ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2229 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (70) / ตอนที่ 2230 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (71)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2229 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (70) / ตอนที่ 2230 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (71)
ตอนที่ 2229 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (70)
ในขณะเดียวกัน ลินดาเองก็มาทำงานด้วย สิ่งที่เธอสู้อุตส่าห์เหนื่อยยากมาตลอดปีไม่ได้สูญเปล่า เธอไม่เพียงแต่จะสร้างรอยร้าวระหว่างหลี่ชุ่ยชุ่ยกับสามีได้เท่านั้น แต่ยังได้หลักฐานการฆ่าคนของลูกชายของอวิ๋นเทียนฉีมาด้วย ตอนนี้ลูกชายของอวิ๋นเทียนฉีถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาจากต่างประเทศแล้ว และตำรวจที่ช่วยปกปิดความผิดของเขาในครั้งนั้นก็ถูกส่งตัวเข้าคุกด้วยเช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น ตระกูลหลี่ซึ่งมีเส้นสายทางด้านกฎหมายก็ถูกเปิดโปงทั้งเรื่องที่เป็นฝ่ายติดสินบน รับสินบน หนำซ้ำยังแอบเก็บอาวุธปืนเอาไว้ด้วย ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการตรวจสอบวินัยจึงแล่นมาถึงประตูบ้านของพวกเขาในเวลาอันรวดเร็ว
ชื่อของฟู่หรูและคดีความของเขาได้รับการล้างมลทิน ข่าวลือต่างๆ เกี่ยวกับเขาก็ถูกลบทิ้ง โชคร้ายที่อวิ๋นลั่วเฟิงไม่ได้วางแผนจัดการกับนักข่าวที่รับสินบนพวกนั้นเอาไว้ นางจึงโพสต์ภาพนักข่าวพวกนั้นตอนที่นัดพบกับคนจากอวิ๋นเภสัชกรรมลงในอินเทอร์เน็ต
ในเมื่อฟู่หรูถูกใส่ความโดยหลี่ชุ่ยชุ่ย และคนเหล่านี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทอวิ๋นเภสัชกรรม การสืบหาความเชื่อมโยงจึงทำได้ไม่ยาก แล้วทันใดนั้นเอง บริษัทของนักข่าวเหล่านั้นก็ตกเป็นเป้าความเกลียดชังของผู้คน พวกเขาไม่มีทางดำเนินธุรกิจต่อไปได้อีกนับจากนี้
…
“ท่านแม่ เราไปกันได้หรือยังขอรับ” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงถามอย่างกระตือรือร้น กะพริบตากลมโตเป็นประกายของเขา เมื่อได้เห็นว่าเรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลงได้แล้ว
อวิ๋นลั่วเฟิงหัวเราะ “ข้ายังมีอีกที่หนึ่งที่ต้องไปพบคนน่ะ”
เมื่อพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ออกจากห้องและเดินออกประตูไปโดยไม่บอกอวิ๋นเซียว
ในห้องขัง ผมของหลี่ชุ่ยชุ่ยยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงไปหมด สีหน้าของเธอก็ดูน่าเวทนา เธอขุดตัวซุกเหมือนลูกบอลและสั่นระริกไม่หยุด
“หมายเลขยี่สิบเจ็ด มีคนมาหา”
ทันใดนั้น น้ำเสียงเฉียบขาดก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกประตู ริมฝีปากของหลี่ชุ่ยชุ่ยสั่นระริก แต่เธอก็ยังถูกลากตัวออกมาจากห้องขังโดยใครคนหนึ่งอยู่ดี
เมื่อมาถึงห้องสำหรับพูดคุย หลี่ชุ่ยชุ่ยก็ได้เห็นอวิ๋นเทียนฉีกำลังเดินมาจากอีกทางหนึ่ง คอของเธอเริ่มแห้งผาก ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าสลด
“ทำไมถึงเดินช้านักล่ะ เร็วๆ เข้าสิ! ผู้คุมนักโทษที่เดินตามหลังเตะอวิ๋นเทียนฉีเข้าให้ “ไม่คิดเลยว่าจะมีคนใจดำอำมหิตขนาดนี้อยู่ในโลก หมอนี่ฆ่าพี่ชายแล้วก็พี่สะใภ้ของตัวเอง ฮุบสมบัติ แถมยังขับไล่ลูกสาวคนเดียวของพวกเขาออกจากครอบครัวด้วย”
“ถุย ฉันยังจำข่าวนี้ได้เมื่อสิบกว่าปีก่อน เศษสวะไร้ยางอายสองคนนี้บอกว่า พวกเขาขอบริจาคเงินทั้งหมด แถมยังบอกว่าเป็นเพราะหลานสาวของตัวเองวางแผนฆาตกรรมลูกชายของพวกเขา ก็เลยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องส่งเธอไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า! ฉันเดาว่าสองคนนี้ต้องยึดเอาสมบัติของคนอื่นมา แถมยังไม่อยากเลี้ยงหลานสาวของตัวเองอีกต่างหาก ก็เลยคิดแผนนี้ขึ้น”
“แค่ประหารชีวิตด้วยการยิงเป้ามันง่ายไปนะ! พวกเขาควรจะโดนสิบแปดทัณฑ์ทรมาน! แย่หน่อยที่พอหมดยุคราชวงศ์ชิงไป การลงโทษด้วยการทรมานก็เลยไม่มีอีกแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่ชุ่ยชุ่ยก็กัดปากตัวเองแน่น เธออยากพูดอะไรบางอย่างแต่แล้วก็ถูกผลักเข้าไปในห้อง
ข้างในห้อง มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ กำลังจิบชาด้วยท่าทีสบายๆ มีรอยยิ้มอ่อนๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปาก เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง แล้วใบหน้างดงามชวนตะลึงนั้นก็ปรากฏแก่สายตาของหลี่ชุ่ยชุ่ยและอวิ๋นเฉียนฉี
“นั่นเธอเหรอ” สีหน้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยเปลี่ยนไปในทันที ก่อนจะขยับถอยมาสองสามก้าว
“เธอยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไง!”
เธอควรจะตายไปแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงได้มาอยู่ตรงนี้
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้หรอกค่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงยืนขึ้น เดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ “จะไม่ต้อนรับการกลับมาของหนูหน่อยเหรอคะ”
สีหน้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยเปลี่ยนไปอีก “เธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องพวกนี้งั้นเหรอ”
“จะว่าใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ค่ะ” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “คนที่ไปหลอกพวกคุณคือพ่อแม่ของหนูที่ถูกพวกคุณฆ่าตาย!”
ในชั่วขณะนั้นเอง ใบหน้าอาฆาตแค้นทั้งสองหน้านั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวของหลี่ชุ่ยชุ่ยอีกครั้ง หัวใจของเธอกระตุกด้วยความหวาดผวา เท้ารีบก้าวถอยไปอีกสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่ 2230 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (71)
“อวิ๋นลั่วเฟิง ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะกลับมา”
ถ้าพวกเขารู้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นจะนำมาซึ่งหายนะเช่นนี้ พวกเขาก็คงจะไม่ไว้ชีวิตเธอเมื่อหลายปีก่อน
“หนูมาที่นี่ก็เพื่อที่จะแจ้งให้ทราบว่าหนูกลับมาแล้ว อีกอย่าง…” อวิ๋นลั่วเฟิงหยุดและยิ้ม “หนูเป็นประธานที่อยู่เบื้องหลังของร้านยาหมอหัตถ์เทวดา”
ตู้ม!
เสียงสายฟ้าฟาดลงมาทั้งที่ท้องฟ้ายังแจ่มใส อวิ๋นเทียนฉีและภรรยาถึงกับงง ทั้งสองหันมองหญิงสาวอย่างพูดอะไรไม่ออก ใบหน้าเผือดสีไปหมด เธอบอกว่าเธอคือหัวหน้าที่อยู่เบื้องหลังของร้านยาหมอหัตถ์เทวดางั้นรึ”
“ถูกต้องแล้วค่ะ หนูแค่ไม่คิดว่าพวกคุณจะรีบกลับมาหาเรื่องที่ร้านยาหมอหัตถ์เทวดาเร็วขนาดนี้” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม “ไหนๆ เราก็ได้เจอกันแล้ว ถ้าพวกคุณโชคดีพอ บางทีเราอาจจะไม่ต้องเจอหน้ากันอีกในอนาคตนะคะ”
แต่ถึงยังไง ก็คงจะหนีกันไม่น่าพ้น…
เมื่อพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็เลิกสนใจคนสองคนที่กำลังมีท่าทีทุรนทุรายและเดินออกจากห้องไป
อวิ๋นเทียนฉีรู้สึกเหมือนวิญญาณกำลังจะหลุดออกจากร่าง เขายกมือกุมหัวไว้ราวกับปวดอย่างหนัก “จบแล้ว เราจบสิ้นแล้ว!”
พวกเขาก่อเหตุอาชญากรรมเอาไว้มากมาย กฎหมายไม่มีทางที่จะยอมให้อภัยได้แน่
“ฮึ!” หลี่ชุ่ยชุ่ยพ่นลม ดวงตาเคียดแค้น “เหมี่ยวฟาง นังสารเลวนั่นกล้ามาหลอกฉันงั้นรึ! ฉันจะต้องตามไปเอาคืนนังนั่นหลังจากที่เราลงไปยมโลก”
ผู้คุมนักโทษสองคนพาหลี่ชุ่ยชุ่ยและอวิ๋นเทียนฉีกลับไปยังห้องขังแยกของพวกเขา
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนมาแจ้งกับเธอว่า ลูกสาวมาเยี่ยม
ว่ากันตามจริงแล้ว หลี่ชุ่ยชุ่ยที่ก่อคดีร้ายแรงเช่นนี้ ไม่ควรที่จะมีสมาชิกในครอบครัวคนไหนได้รับอนุญาตให้มาเยี่ยมเธอได้ แต่อวิ๋นเสวี่ยเหลียนเป็นเพียงเด็กน้อย และกำลังจะต้องถูกส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าในอนาคตอันใกล้ ด้วยเหตุนี้ศาลจึงอนุญาตให้เธอมาเยี่ยมพ่อและแม่ในคุกเป็นครั้งสุดท้าย
“แม่คะ!” ทันทีที่อวิ๋นเสวี่ยเหลียนเห็นหลี่ชุ่ยชุ่ย เธอก็รีบวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของมารดา น้ำตาไหลพรากอาบแก้ม “แม่คะ คนพวกนั้นเขาจะส่งหนูไปบ้านเด็กกำพร้า หนูกลัวจัง อย่าทิ้งหนูไปไหนนะคะ พ่อขาแม่ขา…”
“เสวี่ยเหลียน…” หลี่ชุ่ยชุ่ยหลุบตาลง แววมุ่งร้ายฉายอยู่ในดวงตาของเธอ “แม่คงจะไม่ได้อยู่ข้างลูกอีกแล้วนับแต่นี้ จงจำไว้อย่างหนึ่งนะว่า อวิ๋นลั่วเฟิงคือศัตรูของลูก เขาเป็นคนที่ฆ่าพ่อแม่ของลูกและทำให้ลูกต้องไปอยู่บ้านเด็กกำพร้า! พ่อกับแม่ถูกผู้หญิงคนนั้นใส่ร้าย และพวกคนในกรมตำรวจก็ถูกผู้หญิงคนนั้นติดสินบน ถ้าสักวันหนึ่งลูกมีโอกาส ลูกจะต้องล้างแค้นให้แม่นะ!”
อวิ๋นเสวี่ยเหลียนเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตามีสีหน้าสับสน “แม่คะ หนูไม่เข้าใจว่าหนูจะต้องทำอะไร”
“มีรูปถ่ายอยู่ที่บ้านเก่าของเรา ผู้หญิงในรูปนั้นคืออวิ๋นลั่วเฟิง จงจำหน้าของเธอไว้ให้ดี! เมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะต้องล้างแค้นให้แม่!”
“แม่คะ…”
เด็กหญิงตัวน้อยกระตุกแขนเสื้อของหลี่ชุ่ยชุ่ย ร่ำไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด “ไม่ค่ะ หนูไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องไป หนูไม่อยากไปบ้านเด็กกำพร้าด้วย คนพวกนั้นจะรังแกหนู!”
“เสวี่ยเหลียน เป็นเด็กดีนะ” หลี่ชุ่ยชุ่ยก้มหน้าลงมองและลูบหัวลูกสาว เธอแค่นเสียงผ่านจมูก “อวิ๋นลั่วเฟิงคือนางปีศาจตัวจริง ร้ายกาจเกินเยียวยา ถ้าลูกมีโอกาสละก็ อย่าได้ไว้ชีวิตมันเชียว!”
อวิ๋นเสวี่ยเหลียนตัวสั่น กัดริมฝีปากตัวเอง
แล้วเวลาเยี่ยมก็หมดลง ผู้คุมนักโทษสองคนเข้ามาดึงตัวหลี่ชุ่ยชุ่ยและพากลับไปยังห้องขัง
“แม่!!!” อวิ๋นเสวี่ยเหลียนวิ่งตามหลี่ชุ่ยชุ่ย จนสะดุดล้มลงบนพื้น ก่อนที่จะเริ่มร่ำไห้ด้วยความขมขื่นอีกครั้ง เด็กหญิงมองดูมารดาถูกผู้คุมนักโทษลากตัวออกไป แล้วความเกลียดชังก็พลุ่งพล่านขึ้นในแววตาของเธอ
ทำไมแม่ของเธอต้องมาทนทุกข์ทรมานแบบนี้ ในขณะที่คนเลวหนีรอดไปได้! ฉันจะต้องแก้แค้น ฉันต้องแก้แค้นให้พ่อและแม่!