ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2068 แผ่นดินเทพวิญญาณ (4) / ตอนที่ 2069 แผ่นดินเทพวิญญาณ (5)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2068 แผ่นดินเทพวิญญาณ (4) / ตอนที่ 2069 แผ่นดินเทพวิญญาณ (5)
ตอนที่ 2068 แผ่นดินเทพวิญญาณ (4)
เสวี่ยอิงปิดปากหัวเราะ “ตอนที่เฟิงเอ๋อร์อยู่ที่นี่ นางก็สร้างปัญหาไว้ไม่น้อย แต่ข้าไม่เคยเห็นเจ้าสั่งสอนนางเลย…”
ซวีคงกลอกตาแล้วทำสีหน้าภาคภูมิใจ “แน่นอนว่าถึงแม้เฟิงเอ๋อร์จะสร้างปัญหาแต่นางก็ยังยอดเยี่ยม! แล้วข้าจะทนสั่งสอนนางได้อย่างไร”
มุมปากของอวิ๋นลั่วเฟิงก็กระตุกแล้วมองอวิ๋นเซียวที่อยู่ข้างกายนาง ดวงตาของนางเหมือนจะถามว่า นางชอบสร้างปัญหาจริงๆ หรือ
อวิ๋นเซียวเป็นเด็กซื่อสัตย์มาตลอด เมื่อได้รับสายตาราวกับจะสังหารใครสักคนของนาง เขาก็ยังพยักหน้าแต่ก็เพิ่มประโยคสุดท้ายเข้าไปด้วย “ท่านจะสร้างปัญหามากเท่าไหร่ก็ได้ ข้าจะสนับสนุนท่านเอง”
ต่อให้ท่านเจาะหลุมมหึมาทะลุฟ้า ข้าก็จะอยู่เคียงข้างท่านและสนับสนุนท่านอยู่ข้างหลัง!
อวิ๋นเซียวไม่ใช่คนที่พูดคำรักบ่อยๆ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาพูด มักทำให้ทั้งโลกต้องอัศจรรย์กับประโยคเดียวนั้น
แม้กระทั่งผู้อาวุโสทั้งหลายที่ใช้ชีวิตอยู่มาเกือบจะร้อยปีก็ยังเผลอส่งสายนับถือให้บุรุษตรงหน้าเขา อวิ๋นลั่วเฟิงถอนสายตาอำมหิตของตัวเองกลับมาเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
“พวกเจ้าเป็นคู่แต่งงานที่ยังรักกันแม้จะผ่านมาหลายปี พวกเจ้าช่วยเห็นใจคนที่ยังไม่แต่งงานแบบพวกเราได้หรือไม่” ร่องรอยความกระอักกระอ่วนก็ปรากฏบนใบหน้าของซวีคงแล้วเขาก็ไอแห้งๆ ขึ้นมา “แต่ว่าเฟิงเอ๋อร์ เห็นเจ้ายุ่งมากอย่างนี้คงไม่ได้มาเยี่ยมโดยไม่มีเหตุผล บอกมาเถอะว่าเจ้ามาทำอะไรที่นี่”
อวิ๋นลั่วเฟิงยกยิ้ม “พวกท่านคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในตระกูลจวินเมื่อสองสามวันก่อนใช่หรือไม่”
“เกิดอะไรขึ้น”
“เหตุผลเบื้องหลังของอัสนีสวรรค์พวกนั้น!”
อัสนีสวรรค์ผ่าลงมาอย่างต่อเนื่องถึงสามวันเต็ม หลังจากที่หายไปชั่วครู่ก็เริ่มผ่าลงมาใหม่ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อาวุโสเหล่านี้จะไม่ได้ยินเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในตระกูลจวิน
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวเสวี่ยอิง “เฟิงเอ๋อร์ เจ้าเป็นคนทำให้สมาชิกตระกูลจวินหลายคนผ่านด่านเป็นขั้นเซียนงั้นหรือ”
“ใช่แล้ว” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบางแล้วหยิบผลเขฬะมังกรออกมาห้าผล “นี่คือผลเขฬะมังกร หลังจากที่ท่านกินผลนี้เข้าไปแล้วท่านก็จะผ่านด่าน ความแข็งแกร่งของพวกท่านจะไม่ได้เป็นแค่เซียนแต่ยังเหนือกว่านั้น! ส่วนพวกท่านจะไปถึงขั้นไหน ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของตัวท่านเอง”
อะไรนะ ไม่ใช่แค่ขั้นเซียนแต่ยังเหนือกว่าขั้นนั้นอีกหรือ
ผู้อาวุโสสองสามคนตะลึงอึ้งไป และทุกคนก็มองอวิ๋นลั่วเฟิงอย่างแปลกใจ
“ผลไม้ทั้งห้าผลเป็นของพวกท่านและข้าก็ยังมีอีกสองผล ถ้าท่านเห็นจีจิ่วเทียนหรือหูหลี ข้าต้องรบกวนให้ท่านมอบให้พวกเขาแล้ว”
เมื่อเห็นผู้อาวุโสยังคงตะลึงอยู่ นางก็วางผลเขฬะมังกรไว้บนโต๊ะแล้วก็เอาอีกสองผลออกมา
เมื่อผลไม้ถูกวางบนโต๊ะ ในที่สุดผู้อาวุโสก็ได้สติแล้วรีบกระโจนเข้าไปหา เสียงการต่อสู้ได้ยินขึ้นเป็นพักๆ
“บ้าเอ๊ย พวกเจ้าจะสู้เพื่ออะไร ทุกคนมีส่วนแบ่งของตัวเองอยู่แล้ว และก็อย่าขโมยส่วนของข้าด้วย!”
“ซวีคงเจ้ามันตาแก่ชั่วร้ายชอบแข่งขันกับข้า ข้าจะบอกอะไรให้เจ้าฟัง ศักยภาพของข้าดีกว่าเจ้าและหลังจากที่ข้าผ่านด่านแล้วก็จะแข็งแกร่งกว่าเจ้า แล้วเรามาดูกันว่าข้าจะสั่งสอนเจ้าอย่างไร!”
“ยังไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนที่จะแข็งแกร่งกว่ากัน! เจ้าอย่าหลงตัวเองนักเลย”
หลังจากที่วางผลเขฬะมังกรไว้แล้ว อวิ๋นลั่วเฟิงก็หันหลังจากไปแล้วไม่ได้สนใจเสียงการต่อสู้ของพวกเขาอีก
หลังจากที่พวกเขาได้ผลเขฬะมังกรมาไว้ในมือ ในที่สุดพวกเขาก็เห็นว่าอวิ๋นลั่วเฟิงออกไปแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่คิดว่าจะได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่แบบนี้หลังจากที่สู้กันเพื่อแย่งนางเป็นศิษย์
ตอนที่ 2069 แผ่นดินเทพวิญญาณ (5)
“นางไปแล้ว” เสวี่ยอิงถอนหายใจแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “ตลอดชีวิตของพวกเรา พวกเราติดหนี้นางเหลือเกิน”
พูดตามตรง พวกเขาไม่ได้ทำอะไรให้อวิ๋นลั่วเฟิงมากเลย เพียงแค่เลือกอยู่เคียงข้างนางในช่วงที่ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเท่านั้น แต่ก็เพราะทางเลือกของพวกเขาทำให้อวิ๋นลั่วเฟิงใช้วิธีนี้ตอบแทน
“ไม่แน่การรับนางเป็นศิษย์อาจจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดที่ข้าทำมาตลอดชีวิต!”
…
ที่ด้านนอกสำนักศึกษาเมืองประจิม อวิ๋นลั่วเฟิงก็หยุดแล้วหันไปมองเด็กหนุ่มที่ตามอยู่ข้างหลังนาง “ในเมื่อเจ้ามาจากแผ่นเทพวิญญาณ เจ้ารู้วิธีเข้าไปหรือไม่”
อู๋เหยียนพยักหน้า “มีแต่คนจากแผ่นดินเทพวิญญาณเท่านั้นที่รู้เส้นทาง…ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องใช้หินสลักของแผ่นดินเทพวิญญาณด้วยถึงจะเข้าไปได้ และคนภายนอกก็ไม่มีสิทธิ์เข้าไปข้างใน”
“แค่เจ้ามีวิธีก็พอ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เดินทางไปแผ่นดินเทพวิญญากันตอนนี้เลยเถอะ…”
…
แผ่นดินเทพวิญญาณ ตระกูลฉิน
ท่ามกลางเทือกเขาป่าท้อมีสตรีผู้หนึ่งนั่งอยู่บนหิน ขณะที่ปล่อยให้กลีบดอกไม้ร่วงลงมาบนไหล่ของนาง
เส้นผมสีดำสนิทของนางสยายเต็มแผ่นหลังจนดูเหมือนกลมกลืนไปกับป่าที่เต็มไปด้วยต้นท้อแห่งนี้
ตอนนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าที่ปั่นป่วนดังขึ้น แต่นางก็ไม่ได้ลืมตาขึ้นมาราวกับว่านางไม่เห็นร่างของคนที่อยู่ด้านหลัง
“เฟยเอ๋อร์” เสียงของบุรุษผู้หนึ่งเต็มไปด้วยความรักลึกซึ้งดังขึ้นที่ด้านหลังของนาง
“มีเรื่องอะไรงั้นหรือ” เสียงของมู่ชิงเฟยเหนื่อยอ่อน และนางก็ไม่แม้แต่จะหันไปบุรุษผู้นั้น
“เฟยเอ๋อร์ เจ้าเดาสิว่าข้าไปเจอใครมาตอนที่ข้าออกจากแผ่นดินเทพวิญญาณ” ฉินหยวนไม่ได้โกรธแล้วเดินมาตรงหน้านางช้าๆ
ตอนนี้เขาไม่มีทางดุร้ายและเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ตอนที่เขาสังหารคนในเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขากลับมีท่าทางสง่างามเหมือนกับคุณชาย ดวงตาของฉินหยวนปรากฏแสงมืดมัวขณะที่เขาพูดขึ้นอย่างช้าๆ “ข้าเจอเด็กผู้หญิงที่ชื่อว่าหลินรั่วไป๋ นาง…ดูเหมือนเจ้ามากและยังเป็นหัวหน้าเผ่าน้อยของเผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ด้วย”
อย่างที่คิด เมื่อนางได้ยินคำพูดของเขาในที่สุดก็มีร่องรอยอารมณ์ปรากฏขั้นบนใบหน้าเย็นชาเด็ดเดี่ยว นางลุกพรวดขึ้นมาด้วยท่าทางกังวล “เจ้าเจอบุตรสาวข้างั้นหรือ”
“เฟยเอ๋อร์ เจ้าอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่นี่มาหลายปี เหตุใดไม่ให้ข้าพานางมาที่นี่ล่ะ” เสียงของฉินหยวนอ่อนโยนมาก “ตราบใดที่เจ้ายิ้มให้ข้า ข้าก็ไม่สนว่านางจะเป็นบุตรของเจ้ากับบุรุษอื่น ตราบใดที่ในชีวิตของเจ้ามีแค่ข้าก็เพียงพอแล้ว”
หลังจากที่ความตื่นเต้นในตอนแรกปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางได้ไม่นาน นางก็ได้สติ “เจ้าจำกัดอิสระของข้าแล้วตอนนี้ยังคิดจะขโมยบุตรสาวของข้าอีกหรือ ข้าไม่มีทางยอมให้เจ้าได้ทำแน่!”
“เฟยเอ๋อร์ เหตุใดเจ้าถึงดื้อดึงนัก เพื่อเจ้าแล้ว ข้าอดทนต่อแรงกดดันจำนวนมากและยังไม่ยอมแต่งภรรยาหรืออนุ เหตุใดเจ้าถึงยังไม่ยอมรับข้าอีก”
ฉินหยวนเข้าไปหามู่ชิงเฟย น้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด จะมีก็แต่ความจนปัญญา
“เหตุใดเจ้าถึงไม่บอกข้าล่ะ ว่าข้าควรทำอย่างไรเจ้าถึงจะยอมรับข้า”
มู่ชิงเฟยค่อยๆ หลับตา ในชีวิตของนางมีเพียงบุรุษคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นนางจะยอมรับบุรุษอื่นได้อย่างไร
“เฟยเอ๋อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตอนนี้บุตรสาวของเจ้ากำลังเจอกับอะไรอยู่” ใบหน้าของฉินหยวนปรากฏความชั่วร้ายแวบหนึ่งก่อนจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเหมือนก่อนหน้านี้ “บุตรสาวของเจ้าถูกใครบางคนหลอกลวงแล้วยังยอมเป็นทาสของคนผู้นั้นอีก! เผ่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งเผ่าก็เชื่อฟังสตรีผู้นั้นด้วย! เช่นนั้นแล้วเจ้าไม่อยากพาบุตรสาวมาอยู่เคียงข้างภายใต้สถานการณ์แบบนี้หรือ”