ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ - ตอนที่ 2259 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (23) / ตอนที่ 2260 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (24)
- Home
- ยอดชายาจักรพรรดิปีศาจ
- ตอนที่ 2259 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (23) / ตอนที่ 2260 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (24)
ตอนที่ 2259 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (23)
โอวหยางสวินประหลาดใจ และเขาก็ไม่เข้าใจว่าการมาถึงของมังกรตัวนี้มีเจตนาอะไรอยู่เบื้องหลัง
จู่ๆ ขันทีก็กรีดร้องด้วยเสียงสั่นสะท้าน “ฝ่าบาท มีคนสองคนอยู่บนมังกรพ่ะย่ะค่ะ!”
ตอนนั้นเองที่โอวหยางสวินก็เห็นใบหน้าของทั้งสอง ชุดคลุมสีขาวของหญิงสาวปลิวไปตามลม และนางก็ดูงดงามราวกับภาพวาด ส่วนชายหนุ่มสวมชุดสีดำที่ยืนอยู่ข้างๆ นางก็ดูเย็นชาราวกับเหยี่ยว แต่ทันทีที่เขามองหญิงสาวที่อยู่ข้างกาย ดวงตาของเขาก็ปรากฏร่องรอยแห่งความอ่อนโยน
ทั้งคู่สมบูรณ์แบบราวกับคู่รักอมตะ และน่าดึงดูดจนทำให้ทุกคนไม่อาจละสายตาได้
พรึบ!
ตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึง คนทั้งสองก็กระโดดลงมาจากศีรษะของมังกรและมาถึงพื้นอย่างมั่นคง
สีหน้าของโอวหยางสวินเปลี่ยนจากตวามตะลึงในตอนแรกเป็นความตื่นเต้น ขณะที่เขามองสตรีในชุดสีขาวที่งดงามราวกับภาพวาดโดยไม่ละสายตา
“ท่าน…ท่านคือแม่นางอวิ๋นลั่วเฟิงใช่หรือไม่”
สตรีที่ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วทั้งแคว้นคนนั้นน่ะหรือ
ริมฝีปากของหวังเสวี่ยเหลียนสั่นขณะที่นางถอยหลังไป นางส่ายหน้าปฏิเสธและตะลึงจนถึงขั้นที่ไม่สามารถพูดออกมาได้สักคำเดียว ถึงแม้ว่าจะผ่านไปสิบปีแล้ว นางก็ไม่มีทางลืมใบหน้านั่น
แต่ว่าผ่านไปสิบปี หลายๆ คนก็อายุมากขึ้น ในขณะที่นางยังคงโตเป็นผู้ใหญ่ แต่ว่า…เหตุใดสตรีผู้นี้ถึงยังงดงามและอ่อนเยาว์เหมือนกับเมื่อสิบปีก่อน
ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้าของนางยังไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับสิบปีที่แล้ว
สิ่งที่หวังเสวี่ยเหลียนรับไม่ได้ก็คือสตรีผู้นั้นขี่มังกรและจากที่โอวหยางสวินพูด นางก็สรุปได้ว่าอวิ๋นลั่วเฟิงเป็นเซียนที่แท้จริงที่พวกเขาพูดถึงก่อนหน้านี้
ไม่ใช่ว่าแค่ชื่อเหมือนกันหรอกหรือ
ไม่! นางจะยอมรับความจริงแบบนี้ได้อย่างไร
เมื่ออวิ๋นชูเทียนเห็นอวิ๋นลั่วเฟิง นางก็อดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้ม พริบตาเดียวร่างว่องไวของนางก็พุ่งเข้าสู่อ้อมกอดของอวิ๋นลั่วเฟิง แล้วนางก็เงยใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดูของนางขึ้น
“ท่านแม่ ในที่สุดท่านก็มาที่นี่”
ท่านแม่?
ใบหน้าของโอวหยางสวินกระตุก และหัวใจของเขาก็ดูเหมือนจะถูกกระแทกด้วยหมัดหนักๆ จนทำให้เขาหายใจไม่ออก
แน่นอนว่าโอวหยางเยว่ยิ่งประหลาดใจยิ่งกว่า นางไม่เคยเห็นอวิ๋นลั่วเฟิงตัวจริงแต่นางก็เห็นภาพเหมือนของอีกฝ่ายและจำสตรีผู้นั้นได้! แต่ว่าเหตุใดสตรีทรงพลังแบบอวิ๋นลั่วเฟิงถึงเป็นมารดาบุญธรรมของอวิ๋นชูเทียน
“ท่านพ่อ ท่านแม่ขอรับ” อวิ๋นเนี่ยนเฟิงเองก็ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก
สิ่งที่เขาพูดทำให้ทุกคนตกอยู่ในอาการไม่อยากเชื่อ อวิ๋นชูเทียนเป็นบุตรสาวบุญธรรมก็ไม่เป็นอะไร แต่เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นบุตรชายแท้ๆ ของอวิ๋นลั่วเฟิงกับอวิ๋นเซียวงั้นหรือ ก่อนหน้านี้พวกเขาทำเรื่องบ้าอะไรลงไป พวกเขาต้องการจะโจมตีบุตรชายโดยสายเลือดของเซียนที่แท้จริงงั้นหรือ
พวกเขารนหาที่ตายหรืออย่างไร
“ท่านแม่เจ้าคะ ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้าค่ะ ท่านแม่รับศิษย์ตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ” อวิ๋นชูเทียนถามขณะที่นางยู่ริมฝีปากนุ่มของนาง
อวิ๋นลั่วเฟิงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “อย่าบอกข้านะว่าเจ้าลืมไปแล้วว่าข้ามีศิษย์คนหนึ่ง ข้าเคยตั้งใจจะจัดงานแต่งงานให้เสี่ยวโม่กับเสี่ยวไป๋พร้อมกับตอนที่เจ้ากับเนี่ยนเฟิงแต่งงานกัน เจ้าลืมเสี่ยวไป๋จริงหรือ”
“ท่านแม่ ข้าไม่ได้หมายถึงเสี่ยวไป๋เจ้าคะ” อวิ๋นลั่วเฟิงชี้ไปที่โอวหยางเยว่ “สตรีผู้นั้นบอกว่านางเป็นศิษย์ของท่าน และท่านก็เป็นคนเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ความจริงก็คือสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ในอดีตนางขโมยไปจากข้าเจ้าค่ะ”
สีหน้าของโอวหยางเยว่ซีดเผือดไปแล้วขณะที่นางอยากจะเป็นลมเอาเสียมากๆ ถึงอย่างนั้นความคิดของนางกลับชัดเจน และไม่อาจหมดสติได้แม้ว่านางจะอยากก็ตาม
อวิ๋นลั่วเฟิงรับหนังสือมาจากอวิ๋นชูเทียนแล้วอ่านผ่านๆ “คำตอบส่วนใหญ่ในหนังสือเล่มนี้ถูกแล้ว แต่ก็ยังมีข้อที่ผิดอยู่บ้าง”
ตอนที่ 2260 การกลับมาของอวิ๋นชูเทียน (24)
“ปีนั้นข้าอายุแค่ห้าปีและก็ไม่มีใครสอนด้วยเจ้าค่ะ ข้าอาศัยความขยันหมั่นเพียรเพื่อเรียนรู้วิชาแพทย์” อวิ๋นชูเทียนแลบลิ้นออกมาแล้วพูดว่า “แต่ว่าข้าก็เข้าใจคำตอบที่ถูกของคำถามสองสามข้อนั่นแล้วเจ้าคะ ไม่ใช่ว่าก่อนนี้ข้าเคยถามท่านแม่หรือเจ้าคะ”
ตอนนั้นอวิ๋นลั่วเฟิงจึงพยักหน้าอย่างพอใจ “พวกเราเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้เป็นที่ระลึกเถอะ”
บทสนทนาระหว่างพวกนางเปิดเผยเจ้าของที่แท้จริงของหนังสือเล่มนั้นอย่างชัดเจน
สีหน้าของโอวหยางสวินซีดเผือดขณะที่เขาหันไปมองโอวหยางเยว่อย่างเดือดดาล “เกิดะไรขึ้น เจ้าบอกว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นคนมอบหนังสือเล่มนี้ให้และนางก็คือวิ๋นลั่วเฟิงไม่ใช่หรือ ตอนนี้เจ้าเตรียมคำอธิบายดีๆ ไว้เลย”
ตุบ!
โอวหยางเยว่คุกเข่าที่พื้นด้วยความกลัวและตัวของนางก็สั่น “เสด็จพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ลูกด้วยเพคะ”
“ยกโทษให้เจ้า ข้าจะยกโทษให้เจ้าได้อย่างไร” โอวหยางสวินหลับตาด้วยความเจ็บปวด ถ้าไม่ใช่เพราะโอวหยางเยว่ เขาก็คงไม่คิดว่าอวิ๋นชูเทียนเป็นปีศาจและพยายามจะเผานางทั้งเป็น
ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาคงไม่พลาดโอกาสที่จะประจบเซียนที่แท้จริงทั้งสองคน
ใช่แล้ว ประโยคสุดท้ายเป็นความตั้งใจที่แท้จริงของโอวหยางสวิน
การเป็นจักรพรรดิทำให้เขาเป็นคนไร้หัวใจ ดังนั้นเขาจะสนใจบุตรสาวของเขาจริงๆ ได้อย่างไร สิ่งที่เขาสนใจจริงๆ ก็มีแต่ตัวเองเท่านั้น
“ชูเทียน” โอวหยางสวินเลื่อนสายตาไปมองอวิ๋นชูเทียนอีกครั้งขณะที่นำเสียงของเขาก็อ่อนลง “ตอนนั้นบิดาของเจ้าผิดไปแล้วและในเมื่อเจ้ากลับมาแล้ว ข้าก็จะดูแลเจ้าอย่างดี”
อวิ๋นชูเทียนเผยรอยยิ้มเหยียดหยาม “ข้ายังจำได้ว่าเมื่อวันนั้นท่านอยากจะเผาข้าให้ตายขนาดไหน ถ้าท่านแม่ไม่มาช่วยข้า ข้าคงตายไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีข่าวลือในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์อยู่ตลอดเวลาว่าโอวหยางเยว่เป็นเทพธิดา ในขณะที่ข้าเป็นแม่มดที่นำพาโชคร้ายมาให้ ข้าเชื่อว่าข่าวลือพวกนั้นก็มาจากคนของท่านใช่หรือไม่”
สีหน้าของโอวหยางสวินยิ่งซีดเผือด เขากำหมัดแน่นขณะที่เขารู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
“เทพธิดา? แม่มด?” อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้มบาง “ข่าวลือจะหยุดเมื่อทุกคนมีปัญญา แต่ดูเหมือนว่าทุกคนในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์จะโง่กันหมด ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็ไม่จำเป็นที่ที่นี่ต้องมีอยู่อีกต่อไป! แต่ว่าก็มีสิ่งหนึ่งที่ถูกก็คือมีเทพธิดาอยู่ในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์จริงๆ เพียงแต่คนผู้นั้นคือชูเทียน!”
นางเดินไปหาโอวหยางสวินช้าๆ “ถ้าในห้าปีนั้นเจ้าดูแลอวิ๋นชูเทียนอย่างดี นครจักรพรรดิแห่งสวรรค์คงรุ่งเรืองไปพร้อมนาง แต่ว่าเจ้าเป็นคนทิ้งโอกาสนั้นไปเอง”
โอวหยางสวินเงยหน้ามองสีหน้าสงบนิ่งของอวิ๋นลั่วเฟิง แล้วดวงตาของก็เขาก็เต็มไปด้วยความเสียใจ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงพาชูเทียนไป” ริมฝีปากของอวิ๋นลั่วเฟิงยกขึ้น “เมื่อชีวิตที่แล้วของนาง นางเป็นบุตรสาวของข้าและนางก็ตายเพื่อปกป้องข้า ข้ารอนางห้าปีก่อนจะพบว่านางอยู่ในนครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ แต่ไม่คิดเลยว่า…เจ้าจะดูแลบุตรสาวของข้าแบบนั้น”
โอวหยางสวินหลับตา เขาเสียใจ ถ้าเขารู้ว่าอวิ๋นชูเทียนและอวิ๋นลั่วเฟิงมีความสัมพันธ์แบบนี้ เขาไม่มีทางทำความผิดแบบนี้แน่
น่าเสียดายที่โลกนี้ไม่มีคำว่าถ้า…
“เนี่ยนเฟิง” อวิ๋นลั่วเฟิงหันไปหาอวิ๋นเนี่ยนเฟิงแล้วพูดว่า “ในอนาคตชูเทียนจะเป็นภรรยาของเจ้าและเจ้าควรรับผิดชอบในการปกป้องนาง อย่าปล่อยคนที่ทำร้ายนางเมื่อตอนนั้นไปแม้แต่คนเดียว ถ้าเจ้าต้องเผานครจักรพรรดิแห่งสวรรค์ทั้งหมดเจ้าก็ต้องให้คนโง่พวกนั้นชดใช้!”
นางรู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องยากจะเชื่อ ว่าหากนางมาช้าไปสักนิดเดียวนางก็คงต้องแยกจากอวิ๋นชูเทียนอีกครั้ง นางจะยกโทษให้คนที่ในอดีตทำร้ายอวิ๋นชูเทียนได้อย่างไร ต่อให้พวกเขามารวมตัวกันเพื่อดูการแสดงนี่ นางก็จะไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปสักคนเดียว!
ยกตัวอย่างเช่นย้อนกลับไปตอนที่นางเพียงต้องการป้องกันไม่ให้คนพวกนั้นทำให้มารดาของนางอับอาย นางก็ย้อมทั่วทั้งเมืองไปด้วยเลือด ในเมื่อใช้วิธีอ่อนโยนหยุดข่าวลือไม่ได้ นางก็ไม่คิดมากหากจะต้องใช้วิธีโหดร้าย!