ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1914 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (5) / ตอนที่ 1915 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (6)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1914 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (5) / ตอนที่ 1915 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (6)
ตอนที่ 1914 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (5)
ในดวงตาของเขาก็ปรากฏความกังวลหนักที่ปิดไม่มิด
“พี่เขย ข้ารู้จักร่างกายตัวเองดี ข้าไม่สามารถทนไปได้นานกว่านี้แล้ว ที่สำคัญข้าก็มีพี่สาวเป็นครอบครัวเพียงคนเดียว หลังจากที่ข้าจากไปแล้วก็จะได้ไปอยู่ร่วมกับพี่สาว แบบนั้นจะไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ” อวี้เซียนเซียนหลุบตาแล้วยิ้ม
นางไม่ได้พูดโกหกแต่นี่เป็นความคิดจากใจของนางจริงๆ สิ่งเดียวที่นางไม่สามารถปล่อยวางได้ก็คือพี่เขยและหลานสาวที่ยังเล็กของนาง…
ตอนที่นายท่านรองฉีกำลังกังวล เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งที่ทำให้เขาตัวแข็งทื่อ
“ข้าช่วยนางได้”
ข้าช่วยนางได้…
สี่คำง่ายๆ นี้ทำให้หัวใจของนายท่านรองฉีเต้นเร็วขึ้น เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสะกดอารมณ์ในใจของเขาเอาไว้ เขาเงยหน้ามองอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วถามว่า “เจ้าต้องการอะไรตอบแทน”
ตอนแรกเขาคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นผู้หญิงของฉีซู แต่ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิด ตระกูลฉีถูกสตรีผู้นี้ทำลาย แม้แต่ร้านโอสถผสานฌานก็เป็นของนาง…แล้วนางจะยอมเป็นสตรีของฉีซูได้อย่างไร
เขาไม่เชื่อว่าสตรีที่ทรงพลังอย่างนางจะไม่มีแรงจูงใจอื่น!
“ข้าอยากได้แคว้นเฟิงอวิ๋นทั้งหมด!” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาขณะที่ริมฝีปากยกขึ้นพร้อมกับพูดเบาๆ
นายท่านรองฉีหัวเราะ “แคว้นเฟิงอวิ๋นกว้างใหญ่มาก เจ้าคิดว่าเพียงอยากได้ก็จะได้มันมาครอบครองอย่างนั้นหรือ”
“ตราบใดที่ข้าต้องการ ข้าก็ต้องได้มาแน่นอน!” อวิ๋นลั่วเฟิงกล่าวอย่างมั่นใจ “ดังนั้นก้าวแรกของข้าก็คืออาณาจักรเทียนฉีของเจ้า!”
นายท่านรองฉีตกตะลึงไปเล็กน้อย ความกระหายของสตรีผู้นี้ยิ่งใหญ่นัก และนางยังตั้งใจจะกลืนกินอาณาจักรเทียนฉีของเขาทั้งอาณาจักรอีกงั้นหรือ ที่สำคัญกว่านั้น เขายังเป็นแค่องค์ชายแล้วจะมีอำนาจอะไรพอจะยกอาณาจักรเทียนฉีให้นางได้
“แม่นางอวิ๋น ข้าเกรงว่าเจ้าจะมาหาผิดคนแล้ว ข้าให้อาณาจักรเทียนฉีกับเจ้าไม่ได้…”
“ไม่ เจ้ามอบให้ข้าได้!” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ตราบใดที่เจ้าได้ครองบัลลังก์ เจ้าก็สามารถทำได้!”
นายท่านรองฉีเงียบ
เขาเงียบไปนานก่อนจะมองอวิ๋นลั่วเฟิง “เจ้าหมายความว่า ให้ข้าเชื่อฟังเจ้าแล้วกลายเป็นหุ่นเชิดของเจ้างั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงหัวเราะเบาๆ “ข้ามีหุ่นเชิดอยู่ข้างกายเพียงพอแล้วจะหามาเพิ่มทำไม สบายใจเถอะ ข้าแค่ขอให้เจ้าเชื่อฟังคำสั่งของข้าแต่เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นหุ่นเชิด ข้ารับประกันเรื่องนี้ได้! เจ้าลองคิดเรื่องนี้ดูก่อน และถ้าเจ้ายอมรับข้อเสนอของข้า ข้าจะช่วยเจ้ารักษานางรวมถึงช่วยให้เจ้าได้บัลลังก์ด้วย!”
เขาอดที่จะคิดไม่ได้ว่าคำพูดของอวิ๋นลั่วเฟิงช่างล่อตาล่อใจเสียจริง การแย่งชิงตำแหน่งฮ่องเต้นั้นรุนแรงมาก และก็เป็นเรื่องยากที่เขาจะได้บัลลังก์มาด้วยตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้น…อวี้เซียนเซียนก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว
“ก็ได้ ข้าสัญญา!” เมื่อคิดไตร่ตรองดูแล้ว นายท่านรองฉีก็เงยหน้าแล้วพูดขึ้นขณะมองอวิ๋นลั่วเฟิง
“พี่เขย!” อวี้เซียนเซียนตะโกนขึ้นด้วยความตกใจแล้วกัดริมฝีปาก “ข้าไม่มีค่าขนาดนั้นนะเจ้าคะ”
สีหน้าของนายท่านรองฉีอ่อนโยนขึ้น “หยุดพูดโง่ๆ ข้าสัญญากับพี่สาวของเจ้าแล้วว่าจะดูแลเจ้าดังนั้นข้าจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าได้อย่างไร ตราบใดที่ยังมีโอกาส ข้าก็จะไม่ยอมแพ้!”
หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็มองอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วถามว่า “ถ้าเจ้ารักษาอวี้เซียนเซียนได้ ข้าจะยอมรับข้อเสนอของเจ้า แต่ข้าอยากถามเจ้าสักข้อ อาณาจักรเทียนฉีมีองค์ชายมากมาย เหตุใดถึงเลือกข้า”
“เพราะว่าในบรรดาองค์ชายทั้งหลายของอาณาจักรเทียนฉี มีแค่เจ้าที่ไม่หันหลังให้ความถูกต้องและความยุติธรรม!”
ก่อนที่จะมาที่อาณาจักรเทียนฉี อวิ๋นลั่วเฟิงให้ฉีซูไปสืบเรื่องขององค์ชายพวกนี้มาแล้ว จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงเลือกนายท่านรองฉี
ตอนที่ 1915 การประลองระหว่างสี่อาณาจักร (6)
คนที่นางเลือกไม่มีทางเป็นบุรุษไร้หัวใจ!
นายท่านรองฉีซื่อสัตย์ต่อภรรยาของเขาและยังทำตามคำขอสุดท้ายของภรรยาที่ให้ดูแลน้องสาวของนางหลังจากที่นางจากไปแล้ว นี่เป็นนิสัยของบุรุษที่ตรงตามที่นางอยากชักชวนให้เข้าร่วมกับนาง!
“แม่นางอวิ๋น หากเจ้าอยากครอบครองแคว้นเฟิงอวิ๋นก็มีโอกาสดีแล้ว!”
โอกาสดีงั้นหรือ อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตา “โอกาสอะไร”
“อีกสามเดือนข้างหน้าจะมีการจัดการประลองระหว่างสี่อาณาจักรขึ้น ผู้ชนะจะถูกเลือกให้เป็นผู้ปกครองอาณาจักรทั้งสี่!”
เมื่อได้ยินที่เขาพูด หัวใจของอวิ๋นลั่วเฟิงก็กระตุก อวิ๋นเซียวต้องเข้าร่วมการประลองระหว่างสี่อาณาจักรแน่นอน และนางก็อาจจะได้เจออวิ๋นเซียวถ้านางเดินทางไปกับคนของอาณาจักรเทียนฉี…
เมื่อคิดได้แบบนี้ นางก็ยกยิ้มมุมปาก “คุณสมบัติที่จะได้เข้าร่วมการประลองระหว่างสี่อาณาจักรคืออะไร”
“องค์ชายของทั้งสี่อาณาจักรมีสิทธิ์เข้าร่วม ถึงตอนนั้นเจ้าก็สามารถเข้าร่วมกับข้าได้”
อวิ๋นลั่วเฟิงลูบคางเบาๆ “ก็ได้ เวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ก็แจ้งข้า ข้าจะรีบมาทันที” นางมีลางสังหรณ์ว่านางจะได้เจออวิ๋นเซียวที่การประลองระหว่างสี่อาณาจักร…
“แม่นางอวิ๋น ข้าอยากติดตามท่านไปด้วย” ฉีซูพูดอย่างตื่นเต้น “อาจารย์ต้องสนใจการประลองนี้แน่นอน ถ้านางยังมีขีวิตอยู่ นางต้องมุ่งหน้าไปที่การประลองระหว่างสี่อาณาจักรแน่”
เมื่อคิดว่าเขาจะได้พบอาจารย์ เขาก็ยิ่งตื่นเต้น
นายท่านรองฉียิ้ม “แม่นางอวิ๋น ท่านจะเริ่มรักษาเซียนเซียนได้เมื่อไหร่”
อวิ๋นลั่วเฟิงเงียบไปพักหนึ่ง “พรุ่งนี้ ข้ายังต้องเตรียมของบางอย่างก่อนจะเริ่มการรักษา”
“ได้ ได้โปรดบอกข้าถ้าเจ้าต้องการสมุนไพรพลังฌานชนิดไหน ข้าจะไปเอามาให้” ตราบใดที่อวี้เซียนเซียนหายดี เขาก็ยินดีแม้จะต้องสละสมบัติของตระกูลก็ตาม
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ทำตัวสุภาพกับเขา นางไม่เคยใช้สมุนไพรพลังฌานของตัวเองรักษาคนอื่นดังนั้นนางจึงเขียนรายชื่อสมุนไพรยาวเหยียดลงบนกระดาษแล้วยื่นให้นายท่านรองฉี
นายท่านรองฉีออกจากห้องไป แล้วอวิ๋นลั่วเฟิงกับฉีซูก็ออกไปพร้อมกันโดยทิ้งอวี้เซียนเซียนไว้ในห้อง…
อวี้เซียนเซียนรู้ตั้งแต่แรกว่าองค์ชายรองทำทุกอย่างก็เพื่อพี่สาวของนาง แต่ว่า…นางก็ไม่ได้เสียใจนางกลับดีใจเสียด้วยซ้ำ ถ้าพี่เขยไม่ใช่คนซื่อสัตย์ นางจะหลงรักเขาได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นนางก็ไม่อยากให้พี่เขยลืมพี่สาวของนาง…
“ท่านพี่หญิง ถ้าข้าสามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้ ข้าจะดูแลฉีเยว่และติดตามนางไปตลอดทั้งชีวิต! จากนั้นข้าจะส่งนางให้เป็นฝั่งเป็นฝา ข้าจะคอยปกป้องจวนองค์ชายรองให้ท่านและจะไม่ยอมให้ใครได้มีโอกาสรังแกเยว่เอ๋อร์!” นางยอมทำแบบนี้ แม้จะต้องเลื่อนการแต่งงานของตัวเองออกไปก็ตาม!
…
อาการป่วยของอวี้เซียนเซียนเกิดจากพิษที่ออกฤทธิ์ช้าชนิดหนึ่ง พิษชนิดนี้ซับซ้อนมากกว่าปกติและแพทย์ทั่วไปก็ไม่สามารถวินิจฉัยได้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมถึงไม่มีใครสามารถรักษาอวี้เซียนเซียนได้ถึงแม้ว่านางจะป่วยหนักมาก
นางต้องใช้เวลาสองสามวันเพื่อขับพิษออก เมื่อองค์ชายรองได้ยินว่าอวี้เซียนเซียนถูกพิษ เขาก็เดือดดาลขึ้นมาทันทีและสั่งให้ผู้ติดตามไปตามสืบอย่างลับๆ โดยไม่ได้บอกเรื่องนี้กับอวี้เซียนเซียน
โชคดีที่เมื่อได้รับการรักษาจากอวิ๋นลั่วเฟิง พิษก็ถูกยับยั้งไว้ได้ และอวี้เซียนเซียนก็ไม่อ่อนแอเหมือนตอนแรกแล้ว
ระหว่างนี้ ตระกูลเจี่ยนก็ไม่ได้สร้างปัญหาให้อวิ๋นลั่วเฟิง ส่วนเจี่ยนอัน…ไม่ว่านางจะต่อต้านแค่ไหน ฐานพลังของนางก็ถูกทำลายอยู่ดีและถูกส่งกลับไปที่ตระกูลฉี
เจี่ยนปั๋วเหวินหวาดกลัวความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่กล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขาหวังแค่ว่าเรื่องนี้จะไม่มาเกี่ยวข้องกับเขา…
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนและอวิ๋นลั่วเฟิงก็เอาชนะผู้ฝึกฌานขั้นเซียนสวรรค์ได้ การสังหารเขาก็คงง่ายไม่ต่างอะไรจากการดีดนิ้ว