ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2044 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (2) / ตอนที่ 2045 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (3)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2044 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (2) / ตอนที่ 2045 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (3)
ตอนที่ 2044 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (2)
ผู้อาวุโสยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยาม “ท่านเจ้าเมือง ข้ารู้สึกว่าการขีดเส้นแบ่งกับอวิ๋นลั่วเฟิงก็ไม่ได้เลวร้าย เด็กผู้หญิงคนนั้นสร้างปัญหาไปทุกที่ที่นางไป แล้วตอนนี้นางก็ดึงดูดปัญหานี้มา ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องสร้างภาระให้เมืองทักษิณของพวกเราแน่หากพวกเราไม่ตัดความสัมพันธ์เสียตั้งแต่ตอนนี้…
…ยิ่งไปกว่านั้น…” เขาหยุดไปชั่วครู่แล้วพูดต่อ “แคว้นเจ็ดเมืองก็ค่อนข้างสงบสุข และเมืองทักษิณของพวกเราก็เป็นสำนักอันดับต้นๆ ถ้าพวกเราไม่ได้ไปยั่วยุสัตว์ประหลาดจากแผ่นดินเทพวิญญาณพวกนั้น แล้วใครจะมาสร้างปัญหาให้พวกเราได้ ส่วนเรื่องที่จะขอความช่วยเหลือยิ่งเป็นไปไม่ได้!”
เจ้าเมืองทักษิณผ่อนคลายแล้วโยนข่าวเรื่องการกลับมาของอวิ๋นลั่วเฟิงไว้ข้างหลัง ตอนนี้ผู้อาวุโสคนนี้ยังไม่รู้ว่าในอนาคตแคว้นเจ็ดเมืองจะเจอกับหายนะระดับสะเทือนสวรรค์ในอนาคต…
สหายพวกนั้นที่ช่วยอวิ๋นลั่วเฟิงจะรอดชีวิตภายใต้การปกป้องของนาง ส่วนพวกที่ไม่ได้ช่วยตระกูลอวิ๋น…ต่อให้พวกเขามาคุกเข่าขอร้องก็ไม่สามารถทำให้นางเกิดความรู้สึกสงสารได้แม้แต่นิดเดียว
เจ้าไม่ผิดที่สนใจแต่ตัวเองและไม่ยอมช่วยเหลือตระกูลอวิ๋น ใครจะไม่สนใจชีวิตของตัวเองบ้างล่ะ แล้วจะมีสักกี่คนที่ยินดีโยนชีวิตของตัวเองทิ้งเพื่อใครสักคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขา
ดังนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงไม่ได้ไปสร้างปัญหาให้เมืองทักษิณเพราะเรื่องนี้ แต่ว่าขณะเดียวกันในอนาคตก็อย่าได้คิดมาขอความช่วยเหลือจากนาง
ในเมื่อพวกเขาเลือกที่จะไม่สนใจได้ ดังนั้นนางก็สามารถที่จะทำแบบเดียวกันได้!
พูดง่ายๆ ก็คือตาต่อตาฟันต่อฟัน!
นอกจากเมืองทักษิณแล้ว ก็ยังมีสำนักระดับกลางที่ตื่นกลัวเพราะเกรงว่าความโกรธของอวิ๋นลั่วเฟิงจะลามไปถึงพวกเขาด้วย…
ในตอนที่ทุกคนคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงจะก่อพายุโลหิตเมื่อกลับมา แต่ทั่วทั้งแคว้นเจ็ดเมืองกลับเงียบงันจนผิดปกติราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น…
เมื่อเห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงไม่ลงมือทำอะไร ในที่สุดเมืองทักษิณก็ผ่อนคลาย ดูเหมือนว่านางเองก็หวาดกลัวแผ่นดินเทพวิญญาณเหมือนกันจึงไม่กล้าแก้แค้น ถ้าเป็นแบบนี้ เขาก็คิดว่านางคงไม่สร้างความลำบากอะไรให้เมืองทักษิณในช่วงเวลาวิกฤติแบบนี้
เมื่อรู้เรื่องนี้หลังจากที่ไม่ได้ผ่อนคลายมานาน ในที่สุดเจ้าเมืองทักษิณก็สบายใจแล้วทำตัวเหมือนที่เขาทำก่อนที่อวิ๋นลั่วเฟิงจะกลับมา ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้สนใจอวิ๋นลั่วเฟิงอีกต่อไป…
ภายในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ ณ ปัจจุบัน
เมื่อได้ยินว่าคนจากเผ่าผู้ใช้เวทและเมืองหลวงมาถึงแล้ว นางก็ออกไปต้อนรับพวกเขา
หวงอิงอิงเดินนำเผ่าผู้ใช้เวท และคนที่เดินนำคนจากเมืองหลวงมาก็เป็นอดีตเจ้าเมืองอย่างมู่ต้งซึ่งเป็นเพื่อนเก่าของจวินหลิงเทียนเหมือนอย่างเคย
“เจ้ามาแล้วหรือ” เมื่อเห็นคนเหล่านี้ สีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงก็อ่อนโยนมากขึ้นขณะที่นางเอ่ยถาม
“นายหญิง” หวงอิงอิงมองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างรู้สึกผิด “ข้าน้อยมาช้าเกินไป”
มู่ต้งอยู่เงียบๆ แต่เขาก็ยังถอนหายใจอย่างต่อเนื่องด้วยสีหน้าหมดหนทาง
“ต่อให้เจ้ามาถึงเร็วกว่านี้ เจ้าก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก กลับกันก็จะทำให้คนบาดเจ็บล้มตายโดยที่ไม่จำเป็น” อวิ๋นลั่วเฟิงเลิกคิ้วเล็กน้อยขณะที่พูดอย่างเฉยชา
หวงอิงอิงยิ้มอย่างขมขื่น นางพยายามฝึกพลังฌานอย่างสุดความสามารถและก็เกือบจะผ่านด่านเป็นขั้นเซียน ถึงอย่างนั้นนางก็ยังไม่ผ่านด่านอยู่ดี
“อันที่จริงไม่มีใครพูดอะไรสักคำตอนที่ข้าพาเผ่าผู้ใช้เวทมาที่นี่” ดวงตาของหวงอิงอิงเป็นประกาย ขณะที่ใบหน้าของนางสง่างาม “แต่ว่าการกระทำของท่านอาวุโสมู่ต้งกลับไปยั่วยุคนจากเมืองหลวง แต่เขาก็เอาชนะคำคัดค้านแล้วมาที่นี่ได้”
มู่ต้งยิ้ม “ไม่ว่าอย่างไรข้าก็เป็นสหายกับผู้เฒ่าจวินมาอย่างยาวนาน แล้วข้าจะไม่สนใจพวกเขาได้อย่างไร! ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้เป็นเจ้าเมืองแล้ว ข้ายังมีอำนาจที่นั่น!”
…………………………………..
ตอนที่ 2045 วิธีการฟื้นคืนชีพหงหลวน (3)
อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้ตอบอะไรและมู่ต้งก็รออยู่เงียบๆ หลังจากผ่านไปสักพักในที่สุดนางก็พูดขึ้น “ตอนนี้ท่านก็มาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าจะบอกแผนการที่ข้าวางไว้ให้ท่าน ข้าจะสนองคืนความโกรธแค้นต่อตระกูลฉินที่สังหารหงหลวนแน่นอน! ต่อให้ข้าต้องเสียทุกอย่าง ข้าก็จะเอาชีวิตของพวกเขามาชดใช้ให้กับการตายของนาง!”
อาจจะเป็นเพราะหวงอิงอิงเข้าใจความคิดในใจของอวิ๋นลั่วเฟิงจึงตอบอย่างนับถือว่า “ตั้งแต่ที่ท่านช่วยชีวิตข้า ข้าก็เป็นบ่าวรับใช้ของท่านแล้ว ไม่ว่าท่านตั้งใจจะทำอะไร ข้าก็จะนำเผ่าผู้ใช้เวทไปอยู่เคียงข้างท่านเจ้าค่ะ”
มู่ต้งเองก็ยิ้ม “ที่นั่นก็เป็นแค่แผ่นดินเทพวิญญาณไม่ใช่หรือ ข้าใช้ชีวิตมานานแล้วและสำหรับตัวข้า ไม่ว่าจะอยู่หรือตายก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เฟิงเอ๋อร์ ไม่ว่าเจ้าตั้งใจจะทำอะไร พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้าอยู่เสมอ!”
เมื่อเผชิญหน้ากับความจริงใจของพวกเขา ดวงตาของอวิ๋นลั่วเฟิงก็เป็นประกาย
“เอาล่ะ! ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ ข้าจะประกาศต่อหน้าทุกคนในใต้หล้าว่า ข้า อวิ๋นลั่วเฟิงจะทำสงครามกับแผ่นดินเทพวิญญาณ!” นางเปิดเผยความก้าวร้าวของนางแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบว่า “อีกอย่าง หวงอิงอิง เจ้าไปเชิญทุกสำนักในแคว้นเจ็ดเมืองมา ข้าอยากรู้ว่าจะมีคนที่ยอมสู้เคียงข้างข้ามากน้อยแค่ไหน!”
“เจ้าค่ะ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” หวงอิงอิงตอบรับด้วยความเคารพ
ภายในแคว้นเจ็ดเมืองมีสำนักอยู่จำนวนมากและนอกจากเมืองหลักๆ แล้วก็ยังมีสำนักใหญ่ด้วย ซึ่งเมื่อพวกเขารวมตัวกันก็นับได้ว่าเป็นกองกำลังขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเองก็สามารถต่อกรกับเผ่าผู้ใช้เวทและคนของจวนเจ้าเมืองต่างๆ ได้
มู่ต้งมองอวิ๋นลั่วเฟิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกซับซ้อน เขาเองก็เป็นคนที่ผ่านประสบการณ์มามากดังนั้นเขาจะไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของนางได้อย่างไร นางก็แค่อยากใช้โอกาสนี้เพื่อดูว่าสำนักใดยืนอยู่ข้างนางบ้าง นางจะได้ตัดสินใจได้
หวงอิงอิงทำตามคำสั่งของอวิ๋นลั่วเฟิงแล้วรีบออกไปทันที
ไม่นานหลังจากนั้นผู้อาวุโสทั้งหลายจากเมืองประจิมก็เร่งรุดเข้ามากันอย่างต่อเนื่องและแม้แต่เด็กผู้หญิงตัวน้อยอย่างจี้เฟยที่อวิ๋นลั่วเฟิงเคยช่วยไว้ก็มาพร้อมกับอันจือฮ่าวและคนตระกูลจี้
ส่วนหูลี่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา เขามอบชีวิตให้อวิ๋นลั่วเฟิงมาเป็นสิบปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำตัวเป็นกลางในสถานการณ์วิกฤติแบบนี้ได้
นอกจากพวกเขาแล้วก็ไม่มีใครมาอีก ถึงอย่างไรศัตรูที่อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังเผชิญอยู่ก็ไม่ใช่คนธรรมดา คนเหล่านั้นเป็นยอดฝีมือจากแผ่นดินเทพวิญญาณ พวกเขาจะไปสู้อีกฝ่ายได้อย่างไร ดังนั้นสำนักอื่นๆ จึงไม่มีใครส่งกองกำลังมาเข้าร่วม
ภายในห้องโล่งไร้ของประดับประดา อวิ๋นลั่วเฟิงกำลังนั่งขัดสมาธิและหลับตาอยู่บนเตียงขณะที่วิญญาณของนางเข้าไปในโลกคัมภีร์เซียนโอสถ…
ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม ต้นหญ้าสีเขียวขจีแลดูอุดมสมบูรณ์
ร่างของสตรีในชุดสีแดงนอนอยู่บนพื้นโดยที่แขนไขว้ทับกันอยู่บนหน้าอก ใบหน้าเรียบนิ่งอันสงบสุขทำให้นางไม่มีกลิ่นอายของคนตายเลยแม้แต่น้อย จนดูคล้ายว่าแค่หลับไปเท่านั้น
“เสี่ยวโม่ เจ้ามีวิธีฟื้นคืนชีพหงหลวนจริงๆ ใช่หรือไม่” อวิ๋นลั่วเฟิงเลื่อนสายตาไปมองเสี่ยวโม่แล้วถาม
เสี่ยวโม่เงียบไปนาน “ข้าไม่ได้มั่นใจเต็มร้อย หรือควรจะพูดว่าข้ามั่นใจไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ”
“บอกวิธีข้ามา ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหน ข้าก็จะไม่ยอมแพ้!” สีหน้าของอวิ๋นลั่วเฟิงแสดงความมุ่งมั่น
เสี่ยวโม่หยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ท่านยังจำสิ่งที่คัมภีร์เซียนโอสถบอกไว้ก่อนหน้านี้ได้หรือไม่”
“เมื่อมีคัมภีร์เซียนโอสถ การชุบชีวิตคนตายก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้! ถ้าท่านกลับมาก่อนที่หงหลวนจะหยุดหายใจ ท่านก็คงสามารถรักษานางได้ทันที แต่โชคร้ายที่ท่านกลับมาช้าเกินไป…”