ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1986 อวิ๋นเซียวลงมือ (4) / ตอนที่ 1987 อวิ๋นเซียวลงมือ (5)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1986 อวิ๋นเซียวลงมือ (4) / ตอนที่ 1987 อวิ๋นเซียวลงมือ (5)
ตอนที่ 1986 อวิ๋นเซียวลงมือ (4)
“เจ้าหนุ่ม เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่น บนโลกนี้มีสตรีอยู่มากมาย เจ้าอย่ามาทิ้งชีวิตเพื่อสตรีคนหนึ่งเลย”
โอวเหลยไม่ยอมทิ้งนิสัยของเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นแม้กระทั่งตอนนี้เขาจึงไม่ลืมที่จะขู่อวิ๋นเซียวอย่างดุดัน ตราบใดที่บุรุษผู้นี้มีความคิด เขาไม่มีทางยอมเป็นศัตรูกับสำนักอิสระแน่นอน แต่ว่าอวิ๋นเซียวเป็นคนประหยัดคำพูดมาตลอด เขาเชื่อมั่นมากว่าการกระทำได้ผลมากกว่าคำพูด
ดังนั้นโอวเหลยจึงไม่ได้รับคำตอบและเห็นร่างดุจเหยี่ยวมาปรากฏตรงหน้าแทน
สีหน้าของโอวเหลยเปลี่ยนไปทันทีก่อนจะโดนอีกฝ่ายโจมตี ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกชาตั้งแต่แขนลามไปทั้งตัวจนทำให้เขาถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วกระอักเลือดออกมา
ขณะเดียวกันจีจิ่วเทียนก็สังหารเซียนอาวุโสตรงหน้าเขาหมดแล้ว ก่อนจะเดินช้าๆ มาหาอวิ๋นเซียว เขาเชิดหน้าขึ้นแล้วถามว่า “เจ้าต้องการให้เปิ่นจุนช่วยหรือไม่”
น้ำเสียงของอวิ๋นเซียวยังคงเย็นชาอยู่เหมือนเดิม “ไม่จำเป็น!”
จีจิ่วเทียนเผยยิ้มทรงเสน่ห์ แล้วบินลงจากฟ้ามายืนตรงหน้าอวิ๋นลั่วเฟิง
ด้วยความแข็งแกร่งของอวิ๋นเซียว โอวเหลยไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาจริงๆ และการโจมตีของอวิ๋นเซียวก็พิสูจน์คำพูดของจีจิ่วเทียนอย่างรวดเร็ว
โอวเหลยเกือบจะหมดแรงจากการต่อสู้กับอวิ๋นลั่วเฟิงก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงไม่มีพลังเหลือมากพอจะป้องกันตัวจากอวิ๋นเซียว แน่นอนว่าต่อให้ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้สู้กับอวิ๋นลั่วเฟิง เขาก็ยังสู้อวิ๋นเซียวไม่ได้อยู่ดี
ไม่มีใครสังเกตเห็นร่างเพรียวที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้โบราณที่ไกลออกไป
โม่เชียนเฉิงมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาร้อนแรง เมื่อเขาเห็นความรักลึกซึ้งในดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงเขาก็รู้สึกเหมือนมีเข็มจำนวนมากทิ่มแทงหัวใจของเขาจนเจ็บปวดแทบทนไม่ได้
“เจวี๋ยเชียน ชาติที่แล้วเจ้าไม่ได้รักข้า แต่ชาตินี้เจ้าก็ยังไม่รักข้าอีกหรือ” เขาหลุบตาที่ถูกความเจ็บปวดรวดร้าวเกาะกุม
“ตอนแรกข้าอยากสังหารชายคนนั้นแต่โชคร้ายที่ความแข็งแกร่งตอนนี้ของข้าไม่สามารถสังหารเขาได้…
…ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ข้าไม่อยากให้เจ้า…เกลียดข้า”
ข้าไม่อยากให้เจ้าเกลียดข้าก็แค่นั้นเอง ครั้งหนึ่งข้าเคยทำเรื่องผิดพลาดร้ายแรงและทำให้เจ้าเกลียด ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่ข้ากลัวที่สุดคือการเห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของเจ้า…
ถ้าบุรุษผู้นี้เป็นคนที่เจ้าเลือกจริงๆ ถ้าอย่างนั้นข้าก็ควรจะปล่อยเจ้าไปใช่หรือไม่
โม่เชียนเฉิงไม่รู้ว่าเขาควรจะเลือกทางไหน เขารู้สึกว่างเปล่า หลังจากได้มองอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว เขาก็หันหลังออกไปจากที่นี่
แค่เขาได้รู้นางยังปลอดภัยก็พอแล้ว
โม่เชียนเฉิงเม้มปากแน่น ใบหน้าหล่อเหลาของเขาซีดเผือดและมีน้ำตาเอ่อคลอ แต่ว่าสุดท้ายเขาก็เข้าใจว่าตัวเองไม่สามารถกำจัดความเกลียดชังในหัวใจของนางได้ ไม่ว่าเขาจะทำอย่างไรก็ตาม
นางเกลียดเขา!
เขาบอกได้ตั้งแต่ตอนที่เขาพยายามจะสังหารอวิ๋นเซียวแล้ว ไม่อย่างนั้นนางก็คงไม่เก็บคนไว้รอบกายมากมาย–นอกจากเขา
“เจวี๋ยเชียน ถ้าชาติหน้ามีจริง ถ้าอย่างนั้นข้าก็หวังว่า…จะไม่ต้องมารู้จักเจ้าอีก”
เขารออีกฝ่ายมาหลายปี รอจนกระทั่งหัวใจของเขาแหลกสลายเพราะความเหนื่อยล้า! นี่อาจจะถึงเวลาที่ต้องพยายามปล่อยวาง…
…
โอวเหลยที่อยู่กลางอากาศค่อยๆ หมดแรง และเขาก็รู้ว่าเป็นเรื่องยากที่จะจัดการชายคนนี้ ทันทีที่เขาทนต่อไปไม่ไหว อวิ๋นเซวียนก็เตะเขาลงมาจากฟ้าอย่างแม่นยำจนตกลงมาตรงหน้าไป๋หลิงเสียงดังสนั่น
แล้วเกิดเป็นหลุมลึกบนพื้น
อวิ๋นเซียวเดินลงจากฟ้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิง ดวงตาดำสนิทของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน “เฟิงเอ๋อร์ ข้ามาถึงช้าเกินไป…”
ตอนที่ 1987 อวิ๋นเซียวลงมือ (5)
“ไม่ช้าเกินไปหรอก ท่านมาทันเวลาพอดี” อวิ๋นลั่วเฟิงหลุบตาแล้วยกยิ้มบาง ทันใดนั้นนางก็ดึงอวิ๋นเซียวไปหาไป๋หลิง “ท่านแม่ เขาคืออวิ๋นเซียว คนที่อยู่เคียงข้างข้ามาตลอดสิบกว่าปี และเป็นคนรักที่ข้ามอบความเชื่อใจให้ด้วยชีวิตเจ้าค่ะ”
อวิ๋นเซียวสะท้านไป แต่ก็กลับมามีสีหน้าเยือกเย็นอย่างรวดเร็วแล้วพยักหน้าน้อยๆ “ท่านแม่”
เมื่อได้ยินอวิ๋นลั่วเฟิงพูดแบบนี้ ไป๋หลิงก็สำรวจอวิ๋นเซียวตั้งแต่หัวจรดเท้า ยิ่งนางมองเขามากเท่าไร นางก็ยิ่งชอบเขามากขึ้นเท่านั้น เหมือนกับที่แม่ยายส่วนใหญ่มองลูกเขยของพวกนาง
แต่ว่าเมื่อไป๋หลิงได้ยินคำที่อวิ๋นเซียวใช้เรียกนาง นางก็ถอยหลังไป “เจ้าทั้งสองแต่งงานกันแล้วงั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงลูบจมูก “พวกเราพึ่งแต่งงานกันเมื่อไม่นานมานี้เองเจ้าคะ”
ตอนนี้ไป๋หลิงรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่า แม้อยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตา ตอนแรกนางตั้งใจจะไปงานแต่งงานของบุตรสาว แต่ใครจะรู้ว่าบุตรสาวของนางจะบอกนางว่าตัวเองแต่งงานแล้ว…
เรื่องที่น่าเศร้าใจที่สุดของมารดาอาจเป็นการที่ไม่ได้เห็นบุตรสาวของตัวเองเป็นฝั่งเป็นฝา
“ท่านแม่ พวกเราควรจะจัดการบุรุษผู้นี้อย่างไรดีเจ้าคะ” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วถามแล้วหันไปมองบุรุษที่ไม่สามารถปีนขึ้นมาจากหลุมได้
ไป๋หลิงพูดพร้อมขมวดคิ้วแน่น “สังหารเขาซะ!”
ถ้าโอวเหลยทำตัวไร้เหตุผลกับนางคนเดียว นางก็คงให้อภัยเขาได้แต่นางทนไม่ได้ที่เขาตั้งใจจะทำร้ายบุตรสาวล้ำค่าของนาง
“อวิ๋นเซียว สังหารเขา ข้าไม่อยากให้มือของข้าเปื้อน” อวิ๋นลั่วเฟิงหาวอย่างเกียจคร้าน
ตอนนี้เรื่องใกล้จะมาถึงจุดจบแล้ว…
“ได้” อวิ๋นเซียวพูดสั้นๆ แล้วเดินไปหาโอวเหลย
โอวเหลยที่อยู่ในหลุมเห็นใบหน้าเย็นชาใกล้เข้ามาเขาก็ทำหน้าตื่นตระหนก “ไม่ ข้าไม่อยากตาย! ข้าขอร้องให้เจ้าช่วยละเว้นชีวิตข้า! ข้าขอร้อง…อ๊าก!”
ทันใดนั้นอวิ๋นเซียวก็โบกมือแล้วลำแสงกระบี่จำนวนมหาศาลก็พุ่งลงมาแทงเขาทีละเล่ม
ไม่นานหลังจากนั้นร่างของโอวเหลยก็ไม่เหลือช่องว่างให้แทงได้อีก ดวงตาของเขาเบิกกว้างราวกับว่าเขาตายอย่างทุกข์ทรมาน
ไป๋หลิงมองชีวิตของโอวเหลยค่อยๆ ถูกพรากไปขณะที่เขานอนอยู่ในแอ่งเลือดด้วยความเศร้าใจ บุรุษผู้นี้ต้องมาตายแบบนี้…เขาตายด้วยความทุกข์ทรมานอย่างที่สุด!
แต่ว่าไป๋หลิงก็ไม่ได้รู้สึกเห็นใจ โอวเหลยต้องชดเชยให้กับบาปของเขา แล้วเขาจะโทษใครได้
“นายหญิง” ใบหูของเสี่ยวหู่กระดิกแล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “สัตว์วิญญาณอสูรจากป่าบททดสอบสวรรค์เพิ่งส่งข่าวมาเมื่อครู่ว่าสตรีที่ชื่อหลั่งซินเยว่หนีไปได้…”
ก่อนหน้านี้อวิ๋นเซียวแค่สังหารผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสจากสำนักอิสระ ในตอนที่เขาตั้งใจจะจัดการกับหลั่งซินเยว่ เขาก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายในส่วนลึกของป่าบททดสอบสวรรค์เสียก่อน เขากังวลเรื่องความปลอดภัยของอวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่ได้สนใจหลั่งซินเยว่ ใครจะคาดคิดว่าสตรีผู้นั้นจะยังสามารถหนีไปได้อีก…
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” ไป๋หลิงคลายคิ้วที่ขมวดมุ่น “นอกจากสำนักอิสระแล้ว นางจะยังไปที่ไหนได้อีก ในที่สุดข้าก็จะได้เดินทางไปที่สำนักอิสระด้วยตัวเองเสียที!”
พูดจบไป๋หลิงก็หันไปหาเสี่ยวหู่ “อีกอย่างนายหญิงของเจ้าคือเฟิงเอ๋อร์ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปนางเป็นนายหญิงเพียงคนเดียวของเจ้า”
“โฮก” เสี่ยวหู่ตอบรับอย่างเชื่อฟังแล้วล้มตัวลงไปนอนที่พื้น
“อวิ๋นเซียว พวกเราไปรวมตัวกับคนอื่นก่อนเถอะ” พูดจบอวิ๋นลั่วเฟิงก็เดินไปหาไป๋หลิงแล้วโอบไหล่นาง “ท่านแม่ ท่านต้องมาหาข้าบ่อยๆ นะเจ้าคะ ข้ายังต้องช่วยรักษาพิษให้ท่านอยู่”
ไป๋หลิงสะดุ้ง “ลูกบอกว่าพิษของแม่…รักษาได้งั้นหรือ”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “เทียบกับความแข็งแกร่งของข้าแล้ว ข้าภูมิใจในทักษะทางการแพทย์ของข้ามากกว่า! ข้ามั่นใจเต็มร้อยว่าข้ารักษาพิษให้ท่านได้ แค่วิธีการออกจากยุ่งยากไปเสียหน่อย”