเข้ามาจากสวนด้านหลัง ใบหน้าของพวกนางก็แข็งค้างไป แต่ไม่นานพวกนางไม่สนใจอวิ๋นลั่วเฟิงอีกแล้วหันไปสนทนากับกลุ่มของตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นด้านนอกตระกูลฉีในวันนั้นไม่ใช่ว่าจะรู้ทุกคน ดังนั้นพวกนางจึงไม่รู้ตัวตนของอวิ๋นลั่วเฟิง
“ใครอนุญาตให้พวกนางเข้ามา” ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงค่อยๆ เย็นเยียบและถามอย่างเย็นชา
เหงื่อเย็นๆ ไหลจากหน้าผากของผู้คุ้มกัน “แม่นางอวิ๋น คนเหล่านี้มาโดยไม่ได้รับเชิญและบ่าวก็พยายามขวางพวกนางแล้ว แต่พวกนางก็ไม่ฟังขอรับ ยิ่งไปกว่านั้นนายน้อยก็ไม่อยู่ที่จวน และนายหญิงก็ไม่ได้ออกมา พวกเราก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี”
“ตอนนี้ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไล่พวกนางออกไปจากตระกูลฉีเดี๋ยวนี้ แล้วหักขาใครก็ตามที่กล้าก้าวเข้ามาข้างในอีก!”
เสียงของอวิ๋นลั่วเฟิงทรงอำนาจขณะที่ใช้สายตาเย็นชากวาดมองหญิงสาวทั้งหลายที่นั่งล้อมวงกันอยู่ ความเย็นเยียบแผ่ออกจากใบหน้าร้ายกาจแต่งดงามของนาง ในที่สุดนางก็จะได้ความสงบในช่วงสองสามวันนี้กลับคืนมา แต่หญิงสาวพวกนั้นก็บังเอิญมารบกวนการพักผ่อนของนางอีก
“ขอรับ แม่นางอวิ๋น” เมื่อมีคำสั่งของอวิ๋นลั่วเฟิง ผู้คุมกันก็โล่งใจ
สตรีทั้งหลายที่ยืนอยู่ที่นี่ไม่รู้ถึงตัวตนของอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ในฐานะผู้คุ้มกันของฉีซู พวกเขาจะไม่รู้ตัวตนของนางได้อย่างไร แม้แต่นายน้อยของเขายังเป็นผู้ติดตามของนาง เป็นธรรมดาที่ผู้คุ้มกันอย่างพวกย่อมต้องฟังคำสั่งของนางด้วย
“หา” เสียงที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยามดังขึ้นจากสตรีกลุ่มนี้ หญิงสาวงดงามผู้หนึ่งก็เดินออกมา “พูดแบบดีหน่อย เจ้าก็เป็นแค่แขกของตระกูลฉี แต่ถ้าจะให้ข้าพูดตรงๆ นายน้อยฉีก็แค่พาเจ้ามาเพราะความใจดีเท่านั้น เจ้าคิดว่าตัวเองอยู่เหนือผู้อื่นนักหรือ เจ้ามีสิทธิ์มาพูดอะไรในตระกูลฉีตั้งแต่เมื่อไหร่!”
ถึงแม่ว่าหญิงสาวผู้นี้จะงดงาม แต่ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสขณะที่มองอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างดูถูก ไม่ต้องสงสัยว่าเมื่อนางเห็นใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาของนางก็ฉายแววริษยาอย่างปิดไม่มิด
ฮึ่ม! นางก็แค่ดูดีนิดหน่อยแต่ในแคว้นนี้ความแข็งแกร่งสำคัญกว่า ถึงแม้ว่านางจะงดงามแต่นางก็เป็นได้แค่แจกันประดับเท่านั้นแหละ
“ซูเสวี่ย หยุดพูดเถอะ” ไม่นานหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานก็ยืนขึ้นแล้วเผยรอยยิ้มบางให้อวิ๋นลั่วเฟิง “แม่นาง อย่าได้ขุ่นเคืองเลย ซูเสวี่ยเป็นคนพูดตรงๆ และนางก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี”
หลังจากพูดจบ นางก็แสร้งตำหนิว่า “ซูเสวี่ย ถึงแม้ว่าเจ้าจะพูดความจริง เจ้าก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ได้ ถึงอย่างไรที่นี่ก็คือตระกูลฉี และสตรีที่มีอำนาจที่นี่ก็คือองค์หญิงสี่ เจ้าจะสร้างปัญหาให้ตัวเองไปทำไม”
นางสื่อว่าคำพูดของซูเสวี่ยเป็นความจริงและอวิ๋นลั่วเฟิงก็มายุ่งวุ่นวายกับของของคนอื่น อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาแล้วสำรวจหญิงสาวที่ดูอ่อนหวานคนนี้ด้วยดวงตาที่เป็นประกายเย็นชา
“ดูเหมือนว่าเจ้าก็รู้นี่ว่าที่นี่คือตระกูลฉี ถ้าคนอื่นที่ไม่รู้มาเห็นภาพนี้เข้า พวกเขาคงคิดว่าที่นี่เป็นจวนของเจ้าแล้ว” รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงขณะที่คำพูดของนางทำให้สีหน้าของสตรีทั้งสองแข็งค้างไป
“เจ้า…” ทันทีที่หญิงสาวที่ชื่อซูเสวี่ยตั้งใจจะก้าวออกมา เสียงร้ายกาจของอวิ๋นลั่วเฟิงก็ดังขึ้น “พวกเจ้ารออะไรกันอยู่ ไล่พวกนางออกไป! คนที่ไม่ยอมไปดีๆ ก็ให้คนหามออกไป!” นางหยุดครู่หนึ่งก่อนจะพูดอีกครั้ง “ที่สำคัญอย่าลืมนำน้ำยามาฆ่าเชื้อโรคตรงที่ที่พวกนางเดินผ่านด้วย”
ใบหน้าของซูเสวี่ยเปลี่ยนจากเขียวเป็นซีด จากซีดเป็นขาว ขณะที่ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเดือดดาล
ตอนที่ 1893 ข่าวคราวของจีจิ่วเทียน (2)
สีหน้าของสตรีคนอื่นก็มืดครึ้มขณะที่พวกนางจ้องอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร ข้าเป็นบุตรสาวขุนนางใหญ่ และถ้าฝ่าบาทรู้ว่าเจ้าทำกับข้าแบบนี้ ฝ่าบาทไม่มีทางไว้ชีวิตเจ้าแน่!” ซูเสวี่ยด่าอย่างโกรธเคือง
นางต้องการจะสั่งสอนอวิ๋นลั่วเฟิง แต่ก่อนที่นางจะไปถึงตัวอีกฝ่าย นางก็ถูกผู้คุ้มกันของฉีซูขวางทางเอาไว้ พวกเขาทำเหมือนจับลูกเจี๊ยบแล้วนางก็โดนอุ้มออกไปที่ประตู
“ปล่อยนะ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! เจ้าเป็นผู้คุ้มกันของตระกูลฉี เหตุใดถึงฟังคำสั่งนาง ข้ารู้แล้ว นางต้องยั่วยวนฉีซูแน่นอน ถ้าองค์หญิงสี่รู้เรื่องนี้ พระองค์ไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!
ตอนนี้ซูเสวี่ยลืมไปแล้วว่านางตั้งใจจะมาที่นี่เพื่อพบฉีซู ส่วนสตรีคนอื่นที่เห็นซูเสวี่ยถูกผู้คุ้มกันอุ้มไปก็อดไม่ได้ที่จะงุนงง
เหตุใดผู้คุ้มกันของตระกูลฉีถึงฟังคำสั่งของนางล่ะ
หรือว่า…ฉีซูจะรักนางจริงๆ
ไม่! เป็นไปไม่ได้!
ถ้าเป็นองค์หญิง พวกนางก็อาจจะยังมีโอกาสได้เป็นอนุของตระกูลฉีแต่ถ้าตระกูลฉีมีสตรีชั่วร้าย ไร้เหตุผล และป่าเถื่อน พวกนางก็คงไม่มีโอกาสได้ผ่านประตูจวนตระกูลฉีแน่นอน!
ตอนที่ซูเสวี่ยกำลังสบถสาปแช่งอวิ๋นลั่วเฟิงก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง ทำให้สีหน้าเดือดดาลของนางเปลี่ยนเป็นแปลกใจทันที
“เกิดอะไรขึ้น” ไม่ไกลจากนาง ฉีซูกำลังยืนขมวดคิ้วอยู่หน้าประตู
ข้าออกไปแค่สองสามวันเหตุใดถึงมีคนมาที่ตระกูลฉีมากขนาดนี้
“นายน้อยขอรับ” ผู้คุ้มกันคลายมือที่อุ้มซูเสวี่ยอยู่จนทำให้นางร่วงลงไปที่พื้นดังปังจนดูโหดร้ายมาก “คนพวกนี้มาที่ตระกูลฉีเพื่อพบนายน้อย พวกเขาอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้วขอรับ”
ฉีซูไม่ได้มาคนเดียวแต่มีมู่เสวี่ยซินมากับเขาด้วย ดังนั้นเมื่อสตรีคนอื่นเห็นมู่เสวี่ยซินยืนอยู่ข้างฉีซู พวกนางก็ไม่กล้าขยับ แต่ว่าความคิดของซูเสวี่ยไม่เหมือนคนอื่น นางเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วนางก็จะได้เป็นสตรีของฉีซูอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่านางจะทำอะไรก็ไม่มีผล
ดังนั้น…นางจึงพยายามลุกขึ้นจากพื้นแล้วกระโจนเข้าไปหาฉีซูอย่างรวดเร็ว
ฉีซูกระโดดโหยงด้วยความตกใจแล้วเตะเข้าที่หน้าอกของซูเสวี่ยโดยไม่ทันคิดจนทำให้นางกระเด็นไปกระแทกกับพุ่มดอกไม้อย่างแรง
ซูเสวี่ยเริ่มน้ำตาไหลดั่งสายฝน “นายน้อยฉีซู ข้ามาที่นี่เพื่อพบท่านแต่สตรีผู้นี้ชั่วร้ายเกินไป นางบอกว่านางเป็นนายหญิงของตระกูลฉีและต้องการจะไล่พวกเราออกไป!” ขณะที่นางฟ้องเขาทั้งน้ำตา นางก็ไม่ลืมที่จะพูดถึงอวิ๋นลั่วเฟิง
สีหน้าของมู่เสวี่ยซินคล้ายกำลังมองดูคนโง่ ใบหน้างดงามของนางเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม จากนั้นนางก็หันไปมองซูเสวี่ยอย่างเย็นชา สตรีคนอื่นคิดว่าจะได้เห็นสีหน้าเย็นเยียบของมู่เสวี่ยซิน แต่ไม่คิดเลยว่านางจะยังมีใบหน้านิ่งสนิทราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ซูเสวี่ยพูด
นี่…เป็นไปได้อย่างไร
มู่เสวี่ยซินไม่ได้รักฉีซูอย่างลึกซึ้งหรอกหรือ เหตุใดนางถึงไม่กังวลเลยหลังจากที่ได้ยินว่ามีคนพูดว่าจะมาแทนตำแหน่งของนาง
หญิงสาวที่มีท่าทางอ่อนหวานในชุดสีแดงก็กัดริมฝีปากแล้วเดินมาหามู่เสวี่ยซินกับฉีซูช้าๆ “องค์หญิงเพคะ พวกเรามาที่นี่เพื่อเยี่ยมนายน้อยฉีซูโดยไม่มีเจตนาอื่น ไม่คิดเลยว่า…พวกเราจะพบว่านายน้อยฉีซูมีสตรีอื่น นางยังขู่จะไล่พวกเราออกไปด้วยเพคะ”
นางชื่นชอบฉีซูมาหลายปีแต่น่าเศร้าที่ตอนที่ฉีซูโดนไล่ออกจากตระกูล นางรู้สึกว่านางไม่สามารถแต่งงานกับบุรุษที่ไร้อำนาจได้ไม่ว่านางจะรักเขามากแค่ไหนก็ตาม โชคดีที่ตอนนี้ฉีซูกลับมาแล้วและยังเข้าควบคุมตระกูลฉีไว้ด้วย การเป็นอนุของเขาก็ไม่ได้ลดฐานะของนาง แต่ว่า…นางฉลาดพอที่จะไม่เปิดเผยวัตถุประสงค์ของนาง และพูดแค่ว่านางมาเพื่อพบฉีซูเฉยๆ