ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1952 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (7) / ตอนที่ 1953 ชั่วชีวิตนี้ข้าจะมีภรรยาเพียงคนเดียว
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1952 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (7) / ตอนที่ 1953 ชั่วชีวิตนี้ข้าจะมีภรรยาเพียงคนเดียว
ตอนที่ 1952 การประลองเริ่มต้นขึ้นแล้ว (7)
กลายเป็นว่าบุรุษผู้นี้มาที่นี่เพื่อไล่ตามเฉียวเยี่ยเฟิง เขาดูแข็งแกร่งมากและกลิ่นอายของเขาก็น่าหวาดกลัว น่าเสียดายที่เขาอัปลักษณ์ทำให้เฉียวเยี่ยเฟิงไม่รับรักเขา…
ความจริงแล้วทุกคนได้ยินตอนที่เขาเรียกเฟิงเอ๋อร์ ไม่ต้องพูดถึงเฉียวเยี่ยเฟิง คนอื่นๆ ก็คิดว่าอวิ๋นเซียวเรียกองค์หญิงอาณาจักรจื่อเยว่ทั้งนั้น แต่ว่า…
หลังจากที่อวิ๋นเซียวเห็นอวิ๋นลั่วเฟิง สายตาของเขาก็มีเพียงนางเท่านั้น เสียงรบกวนรอบตัวก็โดนเขาปิดกั้นไปเอง เขาก็เดินตรงไปยังหญิงสาวผู้งดงามในชุดสีขาว
“จักรพรรดิปีศาจ เจ้าหูหนวกหรือ ข้าบอกว่าข้าไม่ได้ชอบเจ้า เหตุใดเจ้ายัง…”
ก่อนที่เฉียวเยี่ยเฟิงจะพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินผ่านตัวนางแล้วเดินต่อไปข้างหน้า ใบหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิงแข็งค้าง และดวงตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ผู้ชายชั้นต่ำอย่างเขากล้าเมินนางได้อย่างไร
เฉียวเยี่ยเฟิงเดือดดาล นางหันไปหาเขาแล้วตะโกนอย่างโมโหว่า “จักรพรรดิปีศาจ หยุดเดี๋ยวนี้! เจ้าตั้งใจจะเรียกร้องความสนใจจากข้าด้วยการเล่นตัวงั้นหรือ ข้าจะบอกเจ้าให้ว่าเป็นไปไม่ได้!”
แต่ว่าถึงแม้ว่านางจะโกรธ อวิ๋นเซียวก็ทำเหมือนไม่ได้ยินนางแต่เดินไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงช้าๆ เสียงของเขาอ่อนโยนมากจนดูแตกต่างจากคนที่นางเคยเจอที่พระราชวังอาณาจักรจื่อเยว่…
“เฟิงเอ๋อร์ ข้าอยู่ที่นี่แล้ว”
ใช่ เขาอยู่ที่นี่แล้ว!
ทันใดนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงก็พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของอวิ๋นเซียวแล้วใช้แขนคล้องคอของเขาไว้แน่น ก่อนจะจุมพิตริมฝีปากเขา พวกเขาจูบดูดดื่มกันอยู่นาน และทุกคนก็ตะลึงงัน
ไม่ใช่ว่าเฉียวเยี่ยเฟิงบอกว่าบุรุษผู้นี้มาหานางหรอกหรือ สรุปว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่นางงั้นหรือ
คนที่ตะลึงที่สุดก็คือเฉียวเยี่ยเฟิงที่ใกล้จะเป็นลมเพราะความโกรธ นางกำหมัดจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ
“องค์หญิงเพคะ…” นางกำนัลเสี่ยวชุ่ยมองนางอย่างกังวลแล้วเรียกนางอย่างระมัดระวัง
เฉียวเยี่ยเฟิงเหมือนไม่ได้ยินนาง นางทำแค่จ้องอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวด้วยสายตาเกลียดชัง แน่นอนว่านางไม่ได้ชอบอวิ๋นเซียวดังนั้นนางจึงไม่ได้โกรธที่เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอวิ๋นลั่วเฟิง
ที่นางโกรธก็คือ…บุรุษผู้นี้ทำนางเสียหน้าต่อสาธารณชน!
นางบอกว่าจักรพรรดิปีศาจมาหานางแต่เขากลับไม่เหลือบมองนางสักนิดเดียว และยังทำเรื่องไม่เหมาะสมกับสตรีอื่นอีก! นางจะไม่โกรธเคืองได้อย่างไร
“อวิ๋นเซียว เจ้ารู้จักสตรีผู้นี้หรือ” อวิ๋นลั่วเฟิงถามพร้อมรอยยิ้มบางขณะที่นางดึงแขนกลับมาแล้วพยักพเยิดไปทางเฉียวเยี่ยเฟิง
อวิ๋นเซียวไม่ได้สังเกตเห็นเฉียวเยี่ยเฟิงจนกระทั่งตอนนี้ เขามองตามสายตาของอวิ๋นลั่วเฟิงไปก็เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
เขามองเฉียวเยี่ยเฟิงอย่างละเอียด ดูเหมือนพยายามคิดหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว สุดท้ายก็ส่ายหน้า “ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อนเลย”
ใบหน้าของเฉียวเยี่ยเฟิงเปลี่ยนเป็นสีม่วง
นี่มันแย่กว่าการที่เขาเมินนางเสียอีก! นางพึ่งบอกว่าเขาตกหลุมรักนางแต่นาทีต่อมา บุรุษผู้นี้กลับบอกว่าเขาไม่เคยเห็นนางมาก่อน! เขาจะไม่รู้จักนางได้อย่างไร ถ้าเขาไม่เคยเห็นนางแล้วบิดาของนางจะบังคับให้นางไปเป็นอนุภรรยาของเขาได้อย่างไร!
ความจริงแล้วอวิ๋นเซียวไม่รู้จักเฉียวเยี่ยเฟิงจริงๆ
เขาเข้าไปที่อาณาจักรจื่อเยว่แล้วสู้กับยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งสองคน แต่นอกจากยอดฝีมือสองคนนั้นแล้วเขาก็จำได้แค่จักรพรรดิของอาณาจักรจื่อเยว่! ต่อให้เฉียวเยี่ยเฟิงอยู่ที่นั่นตอนนั้น เขาก็ไม่สังเกตเห็นนางหรอก
ดังนั้นอวิ๋นเซียวจึงไม่รู้จักสตรีผู้นี้…
…………………………………..
ตอนที่ 1953 ชั่วชีวิตนี้ข้าจะมีภรรยาเพียงคนเดียว
ที่น่าขันก็คือเฉียวเยี่ยเฟิงไม่รู้ว่าบิดาของนางตัดสินใจยกนางให้เป็นอนุภรรยาของอวิ๋นเซียวโดยไม่ได้ถามความเห็นของอวิ๋นเซียว อวิ๋นเซียวไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่านางมีตัวตน!
“ฮะๆ” เฉียวเยี่ยเฟิงหัวเราะเยาะ “เจ้าไม่กล้าพูดสิ่งที่เจ้าทำเพราะสตรีผู้นี้อยู่ตรงนี้งั้นหรือ ถ้าเจ้าไม่ได้ตกหลุมรักข้าแล้วเหตุใดเจ้าถึงให้บิดามาบังคับให้ข้าไปเป็นผู้หญิงของเจ้าล่ะ”
บิดาของนางบอกว่าจักรพรรดิปีศาจตามหาสตรีคนหนึ่งที่น่าจะเป็นภรรยาของเขา แต่ว่านางคิดมาตลอดว่าสตรีที่หลงรักจักรพรรดิปีศาจก็ต้องน่าเกลียดมากเหมือนกัน แต่นางไม่คิดเลยว่าสตรีผู้นั้นจะเป็นอวิ๋นลั่วเฟิง!
เมื่อนางคิดอย่างนี้ เฉียวเยี่ยเฟิงก็รู้สึกเหมือนตัวเองโดนตบหน้า
ใบหน้าของอวิ๋นเซียวเย็นชาอย่างน่าหวาดกลัว แล้วกลิ่นอายของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“เฉียวเยี่ยเฟิง!” เมื่อเห็นน้องสาวของเขาพ่นคำพูดโง่เง่าออกมา เฉียวจื่อเสวียนก็พยายามจะหยุดนาง เขากลัวว่าคนโง่นางจะพาปัญหามาให้อาณาจักรจื่อเยว่เพราะความเบาปัญญาของนาง “ขอโทษจักรพรรดิปีศาจเดี๋ยวนี้!”
ขอโทษงั้นหรือ
คนที่ไม่รู้ตัวตนของอวิ๋นเซียวก็ตะลึงไปเพราะคำพูดของเฉียวจื่อเสวียน
เขาถึงกับบอกให้องค์หญิงของอาณาจักรจื่อเยว่ขอโทษบุรุษที่ไม่รู้ที่มาคนหนึ่งเชียวหรือ
“ไม่มีทาง!” เฉียวเยี่ยเฟิงโกรธจัด นางจ้องอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างเย็นชา “ข้าจะบอกอะไรให้ฟัง คนที่เจ้าได้ไปก็แค่บุรุษที่ข้าไม่ต้องการ เจ้าคิดว่าคนของเจ้าคลั่งรักเจ้าจริงหรือ ข้าแค่กระดิกนิ้ว เขาก็มาหาข้าแล้ว!”
แม้แต่เฉียวจื่อเสวียนยังรู้สึกอับอายในคำพูดของเฉียวเยี่ยเฟิง ตั้งแต่ที่จักรพรรดิปีศาจปรากฏตัว เขายังไม่ได้มองนางสักนิดเดียวแล้วยังบอกว่าเขาไม่รู้จักนางด้วยซ้ำ นางพูดคำพูดหน้าไม่อายเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร
ความจริงแล้วเฉียวจื่อเสวียนก็ไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของอวิ๋นเซียว เพราะว่าวันที่อวิ๋นเซียวสู้กับยอดฝีมือทั้งสองเขาไม่อยู่ในอาณาจักรจื่อเยว่พอดี
และจักรพรรดิอาณาจักรจื่อเยว่ก็เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นเอาไว้เพื่อรักษาหน้าตา
ดังนั้นเขาจึงรู้แค่ว่าบิดาของเขาเคารพจักรพรรดิปีศาจมากแต่ก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง ถ้าเขารู้ว่าแม้แต่ยอดฝีมือทั้งสองของอาณาจักรจื่อเยว่ยังต่อกรกับจักรพรรดิปีศาจไม่ได้ เขาไม่มีทางให้เฉียวเยี่ยเฟิงมีโอกาสได้พูดแม้แต่คำเดียว!
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบางแล้วดวงตาของนางก็เป็นประกายร้ายกาจ
“อวิ๋นเซียว ดูเหมือนว่าตอนที่ข้าไม่อยู่ ท่านจะมีช่วงเวลาที่ดีนะ”
นางลืมไปว่าเมื่ออยู่ต่อหน้านางอวิ๋นเซียวจะกลายเป็นคนทื่อ และอวิ๋นเซียวก็คิดจริงจังกับเรื่องล้อเล่นของนาง ตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกกังวลขึ้นมาและไอสังหารก็ปรากฏในดวงตาของเขา
แน่นอนว่าเป็นไอสังหารที่ไม่ได้ส่งให้อวิ๋นลั่วเฟิง
“เจ้ามาจากอาณาจักรจื่อเยว่งั้นหรือ” เสียงของอวิ๋นเซียวเย็นชาจนทำให้อุณหภูมิรอบตัวเขาลดลง
เฉียวเยี่ยเฟิงยิ้มเยาะ “เจ้ารู้คำตอบอยู่แล้ว!”
“ดูเหมือนว่า…อาณาจักรจื่อเยว่ควรจะหายไป” น้ำเสียงของอวิ๋นเซียวเต็มไปด้วยความอำมหิต “ข้าไม่คิดเลยว่าจักรพรรดิอาณาจักรจื่อเยว่จะยกสตรีให้ข้าเป็นของกำนัล!”
เฉียวเยี่ยเฟิงตะลึงงัน
บิดาของนางมอบสตรีให้เขาเป็นของขวัญงั้นหรือ เขาหมายความว่าอย่างไร
เขาไม่ได้เป็นคนบังคับบิดานางหรอกหรือ
“ชั่วชีวิตนี้ข้าจะมีภรรยาแค่คนเดียว” อวิ๋นเซียวพูดขึ้นแล้วหันไปหาเฉียวเยี่ยเฟิง
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองเฉียวเยี่ยเฟิง แต่เฉียวเยี่ยเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่าอะไรคือความหวาดกลัวจากสายตานี้
“ใครที่พยายามบั่นทอนความสัมพันธ์ของเราต้องตาย!”
คำพูดของเขายังคงสั้นกระชับอยู่เหมือนเดิม เขาปลดปล่อยไอสังหารออกมาจนทำให้ร่างของเฉียวเยี่ยเฟิงสั่นเทิ้ม ตอนนั้นเองที่นางจำภาพน่าตื่นตาตอนที่อวิ๋นเซียวสู้กับยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งสองคนเมื่อวันนั้นได้…