ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 1990 ความโกรธของจินหยาง (2) / ตอนที่ 1991 ความโกรธของจินหยาง (3)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 1990 ความโกรธของจินหยาง (2) / ตอนที่ 1991 ความโกรธของจินหยาง (3)
ตอนที่ 1990 ความโกรธของจินหยาง (2)
แต่ว่าคนที่บอกเขาคือองค์ชายเฉิงลี่จากอาณาจักรจินหยาง!
หัวใจของฉีอวี่สั่นอย่างรุนแรงขณะที่เขาถอยหลังไปสองสามโดยไม่ตั้งใจ เขาหรี่ตาเล็กน้อยแล้วมองฉีหลิงด้วยสายตาที่แผ่นเจตนาสังหารออกมา เจ้าโง่นี่หาตราประทับหยกได้ถึงสามชิ้นเลยงั้นหรือ
ไม่! นี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทางยอมรับได้! โลกใบนี้เป็นของเขา! ไม่มีทางที่จะกลายเป็นของคนอื่น!
“องค์ชายเฉิงลี่ เป็นไปได้หรือไม่ว่าท่านอยากเห็นฉีหลิงรวบรวมทั้งสี่อาณาจักร” ดวงตาของฉีอวี่สว่างวาบแล้วพูดอย่างน่าขนลุกว่า “ข้าคิดว่าอาณาจักรจินหยางของท่านมีคุณสมบัติมากกว่าฉีหลิงเสียอีก! ถึงแม้ว่าฉีหลิงจะมีอาณาจักรหลิวเฟิงช่วยแต่…ถ้าพวกเราร่วมมือกัน พวกเราก็ยังมีโอกาส”
ฉีอวี่ลองเสี่ยงดู เขาพนันว่าอวิ๋นเซียวจะไม่เข้ามายุ่งเรื่องของคนอื่นเพราะกลัวอาณาจักรทั้งสอง
ไม่ว่าบุรุษผู้นี้จะแข็งแกร่งขนาดไหน เขาก็เป็นแค่ผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสคนหนึ่ง แต่ว่าผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสของทั้งสองอาณาจักรรวมกันก็แข็งแกร่งมากพอจะทำลายเขา!
เห็นได้ชัดว่าฉีอวี่คงลืมบางอย่างไปแล้ว อวิ๋นเซียวกล้าสังหารใครบางคนต่อหน้าจักรพรรดิอาณาจักรจินหยางแล้วยังจะมีอะไรที่เขาไม่กล้าทำอีก
เฉิงลี่ไม่รอให้ฉีหลิงและคนของเขาพูดอะไร เขาก็เลื่อนตัวเองมาตรงหน้าฉีอวี่จากนั้นก็ยกขาขึ้นอย่างเดือดดาลแล้วเตะเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่ายอย่างโหดเหี้ยม
“เจ้าโง่ ถ้าเจ้าอยากจะหาหลุมฝังตัวเองก็อย่าบังอาจมาลากเปิ่นหวางไปกับเจ้าด้วย!”
เฉิงลี่ตัวสั่นด้วยความโกรธ ร่วมมือกับอีกฝ่ายเพื่อต่อต้านฉีหลิงงั้นหรือ เขาจะไปกล้าได้อย่างไร
เหตุใดเขาถึงไม่มองว่ามีผู้ฝึกฌานขั้นเซียนอาวุโสจากสำนักอิสระตายอยู่ที่นี่มากแค่ไหน อาณาจักรจินหยางจะมีคนไปให้เขาสังหารสักกี่คน
ฉีอวี่ยืนขึ้นขณะที่เอามือกุมหน้าอกแล้วตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล “เฉิงลี่ เจ้าทำอะไร เจ้าวางแผนจะรวบรวมอาณาจักรทั้งสี่และข้าก็ตั้งใจจะช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับโจมตีข้างั้นหรือ นี่เป็นวิธีอกตัญญูที่เจ้าใช้ตอบแทนน้ำใจของข้ารึ”
“ใช่แล้ว ข้ากำลังตีเจ้า ขยะเอ๊ย!”
เฉิงลี่เตะฉีอวี่อีกครั้งแล้วส่งอีกฝ่ายให้กระเด็นออกไป กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังฉีอวี่ตั้งใจจะลงมือแต่ก็ถูกทหารของจินหยางทำให้สลบไป
ตอนนี้เฉิงลี่ไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะเป็นองค์ชายของอาณาจักรอื่น เขาวิ่งตรงดิ่งเข้าไปกระทืบอีกฝ่ายอย่างไร้ปรานี
“ไอ้ขยะ ถ้าเจ้าอยากตายก็ไปตายที่อื่น! เหตุใดต้องลากข้าไปด้วย ‘ข้าอยากรวบรวมอาณาจักรทั้งสี่’ งั้นหรือ เรื่องบ้าอะไรกัน! ข้าไม่เคยต้องการอย่างนั้น!”
พูดเล่นหรืออย่างไร ต่อให้เขาอยากทำ เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา! อีกอย่างหลังจากที่เห็นความแข็งแกร่งของอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียว เขาก็ไม่หลงเหลือความคิดแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
แคว้นนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ ผู้ที่แข็งแกร่งจะได้รับการเคารพนับถือ ความแข็งแกร่งของพวกเขาน่ากลัวเกินไป เขาไม่มีโอกาสเลย
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เฉิงลี่โกรธจัดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของฉีอวี่
ฉีอวี่ตะลึงไปเพราะถูกโจมตี เขาไม่รู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น และพูดอะไรไม่ออกเแม้แต่คำเดียวเพราะความเจ็บใจ
“ข้าไม่ได้อยากเป็นศัตรูกับเจ้าเลยแต่เจ้ากลับตั้งใจทำร้ายข้า วันนี้ถ้าข้าไม่ได้สังหารขยะอย่างเจ้า ข้าจะเปลี่ยนไปใช้สกุลเจ้า!”
ฉีอวี่บอกว่าเฉิงลี่ต้องการปกครองอาณาจักรทั้งสี่ต่อหน้าอวิ๋นลั่วเฟิงและอวิ๋นเซียวแล้วยังหวังจะร่วมมือกับเขาเพื่อต่อต้านคนพวกนี้อีก เรื่องนี้จะต่างอะไรกับการตั้งใจจัดฉากใส่ร้ายเขา
เฉิงลี่ตัวสั่นทันทีที่เขาคิดถึงจุดนี้ แน่นอนว่าเขาไม่ได้สั่นเพราะความโกรธแต่เป็นเพราะความกลัวจากก้นบึ้งของหัวใจ เขากลัวว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะเชื่อคำพูดของไอ้ขยะนี่…
“องค์ชาย ถ้าพระองค์ยังตีเขาแบบนี้ เขาจะตายจริงๆ นะพ่ะย่ะค่ะ!”
คนที่อยู่ด้านหลังเฉิงลี่คนหนึ่งเตือนเขาเมื่อเห็นว่าเฉิงลี่กระโจนเข้าไปด้วยความโกรธ
อย่างน้อยฉีอวี่เป็นองค์ชายของอาณาจักรเทียนฉี ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ตีอีกฝ่ายจนตายไม่ได้…
อย่างที่คิด เฉิงลี่ดึงขากลับมาแล้วจ้องหน้าฉีอวี่อย่างเกรี้ยวกราด “ครั้งหน้า ถ้าเจ้าทำร้ายข้าอีก เรื่องจะไม่จบง่ายๆ แค่โดนตีหนักๆ แน่!”
ตอนที่ 1991 ความโกรธของจินหยาง (3)
ฉีอวี่มึนงง เขาไม่รู้ว่าการกระทำของเขากลายเป็นการใส่ร้ายเฉิงลี่ได้อย่างไร
“แม่นางอวิ๋น” เฉิงลี่เดินเร็วเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วก้มตัวราวกับสุนัข “ข้าทำได้ดีหรือไม่”
อวิ๋นลั่วเฟิงยกริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย “เขาก็พูดถูกแล้วนี่ ไม่ใช่ว่าตอนแรกเจ้าก็ต้องการร่วมมือกับองค์ชายอาณาจักรจื่อเยว่เพื่อสู้กับพวกเราหรอกหรือ”
เหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของเฉิงลี่แล้วเขาก็เช็ดมันออกไป ใครจะรู้ว่ายิ่งเขาเช็ดมากเท่าไหร่ เหงื่อก็ยิ่งไหลออกมามากเท่านั้น เขาหน้าถอดสีขณะหัวเราะเบาๆ อย่างกระอักกระอ่วน “นั่นเป็นเพราะว่าตอนนั้นข้าถูกอาณาจักรจื่อเยว่หลอก แม่นางอวิ๋นได้โปรดยกโทษและละเว้นข้าด้วย”
อวิ๋นลั่วเฟิงมองเขา “จำเอาไว้ว่า ผู้นำของอาณาจักรทั้งสี่ไม่ใช่ข้าแต่เป็นฉีหลิง ถ้ามีอะไรอยากจะพูดก็ไปหาเขา”
ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนางถึงไม่ให้ฉีซูเป็นผู้นำของทั้งสี่อาณาจักรก็เพราะฉีซูจำเป็นต้องมาช่วยนางจัดการร้านโอสถผสานฌานและไม่มีแรงเหลือพอจะดูแลอาณาจักรทั้งสี่
“เข้าใจแล้ว” เฉิงลี่ยิ้มอย่างประจบประแจงแต่ด้านในรู้สึกเบื่อหน่าย
ถึงแม้ว่าแม่นางอวิ๋นจะบอกว่าผู้นำของทั้งสี่อาณาจักรคือฉีหลิง แต่ทุกคนก็บอกได้ว่าฉีหลิงเป็นผู้ติดตามของนางเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคนที่มีอำนาจควบคุมทั้งสี่อาณาจักรอยู่เบื้องหลังก็ยังเป็นนาง!
“จริงสิ…” เฉิงลี่เหมือนคิดอะไรบ้างอย่างออกแล้วพูดขึ้นว่า “ก่อนหน้านี้องค์หญิงจินหยางจากอาณาจักรจินหยางของพวกเราถูกเรียกตัวกลับไป แต่ตอนที่อู๋จุนพูดถึงจินหยาง ข้ารู้สึกได้ว่าน้ำเสียงของเขาฟังดูแปลกประหลาด ข้าสงสัยว่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับจินหยาง…”
ใบหน้างดงามเย็นชาปรากฏขึ้นในความคิดของอวิ๋นลั่วเฟิง นางคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อวิ๋นเซียว พวกเราจะกลับไปที่นครเฟิงอวิ๋นทันที”
ถึงอย่างไรก่อนที่องค์หญิงจินหยางจะกลับไป อีกฝ่ายก็มาเตือนนางว่าการเดินทางเข้าไปในป่าบททดสอบสวรรค์ครั้งนี้คงไม่ง่ายและนางก็ควรระวังเรื่องความปลอดภัยของตัวเอง
จากการเตือนครั้งนี้ นางก็ควรจะไปช่วยจินหยางในช่วงเวลาวิกฤตสักครั้ง!
“ได้” อวิ๋นเซียวเอามือโอบเอวของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วพวกเขาก็ค่อยๆ เดินขึ้นไปบนฟ้า เพียงแค่สองสามก้าว พวกเขาก็ห่างออกไปเป็นร้อยเมตรแล้ว…
“อาจารย์” ฉีซูมองไป๋หลิงแล้วอธิบาย “องค์หญิงจินหยางเตือนพวกเราให้ระวังตัว ถ้านางตกอยู่ในอันตรายจริงๆ พวกเราก็ควรจะไปช่วยนะขอรับ…”
“งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันเถอะ” ไป๋หลิงไม่มีความลังเลใดๆ ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยบุตรสาวและศิษย์ของนาง นางก็ต้องยื่นมือเข้าช่วยในนาทีชีวิต
ทุกคนไม่สนใจฉีอวี่ที่ล้มอยู่ที่พื้นแล้วมุ่งหน้าไปที่นครเฟิงอวิ๋น
…
นครเฟิงอวิ๋น
องค์หญิงจินหยางเดินเข้าไปในจวนหรูหราอย่างรวดเร็วแล้วสังเกตเห็นเฉิงเฟยหยางกำลังขมวดคิ้วขณะคิดอะไรบางอย่างอยู่
“เสด็จพ่อ เหตุใดเสด็จพ่อถึงเรียกตัวลูกกลับมาด่วนเพคะ”
ขณะที่เฉิงเฟยหยางมองใบหน้าขององค์หญิงจินหยาง ดวงตาของเขาก็ฉายแววลังเลแต่สุดท้ายก็ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง “จินหยาง พ่อได้รับข่าวที่ไม่น่าฟังมาว่าคนจากสำนักอิสระมาที่ป่าบททดสอบสวรรค์เหมือนกันแล้ววางแผนจะสังหารหมู่อัจฉริยะจากทั้งสี่อาณาจักรภายในป่า!”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าขององค์หญิงจินหยางก็เปลี่ยนไปทันที “เสด็จพ่อ เหตุใดท่านถึงไม่พูดเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ครั้งนี้คนที่มาคือองค์ชายและองค์หญิงจากทั้งสี่อาณาจักร ถ้าพวกเขาตายก็จะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของอาณาจักรทั้งสี่ ถ้าเสด็จพ่อบอกพวกเขา ไม่แน่พวกเขาก็อาจจะหนีรอดจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้ก็ได้!”
“จินหยาง ต่อให้ทั้งสี่อาณาจักรผนึกกำลังกัน พวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับสำนักอิสระในตอนนี้ พ่อของเจ้าก็แค่ไม่อยากให้อาณาจักรจินหยางถูกทำลาย” ความสิ้นหวังปกคลุมใบหน้าของเฉิงเฟยหยาง “ถ้า…พ่อรู้ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น พ่อก็คงไม่เลือกป่าบททดสอบสวรรค์เป็นสถานที่จัดการประลอง”