ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1918 เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ (3) / ตอนที่ 1919 ข้าอยากอยู่ที่นี่ (1)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1918 เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ (3) / ตอนที่ 1919 ข้าอยากอยู่ที่นี่ (1)
ตอนที่ 1918 เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่ (3)
ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะอยู่ในชุดขาดรุ่งริ่งแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงสะอาดเรียบร้อย เขากำหมัดแน่นจนสั่นเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังข่มอารมณ์อย่างที่สุด อาจจะเป็นเพราะชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกใจจากด้านหนึ่ง ชายหนุ่มจึงหันไปมองด้านข้าง…
ทันทีที่เขาเห็นหญิงสาวในชุดสีขาว ดวงตาของชายหนุ่มก็ปรากฏอารมณ์หลากหลาย ทั้งความทนทุกข์ ความโกรธ…และความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่เคยคิดเลยว่าจู่ๆ นางจะบังเอิญมาเจอโม่เชียนเฉิง สิ่งที่นางคาดไม่ถึงยิ่งกว่าก็คือชายหนุ่มที่ครั้งหนึ่งเคยไร้เทียมทานจะตกต่ำจนถึงขนาดนี้ แต่ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็นึกถึงคำพูดของอวิ๋นเซียวขึ้นมาได้
ถ้าโม่เชียนเฉิงเจอกับเหตุการณ์เฉียดตาย ผนึกที่ตัวเขาเองทำไว้ก็จะแตกออก เมื่อถึงตอนนั้นชายคนนี้ต้องมาสร้างปัญหาให้พวกเขาแน่นอน! ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
“พี่สาว” ทันทีที่อวี้เซียนเซียนหันหลังกลับมา นางก็พบว่าอวิ๋นลั่วเฟิงหยุดเดินตามนางแต่ก่อนจะที่นางจะได้ถาม นางก็เห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเดินเข้าไปหาขอทานคนนั้นช้าๆ
“เขาขโมยอะไรมา” ตอนที่กลุ่มคนกำลังล้อมขอทานอยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเสียงร้ายกาจดังขึ้นทำให้ทุกคนหันไปมอง
สำหรับโม่เชียนเฉิงแล้ว เสียงนี้ก็ไม่ต่างกับเสียงดนตรีจนทำให้เขาน้ำตารื้น “เจวี่ยเชียน ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าจะไม่ทอดทิ้งข้า”
“ข้าจะบอกเจ้าอีกแค่ครั้งเดียว ข้าไม่ใช่เจวี่ยเชียน!” อวิ๋นลั่วเฟิงขู่อย่างดุร้าย “ถ้าเจ้าเรียกข้าผิดอีกครั้งเดียว ข้าจะไปโดยไม่ลังเลเลย!” โม่เชียนเฉิงเงียบสนิททันที เขาไม่อยากอดทนผ่านวันเวลาที่ไร้ซึ่งพลังและโดนคนอื่นดูถูกอีกต่อไปแล้ว…
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้การติดตามอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด! อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปหากลุ่มคนตรงหน้าแล้วถามซ้ำ “เขาขโมยอะไรไปจากเจ้า”
หัวหน้าของคนกลุ่มนี้คือผู้ดูแลโรงเตี๊ยม เขายิ้มอย่างเย็นชา “เขาไม่ใช่แค่มาอาศัยอยู่ในโรงเตี๊ยมเทียนฉีโดยไม่จ่ายเงินแต่เขายังขโมยสมุนไพรพลังฌานของพวกเราไปด้วย!”
“เจ้าพูดอะไรไร้สาระ!” โม่เชียนเฉิงเดือดดาล “ข้าไม่ได้มาอยู่เฉยๆ ข้าจ่ายเงินแล้ว สมุนไพรพลังฌานเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารแต่เจ้ากลับบอกว่าข้าขโมยมา”
“เหอะ ขอทานอย่างเจ้าจะมีสมุนไพรพลังฌานได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ตลกที่สุด ข้าจะบอกอะไรให้นะ สมุนไพรพลังฌานพวกนี้ถูกขโมยมา! เร็วรีบเอาสมุนไพรพลังฌานออกมาให้หมดไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าข้าทำตัวหยาบคาย!”
โม่เชียนเฉิงกำหมัดแน่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะโดนคนพวกนี้รังแกได้อย่างไร ทั้งหมดเป็นความผิดของอวิ๋นเซียว! ถ้าเขาไม่ได้หลอกข้า ข้าก็คงไม่ผนึกพลังของตัวเองแล้วก็คงไม่มาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ โม่เชียนเฉิงก็กัดฟันด้วยความเกลียดชังขณะที่ความไม่พอใจของเขาระเบิดออกมาทันที
เมื่อได้ยินคำพูดของผู้ดูแลโรงเตี๊ยม ในที่สุดอวิ๋นลั่วเฟิงก็เข้าใจสถานการณ์ สรุปก็คือโรงเตี๊ยมเทียนฉีแห่งนี้ขโมยของอย่างหน้าด้านๆ สินะ
นางหรี่ตาแล้วกวาดสายตามองกลุ่มคนนี้ด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง “ถ้าเจ้าบอกว่าเขาขโมยสมุนไพรพลังฌานพวกนี้มา เจ้ามีหลักฐานหรือไม่”
“เรื่องนี้…” ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมสะดุ้งก่อนจะพูดต่อด้วยท่าทางโอหัง “เขาเป็นแค่ขอทาน ถ้าเขาไม่ขโมยของพวกนี้มาแล้วเขาจะเอาสมุนไพรพลังฌานพวกนี้มาจากไหน”
“อันที่จริงข้าเป็นคนมอบสมุนไพรพลังฌานพวกนี้ให้เขาเอง” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มเยาะ “โม่เชียนเฉิงดูเหมือนว่าการเก็บสมุนไพรพลังฌานพวกนี้ไว้ที่เจ้าจะไม่ปลอดภัย เจ้าเอาคืนข้ามาดีกว่า”
โม่เชียนเฉิงเบิกตากว้าง สมุนไพรพลังฌานของเขาไปเป็นของนางตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ว่าโม่เชียนเฉิงก็หยิบสมุนไพรพลังฌานทั้งหมดของเขาออกมายื่นให้อวิ๋นลั่วเฟิงอย่างเชื่อฟัง
“นี่ของเจ้า สมุนไพรพลังฌานของเจ้าทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว”
ตอนที่ 1919 ข้าอยากอยู่ที่นี่ (1)
“ถูกแล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงหรี่ตาแล้วรับสมุนไพรพลังฌานทั้งหมดมาโดยไม่ลังเล “การทำแบบนี้ถือว่าได้ให้ของบางอย่างคืนแก่เจ้าของที่ถูกต้อง”
อวี้เซียนเซียนยืนอยู่ข้างอวิ๋นลั่วเฟิงและเบิกดวงตากลมโตของนางกว้าง ตอนที่นางมองใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้างของอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็รู้สึกว่า…การกระทำของนางไม่ต่างอะไรกับผู้ดูแลโรงเตี๊ยมเทียนฉีเลยแม้แต่น้อย นางกำลังหาประโยชน์จากความโชคร้ายของคนอื่น…
ดวงตาของผู้ดูแลโรงเตี๊ยมจับจ้องไปที่สมุนไพรพลังฌานในแขนของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วกลืนน้ำลายอย่างกระหาย จากนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นอย่างเคร่งเครียดว่า “กลายเป็นว่าพวกเจ้าร่วมมือกัน! ทหาร จับคนทั้งสองที่กล้ามาขโมยสมุนไพรพลังฌานจากโรงเตี๊ยมเทียนฉีของพวกเรา!” หลังจากที่เขาพูดจบก็ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมก็มองอวิ๋นลั่วเฟิงตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เจ้าต้องซ่อนสมุนไพรพลังฌานไว้อีกแน่ รีบเอาพวกมันมาให้ข้าแล้วไม่แน่ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า!”
อวิ๋นลั่วเฟิงเหลือบมองผู้ดูแลร้าน “ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถขโมยของของคนอื่นได้และไม่เคยมีใครบังคับเอาเงินจากข้าไปแม้แต่ตำลึงเดียว เจ้ามั่นใจหรือว่าอยากลอง”
“ฮึ่ม!” ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมส่งเสียงขึ้นจมูก
นายท่านของข้าคือองค์ชายสามของอาณาจักรเทียนฉีส่วนนางก็เป็นแค่สามัญชน บนถนนมีสตรีอย่างนางมากมายที่เขาสามารถสังหารได้ตามใจ แต่ว่า…ด้วยใบหน้าของนาง ข้าสามารถมอบนางเป็นของขวัญให้องค์ชายสามได้
“เจ้ากล้าดีอย่างไร!” เมื่อเห็นคนพวกนี้ตั้งใจจะจัดการกับอวิ๋นลั่วเฟิง อวี้เซียนเซียนก็ตื่นตระหนก นางตะโกนขึ้นอย่างรีบร้อนแล้วจ้องผู้ดูแลโรงเตี๊ยมอย่างเดือดดาล
ตอนนี้เองที่ผู้ดูแลโรงเตี๊ยมสังเกตเห็นอวี้เซียนเซียนและมองนางด้วยสายตาว่างเปล่าอยู่ครู่หนึ่ง อวี้เซียนเซียนไม่ใช่แค่มาจากตระกูลหลินแต่นางยังมีจวนองค์ชายรองเป็นผู้หนุนหลังด้วย ดังนั้นนางจึงไม่ใช่คนที่เขาจะมีปัญหาด้วยได้
ตอนนี้นางกำลังปกป้องสตรีผู้นี้ หรือว่าทั้งคู่จะเป็นคนรู้จักกัน
“เหอะ อวี้เซียนเซียน ข้าคิดว่าเจ้าตายไปแล้วเสียอีก เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ เจ้าหายดีแล้วหรือ” ตอนนั้นเองเสียงแปลกประหลาดก็ดังขึ้นแล้วทำให้เกิดความรู้สึกไม่ดีเอามากๆ
อวิ๋นลั่วเฟิงขมวดคิ้ว เมื่อนางหันไปมองตามเสียงก็เจอกับใบหน้าคล้ายอิสตรี
ชายตรงหน้านางสวมชุดผ้าไหมปักดิ้นทองแต่ไม่สามารถปกปิดร่างกายที่ดูเหมือนมีรอยเปื้อนจากสุราและสตรีได้ ใบหน้าของเขาดูโบ๋ลึกและซีดเผือดไร้สีเลือด
“พี่สาว เขาคือองค์ชายสามเจ้าค่ะ” หัวใจของอวี้เซียนเซียนบีบรัดขณะที่นางอธิบายเสียงเบา ก่อนหน้านี้นางสัญญากับพี่เขยแล้วว่าจะเลี่ยงไปอีกทางถ้าพบองค์ชายสาม แต่ไม่คิดเลยว่าพวกนางจะบังเอิญมาเจอเขา
ถึงแม้ว่าองค์ชายสามจะเป็นคนเปิดโรงเตี๊ยมเทียนฉี เขาก็มาที่โรงเตี๊ยมน้อยมากแต่กลับไปที่หอนางโลมบ่อยๆ แทน
“อวี้เซียนเซียน เหตุใดเจ้าไม่ซ่อนตัวอยู่ในจวนของพี่รองแต่กล้าออกมาล่ะ” องค์ชายสามแสร้งทำตัวสง่างามแล้วสะบัดพัดที่เขาถืออยู่ขณะที่เผยรอยยิ้มชั่วร้าย “เพราะได้บิดามารดาเจ้าเป็นแม่สื่อ บิดาเจ้าจึงยกเจ้าให้เป็นสนมของข้า แต่เจ้าก็กลับทำตัวหน้าไม่อายแล้วไปอาศัยอยู่ในจวนขององค์ชายรองแทน เจ้าคิดว่าข้าเป็นคนยอมแพ้อะไรง่ายๆ หรือ”
หัวใจของอวี้เซียนเซียนบีบแน่นขณะที่ฝ่ามือเริ่มชื้นเหงื่อ ใบหน้าเล็กๆ ของนางซีดเผือดและดวงตาก็ไม่สามารถปกปิดความกลัวไว้ได้
สายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงจับจ้องไปที่องค์ชายสามและคำเตือนของฉีซูก็ปรากฏขึ้นในความคิดของนาง
ถึงแม้ว่าขุนนางและทหารของอาณาจักรเทียนฉีจะสนับสนุนองค์ชายรองให้ขึ้นเป็นองค์รัชทายาทแต่ฮ่องเต้กลับลำเอียงแล้วสนับสนุนองค์ชายสาม
โชคร้ายที่…องค์ชายสามเป็นโคลนตมที่นำมาขัดเกลาไม่ได้ ดังนั้นแม้ว่าจะผ่านมาหลายปีก็ยังไม่มีองค์ชายคนใดได้ตำแหน่งรัชทายาทมาครอง ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่บุตรของพระสนมฉินก็เป็นผลผลิตจากองค์ชายสามคนนี้!