ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1974 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (4) / ตอนที่ 1975 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (5)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1974 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (4) / ตอนที่ 1975 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (5)
ตอนที่ 1974 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (4)
แต่คนอื่นไม่รู้
ดวงตาของเฉิงลี่เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ขณะที่เขามองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาในชุดคลุมสีดำบนท้องฟ้า แล้วก็สตรีในชุดสีขาวที่ยืนอยู่บนถนนขดแคบแห่งนั้น
สีหน้าของเขาเปลี่ยนจากความสิ้นหวังในตอนแรกเป็นมีความหวัง! แต่ว่าทั้งหมดก็เพราะความตะลึงที่ก้นบึ้งหัวใจของเขา!
จินหยางมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมแล้วนับได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของทั้งสี่อาณาจักร
แต่ว่าจินหยางก็ไม่แข็งแกร่งมากพอจะป้องกันการโจมตีของยอดฝีมือขั้นเซียนอาวุโสพวกนั้นและยังไม่สามารถทำตัวมั่นคงภายใต้การข่มขู่ของยอดฝีมือขั้นเซียนอาวุโสจำนวนมากขนาดนี้!
ตอนแรกคนในอาณาจักรจินหยางดูถูกอวิ๋นลั่วเฟิงและกลุ่มของนาง ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่ร่วมมือกับอาณาจักรจื่อเยว่ แต่ตอนนี้พลังของอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวทำให้พวกเขาหวาดกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ
ต้องขอบคุณที่คนจากสำนักอิสระที่มาทันเวลา ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงทำเรื่องผิดพลาดที่พวกเขาไม่สามารถแก้ไขได้ไปชั่วชีวิต!
ต่อให้อวิ๋นเซียวไม่ปรากฏตัว อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยังมีพลังมากพอจะต่อกรกับผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโส พวกเขาจะสู้กับนางได้อย่างไร พวกเขาทำได้หรือ
ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้โง่เฉียวจื่อเสวียนหลอกลวงเขา เขาก็คงไม่อยากได้หยกผนึกจากอวิ๋นลั่วเฟิงหรอก
เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉิงลี่ก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง ถ้าเฉียวจื่อเสวียนยังมีชีวิตอยู่ เขาต้องฉีกไอ้สวะชั้นต่ำนั่นออกเป็นพันๆ ชิ้น!
“ฮะๆ”
หลั่งซินเยว่ตะเกียกตะกายขึ้นจากพื้นแล้วส่งเสียงขึ้นจมูก ริมฝีปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะเย้ย “ถึงแม้ว่าข้าจะประเมินความแข็งแกร่งของเจ้าต่ำไป แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้สนุกคนเดียวอีกต่อไปแล้ว!”
นางดึงขลุ่ยไม้ไผ่ออกมาแล้วเริ่มเป่า
ทันทีที่อวิ๋นลั่วเฟิงได้ยินเพลงที่อีกฝ่ายเล่น นางก็รู้ทันทีว่าหลั่งซินเยว่กำลังเล่นบทเพลงบัญชาอสูร!
อย่างที่คิด ขณะที่ขลุ่ยเล่นทำนองน่าขนลุก สัตว์วิญญาณอสูรในรัศมีหนึ่งกิโลเมตรก็พุ่งเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นอย่างบ้าคลั่งทันที
“ฉีซู” หัวใจของมู่เสวี่ยซินบีบรัดและนางก็เผลอกุมมือของฉีซู ดวงตาใสกระจ่างของนางฉายแววกังวล
ฉีซูพลิกมือเล็กๆ ของนางให้มาอยู่ภายใต้การกุมมือของเขาราวกับว่ากำลังส่งพลังให้นาง
เทียบกับคนอื่นที่อยู่ในภาวะตื่นตระหนกแล้วอวิ๋นลั่วเฟิงยังยืนอยู่ภายใต้สายลมอย่างมั่นคง นางสุขุมและนิ่งเฉย ดวงตาร้ายกาจของนางสงบนิ่งไม่สั่นไหวแม้แต่น้อย
เหตุใดถึงเรียกว่าพันสัตว์อสูรบ้าคลั่ง ตอนนี้ทุกคนก็ได้รับประสบการณ์ตรงแล้ว
ภายใต้การพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งของสัตว์วิญญาณอสูรเหล่านี้ พื้นดินก็สั่นสะเทือนไม่หยุด ราวกับว่าสัตว์วิญญาณอสูรทั้งหมดภายในป่าบททดสอบสวรรค์เบียดเสียดกันออกมา
หลั่งซินเยว่วางขลุ่ยลงแล้วมุมปากของนางก็มีเลือดไหลออกมาเล็กน้อย แต่เสียงของนางก็ยังคงความเยาะเย้ยเอาไว้ “ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสจำนวนมากขนาดนี้รวมกับสัตว์วิญญาณอสูรจำนวนมหาศาล ข้าอยากเห็นนักว่าเจ้าจะยังจัดการได้อยู่หรือไม่!”
ถึงแม้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวจะทนได้แต่คนอื่นก็คงไม่สามารถหนีจากความตายไปได้
อวิ๋นลั่วเฟิงเตรียมพร้อมที่จะสู้แล้ว เกราะเกล็ดมังกรคลุมรอบตัวนาง แม้แต่ใบหน้าก็ปรากฏเกล็ดมังกรสีขาวที่เปล่งประกายจนทำให้นางดูน่าเกรงขามแลคล้ายกับแม่ทัพที่สามารถทำให้โลกใบนี้สลายไปได้
ผู้นำของกลุ่มสัตว์วิญญาณอสูรคือพยัคฆ์ตัวน้อยที่มีลายสีโลหิต เขาปลดปล่อยเสียงคำรามอย่างยิ่งใหญ่แล้วพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนเกิดพายุฝุ่นข้างหลัง
แต่ว่าเมื่อสัตว์วิญญาณอสูรพุ่งผ่านคนจากอาณาจักรจินหยาง พวกเขาก็ไม่ได้หยุดแม้แต่น้อย อาจจะเป็นเพราะเห็นพฤติกรรมแปลกประหลาดของสัตว์วิญญาณอสูรทำให้สุดท้ายอวิ๋นลั่วเฟิงยังไม่ได้ลงมือก่อนและสังเกตสัตว์วิญญาณอสูรที่ใกล้เข้ามา
“โฮก!” พยัคฆ์ลายสีโลหิตคำรามสุดเสียงแล้วพุ่งเข้าไปหาหลั่งซินเยว่
เหล่าสัตว์ปีกวิญญาณอสูรก็เริ่มโจมตีผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสที่ต่อสู้อยู่กับอวิ๋นเซียว
ก่อนที่หลั่งซินเยว่จะยิ้มออกนางก็ชะงักไป นางประหลาดใจกับฉากที่เห็นตรงหน้าและไม่สามารถตอบสนองได้ทันเมื่อสัตว์วิญญาณอสูรมาถึงตัวนาง
ตอนที่ 1975 การต่อสู้ระหว่างเซียนอาวุโส (5)
จนกระทั่งกรงเล็บกวัดผ่านใบหน้าของนาง นั่นทำให้นางอุทานด้วยความตกใจแล้วตะโกนอย่างโมโห “พวกเจ้ากำลังทำอะไร! ข้าเป็นเจ้านายของพวกเจ้านะ!”
วิชาบัญชาอสูรของข้าใช่ไม่ได้งั้นหรือ เป็นไปไม่ได้ เมื่อสองสามวันก่อนข้าทดสอบแล้วนี่…
แม้แต่คนจากอาณาจักรทั้งสี่ก็อดไม่ได้ที่จะมึนงง ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงคนจากสำนักอิสระ
เกิดอะไรขึ้น
วิชาบัญชาอสูรให้ผลสะท้อนกลับใส่หลั่งซินเยว่งั้นหรือ ไม่อย่างนั้นเหตุใดสัตว์วิญญาณอสูรภายใต้การควบคุมของนางพวกนี้จึงโจมตีคนจากสำนักอิสระแทนล่ะ
การโจมตีสัตว์วิญญาณอสูรดุดันมาก และผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสที่ก่อนหน้านี้สู้กับอวิ๋นเซียวจนเหนื่อยล้ามากแล้วทำให้ไม่นานพวกเขาก็ตายกันไปกว่าครึ่ง
เมื่อพยัคฆ์ลายโลหิตเดินผ่านอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็เผลอหยุดแล้วมองนางอย่างใคร่รู้ขณะที่ดวงตาฉายแววสับสน
แปลกจัง เหตุใดมนุษย์คนนี้ถึงมีกลิ่นอายคล้ายกับนายหญิงเยว่ชิงเลยล่ะ หรือว่านางจะเป็นบุตรสาวที่นายหญิงเยว่ชิงตามหามาโดยตลอด
…
ขณะเดียวกันภายในส่วนลึกของป่าบททดสอบสวรรค์ อวิ๋นเยว่ชิงก็ทรุดลงไปที่พื้นแล้วขดตัวลงด้วยสีหน้าซีดเผือดจากความหวาดกลัว
เทียบกับพิษที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างของนางแล้ว ศีรษะของนางก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดราวกับจะระเบิด เหมือนว่ามีพลังบางอย่างต้องการจะพังความทรงจำของนางออกมา
“ตระกูลอวิ๋น…ท่านพี่หยาง เฟิงเอ๋อร์…”
อวิ๋นเยว่ชิงหลับตาเพราะความเจ็บปวดและหยาดน้ำตาก็ไหลลงมาจากใบหน้าของนาง
“ข้าจำได้แล้ว ในที่สุดข้าก็จำได้…”
นางเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลอวิ๋น เป็นภรรยาของอวิ๋นหยาง!
นิ้วของอวิ๋นเยว่ชิงกุมหน้าอกของนางไว้แน่น หัวใจของนางเจ็บปวดอย่างสาหัส ใบหน้างามของนางไร้สีเลือดและสีหน้าของนางก็อ่อนแอราวกับกระดาษที่พร้อมขาดวิ่นได้ทุกเมื่อ
“ข้าควรจะขอบคุณศิษย์พี่ที่แสนวิเศษคนนั้นหรือควรเกลียดเขาดี ถ้าเขาไม่วางยาข้า ข้าก็คงไม่สามารถจำทุกอย่างได้เพราะถูกพิษ แต่เหตุใดข้าถึงต้องมาจำเรื่องราวอันเจ็บปวดเหล่านี้ได้ตอนที่ข้ากำลังจะตายด้วย”
หลายปีมานี้ นางไม่สามารถใช้ชีวิตอย่างไร้ความเจ็บปวดได้เลย เพราะนางพยายามเอาชนะฤทธิ์พิษนี้ตลอด แต่ตอนนี้พลังของนางไม่สามารถยับยั้งการไหลเวียนของพิษได้อีกต่อไปแล้ว
แต่ว่านางก็ไม่คิดว่าตัวเองจะจดจำทุกอย่างในอดีตได้ในช่วงเวลาแห่งความตาย แล้วยังจำการตายของสามีนางได้อีก!
“ถ้าข้าจำอะไรไม่ได้เลย ข้าอาจจะตายได้อย่างสงบ” นัยน์ตาของอวิ๋นเยว่ชิงเริ่มพร่ามัว โลกที่เห็นก็เริ่มเลือนราง “ท่านพี่หยาง ท่านไม่ได้อยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว แต่ข้าก็ล่องลอยและใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายด้วยตัวเองคนเดียวมาตลอด ในที่สุดตอนนี้ข้าก็สามารถไปอยู่กับท่านได้แล้ว…
…ท่านพี่หยาง ข้าขอโทษ ข้าจะไปอยู่กับท่านแล้ว…” อวิ๋นเยว่ชิงหลับตา วินาทีสุดท้ายก่อนที่ตาของนางจะปิดลง นางเห็นใบหน้ากระวนกระวายของสตรีผู้หนึ่งบนหลังของเสี่ยวหู่
“ฮือ ฮือ!” เสี่ยวหู่เอาแต่ส่งเสียงคร่ำครวญออกจากปากไม่หยุด ดวงตาที่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตาของเขาเปี่ยมความกังวล